บทที่ 2

2259 Words
ด้านเมก้าหลังจากออกมาจากห้องทำงานของแอติโร่ก็ออกจากโรงแรมของชายหนุ่มไปทันที วันนี้หญิงสาวไม่เข้าโรงแรมตัวเอง เพราะมีนัดทานข้าวกับเพื่อนสาวอย่างลิลลี่ที่ร้านประจำของพวกหล่อน “ฮัลโหลยัยลิลลี่ ไปถึงร้านยัง” เมก้าโทรหาเพื่อนก่อนจะขับรถไปถึงร้านอาหารอีก 10 นาทีจะถึง “รีบมาเถอะยัยเมก้า ฉันมารอนานแล้วย่ะ!” ลิลลี่ แม็ก หมั่นไส้เพื่อนรักจริงๆ ไม่รู้ไปหลงรักแอติโร่ได้ไง ทั้งๆ ที่ฝ่ายนั้นเกลียดเพื่อนหล่อนอย่างกับอะไรดี “กำลังรีบ งั้นแค่นี้นะลิลลี่” เมก้าวางสายจากเพื่อนรักก็รีบขับรถมาหาเพื่อนทันที มาถึง 10 นาทีอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด วันนี้หญิงสาวรู้ว่าเพื่อนรักชวนอกมาทานข้าวด้วยเรื่องอะไร จะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากเรื่องของแอติโร่ รู้ว่าเพื่อนไม่อยากให้หล่อนรักกับแอติโร่ แต่ตัวหล่อนก็ไม่เคยฟังเพื่อน จะให้ทำไงได้ก็ในเมื่อใจดวงนี้ได้ให้ชายหนุ่มไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนไปเรียนที่อังกฤษเสียอีก จะให้ลืมความรักของตัวเองมันยากเหลือเกิน แต่ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนก็จะพยายามทำให้ชายหนุ่มหลงรักให้ได้ เมก้าจำได้ครั้งแรกที่เจอกับแอติโร่ในงานเลี้ยงของระดับผู้บริหาร ซึ่งครอบครัวหล่อนกับครอบครัวชายหนุ่มได้รับเชิญไปงานด้วยวันนั้นเองเขาได้เอาหัวใจเธอติดมือไปด้วย ถึงจะแค่เพียงเวลาไม่นานที่ได้สบตากับเขา หัวใจของสาวเจ้าก็ได้ตกเป็นเชลยเขาอย่างจำยอมแล้ว ถึงแม้ว่าการพบกันครั้งแรกของหล่อนและเขาจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เมื่อแอติโร่ต่อว่าเธอสารพัด หญิงสาวจึงโกรธสาดน้ำใส่หน้าชายหนุ่ม และนั้นเองเป็นบ่อเกิดแห่งความเกลียดที่ชายหนุ่มมีให้เธอตลอดมา แต่เมก้าคิดว่ามันเป็นบ่อเกิดของความรักเธอมากกว่า ที่เลือกไปเรียนต่อที่อังกฤษก็เช่นกัน เพราะได้สืบรู้มาว่าชายหนุ่มไปเรียนต่อที่นั้น หญิงสาวจึงตามไปเรียนที่นั้นด้วย “ทางนี้เมก้า” ลิลลี่เห็นเพื่อนเดินเหม่อเข้ามาในร้านก็ร้องเรียกทันทีดูท่าทางเพื่อนหล่อนใจลอยชอบกล เมก้าได้สติคืนมาทันที หญิงสาวไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นเดินเข้ามาในร้านแล้ว เพราะมัวแต่คิดเรื่องของตัวเองกับแอติโร่อยู่จึงทำให้ใจลอยแบบนี้ “จ้ายัยลิลลี่” เมื่อเห็นเพื่อนก็รีบก้าวยาวๆ ไปหาเพื่อนสาวทันที “ใจลอยเชียวยัยเมก้า คิดอะไรอยู่หึ” “ปะ...เปล่าแค่คิดอะไรเรื่อยเปลือยจ้ะ” “ไม่เชื่อ!” “โดนรู้ทันอีกแล้วเรา” เมก้าแสร้งทำเป็นเขินอายให้เหมือนเด็กๆ จนเพื่อนรักอย่างลิลลี่อดยิ้มตามท่าทางเหมือนเด็กของเพื่อนไม่ได้ อายุ 28 ปีแล้วแต่ก็ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ ไม่เคยเปลี่ยน แบบนี้ไงหล่อนถึงได้รักเพื่อนคนนี้มาก “บอกมาเถอะเมก้า?” “บอกก็ได้ยัยลิลลี่ รู้แล้วอย่าขำนะ เพราะที่ผ่านมาเธอก็ขำฉันตลอด ฉันอาย” ใจจริงก็อยากเล่าให้เพื่อนฟัง แต่พอเล่าให้ฟังทีไรลิลลี่ชอบหัวเราะเธอตลอด แบบนี้ไงหญิงสาวจึงไม่อยากบอกเพื่อนรักอย่างลิลลี่ “ถ้ามันเป็นเรื่องซีเรียสก็จะไม่ขำ แต่ถ้าเป็นเรื่องเหมือนผ่านๆ มาก็จะขำ” ลิลลี่คิดย้อนไปเรื่องของเพื่อนรักที่ชอบมาเล่าเรื่องตัวเองกับแอติโร่ให้ฟังบ่อยๆ จนเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกไปแล้วทุกวัน อีกอย่างเรื่องที่เพื่อนรักจะเล่าวันนี้คงไม่พ้นเรื่องชายหนุ่มอีกเช่นเคย ไม่รู้ทำไมชีวิตเพื่อนหล่อนถึงได้มีแต่ชายหนุ่มคนนั้นนัก แอติโร่มีอะไรดีถึงทำให้เมก้าเพื่อนรักเธอหายใจเข้าก็เป็นแต่แอติโร่ หายใจออกก็เป็นแอติโร่ เฮ้อ! “นั้นไงว่าแล้วเชียว แต่ก็จะเล่า คิกๆ เริ่มแล้วนะ ฉันคิดถึงแผนการเอาชนะใจติโร่อยู่ถึงใจลอยอย่างที่เห็น” เมก้าพูดติดตลกในช่วงแรก พอมาประโยคหลังหญิงสาวมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันทีจนทำให้ลิลลี่ถอนหายใจแรงๆ ออกมา “เฮ้อ! ” ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ไม่ขำฉันเหรอลิลลี่” เมก้าแปลกใจปกติลิลลี่จะขำ แต่ทำไมวันนี้มาแปลก “ไม่อ่ะ แต่ฉันจะช่วย ฉันมีแผนจะช่วยเธอ ว่าแต่จะกล้าไหม ถ้ากล้าเราก็กลับไปคุยกันที่คอนโดฉันดีกว่า” “อะไรนะ! ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย! บอกฉันทีสิว่าเธอจะช่วยฉันจริงๆ ลิลลี่” “อืม! จะช่วยจริงๆ รับรองได้นายติโร่อะไรนั้นมานอนกกอดแน่ถ้ากล้าทำตามแผนฉัน” เพื่อนอยากได้ก็ต้องช่วยกันแล้วงานนี้ “น่ารักที่สุดเลยยัยลิลลี่สีทองของเมก้า จุ๊บ!” เมก้าเอ่ยชมเพื่อนพร้อมกับลุกเดินมาจุ๊บแก้มเพื่อนรักแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม “เอาอีกแล้วเมก้า ก่อนจะจุ๊บช่วยบอกก่อนได้ไหมฉันเขิน” ถึงจะโดนเมก้าจุ๊บบ่อย แต่ก็ยังเขินอยู่ดี “แฮะๆ เขินไปได้ยัยลิลลี่ของเมก้า เมก้าว่าเรารีบกินข้าวแล้วไปคุยกันต่อที่คอนโดลิลลี่ดีกว่านะ” เอ่ยจบก็เรียกให้บริกรหนุ่มเอาเมนูอาหารของร้านมาให้ สั่งของโปรดของตัวเองและของลิลลี่มาทาน พอสั่งเสร็จไม่นานพนักงานของร้านก็ยกอาหารเข้ามาให้ เมก้าชอบทานข้าวผัดปู เพราะหญิงสาวมีแม่เป็นคนไทย แต่มาแต่งงานกับพ่อชาวฝรั่งเศส จึงได้มาอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่เด็ก ถึงจะไม่ได้กลับบ้านเกิดแม่แต่หญิงสาวก็พูดไทยได้ ส่วนลิลลี่นั้นชอบทานเมดิเตอเรเนียนคีช หรือคีช ( quiche) ซึ่งเป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา เมื่อพนักงานวางอาหารจานโปรดเรียบร้อยแล้วสองสาวงามก็ลงมือทานมื้อเที่ยงอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อทานอิ่มท้องเรียบร้อยแล้วเมก้าก็อาสาเป็นคนจ่ายค่าข้าววันนี้เอง หญิงสาวอยากเลี้ยงเพื่อนเลิฟอย่างลิลลี่ที่จะช่วยเอาชนะใจแอติโร่ พอจ่ายค่าอาหารเรียบร้อยสองสาวก็เดินออกไปนอนกร้านเพื่อจะไปยังคอนโดของลิลลี่ สองสาวขับรถคนละคันไปต่างคนต่างเอารถตนมา ไม่นานนักทั้งสองสาวก็มาถึงคอนโด “ไหนลองว่ามาสิลิลลี่ ว่าแผนมีอะไรบ้าง” เมก้ามิรอช้า ในเมื่อตอนนี้ในใจนั้นร้อนรนเพียงไรกับเรื่องที่เพื่อนจะพูด “ทำเป็นใจร้อนไปได้ยัยเมก้า” “ก็เขาอยากรู้อ่ะ บอกมาเร็วๆ เถอะนะ ถ้าไม่บอกเขาจะทำตามแผนเขาเลยนะเพื่อนรัก” “จ้า...เพื่อนรักของฉัน” “รีบว่าแผนมาเร็วลิลลี่สีทองของเมก้า” เมก้าเร่งลิลลี่อีกครั้ง และครั้งนี้ก็ได้ผล เมื่อลิลลี่เริ่มเล่าแผนการของตัวเอง “ถ้าอยากให้คนอย่างติโร่หันมาสนใจ ก็ต้องกล้าๆ หน่อยเมก้า แผนฉันมีอยู่ว่า แกจะต้องใช้มารยาหญิงที่มีอยู่ทั้งหมดหลอกล่อให้ติโร่หันมาติดบ่วงเล่ห์ หรือถ้ามันยากเย็นหนักก็ให้บอดี้การ์ดของเธอสะกดรอยตามติโร่ไปห่างๆ แล้วเมื่อสบโอกาสก็ให้บอดี้การ์ดดักทุบหัวเขาแล้วก็พาไปคอนโด ถ้าพากลับบ้านมีหวังพ่อแม่เมก้าได้รู้เรื่องแน่ ที่ฉันแนะนำแบบนี้เพราะเห็นว่ามันเป็นทางเดียวที่จะกระชากใจผู้เหย่อหยิ่งอย่างแอติโร่ได้ ส่วนเรื่องที่จะใช้มารยาหญิงเลิกเสียเถอะ ฉันเห็นใช้มาหลายปีแล้วกับเขา ผลมันก็ยังเป็นเหมือนเดิม เชื่อฉันเถอะ เหมือนอย่างนิยายรักอังกฤษที่ฉันเคยอ่านมา พระเอกไม่ชอบนางเอก พอได้เป็นผู้ชายคนแรกเท่านั้นแหละ หลงนางเอกจนโง่หัวไม่ขึ้นเลย ถ้าหากยอมเสียความสาว แต่มันก็คุ้มนะเพื่อให้ได้ใจแอติโร่มาไว้ในครอบครอง พอถึงเวลานั้นจะทำยังไงกับเขาก็ได้ เพราะยังไงแอติโร่ก็ไปไหนไม่รอดเชื่อฉันเมก้า แต่ว่าลิลลี่ก็ไม่อยากให้เมก้าทำตามแผนนี้เลย” ลิลลี่แนะนำเพื่อนแบบนี้ก็จริง แต่ในใจจริงนั้นไม่อยากให้เพื่อนทำตามสิ่งที่ตนพูดเลย เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องเอาตัวเข้าแลก “ฉันตกลงทำตามแผนนี้ มันท้าทายดี อีกอย่างถ้าหากวันใดที่ติโร่หลงรักฉันหัวปักหัวปำ วันนั้นแหละคือวันที่ฉันจะสลัดติโร่ทิ้งจากชีวิต ถึงจะรักเขา แต่ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าความรักของฉันแต่แรกก็อย่าหวังว่าฉันจะรักเขาอีกต่อไป ต่อไปนี้จะเป็นแค่เกมเท่านั้น เชื่อเถอะลิลลี่ เมก้าจะไม่มีทางแพ้ใจตัวเอง เกมนี้เราจะเป็นคนเริ่มและจบมันด้วยความเจ็บปวดของเขาเอง” เมก้ายิ่งอยากทำตามแผนเพื่อน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แอติโร่รู้ว่าความรักที่ถูกปฏิเสธมันเป็นเช่นไร และเมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะได้รู้ว่าหล่อนเจ็บเช่นไรเมื่อโดนเขาปฏิเสธแบบแล้งน้ำใจ “เมก้าเอาจริงเหรอ ฉันพูดไปแบบนั้นเพราะอยากให้แกคิดได้ว่าไม่ควรไปรักผู้ชายแบบนั้น” “เอาจริง เริ่มแผนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นคนคุมเกมเองลิลลี่ ไม่ต้องห่วง คนอย่างเมก้า สวย เริ่ดเชิ่ด หยิ่ง อวดดี ไม่มีใครเกิน มีหรือจะยอมคนอย่างติโร่ง่ายๆ ” หล่อนได้หมายมาดหมั้นไว้ในใจแล้ว “เมก้าคนงามจะทำคนเดียวได้ยังไงถ้าไม่มีแม่ดอกลิลลี่สีทองคนนี้คอยช่วย หึ!” ไหนๆ เพื่อนจะเอาจริง ลิลลี่เลยจะช่วยเต็มที่ ถึงจะไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับแอติโร่และผู้ชายอีกคนที่หล่อนเกลียด ซึ่งก็คือ เอเดน ซิสเลอร์ คู่หมั้นหนุ่มของเธอนั้นเอง พอคิดมาถึงหน้าคู่หมั้นก็ทำให้อดคิดถึงเย็นจะถึงนี้ไม่ได้ ว่าครอบครัวเธอกับครอบครัวชายหนุ่มได้นัดกันไปทานข้าวที่ร้านอาหาร Clichy’s Tavern ซึ่งเป็นร้านที่มีความเป็นอิตาเลี่ยนได้ลงตัว ไม่ว่าจะบรรยากาศของร้าน อาหารในร้านก็อร่อย เหมาะสำหรับพาครอบครัวไปทาน “ลิลลี่แกเป็นอะไรทำไมเงียบแปลกๆ มีอะไรบอกได้นะ” “ปะ...เปล่าแค่วันนี้ฉันจะต้องกลับบ้าน เพื่อไปทานข้าวกับตระกูลซิสเลอร์ ไม่อยากไปแต่ก็ต้องไป เพราะแม่กับพ่อได้บัญชามาแล้ว ถ้าหากลิลลี่ไม่กลับบ้านไปวันนี้ลิลลี่จะไม่ได้มาพักที่คอนโด ถ้าแค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ ก็ไม่ว่านะ แต่นี้อะไรไปคุยเรื่องงานแต่งงานฉันกับนายเอเดนนั้น เมก้าก็รู้ว่าลิลลี่เกลียดนายเอเดน ไม่ชอบหน้านายนั้นแค่ไหนอ่ะ” ลิลลี่คิดแล้วก็หนักอกหนักใจที่จะต้องได้ไปปะทะคารมกับเอเดน เจอกันทีไหร่มีเรื่องให้ทะเลาะกันทุกที ก็จะไม่ให้มีได้ไง ชายหนุ่มนั้นชอบว่าเธอไม่มีปัญญาหาคนมาแต่งงานด้วยถึงได้ยอมให้พ่อแม่บังคับแบบนี้ “เฮ้อ! อย่าคิดมากเลยลิลลี่ มีอะไรให้เมก้าช่วยก็บอก จะว่าไปลิลลี่สีทองของเมก้าก็ดูเหมาะกับคุณเอเดนเขาเหมือนกันน๊า! หรือว่าเมก้าคิดไปเองน๊า!” พูดจริงจังในตอนแรก แต่ในช่วงท้ายหญิงสาวพูดจาหยอกเย้าลิลลี่ให้เขินอาย และมันก็ได้ผลเมื่อลิลลี่ม้วนอายใหญ่เลยเวลานี้ “บ้าเมก้าอ่ะ เหมาะกันที่ไหนอ่ะลิลลี่ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เปลี่ยนเรื่องดีกว่า” ลิลลี่ไม่รู้จะทำยังไงเลยชวนเพื่อนเปลี่ยนเรื่อง “ก็ได้จ้า เห็นว่าอายหน้าแดงเลยไม่อยากแกล้งน่ะ คิกๆ ” เมก้าอยู่คุยกับเพื่อนไม่นานก็กลับไปโรงแรมของตนเพื่อเซ็นเอกสารตามที่เลขาสาวสวยของเธอโทรตาม โดยทิ้งให้ลิลลี่อยู่คอนโดคนเดียวตามลำพัง ใจจริงก็ไม่อยากไป แต่ในเมื่อตอนนี้หล่อนโตแล้ว เป็นถึงผู้บริหาร ไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดา จึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ แต่เวลาเห็นแอติโร่ หญิงสาวจะทำตัวเหมือนเด็กไม่มีความรับผิดชอบตามจีบผู้ชายไปวันๆ เพราะรักหลอกถึงตื้อทุกวันไม่มีเบื่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD