10ปีก่อน
“เด็กคนนี้ชื่อเรวาลินค่ะกำพร้าตั้งแต่เกิดแต่เจ้าตัวเป็นเด็กที่หัวไวและฉลาดค่ะหน้าตาก็สะอาดสะอ้านดิฉันคิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าเด็กคนนี้ได้ไปอยู่ในความดูแลของพวกคุณทั้งสอง” ฉันจ้องมองแม่ที่คอยเลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่ยังเล็กหลังถูกพ่อแม่แท้ๆนำมาทิ้งไว้หน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อนจะเบนสายตาหันไปมองคู่รักคู่นึงที่มีใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาพวกเขาทั้งสองจ้องมองฉันด้วยความเอ็นดูจนฉันอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มตตอบกลับไป
“ฉันถูกใจเด็กคนนี้มากเลยค่ะคุณคิดว่าไงคะ”
“ผมก็ด้วยยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักถ้าเราได้มีลูกสาวก็คงจะน่ารักแบบนี้มากแน่ๆ” ทั้งสองตายิ้มและหัวเราะให้แก่กันมันเป็นภาพที่สวยงามมากความใจดีของพวกเขาส่งผ่านมายังคำพูดและการกระทำจนเด็กน้อยอย่างฉันก็ยังรับรู้ถึงมันได้
“จะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอให้หนูไปอยู่ด้วยน่ะไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ” มืออันอบอุ่นลูบผมฉันพร้อมกับใบหน้าที่แสดงความอ้อนเล็กน้อยช่วงหลายปีมานี้มีหลายครอบครัวมาขอรับเลี้ยงฉันแต่ฉันเลือกที่จะปฏิเสธเพราะเคยได้ข่าวมาหลายครั้งที่พอเอาไปเลี้ยงบ้างก็โดนทำร้ายบ้างก็โดนหลอกไปนั่งขอทานแต่ครั้งนี้ด้วยอายุที่มากกว่าเด็กคนอื่นมันจึงเริ่มยากที่จะมีคนขอไปเลี้ยงและอีกไม่กี่ปีอายุฉันก็จะเกินและต้องออกจากที่แห่งนี้ไปใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว
“ค่ะหนูขอไปอยู่ด้วยนะคะ”ฉันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเพราะแม่ของฉันได้บอกข้อมูลของทั้งคู่ไว้บางส่วนแล้วว่าพวกเขาเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาและมีหน้าตาทางสังคมเพราะฉะนั้นปัญหาเรื่อองที่ฉันกังวลมาตลอดมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“ทำไมถึงเป็นหนูหรอคะในเมื่อยังมีเด็กคนอื่นอีกมากมาย”ฉันเอ่ยถามหลังจากที่เก็บข้าวของและตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนรถมุ่งหน้าไปบ้านหลังใหม่
“เนื่องจากภรรยาฉันอยากมีลูกสาวมากเราพยายามกันมาหลายปีแต่สุดท้ายก็ไม่ติดจนอายุเริ่มเยอะก็เลยคิดว่าจะรับเลี้ยงเด็กดีกว่าการปล่อยให้ท้องในวัยแบบนี้ส่วนเรื่องทำไมถึงพวกฉันถึงเลือกหนูก็เพราะว่าถ้าเลือกเด็กที่อายุน้อยมากเกินไปจะเกิดปัญหาได้ทั้งด้านความคิดหรือการพูดที่ไม่เข้าใจกันจนเกิดความงอแงพวกฉันไม่ค่อยชอบเด็กพูดไม่รู้เรื่องน่ะ”ฉันพยักหน้ารับให้กับผู้ชายที่เริ่มมีความเหี่ยวหย่นบนใบหน้าแต่ก็ยังดูดีกว่าใครๆพวกเขาทั้งสองต่างบอกเหตุผลมาหลายข้อจนฉันรู้สึกดีที่อย่างน้อยอายุขนาดนี้แล้วก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง
“ว่าแต่พวกคุณมีลูกชายใช่ไหมคะ?” พวกเขาทั้งสองพยักหน้ารับ
“อายุห่างกับหนูประมาณ5ปีน่ะตอนนี้ก็ใกล้จะจบม.ปลายแล้วพี่ชายของหนูหล่อนะระวังตกหลุมรักพี่ชายตัวเองซะละ” ฉันยิ้มขำออกมาเบาๆใครจะบ้ามีความรักกับพี่ชายตัวเองถึงแม้จะไมใช่พี่แท้ๆก็ตามไม่มีทางหรอก
“เขาจะใจดีกับหนูใช่ไหมคะ” ฉันเอ่ยถามอีกครั้งแต่ครั้งนี้น้ำเสียงของฉันเต็มไปด้วยความกังวลใจเพราะมีหลายครั้งที่เด็กบางคนถูกส่งกลับมาที่เดิมเพียงเพราะเข้ากับลูกแท้ๆของคนที่รับเลี้ยงไปไม่ได้
“ใจดีสิถึงแม้ตาคริสจะดูนิ่งๆเย็นชาแต่ฉันเชื่อว่าพอได้มาเจอใบหน้าน่ารักๆแบบหนูเป็นใครบ้างจะไม่อยากเอ็นดู”ฉันระบายยิ้มบางส่งให้พวกเขาทั้งสองถ้าพวกเขาว่ามาแบบนั้นฉันก็สบายใจและฉันก็รู้ตัวดีว่ามาอยู่ในฐานะอะไรเพราะฉะนั้นฉันจะพยายามลดการทะเลาะกันกับลูกชายตัวจริงของพวกเขาอย่างถึงที่สุด
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้หนูสามารถเรียกพวกคุณว่าพ่อกับแม่...ได้แล้วใช่ไหม...” ฉันพูดออกไปด้วยความตื่นเต้นพอหลังสิ้นสุดประโยคตัวของฉันก็จมอยู่ในอ้อมกอดของทั้งสองทันทีเหมือนกับว่าพวกเขาทั้งคู่กำลังรอคำพูดนนี้จากฉันอยู่
“ได้สิเรียกได้เลยฉันรอหนูพูดคำนี้มานานมากเลยนะ”แม่ของฉันหัวเราะออกมาทั้งน้ำตารวมถึงพ่อที่ยิ้มไม่หุบฉันขให้การเริ่มต้นใหม่ของฉันเป็นไปด้วยดีเถอะแม้ฉันจะหวังไว้ว่าแบบนั้นแต่ความเป็นจริง
“สวัสดีค่ะหนูชื่อเรย์ค่ะอายุ13ปี”ฉันเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าที่เหมือนพ่อของฉันแต่มีความนิ่งจนน่ากลัวเขามองฉันนิ่งๆและเดินจากไปทันที
“ตาคริสแกไม่ทักทายน้องบ้างรึไงตาคริส!”แม่พยายามร้องตะโกนแต่เป็นฉันที่จับมือท่านไว้แล้วส่งยิ้มว่าไม่เป็นไรเขาอาจจะกำลังช็อคอยู่ก็ได้ที่จู่ๆก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้มาอาศัยอยู่ในบ้านด้วยแถมยังพ่วงตำแหน่งน้องสาวออีก
“ไม่เป็นไรนะเรย์พี่เขาคงเหนื่อยจากการไปเรียนมาน่ะ”
“ค่ะหนูไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”ฉันเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มแต่ในใจก็แอบกังวลถ้าสมมุติเราทั้งสองต่างเข้ากันไม่ได้จริงๆฉันอาจจะได้กลับไปที่เดิมก็เป็นได้
“จ๊ะๆงั้นเดี๋ยวแม่พาขึ้นไปดูห้องของหนูกันนะลูก”แม่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มอีกครั้งก่อนจะพาฉันขึ้นไปยังชั้นสองสายตาของฉันมองไปรอบบ้านที่กว้างใหญ่มันทั้งกว้างและหรูหราพื้นกระเบี้ยงเย็นๆทำฉันเย็นเท้าไปหมดแต่ฉันก็สังเกตได้ว่าทุกคนต่างสวมรองเท้านุ่มๆเดินกันซึ่งมันค่อนข้างแปลกตาสำหรับฉันไม่น้อย
“เป็นไงลูกชอบไหม..แม่ฝันมาตลอดเลยนะว่าถ้ามีลูกสาวแม่อยากจะแต่งห้องแบบนี้”ฉันมองภายในห้องสีโทนชมพูอ่อนตัดม่วงมันรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงแสนหวานอยู่ในนั้นรวมถึงการตกแต่งที่มักจะเน้นสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ถ้าดูจากการตกแต่งที่จัดเต็มแแบบนี้แล้วมันบ่งบอกถึงความตั้งใจในการมีลูกสาวของพวกเขาทั้งสองมากๆ
“หนูชอบมากเลยค่ะ^^” ฉันเอ่ยบอกออกไปแม้ในใจแอบคิดว่ามันผู้หญิงเกินไปก็ตามแต่คนอย่างฉันมีสิทธิ์อะไรไปบอกว่าไม่ชอบได้กันแค่เพียงเขาเอ็นดูฉันถึงขนาดนี้มันก็มากโขแล้ว
“จริงหรอจ๊ะแม่ดีใจนะที่ลูกชอบเอาล่ะพักผ่อนนะไว้ตอนเย็นแม่จะให้แม่บ้านมาเรียกไปทานข้าว”ฉันพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะมองผู้เป็นแม่ที่ยิ้มให้ฉันไม่หยุดและค่อยๆเดินจากไปเมื่อได้อยู่คนเดียวฉันเดินสำรวจห้องเล็กน้อยก่อนจะล้มฝุบบนเตียงนอนสีชมพูอ่อนกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มทำฉันเกือบเคลิ้มหลับแต่ก็ต้องเด้งตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำล้างตัวเตรียมลงไปทานข้าวเพราะไม่อยากมีสภาพมอมแมมให้ใครบางคนเห็น
“คุณหนูเรย์คะได้เวลาทานข้าวแล้วค่ะ”
“ค่ะๆจะรีบลงไปค่ะ”ฉันตะโกนตอบกลับไปเพราะยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย
“ป้าฝากคุณหนูเรียกคุณคริสด้วยนะคะ”
“คะ?เอ่อได้ค่ะๆ”ฉันเอ่ยขึ้นอย่างตกใจแต่สุดท้ายก็ตอบรับไปก่อนจะรีบหันกลับมาสนใจเรื่องการแต่งตัวของตัวเองฉันเคยดูในละครหลังข่าวอยู่ว่าการแต่งตัวเวลาไปทานข้าวพร้อมกันนั้นควรแต่งตัวยังไงฉันเลยหยิบเสื้อสีขาวบางกับกระโปรงสีชมพูอ่อนมาใส่ส่วนผมก็มัดให้เรียบร้อยจะได้ไม่เกะกะตอนทานอาหาร
เมื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองจนพอใจแล้วก็ถึงเวลาไปเรียกอีกคนซึ่งแม่บอกฉันก่อนหน้านี้แล้วว่าห้องของเราทั้งสองอยู่ชั้นเดียวกันและอยู่ข้างๆกันฉันเดินออกมาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกอยู่หน้าประตูสักครู่และ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พะ...พี่คริสคะได้เวลาทานอาหารแล้วค่ะ”ใจของฉันเต้นรัวเมื่อได้พูดออกไปแต่สุดท้ายก็พบกับความเงียบเป็นคำตอบฉันได้แต่ยืนอยู่แบบนั้นก่อนจะเคาะประตูและเรียกเขาอีกครั้ง
“พี่คริสคะได้เวลาทานข้าวแล้วนะคะ”ครั้งนี้ฉันเพิ่มเสียงดังขึ้นเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็เงียบอยู่ดีเลยตัดสินใจว่าจะลงไปเองก่อนเพราะอีกฝ่ายน่าจะหลับเพราะถ้าไม่หลับก็ต้องเดินออกมาแล้วน่ะสิ
“งั้นหนูลงไปก่อนนะคะ”ฉันเอ่ยบอกอีกครั้งก่อนจะก้าวเดินแต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนห้องของอีกฝ่ายก็เปิดขึ้นจนฉันตกใจกับร่างสูงที่อยู่ในชุดกีฬาบาสเสื้อแขนกุดเผยให้เห็นสีผิวขาวและกล้ามแขนและกางเกงขาสั้นที่โชว์ขาที่เต็มไไปด้วยมัดกล้าม
“เอ่อสวัสดีค่ะ”เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่ทักทายเจ้าตัวอีกรอบร่างสูงเพียงปรายตามองฉันก่อนจะเดินชนไหล่ฉันลงไปข้างล่างเอาล่ะฉันว่าฉันได้กลิ่นความไม่ปรองดองซะแล้วสิ
เป็นกำลังใจให้นุ้งเรย์นะจ๊ะเอาความน่ารักความอ้อนอ้อนใส่พี่คริสเขาเยอะๆนะลูกกก
อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ