ตอนที่ 5 : เสน่ห์แรงทั้งคู่

1321 Words
ตอนที่ 5 : เสน่ห์แรงทั้งคู่ เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยาที่คีรินเป็นคนให้เลขาโทรจองล่วงหน้า ก็มีสายตาหลายคู่ที่เดินผ่านมองตามทั้งสองอย่างให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่พนักงานในร้านอาหาร ไม่ใช่เพราะทั้งสองคนทำผิดหรือแต่งตัวประหลาดจนเป็นที่สะดุดตา หากแต่สายตาทุกคู่ที่มองมานั้นกลับเต็มไปด้วยความชื่นชม ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะความสวยและหล่อของทั้งคู่ที่ดูสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก แลดูเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันนั่นต่างหาก เพลงขวัญหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ เช่นเดียวกับชายหนุ่มรูปงาม ทำตัวเป็นปกติราวกับชินชาต่อการเป็นจุดสนใจของใครต่อใคร ก่อนที่คีรินจะส่งเมนูอาหารให้กับเธอเพื่อให้เธอได้เลือกเมนูที่เธออยากจะทาน ส่วนเขานั้นเลือกเพียงไวน์ชั้นดีมาหนึ่งขวด เป็นการเอาใจเมรีขี้เมาตรงหน้า "ถ้าไม่พอผมสั่งเพิ่มให้ได้นะ" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงออกประชดเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวกวาดมองไวน์แดงที่พนักงานนำมาเสิร์ฟ ทว่าเจ้าหล่อนก็สวนมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางกวนไม่แพ้กัน "ไม่ดีกว่าค่ะ แกรงว่าจะเมาแล้วเผลอทำตัวไม่น่ารักเหมือนเมื่อคืนอีก เพราะช่วงนี้คุณปู่คงหวังให้ฉันทำคะแนนกับคุณมากกว่าทำเสียคะแนน” “ดูคุณเชื่อฟังคุณปู่ดีจังนะครับ แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งท่านบังคับให้เราแต่งงานกันจริงๆ คุณก็คงไม่ปฏิเสธท่านสินะครับ” “แล้วมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องปฏิเสธท่านละคะ ก็ในเมื่อชายหนุ่มที่คุณปู่ได้เลือกมาให้นั้นทั้งหล่อและรวยเป็นที่หมายตาของสาวๆ ดีไม่ดีถ้าแต่งไปแล้วฉันอาจจะแค่นอนตีพุงอยู่บนเตียง รอสามีเลี้ยงเฉยๆ แบบไม่ต้องกระดิกนิ้วทำอะไรเลยก็ได้ เห็นไหมละคะว่าฉันมีแต่ได้กับได้ ไม่มีอะไรเสียหายเลยสักนิด” แม้เธอจะพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมทว่าคีรินกลับทราบดีว่าคำพูดของเธอนั้นเต็มไปด้วยคำประชดประชัน แต่ก่อนที่เขาจะได้โต้เธอกลับไปนั้นก็มีเสียงหวานใสของนางแบบสาวนางหนึ่งเดินเข้ามาทักเสียก่อน "สวัสดีค่ะคีย์ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณที่นี่ ช่างบังเอิญจังเลยนะคะ" เสียงหวานที่เอ่ยทักชายหนุ่มอย่างสนิทสนม อีกทั้งท่าทางทอดสายตาให้กับเขาอย่างเปิดเผยทำให้สาวงามที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับแอบเบะปากด้วยความหมั่นไส้ พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีสาวมาทักเสียแล้ว ยิ่งตอกย้ำความเสน่ห์แรงและเนื้อหอมของเขาเข้าไปอีก "ครับ" เขาทักกลับเพียงสั้นๆ ขณะที่สายตานั้นไม่ได้ละจากคู่หมั้นสาวไปมองคนมาใหม่ เพื่อสังเกตว่าเธอจะแสดงกิริยายังไงตอนที่มีผู้หญิงคนอื่นมาทักเขาอย่างสนิทสนม ทว่าเธอนั่งเฉยจนน่าหงุดหงิด "อ้าว…คุณมีเพื่อนมาด้วยเหรอคะ ซูซี่ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มองไม่เห็น" เพลงขวัญรู้ดีว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเหน็บตน แต่เธอก็หยักไหล่ไม่ใส่ใจ ทำราวกับอีกฝ่ายก็เป็นอากาศธาตุเช่นกัน "เธอไม่ใช่เพื่อนผมเหรอครับ แต่เธอเป็นคู่หมั้นของผม" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของหรือรักษาสิทธิ์ของตัวเอง คีรินเลยถือโอกาสประกาศสถานะเสียเอง ทำเอานางแบบสาวถึงกับหน้าเหวอไปในทันที "คู่หมั้น!" "ครับ คู่หมั้น และเราคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้" "เหรอคะ" ตอนนี้หน้าของนางแบบสาวที่ถูกเติมแต่งไปด้วยเครื่องสำอางซีดแล้วซีดอีก เพราะข้างในของเธอนั้นทั้งสับสนและอิจฉาสาวงามที่นั่งร่วมโต๊ะกับเขา จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำคะแนน แต่เห็นทีงานนี้จะไม่ทันเพราะเขามีคู่หมั้นตัวจริงนั่งอยู่ด้วย เมื่อเห็นอาการอึ้งปนช็อกของอีกฝ่าย จากที่ตั้งใจนั่งเงียบแต่แรกก็เปลี่ยนใจตอกย้ำความเจ็บแสบลงไปที่หัวใจให้อีกเพื่อเป็นการเอาคืน "ไว้เรามีข่าวดีเมื่อไหร่ ขอเชิญคุณ…ด้วยก็แล้วกันนะคะ ขอโทษทีไม่รู้จักชื่อ" เพลงขวัญจงใจเว้นจังหวะตรงชื่อของเธอ ก่อนจะแสร้งทำเป็นกล่าวขอโทษอีกฝ่าย “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นซูซี่ขอตัวก่อนนะคะ” นางแบบสาวที่หน้าชาไปทั้งแถบ กำหมัดแน่นอยากจะกรีดร้องใส่หน้าสาวงามดังๆ ทว่าก็ต้องสงวนท่าทีเอาไว้ และเอ่ยขอตัวก่อนที่จะก้าวฉับๆ กลับไปนั่งยังโต๊ะอาหารที่เธอจากมาซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่งของร้าน คีรินจ้องมองใบหน้างดงามของคู่หมั้นสาวนิ่งด้วยความสับสน เพราะไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่แล้วความอดทนของเขาก็สิ้นสุดลงเลยเอ่ยถามขึ้น "ที่พูดเมื่อกี้นี้เพราะหึงผม หรืออยากจะให้เรามีงานแต่งกันจริงๆ" "ไม่ดีเหรอคะ ฉันก็แค่ช่วยต่อละครของคุณให้สมจริงขึ้นก็เท่านั้นเอง"เพลงขวัญไม่ตอบ หากแต่ย้อนถามกลับไป “ขอบคุณที่ช่วย แต่ผมไม่เรียกร้อง ถ้าคุณจะกรุณาช่วยก็ช่วยตอบคำถามผมมาตามตรงว่าคุณคิดยังไงกับการแต่งงานของเรา อยากจะแต่งหรือว่าไม่แต่ง” “แล้วถ้าฉันตอบว่าแต่ง คุณจะแต่งกับฉันอย่างนั้นเหรอคะ” เพลงขวัญยังคงกวนโมโหอีกฝ่ายไม่เลิก เธอไม่ยอมตอบไปตามตรง เธอเชิดหน้าท้าทายเขาอีกทั้งยกยิ้มที่มุมปากอย่างเห็นเรื่องที่เขาพูดนั้นเป็นเพียงเรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องซีเรียสแต่อย่างใด และนั่นก็ทำให้คีรินต้องเดือดปุดข้างในทันที “เอาสิ ก็แค่แต่งงานกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งมันจะหนักหนาอะไรกันเชียว” ตอนแรกที่ไม่คิดจะเดินตามเกมยั่วโมโหของเธอ แต่ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนใจเมื่อเกิดอารมณ์อยากจะปรับผู้หญิงปากเก่งตรงหน้าดูสักตั้ง เพลงขวัญถึงกับหุบยิ้มลงทันที ไม่คิดว่าเขาจะบ้าจี้เอาจริงขึ้นมา แต่ครั้งจะกลับคำพูดก็เกรงชายหนุ่มจะหาว่าตนปอดแหกไม่แน่จริง เลยยอมเล่นตามน้ำต่อ “แต่ฉันมีข้อแม้นะคะ ว่าการแต่งงานของเราจะเป็นโมฆะทันทีที่คุณแอบมีผู้หญิงอื่น เพราะฉันไม่ชอบการถูกสวมเขา” “เรื่องมีคนอื่นบอกตัวเองก่อนเถอะ ในอดีตของคุณจะมีใครมาแล้วกี่คนผมไม่สน แต่หลังจากที่เราแต่งงานกันคุณจะไปมีคนอื่น หรือกินเหล้าเมายาจนขาดสติแบบนั้นไม่ได้อีก เพราะผมก็รับไม่ได้ที่มีภรรยาชอบมั่ว และขี้เมา” ‘ผู้ชายอะไร ปากร้ายชะมัด!’ “ค่ะ ว่าที่สามี” หญิงสาวกระแทกเสียงตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องหันไปสนใจกับอาหารในจานอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ทั้งที่ลึกๆ แล้วอยากจะจิ้มตาอีกฝ่ายแรงๆ สักที จริงอยู่ที่การเริ่มต้นของเขาและเธอไม่ได้น่าประทับใจ แต่ไม่รู้ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาพูดประชดเธออยู่เรื่อยเลย หลังจากที่เจรจาเรื่องการแต่งงานกันแบบคร่าวๆ และสั้นๆ จบลงไป ทั้งสองคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทานอาหาร โดยต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดอะไรกันอีก กระทั่งการรับประทานอาหารเสร็จสิ้นลง คีรินเลยพาหญิงสาวกลับมาส่งที่ตึกที่พักของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD