เมก้ากลับมานั่งทำงาน ดูงานตรวจงานที่โรงแรมอย่างใจลอย เมื่อคิดถึงแผนการของตัวเองกับเพื่อนเมื่อตอนบ่าย หญิงสาวได้คิดทบทวนหลายรอบแล้วว่าจะเอาจริง หรือจะปล่อยผ่านไป แต่จะทำแบบนั้นได้ไงในเมื่อใจดวงน้อยของหล่อนร่ำร้องจะเอาๆ แอติโร่อยู่ร่ำไป แล้วแบบนี้จะปล่อยไปได้เช่นไรเล่า เป็นไงเป็นกันขอลองสักตั้งก็ยังดี หากจะต้องเสียความสาวให้แอติโร่ที่รักไปก็ไม่เป็นไร เธอพอใจแล้วที่จะเสียให้ชายหนุ่มที่รัก เพราะคิดว่าหมดชีวิตนี้จะไม่มีใครมาแทนที่แอติโร่ได้แล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละ มันเป็นเกมรักของหล่อนเพียงเท่านั้น เกมครั้งนี้หญิงสาวจะต้องแลกด้วยความสาว ความบริสุทธิ์ของตนกับชายหนุ่มผู้ไร้ซึ่งหัวใจรัก ถึงแอติโร่จะไร้ซึ่งรักเช่นไร เมก้าคนนี้ก็จะทำให้ถึงที่สุดเพื่อให้ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดของคนโดนปฏิเสธในรัก ว่ามันเจ็บปวดทรมานเช่นไร
ยังไงก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำตามแผนของลิลลี่ เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น เมก้าก็หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของหล่อนมาต่อสายไปบ้านของตัวเอง เพื่อจะได้บอกให้แม่กับพ่อของหล่อนรู้ไว้ ว่าต่อไปนี้หญิงสาวจะพักคอนโดจะไม่ค่อยกลับบ้าน จะกลับค้างบ้านทีก็ต้องวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดงานของหญิงสาว และทางบ้านก็ไม่ว่าอะไร เมื่อคิดว่าลูกสาวต้องการเคลียร์งานเงียบๆ อยู่คอนโดเลยไม่สงสัยอะไร ทั้งๆ ที่ลูกรักไม่เคยคิดอยากไปนอนค้างอ้างแรมคอนโดเลยสักครั้งถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นอะไร แต่มาวันนี้เมก้ากลับเลือกค้างที่คอนโดเพื่อแผนการครั้งนี้โดยเฉพาะ
เมื่อเคลียร์กับทางบ้านชี้แจงเรื่องทุกอย่างเสร็จสรรพ คิวต่อไปก็บอดี้การ์ดหน้าเป็นของหล่อนแหละ เมก้าไม่รู้จะสั่งงานบอดี้การ์ดหน้าเป็นสองคนของตนเช่นไร มีหวังบอกไปพ่อกับแม่ของเธอต้องรู้แน่ๆ ในเมื่อบอดี้การ์ดสองคนนี้ได้รับคนสั่งจากพ่อหล่อนให้รายงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนกับใคร แต่ดีหน่อยเรื่องที่ไปเฝ้าแอติโร่ทำงานที่โรงแรมหญิงสาวขอร้องไว้พ่อกับแม่เลยไม่รู้ และกลัวจะขอร้องบอดี้การ์ดหนุ่มสองคนได้ก็เล่นเอาเธอบีบน้ำตาอยู่เป็นครึ่งชั่วโมงกว่าสองหนุ่มจะยอมทำตาม ถ้าหากครั้งนี้ขอดีๆ ไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้เดิม และมันก็จริงอย่างที่คิด เมื่ออีโคกับมาโค บอดี้การ์ดหนุ่มสองพี่น้องกันไม่ยอมทำตามที่ขอ หญิงสาวจึงร้องไห้ฟูมฟายจนในที่สุดอีโคและมาโคยอมใจอ่อนทำตามจนได้
ในเมื่อทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิด หญิงสาวก็จัดการต่อสายหาแอติโร่ทันที เมก้าตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้อีโคกับมาโค เริ่มทำตามแผนวันนี้เลย และรอไม่นานปลายสายก็กดรับสายของเธอ
“ฮัลโหล! มีอะไร! ”
เมก้ายิ้มเจ้าเล่ห์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงปลายสายทักมาคำแรก ด้วยความรู้ดีว่ายังไงฝ่ายชายจะไม่มีวันยอมพูดดีด้วยอยู่แล้ว หล่อนชอบใจทุกครั้งเวลาได้ยินเสียงห้วนๆ ของเขาแบบนี้ มันยิ่งทำให้เธออยากแกล้ง อยากยั่วให้เขาโกรธ ถ้าอยู่ต่อหน้ากันป่านนี้คงได้โดนหล่อนไล่จูบเอาแล้ว โทษฐานมาทำเสียงห้วนใส่
“แหม! ทำเป็นพูดห้วนไปได้ ว่าที่พ่อของลูกโทรหานิดหน่อยก็ไม่ได้นะ ไม่คิดจะพูดเพราะๆ หวานๆ หูให้ได้ยินบ้างเลยหรือคะติโร่ยอดรักเมก้า” รู้ว่าชายหนุ่มไม่ชอบให้พูดแบบนี้ แต่หญิงสาวก็ยังอยากจะพูดอยู่ดี ก็ในเมื่อความสุขของหล่อนคือการเห็นชายหนุ่มตอบเสียงหวนกลับมา และทำหน้าบึ้ง ยิ่งคิดยิ่งอยากเห็นหน้าชายหนุ่มในสายนัก
เมก้าจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้คนปลายสายนั้นยิ้มแทบไม่หุบเลยก็ว่าได้เมื่อได้ยินหล่อนพูดออกมาแบบนี้ แอติโร่ชอบตีหน้าโกรธไม่พอใจต่อหน้าหญิงสาวก็จริง แต่ในใจลึกๆ เขานั้นกลับชอบเสียด้วยซ้ำ
“ยัยเว่อร์เอ้ย! พูดบ้าอะไรของเธอ จำใส่หัวเธอไว้นะยัยเว่อร์ แม้แต่ขาอ่อน อกสวยๆ ซิกแพคแปดแพคของฉันชาตินี้หน้าอย่างเธอไม่มีวันได้เห็น ได้ลูบไล้แน่ๆยัยบ๋องเอ้ย!” ปากพูดไปอีกอย่าง แต่ในใจนั้นตรงกันข้ามกับคำพูดโดยสิ้นเชิง ใจจริงเขาอยากให้สาวเจ้าลูบไล้ โอบกอดลูบไล้ให้ความสุขกับเรือนกายเขามากเสียด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างว่าคนไร้หัวใจอย่างเขารึจะยอมให้คนอย่างเมก้ามาเอาชนะได้ง่ายๆ หึหึ
“ที่พูดมาจริงรึเปล่า ไม่ใช่กลั้นใจพูดตรงข้ามกับหัวใจนะยอดรัก ม๊วฟ!” สาวเจ้าแซวกลับไปอย่างคนชอบแกล้ง รู้ว่าฝ่ายนั้นต้องโกรธเธอเป็นฟืนเป็นไฟแน่ๆ เลยเวลานี้ เพราะทุกครั้งเขาจะโกรธตีหน้ายักษ์ตลอดที่หล่อนพูดแบบนี้ หญิงสาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชายหนุ่มต้องสร้างกำแพงขวางหล่อนไว้แบบนี้ด้วย กับคนอื่นเขาพูดดี หัวเราะเฮฮาได้หมด แต่กับเธอ เขาจะชอบใช้น้ำคำเชือดเฉือนตลอดเวลา ไม่รู้เขาจะจังเกลียดอะไรหล่อนนักหนา เมก้าคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็รินไหลออกมาอย่างช้า จนมาโคเห็นต้องรีบหยิบทิชชูมาให้คุณหนูของตนเช็ด
เมก้าหันมาพยักหน้าขอบคุณบอดี้การ์ดที่เป็นเหมือนคนในครอบครัว เหมือนญาติหล่อนเลยก็ว่าได้ เพราะมีแค่พ่อ แม่ บอดี้การ์ดหนุ่มสองพี่น้อง กับคนรับใช้เท่านั้นที่ตามใจเธอ
“ยัยบ้าเอ้ย! โทรมามีอะไร ถ้าไม่มีจะวางแล้วนะ โทรมาชวนพูดไร้สาระอยู่ได้ รำคาญ! ” เมื่อโดนสาวเจ้าพูดจี้จุดให้ แอติโร่ก็กลัวว่าตัวเองจะหลุดอะไรที่ซ้อนไว้ออกไป จึงทำเป็นโวยวายจะวางสาย
“อย่าเพิ่งสิจ๊ะยอดรักติโร่” เมื่อเห็นว่าฝ่ายชายโวยขึ้นก็รีบเอ่ยดักไว้ทันที กลัวว่าชายหนุ่มจะวางสายไปเสียก่อนจะรู้เรื่อง
“ว่าเรื่องของเธอมาสิ ถ้าไม่รีบจะวางแล้วนะ เสียเวลา”
“จ้ายอดรัก เมก้าอยากถามว่า เลิกงานแล้วจะไปไหนต่อไหมจ๊ะ จะกลับไปค้างคอนโดหรือที่บ้านกันจ๊ะวันนี้” หญิงสาวถามไปแบบนั้น เพราะรู้ดีว่าวันหยุดทุกอาทิตย์ชายหนุ่มจะชอบกลับไปค้างบ้านกับครอบครัวตลอด แต่ก็ยังอยากถามอยู่ดี
“ไม่ วันหยุดนี้จะไม่กลับบ้าน จะไปค้างคอนโดของเอเดน”
ไม่รู้ทำไมเขาถึงบอกเมก้าไปตามความจริง ทั้งๆ เขาจะโกหกเจ้าหล่อน หรือไม่บอกก็ได้ในเมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้เมก้ารับรู้เรื่องของตนทุกอย่าง ว่าวันๆ เขาไปไหน ไปกับใคร ไปทำอะไรบ้าง เขาอยากให้เมก้าโทรถามเขาตลอดเวลา อยากบอกเล่าเหตุการณ์ชีวิตประจำวันส่วนตัวของตนให้หญิงสาวฟังหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเขา ถึงปากจะบอกว่าไม่ชอบหญิงสาวมายุ่งวุ่นวาย ด่าว่าสารพัด แต่ก็ยังอยากให้เจ้าหล่อนตามตื้อ สอดรู้เรื่องของตนอยู่ดี
“แค่นี้แหละที่ต้องการ ขอบคุณนะยอดรักของเมก้าม๊วฟ!” เมื่อรู้ว่าเป้าหมายจะไปไหน ก็เอ่ยขอบคุณถือโอกาสตัดสายไปเลย ไม่สนเลยว่าฝ่ายนั้นจะคิดเช่นไร
พอวางสายจากแอติโร่ เมก้าก็สั่งให้อีโคกับมาโคไปดักรอแอติโร่ที่ลานจอดรถของคอนโดเอเดน ไม่เห็นต้องยากเลยว่าทำไมถึงรู้จักคอนโดของเอเดนในเมื่อลิลลี่เพื่อนรักเคยบอกเธอไว้ พอสั่งเสร็จเธอก็รีบเคลียร์งานบนโต๊ะให้เสร็จ เพื่อจะกลับไปอาบน้ำรอแอติโร่ที่คอนโดอย่างสบายใจเฉิบ