ตอนที่3 ไม่คิดไม่ฝัน

1769 Words
จิรภัทรไม่กล้ามองสบตาของคนตัวเล็กตรงหน้าเลยแม้แต่นิด เขาไม่ชอบที่จะเห็นผู้หญิงร้องไห้ต่อหน้านัก ณิชาวีร์ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยสักอย่าง เพียงเพราะในเวลานี้เขาไม่ได้อยากอยู่กับเธออีกต่อไปแล้ว “ตอบมาสิคะณิอยากฟัง ณิอยากรู้เหมือนกันว่าหลายเดือนที่ผ่านมานี้พี่ภัทรเป็นอะไร ณิทำอะไรทำไมไม่เคยพอใจหรือถูกใจพี่เลยสักอย่าง” น้ำเสียงที่ดูสั่นเครือถามกลับ สายตาจับจ้องมองหน้าสามีที่เขาไม่กล้าสบตาอย่างรอคอยในคำตอบที่อยากจะได้ยิน อย่างไรเสียวันนี้ทุกอย่างจะต้องเคลียร์ ถ้าจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปเธอก็อยากจะรู้สาเหตุที่แท้จริง ไม่อยากมีสิ่งที่ค้างคาใจให้ต้องคิดมากต่อกันอีก “เปิดอกพูดกันมาเลยค่ะ ณิพร้อมจะฟังทุกอย่างและทุกเรื่อง” “พี่ไม่ได้รักณิแล้ว ชัดพอหรือยัง?” ณิชาวีร์นิ่งอึ้งอยู่ครู่ใหญ่ ดวงตากลมโตกระพริบถี่ระรัว ขับไล่หยดน้ำใสที่กำลังไหลล้นทะลักออกมา “มะ ไม่....ไม่ได้รักณิเหรอคะ แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร สามปีที่ผ่านมามันหมายความว่ายังไง?” “เพราะพี่เหงา พี่เลยอยากมีใครสักคนมาอยู่ข้าง ๆ ตอนแรกพี่คิดว่าพี่จะรักผู้หญิงคนอื่นได้จริง ๆ แต่พอมาวันนี้พี่เพิ่งรู้ว่าพี่ไม่ได้ลืมผู้หญิงที่เป็นรักแรกของพี่ได้เลย” แน่นอนว่าสิ่งที่ได้ยินจากปากสามี คนที่เจ็บที่สุดก็คือณิชาวีร์ เธอคิดมาตลอดว่าสามีรัก แล้วตอนนี้คำพูดที่ได้ยินเต็มสองรูหูคือสิ่งที่ชัดเจนที่สุดแล้ว “พี่ภัทรมาตามจีบ มาทำให้ณิรักทำไมเหรอคะ ถ้าพี่ไม่ได้มีใจให้ณิตั้งแต่แรก! พี่มาล้อเล่นกับความรู้สึกของณิทำไม พี่คิดว่าผู้หญิงแบบณิไม่มีความรู้สึกเลยงั้นสิ เจ็บไม่เป็น ร้องไห้ไม่เป็นงั้นเหรอ พี่เห็นณิเป็นเพียงผู้หญิงแก้เหงาให้พี่งั้นเหรอคะ” เสียงตวาดลั่นอย่างเจ็บปวดตะโกนก้อง จิรภัทรต้องรีบหันกลับมาเผชิญหน้าภรรยาอีกครั้ง “พี่พยายามแล้วที่จะรักณิ แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อหัวใจพี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ณิเป็นผู้หญิงที่ดีมาก อยู่ใกล้แล้วพี่รู้สึกดีมาก ๆ ณิควรจะได้มีโอกาสเจอคนที่ดีกว่าพี่หรือเปล่าล่ะ?” “ถ้าพี่ภัทรรู้ตัวเองแบบนี้ พี่ก็ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับณิตั้งแต่แรกแล้วไหมคะ ทำไมพี่เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ทำไมพี่ถึงเลวได้ขนาดนี้กันคะ” ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองหน้าด้วยสายตาที่ตัดพ้อ พร้อมกับหยาดน้ำใสที่ไหลเอ่อท่วมจนล้นเปื้อนอาบแก้ม จ้องมองผู้ชายตรงหน้าคนที่เธอรักเขามากสุดหัวใจ คนที่เธอคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากมาตลอดที่มีจิรภัทรเป็นคู่ครองของชีวิต แต่ในเวลานี้ทุกอย่างเหมือนความฝันที่กำลังโดนขว้างปาระเบิดใส่กลางใจ คำว่า “ไม่ได้รักเธอแล้ว” เพียงแค่เวลาสามปีที่ตกลงใช้ชีวิตด้วยกันมา ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งหมดรักกันได้เร็วแบบนี้เชียวเหรอ ไม่สินะเขาอาจจะไม่เคยรักเธอมาก่อนเลยสักนิด “พี่ไม่มีอะไรจะแก้ตัว พี่แค่รู้สึกว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขหรอก” “พี่ภัทรคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าคะ ทั้งที่ณิก็มีความสุขกับชีวิตในตอนนี้มาก” “ถ้าพี่จะมีผู้หญิงอีกคน ณิจะรับได้หรือเปล่า?” ณิชาวีร์อึ้งกับคำถามที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ เขาคงไม่ได้หมายความว่าจะให้เธอเป็นเมียหลวง โดยการที่ให้สามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยได้ตามอำเภอใจหรอกใช่หรือเปล่า? “แล้วถ้าณิถามคำถามเดียวกันล่ะคะ พี่จะรับได้หรือเปล่าถ้าณิจะมีผู้ชายอีกคนทั้งที่ณิยังมีสามีอยู่!” “พี่อนุญาต ณิทำได้ตามสบายเลย” อึ้งยิ่งกว่าคำถามเมื่อครู่ก็คือคำตอบของสามี เขาไม่ได้หึงหวงเธอ ไม่ได้สนใจเลยหรือว่าจะมีผู้ชายคนอื่นมาทับรอยที่เขาเคยประทับจูบซับเอาไว้ เขาไม่เคยรักกันเลยจริง ๆ สินะใช่ไหม? “แต่ณิคงรับไม่ได้หรอกค่ะ ใครมันจะอยากใช้สามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่นเหรอคะ พี่ภัทรคิดว่าใจณิมันกว้างมากเหมือนแม่น้ำมหาสมุทรหรือยังไง พี่ถึงกล้ามาถามอะไรณิแบบนี้” “งั้นก็หย่าให้พี่สิ ณิจะได้ไม่ต้องหนักใจ” ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวจับจ้องมองหน้าของภรรยาที่กำลังร้องไห้อย่างรู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย รู้ดีว่าณิชาวีร์รักเขามากแค่ไหน นึกถึงตอนที่ต้องใช้เวลาตามจีบณิชาวีร์มานาน นานมากกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยรู้จัก กว่าที่อีกฝ่ายจะยอมรับรักและตกลงแต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยาอย่างทุกวันนี้ได้ เขาต้องทุ่มเทวันเวลาหมดกับการตามติดชีวิตของเธอต้อย ๆ ไม่กล้าปฏิเสธด้วยซ้ำว่าไม่เคยรู้สึกพิเศษกับภรรยา เพราะอย่างน้อยก็ยังรู้สึกผูกพัน คนอยู่ด้วยกันมานานตั้งสามปีจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ “หย่าเหรอคะ เสียทองเท่าหัวณิจะไม่ยอมเสียผัวให้ใครแน่ ๆ อย่างน้อยถ้าใครมายุ่งกับพี่ มันก็ได้เป็นแค่เมียน้อยของพี่เท่านั้นแหละค่ะ” ขาเรียวยาวก้าวเดินฉับ ๆ ๆ ออกจากห้องนอนไป ไม่เหลียวหันกลับมามองหน้าสามีเลยแม้แต่นิด จิรภัทรได้แต่มองตามหลังคนเป็นเมียด้วยความไม่พอใจ ไม่มีเลยสักครั้งที่ณิชาวีร์จะขึ้นเสียงใส่กันอย่างนี้มาก่อน “อยากนอนกอดทะเบียนสมรสงั้นสิ ก็ได้! เธอจะได้กอดจนพอใจแน่ณิชาวีร์!!!” อารมณ์หงุดหงิดหัวเสียแต่เช้าเช่นนี้ คงมีแค่สายน้ำเย็นที่ชุ่มฉ่ำเท่านั้นที่จะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง ร่างสูงจึงเดินเข้าไปภายในห้องน้ำจนได้เสียงน้ำสาดกระเซ็นลงกระทบพื้นอยู่นานสองนาน... “คุณณิ ร้องไห้เป็นอะไรเหรอคะ?” แม่นมจันทร์วาดหญิงสูงวัยที่ดูแลจิรภัทรมาตั้งแต่เป็นเด็ก ถึงกับมีสีหน้าแตกตื่นเมื่อณิชาวีร์วิ่งปาดน้ำตาเข้ามาสวมกอดถึงในครัว เสียงสะอื้นไห้ยังดังระงมอยู่นานหลายนาทีกว่าที่จะนิ่งเงียบอีกครั้ง แม่นมจันทร์วาดได้แต่ลูบหลังปลอบประโลมอยู่แบบนั้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ “เป็นอะไรไปคะ คุณภัทรทำอะไรคุณณิมาหรือเปล่า?” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นปาดเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลอาบเปื้อนแก้ม สะอึกสะอื้นเหมือนผิดหวังเสียใจกับอะไรมาอย่างหนัก ดวงตาคู่สวยที่แดงก่ำจับจ้องมองหญิงสูงวัยตรงหน้า พร้อมกับโผเข้ากอดแน่น ๆ อีกครั้งเพื่อหาที่พึ่งพา “คุณหนูของนมจันทร์เขาขอหย่ากับณิค่ะ” “ตายจริง!! เกิดอะไรขึ้นกันคะ?” “ไม่รู้ค่ะ เขาบอกไม่ได้รักณิแล้ว ยังมีหน้ามาขอณิไปมีคนอื่น ณิควรจะทำยังไงดีคะนม” “คุณภัทรแค่พูดหยอกคุณณิเล่นหรือเปล่าคะ นมก็เห็นคุณภัทรรักคุณณิดีนี่นา มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงนะ” ณิชาวีร์ส่ายหน้าปฏิเสธ เขาเพิ่งจะพูดให้ได้ยินเต็มสองรูหู คงไม่มีอะไรมาล้อเล่นหรือมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันได้หรอก “เอาไว้ค่อยพูดคุยกันดี ๆ ตอนที่ทุกคนอารมณ์เย็นขึ้นจะดีกว่านะนมว่า ทานอาหารเที่ยงอร่อย ๆ ให้อารมณ์ดีก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวนมจะตั้งโต๊ะให้ตอนนี้เลย” “ขอณิทานในครัวกับนมนะคะ ณิไม่อยากเจอหน้าพี่ภัทร ณิไม่มีอะไรจะพูดกับเขาแล้ว” “เฮ้อ... ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณภัทรถามจะให้นมบอกว่ายังไงล่ะทีนี้” “เขาไม่ถามหรอกค่ะนม เขาไม่สนใจณิมานานแล้ว ที่ผ่านมานมไม่สังเกตบ้างเลยเหรอคะ?” “หนุ่มสาวงอนกัน ผัวเมียก็เหมือนลิ้นกับฟันนั่นแหละคุณณิ มีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ วันนี้โกรธเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาย” “ถ้ามันบานปลายจนเกินที่จะเยียวยาล่ะคะนม ณิจะต้องยอมถอยใช่ไหม?” แม่นมจันทร์วาดได้แต่จ้องมองใบหน้าของหญิงสาวคราวลูกอย่างเห็นอกเห็นใจ ใบหน้าขาวนวลเต็มไปด้วยน้ำใสไหลอาบแก้ม น้ำตาพรั่งพรูไม่ได้ขาดสาย นางไม่ใช่แม่ของจิรภัทร นางไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกกล่าวหรือสอนสั่งอีกคนได้ ไม่ใช่ว่านางไม่รับรู้ว่าพักหลังมานี้คุณหนูที่เลี้ยงดูมากับมือมีทีท่าที่แปลกไป จนอยากจะนั่งจับเข่าคุยกันให้รู้เรื่องสักวันให้ได้ ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายกมือเหี่ยวย่นคอยลูบหลังปลอบร่างบอบบางของคนตรงหน้าไปมาเบา ๆ “ถึงวันนั้นถ้ามันจะหนักหนาจนเกินเยียวยา นมเชื่อว่าคุณณิคงทำดีที่สุดแล้ว นมก็จะเคารพการตัดสินใจของคุณณิเสมอ เลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่า ทานข้าวให้อิ่มท้องแล้วคุณณิก็ออกไปทำสวย ชอปปิ้งให้สบายอารมณ์ดีกว่านะคะ เครียดไปก็เท่านั้น ทำตัวเองให้มีความสุขเถอะนะคุณณิ” คงเป็นคำพูดที่ปลอบประโลมความรู้สึกของคนในอ้อมกอดได้บ้าง นางรู้สึกสงสาร ณิชาวีย์เป็นคนที่กริยานอบน้อม ไม่ถือตัวกับทุกคนที่อยู่ในบ้าน แม้ตัวเองจะเป็นถึงภรรยาของเจ้าของบ้านแต่บ่อยครั้งเธอก็มักจะมาทานข้าวร่วมวงกับแม่บ้านและคนสวนคนรถอย่างไม่นึกรังเกียจ ถ้าหากวันหนึ่งไม่มีณิชาวีร์อยู่ที่นี่อีกแล้วจริง ๆ บ้านก็คงจะเงียบเหงามากจนไม่น่าอยู่อีกแล้วสินะ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD