7

1218 Words
เมื่อนางเอกไม่ใช่สตรีเจ้าน้ำตา อิงเยี่ยหลิงไม่ได้อยากทำสิ่งที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ ทว่าตั้งแต่บ่ายเมื่อวานจนจวนฟ้าจะมืดในวันนี้ นางยังไม่พบหน้าคนรัก... เซียวเฮ่อป๋อ แม้นางได้กลายเป็นสะใภ้ใหญ่จวนเซียว แต่อนิจจาตำแหน่งนี้นางหาได้ต้องการ สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมต่อสตรีผู้นี้ และนางถูกบีบบังคับทุกอย่าง การก้าวเข้ามาในสกุลเซียวคือหายนะของชีวิต ยามนี้จิตใจหญิงสาวร้อนรน กินไม่ได้ และนั่งไม่ติด กระทั่งสบโอกาสที่จะพบหน้าแม่ทัพหนุ่ม นางก็ตีหน้าเศร้าแจ้งกับเซียวหมิงเซินว่า อยากออกไปดูมารดาสักหน่อย เนื่องจากน้องชายที่ร้านขายเต้าหู้คุณธรรม ส่งจดหมายให้ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นลมและล้ม อาการไม่สู้ดี ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่นางแต่งขึ้น แต่เดิมนางไม่ควรออกจากจวนเซียว ทว่าอิงเยี่ยหลิงทั้งร้องไห้ ทั้งแสดงให้เห็นว่าห่วงมารดา กลัวดูใจอีกฝ่ายไม่ทัน เซียวหมิงเซินเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นจึงอนุญาต และบอกว่าหากมีเรื่องใดร้ายแรง เขาจะให้บ่าวไปตามหมอหลวงจากสำนักการแพทย์ “อย่าให้ลำบากคุณชายใหญ่เลย ขะ ข้า... จะรีบไปรีบกลับ อีกอย่าง บ้านข้าพึ่งหมอตำแย และร้านขายยาอยู่เสมอ ตัวข้าพอมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง และหากมารดาอาการหนักเกินเยียวยา ข้าก็เตรียมใจไว้แล้ว!” ถ้อยคำนางฟังแล้วก็พิลึก “เสี่ยวหลิง อย่างไรข้ากับเจ้าเข้าหอกันแล้ว แม้จะเป็นเพียงในนาม แต่เรื่องนี้มารดาข้ากับทุกคนต่างรับรู้ เช่นนั้นเรียกข้าว่าท่านพี่เถิด” อิงเยี่ยหลิงอึดอัดเหลือเกิน แม้คุณชายใหญ่ท่าทางสุภาพ ทว่าใจนางเล่าแหลกสลายลงไม่มีชิ้นดี รักกับน้องชายอีกฝ่ายมาหลายปี จู่ๆ เมื่อคืนชีวิตกลับเล่นตลก ซึ่งหลังจากที่นางขึ้นเกี้ยว ถูกส่งตัวเข้าทางประตูด้านข้าง ก็สลบไม่ได้สติ รู้ตัวอีกทีนางได้อยู่ห้องหอของคุณชายใหญ่ และนับว่าเซียวหนิงเซินเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ได้ทำสิ่งใดล่วงเกินนาง และออกไปนอนที่เรือนรับรอง กระทั่งถึงเวลาที่ต้องยกน้ำชาให้จิวเจียกยี้ทั้งคู่จึงได้เห็นหน้ากัน “แต่สิ่งที่ข้าอยากให้ถูกต้องที่สุด คือการได้เป็นภรรยาของแม่ทัพเซียว... มิใช่คุณชายใหญ่” หญิงสาวกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม เมื่อนางกับเซียวหมิงเซินไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางกายด้วยกัน เหตุใดเขายังต้องการให้นางเป็นฮูหยินอีก บุรุษผู้นี้เห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่ เรื่องนี้ทำให้นางเครียดและกลัดกลุ้มใจ “ข้าเป็นคนพิการ เจ้าเลยไม่เห็นอยู่ในสายตา” อิงเยี่ยหลิงมองไปที่บุรุษซึ่งนั่งรถเข็น แม้ใบหน้าเขากับเซียวเฮ่อป๋อละม้ายกันอยู่บ้าง ทว่าสำหรับนาง โลกนี้ไม่มีใครแทนใครได้ และหัวใจนางเป็นของแม่ทัพหนุ่ม “ท่านเข้าใจผิด ข้าขึ้นเกี้ยวมาที่สกุลเซียว หวังเพียงเป็นภรรยาของป๋อเกอ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามมา จำต้องฝืนใจกระทำเนื่องจากกลายเป็นคนสกุลเซียวเสียแล้ว อาจเพราะวาสนามีเพียงเท่านี้ กระนั้นข้าก็มิอาจเปลี่ยนใจไปจากป๋อเกอ ความในใจข้าคือเช่นนี้ ยังเหมาะสมเป็นสตรีที่ท่านบอกผู้อื่นว่าเป็นฮูหยินอีกหรือ” “อิงเยี่ยหลิง...หลักสามคล้อยตาม ในข้อที่สอง เจ้าคงรู้ดี” เซียวหมิงเซินเอ่ย และมองมาที่หญิงสาว ใบหน้างามล้ำกระตุกเล็กน้อย แต่นางคงมิอาจต่อต้านอีกฝ่าย ยามนี้ได้แต่ฝืนทนทุกสิ่งเอาไว้ “หากรู้ ลองทวนให้ข้าฟังได้หรือไม่” ขอบตาบของอิงเยี่ยหลิงแดงจัด สองมือกำหมัดแน่น เสียงที่เปล่งออกมานั้น ขาดเป็นห้วงๆ ด้วยความโกรธ แค้นใจ และอดสู “สะ...สตรีที่ออกเรือนแล้วให้ ชะ เชื่อฟัง ผู้เป็น สะ ...สามี” “จำได้ขึ้นใจเช่นนี้ ข้าก็หวังว่า กลับบ้านไปเยี่ยมมารดาครั้งนี้ เจ้าจะไม่ทำสิ่งใดเสื่อมเสียถึงข้าและตนเอง” น้ำเสียงเซียวหมิงเซินราบรื่น ทว่าไม่รู้เหตุใดอิงเยี่ยหลิงสัมผัสได้ว่า มันเหมือนคมมีดแหลมคมที่กำลังกรีดหัวใจนาง และเมื่อเช้า อิงเยี่ยหลิงใช้เล่ห์กลเล็กน้อย นางส่งนกพิราบสื่อสารถึงเซียวเฮ่อป๋อ ย้ำว่า หากเขาไม่มาพบนางตามนัดหมาย ชั่วชีวิตนี้ทั้งคู่จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีก ศาลาหลังนั้น อยู่ในจุดก่อนถึงจวนสกุลเซียวราวๆ ครึ่งห้าลี้ ผู้คนไม่ใคร่สัญจรนัก เนื่องจากเป็นเขตสุสานหลวง นางเลือกใช้ที่นี่ นัดพบเขาหลายหน ล่าสุดก็เมื่อต้นเดือนก่อนเข้าหอ ในหนนั้นทั้งคู่ยังได้ลงไปเล่นน้ำด้วยกันอย่างหวานชื่น และยามเย็นก็ทำอาหารง่ายๆ กินกัน และนอนชมแสงดาว แผ่นหลังกว้างตั้งตรงอยู่เบื้องหน้าเยี่ยอิงเยี่ยหลิง แผ่นหลังเดียวกันนี้ นางเคยสัมผัสและใกล้ชิด ซึ่งชาตินี้ ใจนางวาดหวังว่าเขาจะเป็นบุรุษเดียวที่นางมอบกายและใจให้ หากสุดท้าย เซียวเฮ่อป๋อกับเหยียบหัวใจนางให้แหลกละเอียด ในคืนที่นางควรจะเป็นเจ้าสาวของเขา หญิงสาวสืบเท้าไปข้างหน้า แล้วหยุดลงก่อนที่จะถึงตัวเขา “ป๋อเกอ...” หญิงสาวเรียกเขา ใจอยากโผเข้าไปสวมกอด ขอพลังจากอีกฝ่าย เนื่องจากนางโศกเศร้า ผิดหวัง ปวดร้าวและรู้สึกเหมือนถูกชายหนุ่มหักหลัง คนตัวโตค่อยๆ หันมามองอิงเยี่ยหลง ยามนี้นางช่างน่าสงสาร อันที่จริงนางสมควรเป็นฮูหยินเขา นั่นคือสิ่งที่คิดอยู่ในใจก่อนหน้า ภาพสตรีอ่อนหวาน ทั้งใสซื่อที่ขายเต้าหู้ทรงเครื่องอาหารที่เขาโปรดจู่ๆ เลือนหายไป และแทนที่ด้วยภาพเร่าร้อนในคืนเข้าหอของเขากับหยุนเมี่ยง เซียวเฮ่อป๋อ ยอมรับว่าเมื่อเขาทำสิ่งบ้าระห่ำกับสตรีแซ่หยุน หัวใจเขาได้ออกห่างจากอิงเยี่ยหลิง และมันคงกลับไปเป็นอย่างเดิมไม่ได้ ใช่...เรื่องนี้จะโทษสิ่งใดได้ หากไม่ใช่พิษราคะที่คนร้ายวางยาเขา แม้แต่ยามนี้อิงเยี่ยหลิงมาปรากฏตรงหน้า เขากับไม่ได้รู้สึกเสน่ห์หาต่อนาง หากเป็นความห่วงใย และปรารถนาดีเท่านั้น “อาหลิง ข้าผิดต่อเจ้ายิ่งนัก” ชายหนุ่มเอ่ยได้เพียงเท่านั้นและนิ่งเงียบไป และมันสร้างความเจ็บช้ำให้ทั้งสองฝ่าย “อย่างน้อย ท่านก็ไม่หลบหน้าข้า และเอ่ยคำขอโทษให้ได้ยิน” “สิ่งใดที่ข้าชดใช้ให้เจ้าได้จงบอกมาเถิดอาหลิง” อิงเยี่ยหลิงหัวใจแตกสลาย ก่อนรวบรวมพลังและความกล้า บอกความในใจต่อชายหนุ่ม “ข้ายังเป็นสตรีที่ไม่มีสิ่งใดด่างพร้อย ป๋อเกอ...คงทราบเรื่องนี้แล้ว และ ทะ ท่าน...ยังต้องการให้ข้าเป็นเหล่าผอ (ภรรยา) อีกหรือไม่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD