Chapter 5 ถ้ำมองข้างโขดหิน

1220 Words
Chapter 5 ถ้ำมองข้างโขดหิน ไม่มีใครสนใจเจ้าของวันเกิดที่ไร้ตัวตน... กิ่งดาวก้มหน้าแล้วใช้ปลายเท้าเปลือยเปล่าเขี่ยไปบนผืนทรายอย่างเบื่อหน่าย ของขวัญวันเกิดที่มารดามอบให้เธอต่อหน้าแขกเหรื่อคือกุญแจรถลัมโบกินีป้ายแดง เพื่อแสดงให้ทุกๆ คนเห็นว่าเหมือนดาวเป็นมารดาที่ดีพร้อม จัดงานวันเกิดอลังการอีกทั้งยังมอบรถที่แพงที่สุดให้บุตรสาวที่กำลังย่างเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศ น่าขัน...มารดาไม่เคยถามเธอสักคำว่าเธออยากได้ไอ้รถบ้าบอนี่หรือเปล่า มารดาทำทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำ โดยไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเธอเลย เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หยาดน้ำใสก็ไหลคลอหน่วยตา เธอปล่อยให้มันหยาดหยดลงบนเดรสสีขาว พี่เลี้ยงจัดหาชุดนี้ให้เธอเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศชายทะเล ชุดเดรสตัวยาวกรอมเท้าเปิดเปลือยไหล่นวลเนียน ผมยาวสลวยถูกถักเปียเอาไว้ด้านหลัง บนศีรษะของเธอสวมมงกุฎดอกเดซี่สีขาว ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนขับให้เธอดูเป็นสาวน้อยที่งดงามจับตา จะสวยไปทำไมเมื่อไม่มีใครสนใจไยดี “ดื่มไวน์สักแก้วมั้ยครับ” เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากข้างกายทำให้คนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดถึงกับเงยขึ้นสบตาคนตัวโตกว่า หนุ่มสูงวัยท่าทางภูมิฐาน ใบหน้าหล่อเหลาแม้จะมีริ้วรอยแต่กลับมิได้ทำให้เขาดูสูงวัยเลยแม้แต่น้อย กลับทำให้เขาดูมีเสน่ห์น่าค้นหา อบอุ่นอย่างผู้ใหญ่ใจดี “อาชัช...” จู่ๆ ใบหน้าของกิ่งดาวก็แดงระเรื่อ ทำไมเธอถึงใจเต้นแรงเมื่อเห็นสายตาคมกริบ และรอยยิ้มอบอุ่นที่กำลังโปรยมายังเธอ “ไม่ได้เจอกันหลายปีคุณหนูโตเป็นสาวขึ้นเยอะจนอาแทบจำไม่ได้” ชัชชาติถือโอกาสทรุดกายลงนั่งบนม้านั่งตัวยาวข้างหญิงสาว นั่งใกล้เสียจนกิ่งดาวได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ โชยมาจากเขา และนั่นยิ่งทำให้เลือดในกายของหญิงสาวสูบฉีดแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน อันที่จริงตอนเด็กๆ เธอติดอาชัชแจ เขามาที่บ้านทีไรเธอจะต้องปีนขึ้นนั่งตัก ขี่คอ หรือไม่ก็หลับไปในอ้อมกอดของเขาแทบทุกครั้ง นั่นเพราะชัชชาติเป็นคนใจดี มักซื้อขนมอร่อยๆ ติดมือมาทุกครั้ง แต่ช่วงหลังๆ มารดาส่งเธอเข้าเรียนในโรงเรียนประจำหญิงล้วน ประกอบกับช่วงนั้นมารดาขยายฐานการผลิตเครื่องสำอาง ชัชชาติซึ่งเป็นหัวเรือสำคัญในการบริหารจึงต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักเพื่อพัฒนาบริษัทให้ก้าวนำคู่แข่ง เธอจึงแทบไม่ได้พบชัชชาติอีกเลย “แต่อาชัชไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ ยังหล่อเหมือนเดิม” กิ่งดาวช้อนเปลือกตาขึ้นมองใบหน้าคมคร้ามของอีกฝ่ายด้วยความหลงใหล เธอไม่รู้หรอกว่าความรักคืออะไร เธอรู้แต่เพียงว่าแค่นั่งใกล้ๆ อาชัชเธอก็มีความสุขอย่างน่าประหลาด “อาแก่ลงทุกวัน อย่ามายอคนแก่หน่อยเลย” ชัชชาติหัวเราะด้วยท่าทางเก้อเขิน โดยไม่รู้เลยว่าทุกอากัปกิริยาของเขาได้ประทับอยู่ภายในใจเด็กสาวตัวน้อย “อายุครบ 18 ปีแล้วดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้วล่ะ ลองไวน์หน่อยมั้ย” ชัชชาติยื่นแก้วไวน์ให้เด็กสาว กิ่งดาวมีท่าทางลังเลแต่ก็รับแก้วมาถือไว้ก่อนจะลองดื่ม พบว่ารสชาติมันไม่ได้แย่อย่างที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้ เธอจึงดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว “อร่อยจังค่ะ ขออีกแก้วได้มั้ย” “ได้สิ” ชัชชาติยิ้มกว้างก่อนจะยกมือขึ้นเรียกบริกรมาเติมไวน์ให้เขาและหญิงสาว แล้วชวนคุยต่อไปว่า “ได้ข่าวว่าคุณหนูสอบเข้าคณะบริหารธุรกิจด้วยคะแนนสูงสุดเลยเหรอครับ” “เอ่อ...ค่ะ” กิ่งดาวพยักหน้ารับ รู้สึกเก้อเขินและปลื้มปีติเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายกำลังมองเธอด้วยความภาคภูมิใจ สายตาที่มารดาไม่เคยมอบให้เธอเลยสักครั้งไม่ว่าเธอจะเก่งหรือดีมากแค่ไหนก็ตาม เปล่าเลยมารดาไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเกลียดเธอ มีเพียงสายตาว่างเปล่าที่มองเธอราวกับเป็นอากาศธาตุ ไม่มีความสำคัญใดๆ กับชีวิตของมารดาเลยแม้แต่น้อย “เก่งมากครับคุณหนู” ชัชชาติยื่นมือไปลูบศีรษะของหญิงสาวราวกับเห็นว่าเธอเป็นเด็กตัวน้อยๆ ที่เขาเคยอุ้มเคยกอด ทว่าภายในใจของหนุ่มใหญ่กำลังร้อนรุ่ม เมื่อเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ โตขึ้นเป็นสาวสะพรั่งน่าหลงใหล ภาพที่เธอนอนระทวยบนเตียงเมื่อเช้ายังคงติดตาไม่จางหาย และมันกำลังทำให้เขากระหายที่จะได้ตัวเธอทั้งที่รู้ดีว่าไม่สมควรทำให้ความเคารพที่เด็กมีต่อเขาต้องจางหายด้วยความหื่นกามของตนเอง “ขอบคุณค่ะอาชัช” นวลแก้มแดงระเรื่อ นึกดีใจที่ความมืดพอจะช่วยบดบังความเขินอายของเธอได้บ้าง ไม่อย่างนั้นเขาคงมองว่าเธอเป็นเด็กแก่แดด ริอ่านคิดข้ามรุ่นในเมื่อเธอกับอาชัชอายุห่างกันถึงยี่สิบปีเลยทีเดียว “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่อาตั้งใจจะมอบให้คุณหนู ลองเปิดดูสิครับ” ชัชชาติยื่นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้หญิงสาว ก่อนจะคะยั้นคะยอให้เธอเปิดออกดู “ขอบคุณค่ะ” กิ่งดาวพนมมือไหว้ขอบคุณก่อนจะเปิดกล่องออกดู พบว่ามันเป็นสร้อยข้อมือทองคำขาวประดับด้วยทับทิมน้ำงามสีแดงสด “ราคาอาจไม่ได้แพงมาก แต่ความตั้งใจเต็มร้อยแน่นอน ทับทิมเม็ดนี้อาได้มาจากไปเที่ยวพม่าเลยสั่งให้ช่างทำเป็นสร้อยข้อมือ” พูดพลางหยิบสร้อยข้อมือออกมาชูขึ้น ก่อนจะถือวิสาสะจับข้อมือบางแล้วบรรจงสวมให้อย่างแผ่วเบา โอ้ใจหนอ...ถูกหนุ่มใหญ่คราวพ่อขโมยไปเสียแล้ว กิ่งดาวกลัวเหลือเกินว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นโครมครามราวกับกลองชุด เธอแกล้งก้มมองสร้อยข้อมือด้วยไม่กล้าสบสายตาคมวาวของผู้สูงวัยกว่า “อาคงต้องไปก่อน ถ้ายังไงคุณหนูอย่านอนดึกนะครับ เพราะดูท่าแล้วพวกผู้ใหญ่คงจะโต้รุ่งจนสว่างคาตาแน่ๆ” ชัชชาติยืนขึ้นเมื่อเพื่อนร้องเรียกด้วยน้ำเสียงโหวกเหวกดังมาจากอีกด้านของชายหาด ดูท่าแล้วคงกำลังเมาได้ที่เลยทีเดียว “ค่ะอาชัช” “ฝันดีนะครับคุณหนูของอา” ชัชชาติจับที่มือบางก่อนจะก้มลงบรรจงจูบเบาๆ ที่สร้อยข้อมือก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เด็กสาวนั่งหน้าแดงก่ำคล้ายจะระเบิดเสียให้ได้ นี่อาจเป็นของขวัญชิ้นแรกนับตั้งแต่เธอมีชีวิตอยู่บนโลกที่ทำให้เธอมีความสุขจนหัวใจฟูฟ่องก็เป็นได้…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD