บทที่ 7 คนเลว

1492 Words
บทที่ 7 คนเลว วันนี้พ่อเลี้ยงมังกรกลับมาบ้านติดลมพร้อมใบหน้าที่บึ้งตึงใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่คุณนายวาดที่พึ่งกลับมาแต่ทำบุญที่วัดยังไม่กล้าเข้าใกล้ลูกชาย หลังจากลูกชายตัวดีของเธอไล่ตะเพิดคนงานออกหลายสิบคนส่วนสาเหตุนั้นเธอก็พอเข้าใจ ลูกชายเธอไม่ชอบคนที่ทำงานไม่ได้เรื่องแถมยังกินเหล้าเมามายลืมงานลืมการทำให้เสียลูกค้าไปยอดเงินที่สูญหายไปไม่เท่าความไว้ใจที่มีให้คนงานหลายคน “อย่าเครียดมันนักเลยลูก” เธอเข้าใจลูกชายนัก การเป็นเจ้าคนนายคนมันไม่ได้สนุกนักหรอก มือนุ่มยื่นไปตบบ่าลูกชายอย่างปลอบโยน “ครับ ผมไม่เป็นไร” คุณนายวาดคลี่ยิ้มรับ เธอรู้ว่าลูกชายเป็น แล้วก็เป็นมากด้วยที่ตอบแบบนั้นเพื่อให้เธอที่เป็นแม่สบายใจ “ผมสั่งให้ไอ้เจมส์เอากล้าไปลงดินในวันพรุ่งนี้นะครับ” “จ้ะ ๆ อะไรที่ลูกทำมักออกมาดีเสมอแหละ” “ผมไปทำงานก่อน” “จ้ะ ไปเถอะ” ลูกชายเธอออกจากบ้านติดลมไปแล้วตะวันจะลาลับขอบฟ้าไปทำงงทำงานอะไรไปบ้านริมน้ำต่างหาก ส่วนบ้านริมน้ำมีอะไรอยู่หล่อนผู้เป็นแม่จะไม่รู้หรือไง “คุยกับใคร” ร่างบางค่อย ๆ หันกลับมาตามเสียงมือเล็กรีบซ่อนโทรศัพท์ไว้ทันที แต่นั่นมันยิ่งเหมือนเธอท้าทายเขา พ่อเลี้ยงมังกรตรงปรี่เข้าไปกระชากไหล่เล็กพร้อมกับออกแรงบีบอย่างไม่ปราณี “คุยกับผู้ชายที่ไหนล่ะแม่คนร่าน” “นี่คุณ” พริมาหน้าเสีย “กล้ามากนะ นอนแหกขาให้ฉันเอาทุกคืนแต่มายืนพูดจาคะขากับผู้ชายคนอื่น!” พริมาอยากจะร้องไห้ออกมาถ้อยคำถากถางนั้นไม่เจ็บเท่าสายตาดูถูกที่มองมา เขาจะโกรธเธออะไรนักหนาแค่คุยโทรศัพท์ “ฉันเจ็บนะ” เขาดูจะโกรธเธอมากและเขาโกรธเมื่อไหร่เป็นต้องทำอะไรบ้า ๆ อีกแน่นอน ครั้งนี้เธอจะโดนอะไร “ปล่อย จะลากฉันไปไหน” “ขึ้นไป!” พริมาส่ายหน้าเขาจะพาเธอไปไหนเธอไม่รู้จักแถวนี้ “โอ๊ย!” แขนเธอแทบแหลกคามือเขา สุดท้ายเขาก็ยัดเธอเข้ามาในรถกระบะคันสูงได้สำเร็จ “ถ้ากล้าลงมาก็ลองดู” “นี่คุณจะพาฉันไปไหน” พริมากลัวจนตัวสั่นทั้งความเร็วของรถและสีหน้าท่าทางยิ่งกว่าซาตานสิงร่างของเขานั่นอีก เธออยากกัดลิ้นตายให้มันจบ มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าทึบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาขับอยู่ในไร่หรืออยู่ไหน “ฉันแค่คุยกับเพื่อนเขาแค่ถามเรื่องงานเองนะคะ” แน่ล่ะ! เธอมีสิทธิ์อะไรมานั่งอธิบายให้เขาฟัง เขาเกลียดเธอยังไงก็คงเกลียดอย่างนั้น และเขาก็คงอยากแกล้งเธอ เอี๊ยด!! พริมาจับเบลท์ไว้แน่นก็เขาเล่นเบรกจนล้อลากไปกับถนนคอนกรีต เธอมองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดบ้านสักหลังยังไม่มีให้เห็น เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ “ลงไป” นึกว่าตัวเองหูฝาดแต่ไม่เลยเขาใช้สายตาเย็น ๆ มองมาจนฉันขนลุกวาบ อยู่กับเขาหรืออยู่บนถนนเปลี่ยว ๆ ความน่ากลัวคงไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก “ลงไป!!” หญิงสาวสะดุ้งกับเสียงตะโกนจนน้ำตาไหล มือเล็กค่อย ๆ เปิดประตูออกและพาร่างกายที่แทบไร้เรี่ยวแรงลงจากรถได้สำเร็จ รถกระบะที่เธอนั่งมาออกตัวไปทันที เเสงไฟท้ายรถหายวับไปกับตาด้วยความเร็ว ขาแข้งเกิดอ่อนแรงขึ้นมาจนล้มพับลงไปนั่งกับพื้น มือเล็กยกขึ้นมาลูบหน้าตัวเองอย่างคิดไม่ตก เธอทำอะไรไม่ได้เลยทำไม่ได้สักอย่าง “ฮรือ...” ก้มหน้าร้องไห้อย่างหมดหวัง ที่นี่มันที่ไหน เธออยู่ส่วนไหนของประเทศไทยมันทั้งมืดมีแต่เสียงแมลงร้องแข่งกันดังสนั่น เมื่อมันเงียบมากรถผ่านมาสักคนยังไม่มีมือเล็กยกขึ้นมาลูบแขนตัวเองคลายความหนาว เธอกลัวจนปากสั่นแค่คิดว่ามีอะไรในพุ่มไม้มืด ๆ นั้นก็อยากตายให้มันจบไป ความกลัวแล่นเข้ามาครอบงำจิตใจจนน้ำตาไหลพราก แง้น ๆ แง้น ๆ เหมือนจะมีเสียงรถมาทางนี้แต่จากประสบการณ์โตมาที่บ้านนอกเสียงรถแบบนี้คงมีแต่เสียงรถวัยรุ่นขี้เมา เธออยู่ระหว่างอยากออกไปขอความช่วยเหลือและไม่กล้า แต่ถ้าเจอคนไม่ดีล่ะ เธอคงสู้แรงผู้ชายไม่ได้เหมือนทางจะตันเธอไม่รู้จะเอายังไงดีเสียงรถนั้นเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พริมาตัดสินใจวิ่งเข้าไปในพุ่มหญ้ารกร้างข้างทางเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน เสียงรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาใกล้พร้อมเสียงวัยรุ่นผู้ชายส่งเสียงมาแข่งกัน และมันจอด พริมากลั้นหายใจจนตัวสั่นเทิ้มหรือพวกมันจะเห็นเธอเข้าแล้ว ไม่นะ! “กูปวดฉี่โว้ย!” “เร็ว ๆ เรายังมีงานต้องไปทำนะเว้ย” “เออ ๆ เดี๋ยวเดียวเองมึงนี่บ่นไปได้ งานง่าย ๆ อย่างเอาหนอนไปปล่อยในสวนผักของไร่เดชามันง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วย เดี๋ยวกูแถมฉีดยาฆ่าหญ้าให้มันหลายแปลงหน่อยรับรองงานนี้ไอ้พ่อเลี้ยงมังกรนั่นเสียหายหลายล้าน” “พูดดังไปไหนไอ้หมาย” “ใครจะมาอยู่ที่นี่ค่ำ ๆ มืดมึงก็คิดไปไอ้เม้ง” “เรารับงานมาจากพ่อเลี้ยงเทพมึงก็รู้ว่าพลาดไม่ได้” “เออ ๆ กูฉี่แป๊บเดียวมึงอย่าบ่นให้มันยาวนัก” “มึงจัดการไอ้พวกเฝ้ายามนั่นแล้วใช่ไหม” “เออสิ ให้เงินพวกมันไปมากหน่อยเงินพวกเราเหลือจิ้ดเดียวแต่งานเสร็จเงินที่เหลือก็เป็นของเราแล้วไอ้เม้งเอ้ย รวยละหว่าคราวนี้” หลังจากจัดการรูดซิบตัวเองเสร็จก็เดินไปคร่อมมอเตอร์ไซค์สตาร์ตเครื่องบิดออกไปเสียงดัง หญิงสาวที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้ค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาดูว่าพวกมันไปกันแล้วหรือยัง ดีนะไม่มาฉี่ตรงพุ่มที่เธอหลบอยู่ เอี๊ยด!! พริมาตกใจเสียหลักทรงตัวหงายหลังลงคลองน้ำไปทันที อยู่ดี ๆ รถกระบะก็ขับมาเบรกเสียงดังบริเวณที่เธออยู่รถคันนั้นเบรกจนล้อลากเกิดประกายไฟสว่างวาบนั้นคือเหตุผลที่เธอตกใจ ตุ้บ! “โอ๊ย!” ก้นน้อย ๆ เธอจ้ำกับพื้นดินแข็ง ๆ จนน้ำตาเล็ดมองขึ้นไปบนเนินสูงซึ่งเป็นถนนหนทางมันสูงมาก เธอตกลงมาก้นจ้ำเบ้าขนาดนี้มีหวังเดินไม่ได้เป็นอาทิตย์แน่ เมื่อรถจอดบริเวณตำแหน่งเดิมคนขับรถมาก็เปิดประตูลงไปด้วยความรีบระหว่างทางที่ขับย้อนกลับมาไม่เห็นแม้แต่เงาหัวผู้หญิงคนนั้น บวกกับเมื่อกี้มีกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายผ่านมาเขาจึงค่อนข้างจะหัวเสีย ทำไมเธอไม่รีบเดินไปข้างหน้าแค่หวิดโค้งไปหน่อยเดียวก็เจอรถเขาแล้ว “พิม! พิม!” ‘นั่นมันเสียงพ่อเลี้ยงมังกรนี่นา’ พริมาอยากส่งเสียงออกไปแต่เธอจุกเหลือเกินจุกจนพูดไม่ออก ทำยังไงดีถ้าเขาไม่เห็นเธอแล้วขับรถออกไปล่ะแค่คิดว่าเขากลับมาตามหาเธอไม่ทิ้งเธอไว้อย่างที่เคยคิดไว้น้ำตาก็ไหลพราก อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นคนอยู่ ทำยังไงให้เขารู้ว่าเธออยู่ตรงนี้นะ “พิมอยู่ไหนออกมาสิวะ!!” วิ่งไปทางไหนก็เจอแต่ความมืด คงไม่ได้พลาดท่าถูกพวกวัยรุ่นท้ายหมู่บ้านพาไปแล้วหรอกนะ แม่งเอ๊ย! ‘เออ! อยากออกไปอยู่เว้ยหาวิธีอยู่นี่ไง’ หญิงสาวได้แต่ตะโกนในใจเพราะจุกจนพูดออกมาแล้วไม่มีเสียง มือเล็กควานหาสิ่งของที่สามารถโยนได้จนไปเจอเข้ากับกิ่งไม้พอดีมือกะจากตำแหน่งเสียง เขายืนหมุนตัวไปมาอย่างใช้ความคิดคนฉลาดอย่างพริมาไม่น่าจะโดนจับตัวไปหรอก เธอน่าจะรู้จักเอาตัวรอดคงไม่กล้าไว้ใจคนสุ่มสี่สุมห้าแน่ ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นหายหัวไปอยู่ที่ไหน หรือคิดว่าจะเงียบจนรอเขาขับหนีไปจากนั้นก็วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ไม่มีทาง เขาไม่มีวันปล่อยยายนั่นไปจากเขาอีกแล้ว สิ่งที่เธอได้ทำไว้กับเขายังไม่ได้เอาคืนทั้งต้นทั้งดอก คิดจะหนีไปเหรอไม่มีทาง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD