ตอนที่ 2 ทะลุมิติมาในนิยาย

1660 Words
“เหตุใดต้องรีบร้อนกันถึงเพียงนี้ด้วยนะ นายท่านคิดจะส่งตัวคุณหนูออกจากจวนภายในวันนี้เลยหรือไร” “หากคนจากวังหลวงมาถึงเมื่อใดนายท่านต้องแสร้งแสดงความเสียใจอย่างหนักที่คุณหนูต้องกลายเป็นสตรีที่ถูกยุติการแต่งงานกลางคัน จากนั้นองค์ชายรองก็จะแสดงพระเมตตารับคุณหนูไปเป็นพระสนมเพื่อปกป้องชื่อเสียง นี่เป็นเรื่องที่ตกลงกันไว้แล้ว จะรอให้ข้ามวันแล้วปล่อยให้คนนินทาคุณหนูของเราว่าเป็นหญิงหม้ายตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้าจวนว่าที่สามีเช่นนั้นหรือ” “แต่คุณหนูก็ไม่ได้เต็มใจไปเป็นพระสนมผู้ใดนี่นา" “คุณหนูก็ไม่ได้อยากแต่งเข้าจวนสกุลเย่ด้วยเช่นกันมิใช่หรือ เป็นพระสนมองค์ชายรองอย่างน้อยก็มีพระชายาลี่หม่าน พี่สาวแท้ๆ ของคุณหนูดูแลอยู่ทั้งคน นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วล่ะ” กู้ลี่ถิงสะลึมสะลือพยายามจับใจความเรื่องที่สตรีนามม่านลู่กับม่านอวี้พูดคุยกันอยู่นานสองนาน รู้สึกว่าเรื่องราวที่คนทั้งคู่กำลังพูดถึงอยู่มันช่างคล้ายคลึงกับเนื้อเรื่องในนิยายที่นางเพิ่งอ่านจบมาไม่นานอย่างไรอย่างนั้น องค์ชายรอง พระชายาลี่หม่าน จวนสกุลเย่ การแต่งงานที่ถูกยุติกลางคัน ทุกอย่างเหมือนจุดเริ่มต้นในนิยายเรื่องลิขิตสวรรค์ไม่มีผิด สิ่งเดียวที่ไม่สอดคล้องกับนิยายก็คือกู้ลี่ถิงหรือตัวนางในเวลานี้ เข้ามารับรู้รับฟังเหตุการณ์ที่เหมือนจะเป็นเรื่องจริงนี้ได้อย่างไร? หรือเป็นเพราะนางตั้งใจจะอ่านนิยายอีกครั้งก่อนที่จะหมดสติ จึงได้เก็บเอาไปฝันจนเป็นตุเป็นตะ!! ผ่านไปครู่ใหญ่เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ทำให้หญิงสาวต้องพยายามฝืนลืมตาขึ้นมามองอีกครั้ง ผู้มาใหม่เป็นสตรีสูงวัยสองคนกับหญิงสาวแรกรุ่นอีกสองคน ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบคนยุคโบราณอีกแล้ว! “นางรู้สึกตัวแล้วหรือ? ให้นางดื่มยานี่ก่อนจะได้คืนสติได้เร็วขึ้น” สตรีร่างท้วมสวมเครื่องประดับวิบวับส่องประกายไปทั้งร่างเป็นคนเอ่ยปาก สตรีที่มากับสุภาพสตรีร่างท้วมอีกสามคนรีบเข้ามาช่วยม่านอวี้กับม่านลู่จัดเสื้อผ้าและเครื่องประดับบนศีรษะให้กู้ลี่ถิงใหม่ คนหนึ่งยังส่งถ้วยยาที่เย็นชืดสีน้ำตาลเข้มส่งกลิ่นชวนคลื่นเ**ยนเข้าปากนางมาอย่างต่อเนื่อง “เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเจ้าพักอีกสักครู่ก็แล้วกัน เจ้ากินยานอนหลับมากเกินไปหน่อยดื่มยาแก้แล้วอีกเดี๋ยวก็คงดีขึ้น” สตรีร่างท้วมเดินตามมานั่งเคียงข้างกู้ลี่ถิงบนเตียงนอน ใช้มือลูบเส้นผมและใบหน้าของหญิงสาวแผ่วเบา กู้ลี่ถิงลืมตาค้างขึ้นมาสบตากับสตรีร่างท้วมอย่างค้นหาคำตอบ นางมั่นใจว่ายามนี้นางไม่ได้ฝันไป รสชาติและกลิ่นของยายังคงติดค้างอยู่ในลำคอ ไออุ่นจากปลายนิ้วมือที่ลูบไล้ข้างแก้มก็เห็นได้ชัดว่านี่เป็นร่างกายคนที่มีชีวิต มิใช่ความฝัน “เชื่อฟังพ่อเจ้าเช่นนี้ก็ดีแล้ว ต่อไปได้เป็นพระสนมจวนองค์ชายรองก็มีพี่สาวเจ้าคุ้มหัว เป็นพระสนมไม่ดีตรงไหน? เงินทอง ลาภยศสรรเสริญ ตระกูลกู้ของเรามีบุตรสาวเป็นชายาเอกคนหนึ่งเป็นพระสนมคนหนึ่ง ต่อไปพี่ชายน้องชายในสกุลกู้ของเจ้าก็จะยิ่งมีโอกาสก้าวหน้ามากขึ้น เจ้าเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วล่ะถิงเอ๋อร์” ท่าทางห่วงใยของสตรีร่างท้วมจบลงทันทีหลังจากกล่าวจบประโยค นางลุกพรวดขึ้นจากเตียงหันไปสั่งการกับสาวใช้ด้านหลังแทน “พวกเจ้าเตรียมของเรียบร้อยแล้วหรือยัง มีหน้าที่อันใดก็ไปช่วยกันหยิบจับ คนจากในวังมาถึงเมื่อใดข้าจะให้คนมาเรียกเอง" หญิงสาวนอนฟังเสียงฝีเท้ากลุ่มคนที่อยู่รอบตัวเมื่อครู่เดินจากไปจนหมด เสียงปิดประตูไม้ดังขึ้นเอี๊ยดอ๊าดแล้วความเงียบสงบก็กลับคืนมาอีกครั้ง ร่างเล็กปล่อยให้ฤทธิ์ยาทำงานกับร่างกายของนางอยู่อีกนานหลายอึดใจ แต่สมองของนางกลับทำงานอย่างหนัก ภายในห้องพักรวมทั้งเตียงนอนที่นางนอนอยู่ ข้าวของเครื่องใช้ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นรูปแบบโบราณทั้งสิ้น เมื่อรวมเข้ากับเรื่องราวที่นางได้ยินได้ฟังมาเมื่อครู่ นางก็ไม่กล้าคิดต่อว่ายามนี้นางอาจจะทะลุมิติเข้ามาในนิยายเรื่องลิขิตสวรรค์!! ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ ตัวประกอบวัย 16 ปีที่โผล่มาไม่กี่บรรทัดตอนช่วงต้นเรื่อง ก็รับบทหญิงสาวที่ถูกจัดฉากให้แต่งงานกับแย่เซิ่งเจียบุตรชายคนเดียวของท่านแม่ทัพใหญ่เย่เฟิง แล้วถูกยุติการแต่งงานเหมือนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวนางในเวลานี้ไม่ผิดเพี้ยน!! กู้ลี่ถิงรวบรวมเรี่ยวแรงที่ค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมายันกายลุกขึ้นนั่ง มองหานิยายที่ถืออยู่ในมือก่อนหน้า โชคดีที่ม่านอวี้ไม่ได้หยิบนิยายเล่มนี้ออกไปจากห้อง มันยังคงวางอยู่บนหัวเตียงอย่างสงบนิ่ง กู้ลี่ถิงเปิดนิยายขึ้นมาอ่านเพื่อค้นหารายละเอียดของเนื้อเรื่องและตัวละครอีกครั้ง “ไม่ผิด สกุลเย่ เย่เซิ่งเจียแบกร่างเจ้าสาวใส่เกี้ยวคืนกลับไป แต่ทำไมถึงเป็นสกุลกู้!!” ทุกอย่างในตอนต้นของนิยายยังคงเดิม องค์ชายรองเตรียมก่อกบฏ เขาออกอุบายทำตัวเป็นสื่อกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเย่กับตระกูลกู้ของกู้ลี่หม่านผู้เป็นชายาเอก ด้วยการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้กับเย่เซิ่งเจียกับกู้ลี่ถิง แม่ทัพใหญ่เย่เฟิงจำต้องลากลับเข้าเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานของบุตรชายเพียงคนเดียว เพราะงานมงคลในครั้งนี้มีองค์ชายรองเข้ามาเป็นประธานในพิธี จัดงานอย่างยิ่งใหญ่เอิกเกริก ผู้เป็นบิดาอย่างเย่เฟิงจึงไม่อาจเพิกเฉยอยู่ได้ ขณะเดียวกันค่ายทางชายแดนที่ท่านแม่ทัพเย่เฟิงเพิ่งลาจากมาก็ถูกตีแตก แคว้นต้าเหว่ยเสียดินแดนส่วนหนึ่งให้กับศัตรู ขุนนางในท้องพระโรงโทษกันไปโทษกันมาและสุดท้ายก็จบลงด้วยการโยนว่าเป็นความผิดของท่านแม่ทัพเย่เฟิงที่ละทิ้งหน้าที่มาสนใจเรื่องส่วนตัวมากเกินไป ฮ่องเต้ส่งคนมาจับกุมตัวแม่ทัพเย่เฟิงกลางงานแต่งของบุตรชายเพื่อนำตัวไปสอบสวน งานแต่งถูกยุติ เจ้าสาวถูกส่งตัวกลับ คนตระกูลเย่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ในจวน สิ่งที่ผิดแผกไปอีกนิดก็คือ ในนิยายเจ้าสาวเป็นคนสกุลเหลียน เหลียนลี่ถิงไม่ใช่กู้ลี่ถิง! ชายาเอกขององค์ชายรองเดิมทีต้องนามเหลียนลี่หม่านหาใช่กู้ลี่หม่าน! จวนที่นางอยู่ในเวลานี้ก็สมควรเป็นจวนเสนาบดีเหลียนจึงจะถูก ทำไมแซ่จึงเปลี่ยนไป? กู้ลี่ถิงยังไม่หยุดพักสายตา นางพลิกอ่านนิยายหน้าต่อไป “จุดนี้ก็เปลี่ยนไปด้วย?” หญิงสาวจำได้ดีว่าจุดสิ้นสุดของตัวละครที่เป็นเจ้าสาวจบลงตรงที่นางถูกส่งตัวกลับจวนไป แล้วเหตุการณ์ก็จะไปบรรยายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจวนแม่ทัพเย่ แต่ยามนี้ นิยายกลับมาบรรยายฉากที่ไม่เคยมีอยู่มาก่อนของเจ้าสาว นางดื่มยานอนหลับเพื่อจะได้ไม่ต้องรับรู้และช่วยประวิงเวลารอให้คนจากวังหลวงมาถึงจวนสกุลเย่ ยังไม่ทันได้กราบไหว้ฟ้าดินเพราะเจ้าสาวยังไม่มีสตินางก็ถูกส่งตัวกลับมาแล้ว ย่อหน้าสุดท้ายในนิยายกำลังบรรยายว่า สาวใช้ในจวนสกุลกู้กำลังช่วยนางผลัดเปลี่ยนอาภรณ์รอให้คนขององค์ชายรองมารับไปเป็นพระสนมตามแผนของผู้เป็นบิดา “ทำไมไม่มีต่อแล้วล่ะ เรื่องของกู้ลี่ถิงจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปกันแน่!!” หญิงสาวพลิกดูหน้าต่อ ๆ ไปของหนังสือนิยายเล่มบาง นางกลับพบว่ากระดาษแผ่นถัดไปก็เป็นเพียงหน้ากระดาษสีเหลืองหม่นว่างเปล่าไม่มีตัวอักษรใด ๆ ปรากฏอยู่อย่างที่ควรจะเป็น ความตื่นกลัวทำเอากู้ลี่ถิงต้องหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมาชุ่มแผ่นหลัง นางรีบมองหาขวดยาพ่นตามความเคยชิน “หายใจได้ ฉันหายใจได้เป็นปกติ!” นางไม่พบขวดยาพ่น แล้วยังพบว่านางไม่จำเป็นต้องใช้ยาอีกต่อไปแล้วด้วยซ้ำ! “ฉันต้องตกใจอะไรก่อนดี ฉันตายไปแล้วจากโลกความจริง? ฉันทะลุมิติมาอยู่ในนิยายและยังไม่ได้เป็นคนป่วยอีกด้วย!!” ร่างเล็กเดินวนรอบห้องอย่างว้าวุ่นใจจนลืมสังเกตว่ายามนี้ฤทธิ์ยาได้กำจัดความอ่อนล้าและความมึนงงออกจากร่างไปหมดสิ้น “ฉันเข้ามาเป็นกู้ลี่ถิง บุตรสาวลำดับที่สามของเสนาบดีกู้แน่นอนแล้ว แซ่ที่เปลี่ยนไปจากแซ่เหลียนเป็นแซ่กู้ก็คงเปลี่ยนตามตัวฉันเอง” กู้ลี่ถิงพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องราวอัศจรรย์พันลึกเช่นนี้นางเคยอ่านเจอในนิยายของแม่มาก่อน “แล้วฉันต้องทำอะไรล่ะ ในนิยายไม่มีเรื่องราวของเจ้าสาวนี่นา" หญิงสาวพยายามทบทวนความทรงจำอย่างเร่งด่วน เหลียนลี่ถิงหรือตัวประกอบตัวนี้ มีบทแค่ฉากเดียวแล้วก็หายไปเลย แล้วนางจะเอาตัวอย่างการดำเนินชีวิตของเหลียนลี่ถิงมาแก้ไขหรือจัดการกับคนรอบข้างได้อย่างไรกันเล่า!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD