Sinful Passion :: CHAPTER 4 [100%]

1303 Words
“เมื่อก่อนตัวเองก็ทำ แค่นี้ทำมาบ่น” “ไอ้ไฟ!” พร้อมจะพุ่งทำร้ายพี่ไฟได้ทุกเมื่อ แต่ก็ถูกน้าพิมห้ามปรามไว้ขณะนำจานสปาเก็ตตี้ไข่กุ้งมาวางให้ แต่พอเห็นแบบนี้ฉันก็ขมวดคิ้วทันทีมองคนตรงหน้าที่กำลังจะตักเส้นสปาเก็ตตี้กิน “พี่ไฟ” ใบหน้าหล่อเหลามองสบตากับฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขารู้อยู่แล้ว... รู้ว่าฉันต้องห้าม ไม่น่าเลยพะแพง “มีอะไรหรือเปล่าพะแพง?” เป็นน้าพิมที่ถามฉันกลับด้วยสีหน้าสงสัยไม่ต่างจากคุณชนะทิศ แต่พอฉันไม่พูดอะไรออกไปพี่ไฟก็ก้มหน้าจะตักสปาเก็ตตี้กินอีกครั้ง “หยุด” พูดพร้อมกับดึงจานสปาเก็ตตี้ของพี่ไฟมาไว้กับตัว จึงสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน “พะแพง ทำอะไรน่ะพี่เขากำลังจะกินนะ” น้าพิมเอ็ดฉันเสียงดุ “เอาจานคืนพี่ไฟเดี๋ยวนี้” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองคนข้างกายที่กระตุกยิ้มมุมปากก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายซะตอนนี้ มันเข้าแผนเขาไปหมดเลย... ฉันเพิ่งจะรู้ก็อีตอนนี้ “พะแพงทำไมดื้อ” “พี่ไฟกินไม่ได้” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ปิดไม่ได้สินะพะแพง “พี่ไฟแพ้ไข่กุ้ง” “!” ทุกคนต่างพากันเบิกตากว้าง ตกใจปนสงสัยที่ฉันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง เพราะดูจากสีหน้าทุกคนแล้วทั้งคุณชนะทิศ ป้าแต้วคงจะคาดไม่ถึงเช่นกัน “ฉันไม่เคยรู้มาก่อน ทำไมแก...” “ก็เคยสนใจอะไรบ้างล่ะ?” ได้ทีก็หยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบพลางพ่นควันไปอีกทางเพื่อไม่ให้โดนฉัน “คนนอกอย่างพะแพงรู้ มันไม่แปลกเหรอ” คำถามนี้คือของน้าพิม ซึ่งสายตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่ฉัน ยังคงปิดปากเงียบไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา “มันค่อนข้าง... ซับซ้อนน่ะครับ” เป็นพี่ไฟที่ตอบแทนฉันไปหมดทุกอย่าง “น้าขอโทษนะคะคุณไฟ น้าไม่รู้” “ไม่เป็นไรครับ น้าพิมเป็นคนอื่น” เน้นคำสุดท้ายเสียงแข็ง พี่ไฟกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะสูบเอาควันเข้าปอดและพ่นออกมาอีกครั้ง “ขนาดพ่อแท้ๆ ของผมยังไม่รู้เลยว่าผมชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร” “...” “แค่แพ้อาหารมันเรื่องเล็กครับ” ไม่เล็กเพราะถ้าหากพี่ไฟกินมันอาจจะถึงชีวิตได้ การแพ้อาหารไม่ว่าจะมากหรือน้อยมันก็อันตรายถึงชีวิตทั้งนั้น “พี่ขอบคุณหนูนะ” ฝ่ามือใหญ่วางบนศีรษะและรอยยิ้มที่ฉีกออกมาให้อย่างอ่อนโยน เล่นงานฉันหนักพอควรเลยจำต้องหลีกเลี่ยงสัมผัสเขาโดยการเอี้ยวศีรษะตัวเองออก พี่ไฟจึงยกมือขึ้นและยกน้ำขึ้นดื่มหลังจากสูบบุหรี่เรียบร้อยแล้ว “แกก็บอกฉันสิ” ระหว่างที่พี่ไฟลุกขึ้นคุณชนะทิศก็พูดขึ้นมาบ้าง สีหน้าของเขาฉันเห็นชัดเลยว่าเขาต้องการเข้าไปให้ถึงตัวของพี่ไฟ แววตาแบบนี้เหมือนกับน้าพิมตอนที่พยายามเข้าถึงตัวของฉันในวันนั้น “บอกมา ฉันจะได้รู้” “จำเป็นด้วยเหรอ?” แต่พี่ไฟก็คือพี่ไฟ เขายังคงเป็นผู้ชายที่แข็งกระด้างอยู่เสมอ บทจะอ่อนโยนก็ทำเอาคนที่เกลียดแทบตายใจละลายได้ บทจะแข็งกระด้างก็พาให้เกลียดจนไม่อยากจะมองหน้า และฉันเคยเป็นแบบนั้นไง... เกลียดเขาจนถึงที่สุด บนโต๊ะอาหารหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ว่านั้น ฉันก็ปลีกตัวขึ้นมาบนห้องของตัวเองแม้ว่าน้าพิมจะสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากฉันไม่อยากพูดน้าพิมจะไม่บังคับฉะนั้นฉันก็โล่งใจไปว่าคงไม่มีใครคาดคั้นฉันในเรื่องนี้ได้ เวลาตอนนี้บ่งบอกว่าห้าทุ่มกว่าแล้วที่พี่ไฟออกจากบ้านไปตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันก็นอนเล่นบนเตียงพลางอ่านหนังสือเพราะก่อนหน้านั้นเพิ่งจะคุยกับใบเตยไป แต่ด้วยเพราะว่าไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เย็น เพราะฉันไม่ลงไปทานข้าวด้วยจึงเดินลงมาเปิดไฟในห้องครัวหยิบเหยือกนมสดและแก้วมาเท พลางพิงขอบโต๊ะมองออกไปยังกระจกตรงซิงค์ล้างจานที่เห็นสระว่ายน้ำและสวนด้านหลัง พลันได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถดังเข้ามา “ทำอะไรอยู่?” หันไปตามเสียงจึงเห็นว่าพี่ไฟที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมจนเห็นแผงอก เดินพับแขนเสื้อจนถึงข้อศอกมาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำไปกรอกผ่านลำคอ ฉันมองภาพตรงหน้าก็ไม่คิดจะตอบอะไรเขาจนพี่ไฟหรี่สายตามอง “ไม่ตอบพี่เหรอ” “กินนมค่ะ” ก็เห็นอยู่หรือเปล่า ทำไมจะต้องให้ตอบด้วย “แล้วไม่ได้กินอะไรหรือไง” ส่ายหน้าแทนที่จะพูด พี่ไฟจึงถอนหายใจเดินไปเปิดตู้เหนือตู้เย็น ฉันมองการกระทำของเขาพักหนึ่งจึงเห็นว่าสิ่งที่พี่ไฟหยิบติดมือมาคือซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไม่อิ่มหรอก” “แพงอิ่ม” “ไม่อิ่ม” อยากจะเอาเล็บตะกุยหน้าเขาให้พังยับเลย บอกก็ไม่เชื่อจึงได้เห็นถ้วยบะหมี่ที่ปิดฝากรอเวลาเส้นนุ่ม พี่ไฟก็ยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์ครัวมองฉัน “พี่คิดว่าหนูจะลืมไปแล้ว” ควันบะหมี่ลอยคลุ้งเข้าหน้าพร้อมกับคำถามของพี่ไฟที่ทำให้ฉันจำต้องค้างตะเกียบไว้ในมือยังไม่ทันได้ตักมันกินดีด้วยซ้ำ คงจะหมายถึงเรื่องที่ฉันจำว่าเขาแพ้กุ้งได้ล่ะมั้ง “จะให้แพงทำเฉย” พูดตอบไปแค่นั้น ก็คิดคำพูดที่ควรพูดออกไป “ไม่งั้นพี่ไฟแย่” “พี่ต้องเจอคนพูดน้อยอย่างไอ้ราม แล้วต้องมาเจอหนูอีกเหรอเนี่ย?” รามเกียรติ์ ชื่อนี้ฉันรู้จักดีพอๆ กับลี้เทียนเลยล่ะ เพียงแต่ว่ารามเกียรติ์เพื่อนสนิทพี่ไฟคนนี้จะเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเนือย ถามคำตอบคำเหมือนกับฉันในตอนนี้ “แพงแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ” เพราะถ้าไม่ห้ามคนอย่างพี่ไฟคงไม่หยุดหรอก เขาจะต้องกินมันแน่ๆ เพื่อวัดใจฉัน “แต่พี่ไฟก็ไม่หยุด” “พี่อยากเห็นว่าหนูจะห้ามพี่ไหม” ตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินตรงมาเท้ามือบนโต๊ะและโน้มใบหน้าลงมาเสมอกับฉัน ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าฉันไปทั่วตามด้วยฝ่ามือเย็นที่แตะลงบนแก้ม “แล้วก็ได้เห็น” “...” กลืนน้ำลายลงคอกำตะเกียบในมือแน่น ค่อยๆ เบือนหน้าหนีฝ่ามือของเขาจนพี่ไฟขยับตัวออกห่าง “กินให้อร่อย” ทิ้งท้ายด้วยการยีศีรษะฉันพลางเดินออกห่างไป ฉันจึงก้มหน้าลงมองถ้วยบะหมี่ที่แม้จะไม่ได้พิถีพิถันอะไรมาก หากแต่มันก็เป็นฝีมือของเขาที่ฉันจำต้องกินมันให้หมด ฉันสับสนและมึนงงไปหมดแล้วตอนนี้ พี่ไฟต้องการอะไรกันแน่ถึงได้เข้ามาทำแสนดีทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาแสดงตัวว่าต้องการจะเอาคืนทุกคนที่ทำให้เขาต้องเจ็บ ในเมื่อคาดเดาอะไรไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือปกป้องตัวเองให้ถึงที่สุด... อย่าได้ตกหลุมพรางที่เขาสร้างขึ้นอีกนะพะแพง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD