“แต่งตัวอะไรของแกวะ” ในระหว่างที่หงส์กำลังเดินจากชั้นสอง ประโยคเอ่ยทักของหยวนเอ่ยถามน้องสาวของตัวเองขึ้นมาทันที เมื่อเห็นถึงความผิดปกติในการแต่งตัวของน้องสาวตัวเอง
“หงส์ก็อยากเรียบร้อยบ้าง” ชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีขาวสะอาดตา ความยาวถึงข้อเท้า ผมยาวสลวยถูกปล่อยตรงถึงกลางหลัง เดินเข้าไปซบหัวไหลพี่ชายของตัวเองด้วยท่าทางออดอ้อน ท่าทางน่ารักของหงส์ที่ใครต่อใครอาจจะมองเห็นแต่สำหรับพี่ชายอย่างเขา แบบนี้คือหายนะชัด ๆ
“หลานสาวกงสวยจริง ๆ”
“ใช่ไหมคะกง เฮียหยวนมีตาหามีแววไม่” รอยยิ้มหวานเคลือบไปด้วยยาพิษยิ้มส่งไปให้กับพี่ชายของตัวเอง
หยวนขนแขนบางลุกชู่ขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มของน้องสาว ตอนนี้พี่ชายอย่างเขาเริ่มสงสารชายหนุ่มที่กำลังจะแต่งงานกับน้องสาวตัวเองจับใจ
“นั่นไง!!มากันแล้ว” เสียงอากงของบ้าน เอ่ยแทรกขึ้น เมื่อเห็นว่าทั้งหลานชายและหลานสาวทะเลาะกันไม่เลิก
รถยนต์คันหรูนับสิบคันจอดบริเวณหน้าบ้านของตระกูลห่าว ทั้งสามคนเดินมาต้อนรับแขกอย่างเป็นกันเอง โดยมีหญิงสาวประคองอากงของตัวเองเอาไว้ด้วยท่าทางเรียบร้อย
“ห่าวอู๋ ลื่อสบายดีนะ”
“สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ” เสียงเอ่ยทักทายของหงส์และหยวนดังขึ้น ทั้งสองยกมือพนมไหว้อากงลี่ถังอย่างนอบน้อม ขัดกับชายหนุ่มที่มากับอากงลี่ถังที่เพียงแค่ยกมือแต่ไม่ได้เปล่งวาจาใด ๆ ออกมา
“เออ อั้วสบายดี เข้าบ้านกันเถอะ”
“หนูหงส์ยิ่งตัวยิ่งสวยนะ” เสียงเอ่ยทักทายของอากงลี่ถัง เอ่ยชมว่าที่หลานสะใภ้ของตัวเอง จนหญิงสาวถึงกับมวนอายด้วยความเขิน
“อากงลี่ถังก็ชมหนูเกินไปค่ะ”
“จริงไหมมังกร” ยังไม่วายที่อากงลี่ถังจะหยุด ชายสูงวัยหันไปถามหลานชายตัวเองแต่คำตอบที่ได้คือความเงียบ แววตาเรียบเฉยจ้องมองร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรหรือแสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา
“สงสัยหลานกงคงอาย เราเข้าบ้านกันเถอะ”
ภายในห้องรับแขกเสียงดังครึกครื้นไปด้วยเสียงของชายสูงวัยทั้งสองที่กำลังนั่งคุย กันอยู่ โดยมีหลานทั้งสามนั่งฟังเงียบ ๆ ไร้เสียงเอื้อนเอ่ยใด ๆ ออกมา
“งั้นอั้วจะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน”
“ว่ามา”
“วันนี้อั้วจะมาสู่ขอหลานสาวลื่อให้กับหลานชายอั้ว ลื่อจะขัดข้องอะไรไหม” เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาอันเหมาะสม อากงลี่ถังจึงเอ่ยขอหลานสาวจากตระกูลห่าวให้กับหลานชายของตัวเอง
“ได้สิ ตระกูลของเราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันสักที” เสียงหัวเราะของชายสูงวัย ดังขึ้น เวลาที่พวกเขารอคอยนานหลายสิบปีมาถึงแล้ว
อากงลี่ถังและอากงห่าวอู๋เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พวกเขาทั้งสองผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะจนทำให้เป็นเพื่อนรักกันจนถึงทุกวันนี้
“หนูหงส์ไม่ขัดข้องอะไรใช่ไหม” องกงลี่ถังหันไปถามว่าที่หลานสะใภ้ของตัวเองอีกครั้ง ท่าทางเนืองอายของหญิงสาวส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธว่าเธอนั้นไม่ได้ติดขัดอะไรกับเรื่องงานแต่งในครั้งนี้
“งั้นเป็นตกลง”
งานแต่งงานของมังกรและหงส์ถูกจัดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ซึ่งสร้างความตกใจให้กับหญิงสาวและชายหนุ่มไม่น้อย พวกเขาไม่คิดว่าอากงจะเตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว เว้นเสียแต่ชุดแต่งงานเท่านั้นที่รอให้เจ้าตัวไปวัดไซส์
“ทำไมเร็วแบบนี้คะ” เสียงโวยวายของหงส์ดังขึ้นหลังจากที่ครอบครัวของมังกรกลับไปแล้ว เธอเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อถูกรวบรัดด้วยวิธีนี้
“ก็ลื่อตอบตกลง กงก็จัดการทุกอย่าง จบ”
“อากง” เสียงร้องเรียกของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อเห็นอากงของเธอเดินขึ้นห้องนอนไปอย่างอารมณ์ดี ขัดกับเธอที่เริ่มว้าวุ่นใจเมื่อทุกอย่างถูกจัดเตรียมเร็วขนาดนี้
“อะไรวะ?” ซองสีแดงถูกโยนลงตรงหน้าของมาตินและดีแลนที่กำลังนั่งดื่มกันอยู่ที่ผับของมาติน คิ้วเข้มของทั้งสองขมวดกันเป็นปมแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบจากมังกร ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟา มือหนาเคาะบุหรี่ออกจากซองอย่างใจเย็น
“การ์ดงานแต่งมึงเหรอ”
“อืม”
“แต่งเมื่อไหร่วะ”
“เดือนหน้า”
“ห๊ะ / เร็วสัด!!” เสียงอุทานด้วยความตกใจของทั้งสอง เมื่อเพื่อนรักอย่างมังกรที่ไม่มีแนวโน้มจะแต่งงานกลับแต่งงานเป็นคนแรกของกลุ่ม ตาคมของดีแลนจ้องไปยังใบหน้าหล่อของมังกรที่กำลังนั่งพ่นควันบุหรี่ไร้ท่าทางทุกร้อน
“ไปเจอตัวเจ้าสาวมาแล้วเหรอวะ?”
“อืม”
“สวยไหม? สวยสมคำล่ำลือรึเปล่าวะ”
“งั้น ๆ” ใบหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงทุ้มนิ่งตอบกลับเพื่อนรัก ท่าทางสบายของมังกรสามารถเรียกความสงสัยจากเพื่อนรักได้เป็นอย่างดี
“งั้น ๆ ของมึง กูอยากจะเห็นจริง ๆ” พวกเขาไม่อยากจะเชื่อคำว่า งั้น ๆ ของมังกรสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา มังกรไม่เคยเอ่ยถามหรือสนใจผู้หญิงสวยคนไหนเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าจะหวงเนื้อหวงตัวไปทำไมนักหนา
“นัดพวกฉันออกมาด่วนขนาดนี้ แกมีอะไร” เสียงแหลมของต้าเหนิงเอ่ยถามหงส์ทันที เมื่อหญิงสาวเดินมาถึงโต๊ะภายในผับแห่งหนึ่ง
“ฉันกำลังจะแต่งงาน” ใบหน้าไร้ความตกใจของเพื่อนรัก เมื่อได้ยินหงส์พูดออกมาถึงเรื่องแต่งงาน พวกเธอไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด เพราะยังไงหงส์ก็มีแฟนอยู่แล้ว
“จะแต่งงานแล้วทำไม ทำหน้าเซ็งแบบนั้นล่ะ” ลู่ซือเอ่ยถามหงส์ออกมาด้วยความสงสัย เมื่อเห็นใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของหงส์ ที่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากเอาเป็นเอาตาย
“ใช่ แกก็อยากแต่งกับจางเหว่ยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันเลิกกับไอ้บ้าจางเหว่ยไปแล้ว”
“อะไรนะ!! / อะไรนะ!!” ต้าเหนิงและลู่ซืออุทานขึ้นอย่างพร้อมเพียงกัน เมื่อได้ยินคำตอบจากเพื่อนรัก
“แล้วแกจะแต่งงานกับใคร”
“กับผู้ชายคนหนึ่ง”
“ใครวะ?”
“เดือนหน้าพวกแกก็เห็นเอง” ร่างบางเปิดกระเป๋าสะพายข้างแบรนด์ดังออก เธอหยิบการ์ดสีแดงสดยื่นให้กับเพื่อนรักทั้งสองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปดื่มค็อกเทลสีสดต่อตรงหน้า
“แล้วจางเหว่ย”
“ไอ้จางเหว่ยมันไปเอากับผู้หญิงคนอื่น” หงส์เล่าเหตุการณ์ที่เธอไปเจอมาให้กับเพื่อนรักทั้งสองฟังจนหมด ใบหน้าของเพื่อนรักทั้งสองไม่แปลกใจเลยสักนิดที่จางเหว่ยจะทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะใคร ๆ ก็รู้ดีว่าจางเหว่ยเป็นคนเจ้าชู้นอกจากหงส์เพื่อนรักของตัวเอง ที่หลงจางเหว่ยจนไม่ยอมฟังใคร
“ไม่แปลกใจ?”
“พวกฉันรู้มาตั้งนานแล้ว ว่าไอ้จางเหว่ยมันเจ้าชู้”
“คงมีแต่ฉันสินะที่โง่!! ต่อจากนี้ไปแม่จะเป็นคนฟันผู้ชายเอง” แววตาแข็งกร้าวบวกกับเสียงแหลมประกาศออกมากลางวงสนทนา ใบหน้าจริงจังของหงส์ทำให้เพื่อนรักทั้งสองถึงกับลอบกลืนน้ำลายตัวเองอึกใหญ่