“ไหนเอามาดูซิว่าต้องซื้ออะไรบ้าง”
ไอ้ตะวันมันเอียงหัวมองกระดาษที่จดของ แต่ผมไม่ให้มันดูหรอก หวง เพราะผมไม่ชอบคนขี้เสือกอย่างมันไง
“ไม่เป็นไร กูดูเองได้”
“เอามาน่าเดี๋ยวกูดูให้”
ไอ้ตะวันแม่งแย่งกระดาษไปจากผมจนได้ มันจ้องมองไปที่กระดาษซักพัก ก่อนจะทำหน้าครุ่นคิด คิดอะไรของมึง มัวแต่ดูจะซื้อถูกได้ไง
“เอามานี่เลยมา กูบอกแล้วไงว่ากูซื้อเอง มึงไม่เคยซื้อของซิท่า”
“ก็ใช่อยู่”
“กูถามจริงนะ บ้านมึงจนจริงปะเนี้ย ไม่ใช่ว่ามึงเป็นคุณชายบ้านรวยแล้วปลอมตัวมาหารักแท้นะมึง”
“มึงอ่านนิยายมากไปรึเปล่าร้าย”
“ก็แหม กูเห็นอะไรมึงก็ไม่เคยทำ จนประสาอะไรวะ”
“ก็จนแบบมีระดับ จนแบบที่พ่อแม่ทำให้ไง”
“บ้า กูไม่เคยเห็นคนจนที่ไหนเป็นอย่างมึงเลย”
ผมส่ายหัวให้ความไม่เต็มบาทของมัน แล้วผมก็เดินเข้าห้างไปซึ่งตลอดการเลือกเดินซื้อของ ผมกับไอ้ตะวันถูกสายตาของคนทั้งห้างจับจ้องตลอดเวลา อย่างพวกสาวๆก็มีกรี้ดกร้าดกันบ้างตามประสาสาวเจอผู้ชายหล่อแหละ ส่วนพวกคนโตก็มองกันแล้วก็ถ่ายรูปมันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกผมหล่อก็ได้มั้งครับ ยิ่งไอ้ตะวันนะ อย่างกับเทพเจ้ามาจุติ หล่อชิบหาย หล่อลากไส้จริงๆ ทำเอาผมภาคภูมิใจที่ได้เดินข้างมันเลย แต่ไอ้ตะวันนี่ซิ มันเหมือนไม่ได้สนใจพวกสาวๆพวกนี้เลยด้วยซ้ำ แถมยังเดินแบบเท่ๆไปอีก
“ขาดอะไรอีกมั้ย”
ไอ้ตะวันมองลงไปที่รถเข็นเพื่อนับของก่อนจะเงยหน้ามาถามผม ให้ตายเหอะ หน้านิ่งๆกับเสียงเข้มๆของมันทำให้ผมเผลอจ้องแบบไม่รู้ตัวเลย
“มองอะไรวะ” เสียงไอ้ตะวันเรียกสติผมให้กลับมา อ้าวเออ นั่นดิผมจ้องมันทำไมวะ
“หะ!!! มองอะไร กูไม่ได้มอง”
“กูก็เห็นว่ามึงมองกูอยู่”
“อ๋อ มันมีอะไรติดหน้ามึงอ่ะกูเลยดูว่ามันใช่มั้ย”
“อะไรวะ”
“ขี้ตา”
“จริงดิ”
“เออ แคะออกดิ น่าเกลียดชิบหาย”
ผมนี่แถได้เก่งจริงๆนะ แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ผมพูดเท่าไหร่ เพราะมันส่ายหัวแล้วก็ยิ้ม ไอ้บ้า ยิ่งยิ้มก็ยิ่งหล่อ อะไรของมันวะเนี้ย
หลังจากที่เลือกซื้อกันเสร็จแล้ว ผมกับมันก็ออกจากห้างมายังที่จอดรถ เพื่อที่จะเอาของกลับบ้าน แต่เดี๋ยวครับของก็เยอะพอใจละ แล้วไหนถุง ถุงไม่มีแล้วจะเอากลับยังไงหมดวะเนี้ย
“ไอ้ตะวัน ถุงเล่ามึงเตรียมถุงมารึเปล่า”
“เปล่า กูไม่รู้ว่าห้างเขาไม่แจกถุงแล้ว”
“นี่มึงเดินห้างครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะ เขาไม่แจกนานแล้วปะ”
“กูเข้าเเต่เซเว่น”
“เซเว่นก็ไม่แจกถุงมั้ย มึงนี่บ้าชิบ แล้วเอาไงเนี้ย จะเอากลับยังไง”
“งั้นมึงรอตรงนี้กูไปซื้อถุงก่อน แล้วจะกลับมารับมึง”
“นี่ไม่ใช่ว่ามึงจะแกล้งกูทำเป็นหนีกลับบ้านนะไอ้ตะวัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นกูฆ่ามึงแน่”
“คิดได้นะมึง”
“แหม ก็หน้ามึงนี่เชื่อไม่ได้ไง”
“เอาน่ากูไม่ทิ้งมึงไว้คนเดียวหรอก เพราะกูหวง”
ไอ้ห่าลากพอพูดจบก็ขับรถออกไปเลย นี่มันเตาะผมอีกแล้ว ไอ้ตะวันนะไอ้ตะวัน นี่มันคิดอะไรกับผมกันแน่ มันเหมือนจะชอบผมเลยอ่ะ แต่กูเป็นผู้ชาย กูชอบผู้หญิง กูเป็นผู้ชายโว้ย
เอ้า ปากก็บอกว่าชอบผู้หญิงไอ้สัสเสือกใจสั่นหวั่นไหวกับคำพูดมันเฉยเลย
แล้วหลังจากที่ไอ้ตะวันมันหายไปประมาณ 10 นาทีมันก็ขับรถกลับมาพร้อมถุงผ้าหลายใบ ฟังไม่ผิดหรอกครับ มันซื้อถุงผ้ามาจริงๆ
“อะ 5 ใบพอมั้ย” ไอ้ตะวันมันตั้งขาตั้งมอไซค์แล้วยื่นถุงมาให้ผม แถมที่ถุงยังติดราคาอันละ 159 อีกด้วยนะ แม่งแพง แล้วมันเสือกซื้อมาตั้ง 5 อัน คิดดูซิครับว่าค่าถุงแพงกว่าค่าของที่จะใส่ถุงไปอีก
“มึงซื้อถุงผ้ามาทำไมวะ ถุงพลาสติกก็ได้มะ สิ้นเปลือง”
“อันนี้มันดีกว่าไง ใช้ได้ตั้งหลายครั้ง”
“เออๆ ตามใจมึงละกันจะเอาอะไรก็เรื่องของมึงแต่ขอแค่กลับบ้านได้ก็พอละตอนเนี้ย กูร้อน”
ผมรีบคว้าถุงผ้าที่ไอ้ตะวันมันยื่นมาให้ แต่ความรู้สึกผมผมว่าข้างในมันมีของนะ ผมจึงเปิดดูว่าข้างในมีอะไรก่อนจะหยิบออกมา
“อะไรวะเนี้ย เชี้ย!!!!!!!! ถุงยาง ไอ้เชี้ยตะวันมึงเอาถุงยางมาใส่ไว้ทำไมวะ”
ผมขว้างทิ้งแม่งเลย แต่ไอ้ตัวต้นเหตุกลับยิ้มกริ่มเลยครับแถมยังเดินไปเก็บกล่องถุงยางที่ผมขว้างทิ้งขึ้นมาอีก โอ้ยยย หัวใจผมจะวาย ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเห็นกล่องถุงยางนะ แต่นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะไปซื้อถุงยางไง แล้วอีกอย่างมันก็อยู่บ้านผมมันจะเอาเวลาไหนไปใช้
“ทิ้งทำไมวะ ยังไม่ได้ใช้ซักอันเลยนะเนี้ย”
“มึงนี่แม่ง มันใช่เวลาซื้อถุงยางปะวะ”
“กูก็แค่ซื้อมาเผื่อเฉยๆ เผื่อได้ใช้ อีกอย่างมันก็ถุงเหมือนกัน เห็นมึงตะโกนถามหาถุงไม่หยุดปากเลย กูเลยคิดเองว่าเป็นถุงอันนี้”
ผมขอซื้อได้มั้ยไอ้สายตาที่พูดไปทำตาหวานไปเนี้ย กูขนลุกไอ้สัส ผมว่าขืนมัวชักช้าแบบนี้ผมได้โดนไอ้ตะวันแทะโลมไม่หยุดแน่นอนผมเลยไม่พูดกับมันละ แต่ตั้งหน้าตั้งตายัดของลงกระเป๋าผ้าอย่างไวเลย แล้วพอเสร็จผมก็ขึ้นไปนั่งรอมันบนมอไซค์แบบไม่ต้องรอให้มันมาอุ้มเลยด้วย
“รู้งาน”
“มึงรีบไปไวๆเลยไอ้ตะวันพูดมากชิบหาย”
“จะรีบอะไรขนาดนั้นกูยังไม่รีบเลย”
“แต่กูรีบ”
“มีนัดเหรอ”
“อะไรของมึงเนี้ย อยากรู้เรื่องกูทุกเรื่องเลยนะ”
“ก็ใช่ไง กูอยากรู้เรื่องของมึงทุกเรื่องแหละ โดยเฉพาะเรื่อง.....”
ไอ้ตะวันมันไม่ยอมพูดออกมานะว่าเรื่องอะไร แต่สายตานี่บอกเลยนะว่าเรื่องอะไร ไอ้เวร มองกูตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย แถมสายตามันยังมาหยุดตรงจุดที่ต่ำอีก ลกมกสัสๆ
“ไอ้ต่ำตม หยุดคิดเลยนะมึง”
“คิดอะไร นี่กูยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
“แต่สายตามึงบอกปะว่ามึงคิด”
“แล้วมึงจะมารู้ดีกว่ากูได้ยังไง เป็นแฟนกูเหรอ”
ไอ้ตะวันมันเอนตัวเข้ามาใกล้ผมเรื่อยเล่นเอาคนรอบข้างมองกันใหญ่ โอ้ยยย กูอายนี่มึงไม่อายบ้างเลยรึไงวะ
“พอๆ ออกไปไกลๆกูเลย แล้วนี่มึงจะกลับมั้ยมัวเล่นอยู่นั่นแหละ”
“กลับดิ” ไอ้ตะวันพยักหน้าเบาๆก่อนจะเอาหมวกขึ้นมาใส่ให้ผม เออ ผมลืมไปเลยว่าต้องใส่หมวกด้วย ว่าแต่มึงก็ไม่ต้องมาเทคแคร์กูดีขนาดนี้ก็ได้ไอ้ตะวันเอ้ย กูทำเองได้ กูไม่ได้เป็นง่อย
“เกาะแน่นๆนะ ระวังตก”
“มึงรีบไปเลยไปกูร้อน”
นั่นหละครับ ผมงี้ขึ้นเสียงกับมันจนผมจะกลายเป็นบ้าอยู่ละ ส่วนตัวต้นเหตุนะเหรอ ไม่เห็นมันจะรู้สึกรู้สาอะไรกับคำด่าของผมเลย แถมมันยังทำเหมือนมันชอบที่โดนผมด่าอีกด้วย
แล้วผมควรที่จะทำยังไงดีละครับ จะไล่มันออกจากบ้านก็ไม่ได้เพราะแม่ถือหางมันอยู่ จะแกล้งมันก็ไม่ได้เพราะมันดันรู้ทัน สงสัยผมคงต้องยอมรับในโชคชะตาแล้วหละว่าผมจะต้องใช้ชีวิตกับคนลามกและบ้าอย่างไอ้ตะวันมันจริงๆ
ไม่นานผมกับไอ้ตะวันก็มาถึงบ้าน ไอ้ตะวันมันไม่รอช้าเลยที่จะมาช่วยผมถือของ ทีแรกผมก็กะจะถือคนเดียวแหละก็แมนๆไง แค่นี้ผมถือสบาย แต่ที่ไหนได้ โคตรหนัก เออมึงอยากถือก็เอาเลยตามสบายกูไม่ไหวละ
“ทำไมมาช้าจังลูก แม่นี่นึกว่าจะไปนอนห้างกันแล้ว”
แม่เดินเข้ามาแซวทันทีเมื่อเท้าผมเหยียบเข้าบ้าน แซวเก่ง เดี๋ยวนี้แซวลูกเก่งนะคุณนายจิตตรี
“แหม แม่ ดูของที่จดซะก่อน เยอะซะขนาดนี้ นี่แม่คิดว่าผมเอารถกระบะไปขนรึไง”
“เอาน่า ซื้อแล้วก็แล้วกันไปนะ ว่าแต่เหนื่อยกันมั้ยไปทานขนมในบ้านซิ แม่ทำบวดฟักทองไว้ให้”
“บวดฟักทองเหรอครับ”
“จ้ะ ทำไม ตะวันชอบเหรอลูก”
“ครับ ผมเคยซื้อกินหน้าโรงเรียนตอนเด็กๆ”
“งั้นก็ไปกินนะ ร้ายพาตะวันไปกินเลยลูก แล้วก็อย่าลืมหยิบตระกร้าสีเขียวออกมาให้แม่ด้วย แม่จะไปบ้านป้าช้อย ว่าจะไปขุดหน่อไม้บ้านแกมาทำต้มกระดูกหมูหน่อไม้ซักหน่อย”
“ครับๆ”ผมตอบแม่อย่างไม่ได้เต็มใจนัก ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านเพื่อเอาของไปเก็บในครัว แต่บวดฟักทองของแม่มันช่างหอมยั่วยวนซะจริงๆ ผมจึงแอบเปิดหม้อดูนิดนึง บอกเลยครับว่าน้ำลายผมเกือบหกลงหม้อเลย น่ากินโคตรๆ แต่ผมก็ยังช้ากว่าไอ้ตะวันนะ เพราะมันถือถ้วยถือทัพพีเตรียมตัวตักกินละ
“ไอ้ร้าย มึงกินมั้ยเดี๋ยวกูตักเผื่อ”
“กูตักเองได้ไม่ต้องเสือกเลยมึง”
“กูตักให้ได้ มึงจะได้เอาตระกร้าไปให้แม่มึงไง”
เออมันก็จริงครับ เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นตระกร้าสีเขียวของแม่เลย
“เออๆ อยากตักก็ตัก แต่ตักเยอะๆนะมึง”
“เออ”
แล้วไอ้ตะวันมันก็เดินไปหยิบถ้วยอีกถ้วยมาตักบวดฟักทอง ส่วนผมนะเหรอ ก็หาตระกร้าสีเขียวให้แม่ไง แต่หาเท่าไหร่ผมก็หาไม่เจอ ตกลงมันมีตระกร้าสีเขียวจริงๆมั้ยเนี้ย