“ให้แต้วมาป้อน” คุณชนะทิศรีบขัดคำอ้อนวอนของพี่ไฟทันที ก่อนจะมองด้วยสายตาจับผิด “ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่?”
“คิดอะไรอะ” ตอบกลับด้วยท่าทางที่ไม่รู้ไม่ชี้ “คิดว่าผมจะเหมือนพ่อเหรอ?”
“...”
“เหมือนอยู่แล้ว พ่อลูกกันนี้” พี่ไฟตอบกลับเล่นงานคุณชนะทิศไปพักหนึ่งเลย จากนั้นพี่ไฟก็ลุกขึ้นหลังจากที่แตะข้าวต้มไปแค่นิดเดียวก็ยกน้ำขึ้นดื่ม “พี่ไปรอที่รถนะ”
บอกฉันแค่นั้นก็เดินหมุนตัวออกจากห้องอาหารไป เพราะไม่อยากให้เขารอนานอีกอย่างวันนี้คณะฉันมีนัดร่วมตัวทำกิจกรรมเลือกเดือนและดาวคณะน้องใหม่ ฉันจึงส่งข้อความบอกใบเตยว่ากำลังจะออกไป เมื่อเดินออกมาพร้อมกับคุณชนะทิศที่ยืนส่ายหน้าให้กับร่างสูงที่พิงรถปอร์เช่สีดำสุดหรูของตัวเอง พลางพ่นควันบุหรี่ลอยคลุ้งไปทั่วซึ่งฉันก็เดินตรงไปหยุดด้านข้างคนขับพี่ไฟจึงหันมายิ้มให้กับฉัน
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากบ้าน ภายในรถก็เงียบสนิทไม่เหมือนกับเมื่อวานนี้เลยที่พี่ไฟทำตัวแย่ใส่ฉัน วันนี้เขากลับผิวปากอย่างอารมณ์ดีขณะจอดรถติดไฟแดงก็ลดกระจกลงหยิบกล่องบุหรี่ขลิบเขียวซึ่งเป็นบุหรี่ที่มีกลิ่นหอมเย็นๆ เหมือนกับเมนทอล “ไม่รีบใช่ไหม พี่ขอแวะร้านสะดวกซื้อหน่อย”
“ค่ะ” ตอบกลับไปแค่นั้นพี่ไฟก็เคลื่อนตัวรถไปยังร้านสะดวกซื้อ พลางลงจากรถไปแต่ไม่วายก็โค้งตัวลงมาหาฉันที่นั่งตัวเกร็งอยู่
“อยากได้อะไรหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ” พี่ไฟพยักหน้ารับก็เดินตรงเข้าร้านสะดวกซื้อไป ไม่ช้าเขาก็ออกมาพร้อมกับในมือที่ถือกล่องบุหรี่ยี่ห้อประจำตัวกลับมาสองกล่อง แต่ออกรถไปไม่เท่าไหร่พี่ไฟก็หันมาสบตากับฉัน
“พี่ยังไม่รู้เลยว่ามหาลัยที่เราเรียน อยู่ที่ไหน?” ฉันบอกเส้นทางให้พี่ไฟรู้เขาก็ทำหน้ามึนงงไม่น้อย ก่อนจะหันมามองฉันและมองมายังเข็มมหาลัยที่ติดอยู่ “บังเอิญเกิน”
พูดแค่นั้นแต่ฉันก็ไม่คิดจะถามอะไรต่อ เนื่องจากไม่อยากจะสนิทกับเขาไปมากกว่านี้แล้ว ฉันไม่รู้... ว่าพี่ไฟจะมาไม้ไหน แต่ที่แน่ๆ ลักษณะแบบนี้ของเขามันทำให้ฉันรู้สึกปั่นป่วนในหัวใจมากทีเดียว
Rrr
สมาร์ทโฟนที่ดังครืดอยู่ในล็อกวางแก้วน้ำ ทำให้พี่ไฟหยิบขึ้นมากดรับสายโดยไม่มองแม้สักนิดว่าใครโทรมา “เออ อีกยี่สิบนาที... กูไม่สาย ควาย! แค่นี้นะ”
“ถ้าพี่ไฟรีบ จอดให้แพงลงตรงนี้ก็ได้นะคะ” เพราะดูเหมือนเขาจะไม่ว่างจึงได้เอ่ยปากให้เขาจอดที่ป้ายรถเมล์แต่พี่ไฟกลับส่ายหน้าไปมาจึงเอ่ยคำพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เพื่อนพี่มันรอไปเหอะ ยังไม่ถึงเวลาเข้าคลาสสักหน่อย” หันไปมองใบหน้าด้านข้าง ซึ่งก็เป็นจังหวะที่พี่ไฟหันมาสบตากับฉันพอดี “มีอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่าค่ะ” ตอบกลับทั้งที่ในใจมันว้าวุ่นไปหมดเพราะเขา
“พี่ไม่ชอบให้แพงเป็นแบบนี้เลย” จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ด้วยความสงสัยจึงหันไปมองพี่ไฟที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถเพื่อไปส่งฉันที่มหาลัย
“แบบไหนคะ?”
“แบบที่เป็นอยู่” กลืนน้ำลายลงคอพลางกัดปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บ “หรือเพราะว่า...”
“ที่แพงเป็นเพราะตัวเองค่ะ ไม่ใช่เพราะใคร”
“อ่า” ขัดคำพูดพี่ไฟซึ่งเขาก็พยักหน้ารับเข้าใจ ก่อนจะหักเลี้ยวรถมาเข้ามาในคณะของฉันกระทั่งเข้ามาจอดโดยที่ฉันไม่ได้บอกเลยว่าคณะบัญชีของตัวเองอยู่ที่ไหน ราวกับว่าเขาเคยมาที่มหาลัยแห่งนี้มาก่อน ร่างสูงลงจากรถและมองเข้าไปในคณะของฉัน “ตั้งใจเรียนนะครับ”
“ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” ฉันบอกแค่นั้นแต่ก็ต้องหยุดชะงักเท้าที่จะเข้าไปยังคณะซะก่อน เมื่อพี่ไฟเรียกรั้งฉันไว้ “คะ?”
ร่างสูงเดินมาหยุดตรงหน้าฉันแน่นอนว่าพี่ไฟในลุคแบดบอยคือสาวๆ หลายคนต่างพากันมองเขาตาไม่กระพริบ พี่ไฟหยิบมือถือของตัวเองออกมาพร้อมกับยื่นมันมาตรงหน้าฉัน “พี่ขอเบอร์เราหน่อย”
“...”
“จะได้มีไลน์ติดต่อกัน หนูเลิกเรียนต่อไหน ให้ไลน์บอกพี่เดี๋ยวพี่มารับ”
“แพงไม่รบกวน...” จะปฏิเสธแต่พี่ไฟก็ยื่นมือมาลูบศีรษะฉันเบาๆ
“ไม่รบกวนครับ หนูแค่ไลน์บอก พี่จะรีบมาทันที” คำที่เขาใช้กับฉันว่า ‘หนู’ มันทำให้หัวใจของฉันไม่เป็นสุขเลยเมื่อตัดสินใจรับมือถือของพี่ไฟมากดเบอร์โทรตัวเองลงไป สักพักพี่ไฟก็กดอะไรสักอย่างมือถือของฉันก็ดังขึ้นเป็นเบอร์ของพี่ไฟและไลน์ที่เด้งขึ้นมาว่า ‘Forfai’
“ไลน์หนู PapangPP เนาะ” ชูหน้าจอให้ฉันดูก่อนจะลองกดสติ๊กเกอร์เป็นรูปตุ๊กหมีถือหัวใจ
“ค่ะ”
“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ” พี่ไฟได้สิ่งที่ต้องการก็โบกมือให้ฉันก่อนจะขับรถจากตรงนี้ไป เมื่อหมุนตัวจะเข้าไปในคณะสายตาของทุกคนก็จับจ้องฉันไม่วางตาเลย อาจจะเพราะส่วนหนึ่งฉันสวยและพี่ไฟก็หล่อแบดมาก จึงได้ความว่าที่มองคือมองพี่ไฟมากกว่ามองฉัน
“พะแพง!” ใบเตยที่วิ่งหน้าตาตื่นมาชะโงกหน้าไปยังด้านหลังของฉัน “ใครมาส่ง”
“ไปนั่งก่อน” ตอบได้แค่นั้นก็จูงมือใบเตยไปนั่งใต้ต้นไม้ซึ่งนักศึกษาหลายคนก็พากันซุบซิบและมองฉันเป็นระยะ
“ว่าไง เขาทำอะไรแบบนั้นอีกปะ?!” ไม่ว่าเปล่าก็จับตัวฉันหมุนไปมาก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อน