ย้อนกลับไปราวเจ็ดปีที่แล้ว ที่ความรักยังผลิบานเหมือนจะไม่มีวันโรยรา คู่รักหนุ่มสาวนอนซบอิงแอบกันดูการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการหนึ่งผ่านช่องทีวีที่มีการถ่ายทอดสดของต่างประเทศ บนตักฝ่ายชายมีชามพ็อปคอร์นใบใหญ่ ด้านหน้าโต๊ะเล็กมีกระป๋องเบียร์กับน้ำอัดลมและน้ำเปล่า
“หูว คนนั้นหล่อจังเลย สาว ๆ ตามเชียร์เยอะแน่ๆ เลย”
แฟนสาวเปรยขึ้นอย่างปราศจากความหมายลึกซึ้งใด ๆ แต่แฟนหนุ่มของเธอได้ยินดังนั้นก็แค่นหัวเราะ
“ในสนามเขาใช้ความเร็ว ไม่ได้ใช้ความหล่อ หล่อไปก็เท่านั้น”
“รู้แล้วจ้า แค่บอกว่าเขาหล่อเฉย ๆ หล่อ ๆ แบบนี้คงมีแฟนมีตเป็นของตัวเองชัวร์”
คราวนี้หญิงสาวผละศีรษะที่อิงอกที่แน่นตึงด้วยกล้ามเนื้ออยู่ออกมามองหน้าเขา ส่งสายตาค้อนเล็กน้อยอย่างน่ารัก จนตัวเขามองดูแล้วมันเขี้ยวจึงคว้าร่างนั้นจับพลิกมาอยู่ใต้ร่างโดยไม่สนว่าพ็อปคอร์นจะหกกระจายเกลื่อนพื้น
“พูดแบบนี้หึงฉันอีกใช่มั้ยล่ะที่ฉันมีแฟนมีตกับแฟนคลับน่ะ”
“เปล่าซะหน่อย ดีซะอีกจะได้มีคนรักและเอ็นดูนายเยอะ ๆ ไง ฉันจะหึงไปทำไม แต่ก็สงสารผู้หญิงที่อยากได้นายเป็นแฟนจริง ๆ ต่างหากที่ต้องผิดหวัง”
อินทวิชญ์ยิ้มกว้าง “จะไปสงสารเขาทำไม จำคำฉันไว้นะ ถ้าสงสารปัญหาชีวิตจะตามมา”
“ฮื่อ...”
อินทวิชญ์ในตอนนั้นเป็นนักแข่งรถที่ทั้งหล่อและเท่ ฉายาในวงการ ‘เมฆาสลาตัน’ ไม่ได้มาเพราะหน้าตาหรือโชคช่วยแต่เป็นความสามารถที่พิสูจน์แก่สายตาผู้ชมมาแล้ว ลีลาการขับ การเข้าโค้งปราดเปรียวว่องไวจนกล้องแทบจับไม่ทัน เมื่อชื่อเสียงเขาโด่งดังมากขึ้นทางสโมสรต้นสังกัดเห็นว่าแฟนคลับเรียกร้องให้จัดแฟนมีตจึงมีการจัดงานขึ้นและบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็วชายหนุ่มในตอนนั้นมีชื่อเสียงมากในวงการแข่งรถทั้งสองล้อขึ้นมาถึงสี่ล้อ
“ทำอะไรเนี่ย พ็อปคอร์นหกหมดแล้วเห็นมั้ย” เธอแหวเพราะต้องเป็นคนเก็บกวาด
“ค่อยเก็บ ตอนนี้อยากเก็บอย่างอื่นก่อน”
สายตาแบบนี้แสดงออกชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาต้องการเก็บอะไร ก่อนมือหนาแข็งแรงจะค่อย ๆ ลากฝ่ามือลงมาตามชายโครงที่โค้งเว้าของแฟนสาวพร้อมกับเลื่อนลำตัวเขาลงมาด้วย ใบหน้าคลุกเคล้าไปมากับทรวงอกที่ครัดเคร่ง
“อื้อ เมื่อคืนก็...”
“เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืนเกี่ยวอะไรกันเล่า”
เขาสวนกลับอย่างไยดีเสียเมื่อไหร่
“นายนี่เอาแต่ใจชะมัด”
“หึ หรือว่าไม่ชอบล่ะ”
“ไอ้คนบ้า”
หญิงสาวเขินจัด หน้าแดงจนถึงใบหู ก่อนจะทิ้งศีรษะลงบนโซฟานุ่มปล่อยให้ความเสียวสะท้านลามเลียไปทั่วทั้งตัว เขาและเธอไม่ใช่คู่รักวัยรุ่นที่ยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนแต่เป็นวัยหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยเบ่งบานเต็มที่ มีความคลั่งไคล้ซึ่งกันและกันเต็มเปี่ยม เขาจุดเธอติดและเธอก็ร้อนแรงเร้าใจ เขาสนองต่ออย่างรวดเร็วทันใจ
นิ้วมือเรียวยาวที่เต็มไปด้วยพละกำลังดึงขอบกางเกงยางยืดขายาวของหญิงสาวจากเอวลงมาถึงข้อเท้าเรียวขาวข้างหนึ่งเหลือไว้เพียงชั้นในสีดำลูกไม้ตัดกับสีผิวที่ขาวเรียบเนียนของเธอ อินทวิชญ์เหลือบสายตามองเรือนร่างที่ขยับส่ายเบา ๆ ด้วยสายตาพึงพอใจก่อนจะโน้มจมูกลงมาสูดดมกลิ่นที่ทำให้เขาตื่นตัวได้ทุกโมงยาม
“อา...”
สะโพกกลมสะท้านขึ้นเหนือเบาะ ลมหายใจกระเส่ารุนแรงยามเมื่อเขาดุนปลายลิ้นหยอกล้อกับจุดอ่อนไหวต่อความรู้สึกภายใต้ปราการบาง ๆ เขารู้ว่าเธอชอบความเชื่องช้านุ่มนวลแต่หนักแน่นแบบนี้ที่สุด กี่รอบ ๆ ก็ไม่เคยผ่านจุดนี้ไปได้และเขาก็พร้อมจะสนองให้เธอดื่มด่ำความสุขจนถึงที่สุด ชายหนุ่มหยุดพักจากตรงนั้นชั่วครู่เบี่ยงใบหน้าไปจูบต้นขาข้างหนึ่งใช้ริมฝีปากสีแดงสดดูดดึงที่ผิวเนื้ออ่อนจนเกิดเป็นรอยใหม่ซ้ำรอยเก่าที่ยังไม่จางหายดีนักก่อนตวัดปลายลิ้นลากเลียไปทุกจุดแล้วใกล้เข้ามายังจุดกลางกายสาว คราวนี้เขาใช้ปลายนิ้วเกี่ยวปราการชิ้นสุดท้ายของเธอออกไปกองที่ข้อเท้าอีกข้าง เหลือไว้เพียงเสื้อกล้ามที่มีบราในตัวสีขาวที่ถูกเลิกขึ้นจนเห็นเนินเนื้ออวบเต็มมือทั้งสองเต้า มันดูเซ็กซี่ยิ่งกว่าตอนที่เธอเปลือยเปล่าเหลือแต่กายล่อนจ้อน
เขาดึงตัวเธอขึ้นมาให้อยู่ในท่านั่ง ดันแผ่นหลังให้พิงกับพนักเก้าอี้ สอดแขนเข้าใต้ข้อพับเข่าทั้งสองข้างยกสะโพกเธอให้แอ่นมาข้างหน้า แล้วดันต้นขาทั้งสองข้างให้กว้าง
“ทำอะไร อื้อ...”
“จะให้เธอดูด้วย”
“ฮือ...” หญิงสาวครางฮือ ยกมือดันแผ่นอกนั้นเบา ๆ ยามเมื่อใบหน้าหล่อเหลาซุกลงมาดูดเม้มที่ซอกคออีกครั้งพร้อมกันนั้นมืออีกข้างเขาก็กรีดไปตามร่องหลืบลับที่บัดนี้ชื้นฉ่ำด้วยน้ำแห่งความพรักพร้อมที่ไหลรินออกมา
‘ดี ไหลออกมาเยอะ ๆ จะดูดให้หมดตัวเลย’
เขาสบตาเธอแล้วยิ้มยามเมื่อถอนริมฝีปากที่จูบกันอย่างดูดดื่มออกมา สายตาที่จ้องมองคนที่แววตาหยาดเยิ้ม เผยอริมฝีปากสูดเอาลมหายใจจากการถูกปลายนิ้วของเขาบดขยี้ที่ใจกลางความสาว
“อย่าเพิ่ง...สิ ฉันยังไม่ทำเลย”
“ก็นาย...” เธอต่อว่าด้วยสายตา
“จะเริ่มตอนนี้แหละ แข็งใจอีกนิด”
เขายังมีหน้ามาล้อทั้งที่จะทำให้เธอถึงอยู่รอมร่อ จากนั้นร่างแกร่งก็เปลี่ยนตำแหน่งขยับลงมาคุกเข่ากับพื้นพรมศีรษะมองเห็นอยู่ระหว่างกลางกายที่แยกขาออกจากกัน เขาเหลือบตามองเธออีกครั้งก่อนจะกดศีรษะลงมาหาเนินหนั่นอวบนูนวาดปลายลิ้นละเลงเลียกลีบเนื้ออ่อนนุ่มที่เหมือนกลีบดอกไม้แรกแย้มพร้อมกับดูดกินหยาดน้ำหวานที่หลั่งรินชโลมหลืบลับ
“อื้อ” เจ้าของกลีบดอกไม้งามถึงกับแอ่นตัวยกสะโพกขึ้นต้านกับความซ่านเสียวที่โหมซัดราวกับพายุที่เพิ่มกำลังแรงขึ้นเรื่อย ๆ
มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปใต้กลุ่มผมสั้นดกดำบางขณะกดใบหน้าเขาให้จมลึกลงไปบางขณะก็ลูบศีรษะนั้นอย่างเพลิดเพลิน ตราบกระทั่งเสียงกรีดร้องของเธอดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ช่วงเวลาแห่งความสุขของทั้งสองที่ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงได้
^
^
^
***ย้อนความหลังนี้ดนุงจ้า มีคนยังคิดถึงอยู่ ฮิฮิ
โปรดติดตามตอนต่อไป กดหัวใจ คอมเม้นมาให้กำลังใจมนสิด้วยนะค้า