ประตูห้องถูกผลักเข้ามาอย่างแรง โดยหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังกอดกระหวัดนัวเนียกัน พวกเขาแทบไม่สนใจรอบข้าง เพราะมัวแต่ผลัดกันโอ้โลมตะโบมจูบอย่างเอาเป็นเอาตาย เสื้อผ้าชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกกระชากทิ้งไปอย่างไม่ไยดี กระทั่งต่างฝ่ายต่างได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มของกันและกัน เมื่อเนื้อสัมผัสเนื้อประดุจปลุกกระแสไฟในตัวพวกเขาให้พลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม
ใช่…เขากำลังพลุ่งพล่านด้วยความกระสันที่มีมากขึ้นทุกขณะ มากจนกลายเป็นสัมผัสตะกรุมตะกราม เมื่อเธอช่างเย้ายวน อีกทั้งยังหอมหวานจนเขาใคร่อยากจะกลืนกินหญิงสาวในอ้อมกอดเข้าไปทั้งตัว ให้ตายสิ! ไม่เคยมีใครทำให้เขาเสียการควบคุมได้เท่านี้มาก่อน
คนที่เคยถูกปรนนิบัติโอ้โลมโดยบรรดาสาวๆ มาบัดนี้กลับเป็นฝ่ายอยากเล้าโลมกายสาวตรงหน้าใจจะขาด ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอช่างมีแรงดึงดูดมากเหลือเกิน มากจนทำให้เขาไม่อาจทานทนได้อีกต่อไป
เขาผละจากริมฝีปากอวบอิ่มที่เคยบดขยี้ แล้วเลื่อนลงมาซุกไซ้ที่ลำคอระหง เรื่อยมากระทั่งสัมผัสกับก้อนเนื้อกลมกลึง ความตูมเต่งเคร่งครัดทำให้เขามิอาจทานทน อ้าปากครอบครองปลายถันสล้างราวคนหิวกระหาย
“อืม" สองเสียงครางประสาน เมื่อคนหนึ่งเสียดเสียว อีกคนก็กำลังกระสันเหลือกำลัง ใครจะคิดว่ายิ่งสัมผัสกลับยิ่งปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม แน่นอนว่าเขาจะสุมไฟสวาทกองนี้ให้เธอมอดไหม้ไปพร้อมกัน
จากสัมผัสดูดดึงกลายเป็นกระหวัดเลียซ้ำๆ ราวกับว่าความหนั่นนุ่มตรงหน้าคือขนมหวานเลิศรสที่กัดกินได้ไม่รู้เบื่อ แต่ถึงจะอยากฟอนเฟ้นให้หนำใจมากแค่ไหน แต่บางอย่างที่กำลังประท้วงก็ทำให้เขารวดร้าวจนต้องรีบผละออกมา พร้อมกับเอื้อมมือไปควานหาบางอย่างในลิ้นชักข้างหัวเตียง กระทั่งคว้าถุงยางอนามัยออกมาฉีกทึ้งและสวมครอบความแข็งขึงที่กำลังเหยียดขยายด้วยความรีบเร่ง ราวกับกลัวว่าหญิงสาวตรงหน้าจะหายไป
“อ๊ะ…อื้อ เจ็บ" หญิงสาวใต้ร่างครางประท้วงใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกพลางขยับถอยร่น ทำเอาเจ้าของกายแกร่งถึงกับชะงักค้าง ก่อนสบถออกมา
“ชิต!” ยิ่งเธอพยายามขยับ เขาก็ยิ่งเสียดเสียวปิ่มจะระเบิด ให้ตายสิ! ความคับแน่นที่กำลังบีบอัดทำเขารวดร้าวเจียนคลั่งจนต้องกัดกรามกรอด กระทั่งการดิ้นรนขัดขืนของคนใต้ร่างก็ทำให้ความแข็งขึงที่ยังค้างๆ คาๆ ถูกถอดถอนออกไป
“บ้าเอ๊ย!” เขาสบถอย่างหัวเสียพลางก้มมองกายแกร่งที่ยังผงกผงาดเพราะยังมิถูกปลดปล่อย ก่อนจะเหลือบไปมองตัวต้นเหตุที่บัดนี้หลับพริ้มไปแล้ว ให้ตายสิ! คงมีแต่เขากระมังที่หลับไม่ลง เมื่อกายสาวเย้ายวนเบื้องหน้ากำลังเปิดเปลือยทุกส่วนสัด ราวกับจะปลุกปั่นให้เขากระสันอยากยิ่งกว่าเดิม กระทั่งกระสันมากขึ้นอีก
“อืม…” เสียงครางเบาๆ ที่มาพร้อมกับการขยับพลิกตัวของคนเมา ทำคนมองถึงกับต้องหลับตาแน่น พลางเลื่อนมือมากุมดุ้นยักษ์กลางลำตัวที่กำลังปวดหนึบ พร้อมกับสลัดถุงยางที่ยังสวมครอบเอาไว้ออกอย่างไม่ไยดี กระทั่งจิตใต้สำนึกสั่งให้เขาลืมตาเพื่อมองเรือนร่างเย้ายวนอีกครั้ง
อา…อกอวบอิ่มเบื้องบนที่รับกับเอวคอด เรื่อยมาจนถึงเนินเนื้ออวบอูมเบื้องล่าง ทำมือที่กำลังกอบกุมกายแกร่งขยับขึ้นลงโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้แม้กระทั่งว่ามืออีกข้างของตัวเองเลื่อนลงไปสัมผัสที่เนินสวาทโหนกนูนของเธอตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เรียวนิ้วถูกสอดส่งเข้าไปในความนุ่มลึกแล้ว และความร้อนผ่าวนั้นที่กำลังตอดรัดก็ทำให้เขาเสียดเสียวจนต้องกัดกรามกรอด ยิ่งเห็นเจ้าของเนินครางตอบรับ เรียวนิ้วที่กำลังจุ่มจ้วงก็ยิ่งขยับเร็วขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับมืออีกข้างที่กำลังขยับรัวเร็วไม่แพ้กัน ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องน่าอดสูสำหรับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อเชียวนะ คนอย่างนทีเคยขาดแคลนผู้หญิงถึงขั้นต้องทำเช่นนี้เมื่อไหร่กัน แต่ก็นั่นแหละ จะให้หยุดตอนนี้เขาก็ทำไม่ได้ สุดท้ายจึงได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไป กระทั่ง…
“อา…” ชายหนุ่มเงยหน้าคำรามลั่น ทันทีที่สายธารแห่งความกำหนัดพวยพุ่ง ไม่สิ! สำหรับเขา มันคือสายธารแห่งความอดสูต่างหาก เพราะแทนที่จะได้เสพสมกับเรือนร่างอรชรตรงหน้าให้หนำใจ กลับทำได้แค่สัมผัสเพียงผิวเผิน เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่มันกำลังพลุ่งพล่านก็เท่านั้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่พอ
“โธ่เว้ย! เป็นบ้าอะไรของแกวะไอ้นที” เขาสบถอย่างหัวเสียขณะก้มมองบางอย่างที่กำลังตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ประหนึ่งว่ามันยังไม่อิ่มเอม ก็จะให้อิ่มได้ยังไง ในเมื่อเขายังไม่ได้กิน และให้ตายเถอะ…นวลเนื้อตรงหน้าก็ช่างน่ากินซะเหลือเกิน น่ากินจนเผลอยื่นมือข้างหนึ่งลงไปสัมผัส
“อืม…” ความนุ่มลื่นของเนินสาวที่ได้สัมผัสทำเจ้าของนิ้วมือถึงกับคำรามลั่น กอปรกับความหยาดเยิ้มที่อาบไล้ไปทั่วเรียวนิ้วราวกับจะประกาศว่าเธอพร้อมที่จะรับตัวตนทั้งหมดของเขาแล้ว ในขณะที่เขาเองก็พร้อมจนแทบคลั่ง
“บ้าเอ๊ย! ถ้าฉันเลวกว่านี้อีกสักนิด เธอไม่รอดแน่ รอให้ได้สติก่อนเถอะ พ่อจะคิดบัญชีทบต้นทบดอก เอาให้คลานลงจากเตียงเลยคอยดู” เขาผละออกมายืนขยี้หัวตัวเองแรงๆ พลางคาดโทษคนที่ยังหลับพริ้ม แน่นอนถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดี อีกทั้งยังใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่ากระดาษชำระ แต่เขาก็ไม่ได้เลวถึงขั้นพรากพรหมจรรย์คนที่เมาไม่ได้สติเพียงแค่สนองความใคร่ของตัวเอง ถึงแม้ในใจจะอยากทำมากแค่ไหนก็ตามเถอะ แต่เมื่อทำไม่ได้ เขาจึงต้องหาตัวช่วย ด้วยการเดินโทงๆ ออกมานั่งดื่มไวน์ดับความกระสันที่มันกำลังพลุ่งพล่าน กระทั่งเมาหลับไปในที่สุด
“โอย…” เจติยาครางเสียงแหบพร่า ศีรษะที่หนักอึ้งทำให้เธอต้องยกมือขึ้นกุมขมับ แต่มือนั้นกลับเลื่อนไปสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่างซะก่อน
ตึก…ตึก…ตึก เจติยาชะงักกึก นัยน์ตาเบิกโพลง อาการเมาค้างหายเป็นปลิดทิ้ง
“ไม่จริงมั้ง ไม่ใช่หรอก เราไม่ได้เมาขนาดนั้นสักหน่อย ฮือ…มันไม่จริงใช่ไหม" เธอพึมพำพลางภาวนาว่าอย่าให้เป็นอย่างที่คิด ก่อนจะค่อยๆ หันไปมอง
“อื้อ…!” เธอเอามือปิดปากปิดกั้นเสียงกรี๊ดไม่ให้เล็ดลอดออกมา ด้วยกลัวว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ จะตื่น
“ฮือ…คงแค่นอนจับมือกันเฉยๆ มั้ง" เธอพยายามปลอบใจตัวเอง แล้วค่อยๆ เปิดแง้มดูใต้ผ้านวมผืนหนาที่ตัวเองห่มอยู่