เขาให้บอดี้การ์ดขับรถตรงดิ่งไปที่คอนโดของเขา ก่อนจะวางร่างบางกับโซฟานุ่ม หน้าอกอวบนั่นช่างยั่วสายตาเขาเหลือเกิน เขาอยากจะทำอะไรกับเธอเสีย ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะทำอะไร เธอก็ถอดชุดเดรสสีขาวนั้นออก และเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปหา
ใบหน้านวลใยที่เงยขึ้นมาเหมือนจะท้าทายและไม่เกรงกลัวเขา ทำให้อีธานมองเห็นริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังสั่นระริกเหมือนสะกดกลั้น อารมณ์นั้นเขารั้งร่างบางเข้ามาแนบอกมากขึ้นก่อนจะใช้มือหนาจับศีรษะของหญิงสาวไว้อย่างมั่นคงและกดริมฝีปากหนาลงไปอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว
ตอนนี้เธอรุกเข้าหนักขึ้น เหมือนกันว่าเธอมีความต้องการบางอย่างที่ผิดธรรมชาติ ตอนที่อยู่ในรถเหงื่อเธอไหลเต็มไปทั่วร่าง อาการเธอปกติหรือเปล่าเนี่ย เพราะตอนที่อยู่ในห้องน้ำ หญิงสาวยังปฏิเสธเขาอยู่เลย
ร่างแกร่งกระหน่ำจ้วงครอบครองเธอไม่ยั้ง ทั้งเปลี่ยนมุมและลีลา เพื่อชําแรกให้ลึกล่ายิ่งกว่ากับขอบโซฟาจนร่างสาวสั่นไหวเหมือนตุ๊กตาผ้า สติสตังแทบไม่เหลืออยู่กับตัวยามเขากดตรึงสะโพกเพื่อโยกส่ายเข้าหา
ชายหนุ่มถอนตัวออกครั้งหนึ่งเพื่อกดเธอให้คุกเข่า จัดท่าให้มือ เล็กจับพนักพิงไว้แน่นแล้วรั้งเอวคอดสูงเพื่อสอดเสียบจากเบื้องหลัง ไม่นานนักเขาอุ้มร่างเปลือยเปล่าของเธอไปที่เตียงนอนโดยมีหญิงสาวโอบมือไว้รอบคอของชายหนุ่ม
“อือๆ” มุกไหมดิ้นพล่านเสียวแทบขาดใจเธอบดริมฝีปากของเขาแน่น เขารับจูบเธอมาอย่างตกใจแต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะร้อนแรงได้ถึงเพียงนี้ แถมมือเรียวของเธอยังยึดท้ายทอยของเขาเพื่อให้รับจูบที่ร้อนแรงจากเธอชายหนุ่มสอดลิ้นหนาเข้าไปกระหวัดรัดรึงเรียวลิ้นเล็กเล่นอย่างคุกคาม
จุมพิตที่แสนวาบหวามดำเนินไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง มุกไหมรับรู้ถึงความมึนงงของจุมพิตนั้นอย่างที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต
แขนแข็งแรงของเขากระชับร่างบางเข้ามาแนบชิดร่างแกร่งของเขายิ่งขึ้นรับรู้ถึงความนุ่มนิ่มอวบอัดของเรือนร่างจนทำให้เขาร้อนผ่าวไปหมดทั้งกาย
เรียวปากอวบอิ่มช่างหอมหวานจนหาสิ่งใดเปรียบได้ เรือนร่างอวบอิ่มอ่อนระทวยพักพิงไปกับเรือนร่างสูงสง่าอย่างยอมจำนน
เมื่อเขาจุมพิตจนพอใจใบหน้าหล่อเหลาก็ถอดถอนเรียวปากหนาออกมาจากเรียวปากหอมหวานอย่างอ้อยอิ่ง
เขาเอานิ้วหัวแม่มือลูบไล้ริมฝีปากอวบอิ่มที่บวมช้ำจากการ จุมพิตอย่างแผ่วเบา สายตาคมมองสบกับสายตาปรือเยิ้มที่กำลังมึนงงและสับสนอย่างทำอะไรไม่ถูกของเธอ
อีธานมองเรียวปากอิ่มสีชมพูจัดนั้นอย่างไม่วางตาและทำท่าจะก้มลงไปประทับจุมพิตอีกครั้งเมื่อเห็นหญิงสาวหวีดร้องอย่างสุขสม เมื่อเขาดันสะโพก แกร่งประชิดหน้าขาอวบตึงร้อนแรง มือสอดมาด้านหน้าเพื่อนวดเฟ้น กระตุ้นอารมณ์ร่วมอีกแรงจนช่องสวาทของเธอบีบรัดรอบกายใหญ่โตแทบ ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ จนต้องกระชากตัวเองออก
“อุ๊ย! อย่าไปค่ะ...อ่า อ๊ะ!”
อีธานคุกเข่าลงระหว่างท่อนขาเรียวซึ่งเขาจับแยกกว้าง พิศดูครู่ เดียวให้เต็มตา ‘นี่เขาเปิดซิงเธอหรือนี่’
แล้วก้มลงประทับปากควานหามุกไหมเสน่หาจนหญิงสาวครางครวญ เขาปักลิ้นชําแรกเลียตวัดไล้ตั้งแต่โคนจรดปลาย ดื่มด่ำความหวานล้ำที่หยาดเยิ้มออกมาเหมือนไม่มีวันหมด สะโพกกลมกลึงแอ่นสะท้าน ผสานเสียงกรีดร้องเมื่อความสุขครั้งที่สามมาเยือน
ยังไม่ทันหายใจให้ทั่วท้องจากภาวะบรมสุข ร่างแกร่งก็ เคลื่อนตัวขึ้น กระชับบั้นท้ายเต็มตึงไว้ในมือแล้วสอดจ้วงลึก
ลีลาร้ายเหลือของผู้ชายคนนี้ทําให้หญิงสาวหวาดหวั่น กลัวตกเป็น ฝ่ายถูกควบคุมเพราะมีประสบการณ์ภาคปฏิบัติน้อยนิดอย่างเทียบไม่ติดกายสาวไหวสะท้าน หมดสิ้นการควบคุมเมื่อเขาโถมกระแทก พลางสูดปาก มอบให้เธอจนหมดสิ้นทั้งความยาวใหญ่ล่ำและร้อนผ่าว เหมือนแท่งเหล็กที่ตอกตรึงลงทัณฑ์ให้เธอถูกไฟสวาทเผาผลาญหมดตัว
“โอ...อ่า อ้าขาอีกหน่อย กว้างๆ อีกนิด ทูนหัว” เสียงห้าวสั่งแหบพร่า หญิงสาวทําตามโดยไม่รู้ตัวแล้วแทบคลั่งเมื่อเขาขับเคลื่อนอย่างเมามัน พร้อมกับปลายนิ้วบดคลึงจุดยุทธศาสตร์ไม่ยั้งเพื่อไม่ให้เธอเจ็บแต่นาทีนั้นมุกไหมลืมสิ้นทุกสิ่ง เพราะประสาทสัมผัสแห่งความเป็นหญิงตื่นตัวถึงขีดสุดด้วยฤทธิ์แห่งยาปลุกเซ็กซ์
เขากระตุกรุนแรงในส่วนลึก แต่ยังดันแทรกบดขยี้ส่วนโคน หยาบๆ กับเนินนุ่ม เสียบตรึงแนบแน่นเป็นการส่งท้ายเพื่อมอบความสุข แสนเร่าร้อนให้กับเธออย่างเต็มเปี่ยม
มุกไหมพับไปเกือบหมดสติเมื่อรู้สึกเลือนรางว่าชายหนุ่มถอนตัวออกแผ่วเบา แล้วอุ้มเธอขึ้นแนบอก ปากอวบตึงขยับยกเป็นรอยยิ้มอิ่มเอม เสียงสุขุมที่ได้ยินคือเสียงสุดท้ายก่อนหญิงสาวจะม่อยหลับไป
เขาระงับสติอารมณ์ด้วยการเดินไปเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกาย แล้วนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมา
“บ้าจริง...นี่เธอยังไม่ตื่นอีกเรอะ” เขาล้มตัวลงนอนทั้งที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว
‘เอาวะ...แค่นอนกอดไปก่อนก็ได้เดี๋ยวตื่นมาค่อยว่ากัน’
มือหนาเลื่อนลงมากอบกุมหน้าอก หญิงสาวซุกกายเข้าหาไออุ่นหน้าอกอวบแนบชิดกับหน้าอกแข็งแกร่ง คนตัวใหญ่กอดร่างบางไว้แน่น
ติ๊ดๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้อีธานรีบควานหาเพราะกลัวหญิงสาวที่เขาเผลอกอดเธอเมื่อกี้ตื่นขึ้นมา เขาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของหญิงสาวแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมา ปลายสายมีชื่อกะพริบขึ้นที่หน้าจอ
เกรช
“น่าจะเป็นเพื่อน” ความคิดเจ้าเล่ห์ผุดออกมาจากหัวของชายหนุ่มกะทันหัน เขาหาวิธีที่จะได้หญิงสาวไว้นอนกก นอนกอดนานๆ แล้ว
“นี่!! มุก ตอนนี้อยู่ไหนแล้ว เธอไปเข้าห้องน้ำที่เมืองนอกหรอไงเนี่ย!!” เสียงตวาดดังลั่นโทรศัพท์ ทำให้อีธานต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างหูตัวเอง
“ขอโทษนะครับ พอดีว่ามุกหลับอยู่ มีธุระอะไรหรือครับ?”
“คุณเป็นใคร?” เกรชถามเสียงเหี้ยม นี่เพื่อนเธอไปอยู่กับใครกันแน่ เธอจำได้ว่าเผลอไปเต้นแค่เพียงแค่แป๊บเดียว ก็ไม่เห็นเพื่อนสาวของเธออีกเลย เกรชและก้องภพช่วยกันตามหาแต่ว่าก็ไม่เจอมุกไหมเลย สายที่โทรเข้ามาก็เกือบเป็นร้อยสายแล้ว
“ก็สามีของเพื่อนคุณไงล่ะ..” อีธานยังยั่วโมโหไม่เลิก
“อะไรนะ!!!”
“ตอนนี้เพื่อนฉันอยู่ไหน?” เกรชพยายามถามเพื่อที่จะได้ ตามหาเพื่อนของเธอ หรือไม่ก็แจ้งความได้ถูกต้อง
“ก็อยู่บนเตียงกับผมนะสิ!”
“อย่ามาเล่นลิ้นน่า ฉันจะไปรับเพื่อนฉัน บอกมาว่าคุณอยู่ไหน?” เกรชคิดว่าคงต้องเป็นคนในผับที่เอาตัวเพื่อนสาวของเธอไป ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามเธอต้องช่วยเหลือเพื่อนให้ได้
“ไม่ต้องมาหรอกครับ เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวผมก็ไปส่งให้เองแหละ”
อีธานกดวางโทรศัพท์ทันที แล้วโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอนอย่างไม่สนใจใยดี เขาจ้องมองใบหน้าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงเธอกะพริบตาถี่ๆ แล้วเริ่มบิดขี้เกียจ ท่าทางน่ารักนั้นทำให้เขาอดหอมแก้มเธอไม่ได้ มุกไหมสะดุ้ง ลืมตาโพลง เมื่อเห็นใบหน้าของอีธาน เธอก็กรีดร้องลั่น
“กรี๊ด!!!” อีธานรีบเอามืออุดหู ‘นี่หูเขาจะหนวกไหมเนี่ย’
“จะกรี๊ดทำไมเนี่ย??”
มุกไหมสำรวจมองดูตัวเอง เธอรีบดึงผ้าห่มมาปิดร่างของเธอไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็พบว่าเขามีสภาพกึ่งเปลือย มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กที่พันไว้รอบกายแค่นั้น
“กรี๊ด!!! ไอ้สารเลว ไอ้หื่นกาม” มือเล็กระดมทุบไปทั่วร่างหนา เธอหยิบหมอนขึ้นมาทุบแบบไม่ยั้ง
“โอ๊ย!! นี่เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย” อีธานตั้งตัวไม่ทันล้มตัวลงบนพื้น มุกไหมตามทุบไม่ยั้ง กระโดดขึ้นนั่งบนตัวชายหนุ่ม ทั้งทุบทั้งตี มือหนารวบข้อมือเล็กไว้ทั้งสองข้าง
มุกไหมยังร้องโวยวาย อีธานเหลือบตาไปมองเห็นหน้าอก
“เบา ๆ สิ ฉันเห็นหมดเลย” หน้าอีธานแดงเถือกขึ้นมาทันที
“ไอ้สารเลว ไอ้โรคจิต อย่าอยู่เลย...” อีธานพลิกร่างบางที่ยังร้องโวยวายของหญิงสาวให้นอนราบไปกับเตียง ในเมื่อตื่นแล้วก็ได้เวลาเสียที เขารอถามเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายรุกเขาก่อน
อีธานประกบริมฝีปากบางเข้าหาริมฝีปากเล็กทันที มุกไหมเบิกตากว้างพยายามดิ้นรน แต่อีธานก็กดทับไว้แน่นแทบหายใจไม่ออก เขาพยายามเสียดสีร่างหนาให้ถูไถกับทรวงอกเธอ มืออีกข้างจับหมับเข้าที่ปทุมถันของเธอ
มุกไหมร้องแต่ก็ถูกปิดไว้ด้วยริมฝีปาก ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปาก เขาจูบเธออย่างดูดดื่มจนเริ่มอ่อนแรง ได้แต่ร้องเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างกายท่อนบน ทำให้มุกไหมร้อนรุ่มไปทั้งตัว อีธานจ้องมองร่างบางที่นอนสั่นระริกด้วยความกลัว
“เธอจะกลัวอะไรนักหนา เมื่อกี้เรามีอะไรกันเธอจำไม่ได้หรือ”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ....แกมีสิทธิอะไรที่มาแตะต้องฉัน”
“ผมไม่มีวันปล่อยคุณหรอก...มุกไหม”
“นี่แก!.. แกรู้จักชื่อได้ยังไง?”
“ก็ถามคุณพ่อเธอดูสิ!..” อะไรกันเนี่ย มุกไหมคิดทบทวนเธอสับสนไปหมด นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา
“ฉันไม่รู้ว่าคุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง? แต่ถ้าคุณไม่ปล่อย ฉันจะแจ้งความ”
เขามองไปที่หน้าอก อวบเปล่าเปลือยเต่งตึงอยู่ตรงหน้า หญิงสาวรีบเอามือสองข้างขึ้นมาปิดทรวงอก เธอไม่อยากให้เขามองเห็นอะไรทั้งนั้น
“สวยเหลือเกิน” อีธานพึมพำแล้วซุกหน้าตัวเองไปหาหน้าอกอวบอิ่มที่มันใหญ่โตเกินขนาดรูปร่างเธอด้วยซ้ำ
“คุณ!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เมื่อต่อสู้ไม่ได้ มุกไหมจึงร้องขอ น้ำตาไหลอาบแก้ม อีธานชะงักเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ
“จะกลัวอะไรนักหนา อีกหน่อยคุณก็เป็นเมียผมแล้ว”
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้อะไรฉันยอมทุกอย่าง” อีธานที่กำลังจะก้มลงไปหาหน้าอกอวบชะงักทันที
“ว่าไงนะ จะให้ทำอะไรเธอก็ยอมอย่างนั้นเหรอ??”
“คุณอย่าทำอะไรฉันอีกเลย ฉันกำลังจะหมั้นและแต่งงานเร็ว ๆ นี้”
“ก็ผมไงคู่หมั้นคุณ”
“ห๊า!.. คุณนี่พูดเป็นเล่นไป”
“ถ้าเธอไม่เชื่อ...งั้นเธอแต่งตัว ฉันจะพาเธอไปส่งบ้าน” พูดจบก็ก้มลงไปจูบกับหน้าอกงามหนึ่งที ทำให้คนโดนจูบหน้าร้อนวูบวาบ อีธานหยิบเสื้อผ้าขึ้นใส่ ตรงหน้าหญิงสาว ทำให้มุกไหมต้องหันหน้าหนีทันที ‘คนบ้าอะไร หน้าด้านชะมัด’
“เร็วๆ สิ หรืออยากจะให้ฉันแต่งให้ถ้าให้ฉันแต่งให้รับรองคืนนี้ก็ไม่เสร็จ” มุกไหมก็รีบคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาปิดบังหน้าอกแล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที
“หึ!! ทำมาเป็นไร้เดียงสา เมื่อกี้ยังแสดงธาตุแท้ออกมาเลย” อีธานไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากเอาชนะผู้หญิงคนนี้นัก เขารู้แต่ว่าต้องได้ผู้หญิงคนนี้มาครองให้ได้
อีธานบอกคนขับรถตามทางที่มุกไหมบอก ลีมูซีนคันหรูผ่านพ้นประตูเข้ามา