บทนำ >>>ชายาของข้าเจ้าอย่าหมางเมิน
"อา…ชินอ๋อง…อืม…"
เสียงร้องครวญคราง ของสตรีดังลอยออกมาจากห้องส่วนตัวของ เฉินอี้หาน ผู้เป็นชินอ๋องแห่งดินแดน ซ่งหยวน ทำให้เท้าเรียวของ ไป๋อวี้ สตรีผู้เป็นชินหวางเฟยถึงกับหยุดนิ่งลงไม่ใช่เพราะแปลกใจที่ในตำหนักส่วนตัวของสวามีของนางมีเสียงประหลาดของสตรีเพราะครึ่งปีที่นางแต่งเข้าตำหนักชินอ๋องนั้นได้ยินได้ฟังบ่อยครั้งแล้ว ถึงคราวนี้จะมิใช่ดังออกมาจากห้องนอน แต่เป็นห้องโถงรับแขกของเขาก็ตามแต่มันก็คือที่ส่วนตัวของเขามิใช่หรือ นางไม่สมควรเสนอหน้าเข้าไปก้าวก่ายให้เขาโมโห
แต่เขาเป็นคนเรียกนางมาพบนี่นา ไป๋อวี้คิดแล้วก็ลังเล เนื่องจากรู้ดีว่าเฉินอี้หานเป็นคนเช่นไร เพราะครึ่งปีมานี้นางเจอความเอาแต่ใจร้ายกาจของผู้เป็นพระสวามีมาแทบไม่ว่างเว้นจึงเริ่มระแวงเกรงว่าหากนางกลับไปจะถูกอีกฝ่ายลงโทษอีก เหลียวหลังกลับไปมองหาคนที่ไปเร่งนางมาจากตำหนัก กลับไม่พบใคร ส่วนองครักษ์ของชินอ๋องเฉินอี้หานยิ่งไม่พบ ซึ่งเช่นนี้ก็ไม่แปลกเนื่องจากพวกเขาเป็นองครักษ์เงา ทว่าแม้แต่อู๋เสียนที่มักเฝ้าอยู่ไม่ห่างก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
"เอาอย่างไรดี"
เพราะปกติหากนางมาเจอกับเสียงแปลก ๆ เช่นนี้ก็จะเผ่นแน่บกลับไปในที่ของตนเองทันที แต่นั่นก็เพราะนางมาด้วยตนเอง แต่คราวนี้ถูกเรียกให้มาพบ เท้าเรียวก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าประตูแต่ไม่กล้าเปิด กลับยิ่งได้ยินเสียงประหลาดที่ทำให้สาวน้อยวัย16ปีใบหน้าร้อนผ่าวสุดท้ายนางก็ตัดสินใจกลับไปตั้งหลักก่อนเป็นดีที่สุด ยอมถูกลงโทษยังดีกว่าเปิดเข้าไปเห็นภาพบาดตาบาดใจที่นางพยายามหลบหลีกมาได้ถึงครึ่งปี
"อ่ะ! ชินอ๋อง สัมผัสจื่ออิง อีกสิเพคะ อา…จื่ออิงต้องการท่านจากใจจริงนะเพคะ มาเถอะ จื่ออิงเต็มใจช่วยท่าน"
ทว่าที่นางตัวชาไปตลอดร่างในยามที่ได้ยินเสียงร้องประหลาดนั้นก็เพราะเสียงดังกล่าวกลับคุ้นหูของนางยิ่งนัก ยิ่งนาม จื่ออิง นางยิ่งคุ้นเคย ใจหนึ่งคิดจะถอยกลับตำหนักของตนเองเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจเช่นที่ตัดสินใจไปแล้ว ทว่าอีกใจก็อยากไปเห็นกับตาว่าเจ้าของเสียงคุ้นหูและนามอันคุ้นเคยนั้นจะเป็นผู้ที่สงสัยหรือไม่
"ชินอ๋อง…อา… ทรงใจเย็นเกินไปแล้ว มาสิเพคะจื่ออิงต้องการท่านเหลือเกิน…ท่านก็ทรมานจะแย่แล้ว มาเถอะ ให้จื่ออิงช่วยท่านนะ…"
"ปล่อย! อย่ามายุ่งกับข้า!"
ขวับ!
สุดท้ายความอยากรู้ก็เอาชนะความหวาดกลัว เท้าเรียวในรองเท้าผ้าไหมราคาแพงหันขวับย้อนกลับไปยังประตูที่ขวางกั้นด้วยฝีเท้าก้าวรวดเร็ว เมื่อถึงประตูบานใหญ่อีกครั้งไป๋อวี้ก็หลับหูหลับตาผลักมันเปิดออกเต็มแรงอย่างที่ตลอดมาไม่เคยกระทำการอันอุกอาจเช่นนี้มาก่อน
ปัง!
"กรี๊ด!"
"!!!"
"!!!"
ภาพของหนึ่งบุรุษกับหนึ่งสตรีที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนพื้นกลางห้องโดยไม่สนใจว่าท้องฟ้ายังสว่างเพราะเป็นช่วงเย็นย่ำดวงอาทิตย์เพิ่งจะโพล้เพล้ใกล้ตกดินเท่านั้น และห้องนี้ก็มิใช่ที่รโหฐานเอาไว้ให้ชายหญิงพลอดรักกันไม่ นั้นกลับมิได้ทำให้ไป๋อวี้ตกตะลึงจนกล่าวอันใดไม่ออก ได้เท่ากลับภาพใบหน้าอันคุ้นเคยของสตรีที่อาภรณ์หลุดลุ่ยที่กำลังปีนขึ้นไปอยู่บนร่างของพระสวามีของนางต่างหากที่ทำให้ไป๋อวี้ตกใจจนลิ้นแข็งตัวเกร็งพูดอันใดไม่ออกแล้วจริง
"ไสหัวออกไป!"
เฮือก!
จนเมื่อบุรุษผู้เป็นพระสวามีของนางตวาดเสียงดังกึกก้องออกมาไป๋อวี้จึงค่อยสะดุ้งเฮือกสติกลับคืนร่าง ก่อนที่ความเจ็บปวดจะพุ่งเข้าจู่โจมหัวใจจนเรือนกายอรชรนั้นสั่นสะท้านไปหมด นี่มันอันใดกัน นี่มันเรื่องอันใดกันเล่า สหายที่นางทั้งรักทั้งวางใจเหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ หลิ่วจื่ออิงทำได้อย่างไรกัน แล้วเหตุใด เฉินอี้หานจึงยินยอม หรือแค่เป็นสาวงามสำหรับเขาก็ไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด
"เหตุใด? เหตุใดจึงเป็นเจ้า...จื่ออิงนี่มันเรื่องอันใดกัน?"
สตรีทั้งใต้หล้ามาพัวพันกับเฉินอี้หานถึงนางจะปวดใจอยู่บ้างแต่ก็คิดว่าตนเองยอมรับได้และอดทนไหวทำเป็นสตรีหูหนวกตาบอดไม่รับรู้ไปวัน ๆ เช่นที่ผ่านมาครึ่งปีได้สบายมาก ทว่าพอมาสหายรักที่นางนับถืออีกฝ่ายราวกับพี่สาวแท้ ๆ เช่น หลิ่วจื่ออิง อีกคนนอกจากไป๋ฮองเฮานางกลับรู้สึกว่ามิอาจทนได้จริง ๆ
"ข้าสั่งให้เจ้าออกไป ยังไม่เร่งไสหัวออกไปเจ้าคิดจะท้าทายอำนาจของข้าหรือไป๋อวี้"
เฉินอี้หานใช้เรือนกายของตนเองบดบังหลิ่วจื่ออิงเอาไว้ ยิ่งทำให้หัวใจของไป๋อวี้นั้นแสนจะปวดร้าว สตรีมากมายนางไม่เข้าใจว่าเหตุใดบุรุษผู้นี้จึงต้องมาวุ่นวายกับสหายรักของนางด้วย
ฝ่ายของหลิ่วจื่ออิงเองก็เช่นกันทั้งที่ตลอดมาสหายรักผู้นี้รับรู้มาตลอดว่าตั้งแต่แรกรุ่นเมื่อ2ปีก่อนนางก็รักปักใจอยู่กับเฉินอี้หานเพียงผู้เดียว แล้วเหตุใดหลิ่วจื่ออิงจึงยังมาทอดกายให้สวามีของสหายรักเชยชมได้ลงคอ แล้วนี่จะใช้ครั้งแรกของพวกเขาหรือไม่ ไป๋อวี้ก็สุดจะรู้แจ้ง นางถูก สหายรักแทงข้างหลังมากี่ครั้งแล้ว ยิ่งคิดนางกลับยิ่งเจ็บช้ำ
และคงเพราะไป๋อวี้มัวแต่ตกใจและเริ่มกลายเป็นเสียใจและโกรธแค้น นางจึงไม่ทันสังเกตว่าภายในห้องนี้มีกลิ่นของธูปราคะผสมกับกลิ่นน้ำมันกระดังงาลอยคละคลุ้งอยู่ เพราะหากนางสังเกตสักนิดด้วยฐานะของบัณฑิตศึกษาอันดับสองในสาขาวิชาแพทย์หลวงนางย่อมรู้แจ้งทันทีว่าเหตุการณ์คราวนี้ไม่ปกติ
"ข้าแค่ต้องการคำตอบจากนาง ชินอ๋องช่วยหลบไปสักหน่อยเถิดเพคะ ไป๋อวี้ขอร้องท่านแค่ครั้งเดียวเท่านี้จริง ๆ"
ไป๋อวี้วิงวอนเขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ปกติหากไม่นิ่งเฉยและก้มหน้ารับคำสั่ง นางก็จะแค่ถอยห่างออกไปทุกครั้งที่ถูกขับไล่ให้ไปพ้นหน้า แต่คราวนี้นางต้องการคำตอบ จากสหายรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในไม่ช้าจริง ๆ ฝ่ายของเฉินอี้หานนั้นที่ขับไล่สตรีของตนเองก็เพราะภายในห้องนี้มีแต่กลิ่นของธูปราคะผสมน้ำมันกระดังงาหากสูดดมนานไปที่ลำบากย่อมเป็นนาง ที่ขับไล่คราวนี้เขาหวังดีและเป็นห่วงนางจากใจ
"เจ้าเอาสิทธิ์ใดมาสอบถามนาง ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"
ขับไล่ไสส่งนางอีกแล้ว ทุกครั้งนางทนได้แต่วันนี้มันเกินจะรับไหว หากเป็นสตรีอื่นไป๋อวี้พร้อมจะก้าวจากไปดังเช่นทุกครั้งที่นางพบเจอมานับจากแต่งงานเข้ามาเป็นพระชายาของเขา แต่เพราะนี่คือหลิ่วจื่ออิงนางทำเช่นทุกครั้งไม่ได้จริง ๆ
ความโกรธนั้นอาจมีแต่น้อยนิดนักหากเทียบกับความเสียใจและเจ็บปวดที่รับรู้ว่าสหายรักหักหลัง ส่วนเฉินอี้หานนั้นจากที่รักมากกลับเปลี่ยนเป็นเจ็บจนด้านชาไปเสียแล้วเมื่อพบว่าอีกฝ่ายกินไม่เลือกแม้แต่สหายรักของพระชายาเช่นนางเขาก็ละเว้นให้มิได้ เขาคิดทำร้ายหัวใจของนางมาตลอด แต่ครั้งนี้มันเกินไปจริงแล้ว สตรีทั้งใต้หล้านางทนได้ แต่หลิ่วจื่ออิงนางรับไม่ไหว!!!
"ชินอ๋องช่วยหลบไปด้วยเพคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างสหายที่ต้องพูดคุยกันไม่เกี่ยวกับชินอ๋องแม้แต่น้อย"
ไป๋อวี้ดื้อดึงไม่เหมือนปกติ ทำให้เฉินอี้หานนั้นรู้สึกแปลกใจนัก เพราะตลอดมาชายาของเขาผู้นี้นางทั้งเย็นชาและหน้าด้านหน้าทนขับไล่ก็ไม่ไปเขาพาสตรีใดมาหลับนอนเย้ยหยันนางกี่ครั้งไป๋อวี้ก็ทำเป็นปิดหูปิดตาไม่รับรู้ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจเลยด้วยซ้ำ
แต่ถูกนางจิ้งจอกแพศยาที่แอบอยู่ด้านหลังใช้เล่ห์กลทั้งวางยาปลุกกำหนัดและยาพิษสลายกระดูกในกาน้ำชาประจำของเขา ทั้งลักลอบให้คนมาจุดธูปราคะไม่พอ นางยังประพรมน้ำมันกระดังงาเข้ามายั่วยวนเขาอีกด้วย ยังดีว่าเขากดจุดของตนเองสกัดได้ทันจึงไม่ตกลงไปในบ่วงสวาทของนางปีศาจจิ้งจอกตนนี้
แต่พิษสลายกระดูกก็ทำเอาเขาสิ้นไร้เรี่ยวแรงลงไปถึงเจ็ดในสิบส่วนเลยใกล้จะเสียที ยังดีที่ไป๋อวี้โผล่เข้ามาได้ทัน คิดแล้วก็โมโหตนเองยิ่งนัก เพราะแต่เดิมวางแผนอยากอยู่ลำพังกับพระชายาเพียงสองคนจึงขับไล่องครักษ์ทั้งสองออกไปเสียหมด จนเกือบเสียตัวเช่นนี้ขายหน้ายิ่งนัก แม่ทัพจินอู่เสียทีปีศาจจิ้งจอกชั่ว รู้ถึงไหนอายถึงนั่นจริง ๆ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ล้วนเป็นเพราะนางปีศาจจิ้งจอกเช่นหลิ่วจื่ออิง แต่เขาเป็นบุรุษหากกล่าวออกไปใครเล่าจะเชื่อโดยเฉพาะกับไป๋อวี้ที่เขาเอาแต่กลั่นแกล้งรังแกนางมาตลอดนับตั้งแต่รับรู้ว่าต้องแต่งงานกับนาง ไหนจะเรื่องที่เขาสร้างให้ตนเองมากราคะเรียกสตรีบำเรอมาปรนนิบัติทุกค่ำคืนนั่นอีกเล่าพูดให้ตายนางคงเชื่อเขาอยู่หรอก
…นางเชื่อเขาก็เสียสติแล้ว…
"เปิ่นหวางบอกให้เจ้าไสหัวออกไปอย่างไรเล่าไป๋อวี้!"
เฉินอี้หานตวาดซ้ำออกไปอีกครั้ง ทำให้หลิ่วจื่ออิงนั้นถึงกับยิ้มเย้ยหยันส่งไปให้สหายที่ตนเองมองว่าแสนจะโง่เขลามาตลอดที่คบค้ากันมากว่า6ปี ไป๋อวี้ตกตะลึง นี่ตลอดมานางตาบอดมองคนผิดได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ นางช่างโง่เขลาเสียจริง ไป๋อวี้เอ๋ย ไป๋อวี้
"ชินอ๋องต้องการให้หม่อมฉันไปจริง ๆ หรือเพคะ แม้แต่คำอธิบายสักนิด ชินอ๋องก็จะไม่พูดให้กระจ่างจริงหรือ"
"ใช่! ไสหัวไป!!!"
นางยังต้องการสิ่งใดอีก นางยังจะอดทนไปเพื่อสิ่งใด คนเราย่อมมีขีดจำกัดของความอดทนกันทุกคน และวันนี้ไป๋อวี้คิดว่าความอดทนของนางสิ้นสุดลงแล้ว การรักใครสักคนไม่ผิด แต่การรักจนลืมรักตนเองต่างหากที่ผิด การวางใจสหายก็ไม่ผิด แต่ที่นางผิดก็คือคบคนเป็นสหายไม่มองให้ดี ไปอวี้คิดว่านางควรถอยกลับมารักตนเองได้แล้ว นางก็เป็นสตรีที่มีศักดิ์ศรีผู้หนึ่งมิใช่หรือ ถูกแทงข้างหลังและย่ำยีศักดิ์ศรีถึงเพียงนี้นางก็สมควรถอยออกไปแล้วจริง ๆ
คิดตกเช่นนั้นเท้าเรียวจึงถอยหลังออกจากห้องช้า ๆ สายตาจับจ้องไปที่บุรุษซึ่งนางเคยรักเขามากและในยามนี้ก็ยังคงรักอยู่ รักเขามากเหลือเกิน มากจนลืมรักตนเอง รักจนกลายเป็นหลงใหล หน้ามืดตามัว มองข้ามไปหมดทุกสิ่ง จากนั้นก็เหลือบสายตาไปที่คนซึ่งนางคิดว่าเป็นสหายรัก เป็นดังพี่สาวคนสนิทมีเรื่องทุกข์หรือสุขใจล้วนบอกเล่าแก่หลิ่วจื่ออิงไปทั้งหมดไม่ต่างกับที่ตนเองบอกเล่ากับไป๋หวั่นชิง วันนี้เพิ่งกระจ่างอีกฝ่ายก็แค่มองความจริงใจของตนเองเป็นเพียงความโง่เขลาที่ชวนขบขันเท่านั้น
...พอแล้ว...นางพอแล้วจริง ๆ ...
นางจะกลับมารักตนเองเสียที 2ปีที่คลั่งรักเฉินอี้หานนางขอหยุดมันเพียงเท่านี้ หนังสือหย่าอาจเขียนมันออกมาไม่ได้เนื่องจากนางและชินอ๋องเฉินอี้หานถูกประทานสมรสจากฮ่องเต้หากว่าฮ่องเต้ไม่เห็นด้วยหนังสือหย่าขาดเขียนออกไปก็เท่านั้นไหนจะยังมีเฝิงไทเฮาอีกคนนางจะยอมเห็นชอบหรือไม่คาดว่าคงยาก
แต่หนังสือปลดสามีนางสามารถเขียนมันออกมาได้ ชินอ๋องเฉินอี้หานขาดคุณธรรมคบชู้กับสหายรักของพระชายานางขอปลดเขา! ปลดคนมากราคะไม่รู้จักเลือกกินไม่เอาอีกแล้วสวามีต่ำช้าเช่นนี้ ครึ่งปีมันมากเกินพอแล้วกับเวลาที่สูญเสียไปให้กับคนที่ไม่เคยมองเห็นคุณค่าของนางเลย
ก็ได้แค่หวังว่าพี่สาวของนางผู้เป็นฮองเฮาจะช่วยนางได้บ้างกับการเจรจากับฮ่องเต้และเฝิงไทเฮาให้เห็นชอบกับการหย่าขาดจากชินอ๋องเฉินอี้หาน นางพอแล้ว นางไม่คิดจะวิ่งตามความรักของคนไม่มีใจอีกต่อไปนางยอมแพ้ นางขอถอยออกไปรักตนเองในที่ของนางดีที่สุด...