บอกพร้อมกับหยิบเงินเดินแยกไปอีกซอย ข้างสหกรณ์ เพื่อสั่งซื้อเนื้อหมู เธอเช็กคะแนนแต้มล่าสุดว่ามีอยู่เท่าไหร่แล้ว
ข้อมูลส่วนตัว
วันที่ปัจจุบัน : 09/09/1974
ชื่อผู้ใช้ระบบ : จ้าว อิงเยว่ ลำดับที่ 901
อายุ : 17 ปี (เกิด 11/08/1957)
สถานะ : หมั้นหมายแล้ว
สมรรถภาพ : ปกติ
คะแนนใหม่ : 500 แต้ม
คะแนนสะสม : 498,700 แต้ม
เหรียญทองใหม่ : -
เหรียญทองสะสม : 350,000 เหรียญ
อิงเยว่ สั่งซื้อเนื้อหมูชั้นดี 4 ชั่ง 100 แต้ม / สามชั้น 4 ชั่ง 100 แต้ม คิดว่าแค่นี้ก็คงพอใช้เป็นอาทิตย์แล้ว เพราะถึงยังไงก็มีอย่างอื่น เช่น ปลาที่พ่อหาได้เรื่อย ๆ มาทำคละกันไป ส่วนผักเธอก็ใช้ผักที่น้องชายไปเก็บและผักที่ปลูกที่บ้านได้ เพราะมีอยู่หลายแปลงปลูกหมุนเวียนไปเรื่อยๆ หลังจากได้ของก็หิ้วถุงที่หนักพอสมควรเดินออกมา เหอตี้ที่เฝ้ามองอยู่แล้วเห็นคู่หมั้นหิ้วถุงเนื้อมา จึงวิ่งเข้าไปช่วยถือทันที
" ได้เยอะเลยนะครับเงินพอไหม "
" พอค่ะ งั้นรีบกลับเถอะค่ะ"
" พี่เขยสามผมช่วยถือครับ"
"ไม่ต้องหรอก ไม่หนักอะไร"
นั่งรถกลับมาถึงหมู่บ้าน เหอตี้เดินหิ้วเนื้อหมูไปส่งที่บ้านจ้าวก่อน เขาจึงจะกลับไปลงชื่อทำงานตอนบ่ายอีกที
" เอ้า มากันแล้วเหรอ " ย่าจ้าวถาม
" ค่ะ /ครับ " อิงเยว่ /หลี่เจี้ยน
" ซื้ออะไรมาเยอะเชียว " ย่าทักเพราะเห็นถุงที่หลานเขยหิ้วอยู่
" คุณย่าค่ะ พี่เหอตี้ เขาจะขอมาฝากทำข้าวปิ่นโต ที่บ้านหนูคิดว่าไม่ยากอะไร จึงรับทำปิ่นโตให้พี่เขาน่ะค่ะ แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตคุณย่าเลย"
" จะเป็นไรไป คนกันเองแต่เวลารับส่ง ก็จัดการกันดีๆ แม้จะหมั้นหมายแล้วก็อย่าให้คนนินทาเอาได้"
" เรื่องนั้นคุณย่าไม่ต้องห่วงครับ ผมให้อาเจี้ยนเป็นคนไปรับ ส่ง ครับ หรือถ้าไม่สะดวกผมจะมารับเอง ไม่ให้อิงเอ๋อ ถูกนินทาหรอกครับ"
" อืม แบบนั้นก็ดี ย่าไม่ได้ว่าอะไรหรอก "
" ขอบคุณค่ะ / ครับ"
" วันนี้มื้อเที่ยงก็ทานที่นี่เลยนะคะ ฉันขอไปเปลี่ยนชุดแล้วจะมาทำกับข้าวใกล้พักเที่ยงแล้ว "
" ครับ ให้ผมช่วยไหม" เหอตี้
"ไม่เป็นไรหรอกอาเหอ สะใภ้รอง บ้านเจ้าใหญ่เขาหุงข้าวไว้แล้ว นี่คงเตรียมของไว้รอแค่ปรุง แต่คงรอ อาอิงกลับมาปรุงแค่นั้น "ย่าจ้าวบอก
อิงเยว่ จึงรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและมาเตรียมทำอาหารกับพี่สะใภ้เหมือนเดิม ซึ่งพี่สะใภ้ก็รู้หน้าที่เป็นอย่างดี คอยหั่นผัก หั่นเนื้อ และเตรียมคุมไฟ ส่วนอิงเยว่ ก็มีหน้าที่ผัดและปรุงอาหารเท่านั้น เสียงแตรสัญญาณดังขึ้น กับข้าว 3 อย่างก็เสร็จพอดี หลี่เจี้ยนมาช่วยเตรียม ถ้วย ชาม ช้อนตะเกียบ และจัดโต๊ะ เมื่อทุกคนกลับมาก็ล้างมือ มารวมที่โต๊ะอาหาร ลุงใหญ่กับป้าสะใภ้ก็กลับมาถึงบ้านพอดี เหมือนกัน
" เจ้าใหญ่ พาอาเถาไปไว้บ้านน้องสาว แบบนี้ไม่เกรงใจน้องเขยหรือ" ปู่จ้าวถาม เพราะพึ่งรู้เรื่องหลังจากที่ลูกชายลูกสะใภ้ออกจากบ้านไปแล้ว
" เกรงใจครับแต่ผมก็หวังว่าอาเถาอาจจะคิดได้บ้าง อยู่กับคนอื่นดูบ้างจะได้รู้ว่ามันไม่สบายเหมือนอยู่บ้าน น้องเขยบอกว่าโรงงานใกล้จะเปิดรับคนเพิ่มถ้าได้ทำงาน อาเถาจะได้ช่วยน้องรองจ่ายค่าใช้จ่ายได้บ้าง"
" ถ้าทางน้องเขยแกไม่ว่าอะไรก็แล้วไปแต่ยังไงก็ต้องส่งข้าวสารให้ส่วนของลูกสาวแกไปกินด้วยล่ะ"
" ครับ ผมรู้แล้ว "
" น้องแกสบายดีไหม "
" สบายดีครับ เลี้ยงหลานชายอยู่บ้าน หลานสะใภ้ ก็ทำงานโรงงาน แต่ตอนไปหลานเล็กยังไม่ตื่นครับแม่ อ้อ เจ้าสาม วันหมั้นอาอิง แกก็อย่าลืมไปบอก พี่สาวรอง กับน้องเล็กล่ะ "
" ครับ พี่ใหญ่ "
อิงเยว่ เห็นว่าทุกคนคุยกันเสร็จแล้ว จึงอยากบอกเรื่องผลการเรียนเพราะยังไงก็ต้องบอกพ่อแม่ปู่ย่า อยู่แล้ว
" ทุกคนคะ หนูมีเรื่องจะบอกค่ะ เทอมนี้หนูสอบได้อันดับ 1 ค่ะ เปิดเทอมจะมีการมอบทุนการศึกษาและใบประกาศนียบัตร ให้พ่อกับแม่ไปร่วมถ่ายรูปด้วยนะคะ"
" โอ้ พี่สาวเก่งมากเลยครับ " หลี่เจี้ยน
" แล้วเราหละอาเจี้ยน ผลสอบเป็นยังไง" พ่อ
" ผมผ่านหมดครับ แต่ไม่ได้สูงมากครับ"
" แค่นี้ก็เก่งแล้ว ต่อไปก็ให้พี่สาวช่วยสอน" ปู่บอก
" ครับ พี่สาว ต่อไปต้องรบกวนพี่สาวแล้ว"
" หึหึ ได้เลยพี่ไม่หวงวิชาหรอก เตรียมตัวรับดีดีเถอะ"
" อิงเอ๋อ ลูกทำให้พ่อแม่ ภูมิใจมากนะ " พ่อบอก
" เก่งมากครับ " เหอตี้
" ติ้ง..+300 แต้ม คะแนนความพึงพอใจจากครอบครัวและคู่หมั้น "
" ขอบคุณค่ะ" อิงเยว่ ยิ้มหน้าบานให้ทุกคนที่มีส่วนให้เธอได้คะแนนในครั้งนี้
ทุกคนมีความสุขที่ได้ทานอาหารอร่อยทั้งยังได้รับข่าวดีแบบนี้อีก ปู่จ้าวดูเหมือนจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษอีกด้วย ปู่จ้าวได้สอบถามเหอตี้ เรื่องที่พ่อแม่ว่าจะมาได้ไหม เหอตี้จึงบอกว่าพี่แม่จะมาถึงในอีก 5 วันข้างหน้าเพื่อมาเตรียมตัวล่วงหน้า แต่ไม่มั่นใจว่าจะมีใครมาบ้าง ซึ่งย่าจ้าวก็สั่งให้ หลี่อิง พาอิงเยว่ ไปซื้อชุดและเตรียมของมาให้พร้อมแต่เนิ่นๆ ของทุกอย่างที่ต้องใช้ในพิธีเผื่ออันไหนไม่มีจะได้หาซื้อที่อื่นทัน แม่หลี่อิงจึงต้องเข้าเมืองในเช้าวันถัดมาพร้อมอิงเยว่
ตอนเช้าอิงเยว่ ต้องรีบตื่นมาทำกับข้าวใส่ปิ่นโต และของคนอื่นๆ โดยมีแม่และป้าสะใภ้ออกมาช่วย ทำเวลาไม่นานก่อนจะเข้าเมืองกับแม่ เพื่อไปซื้อของและชุดไว้ใส่วันหมั้นกับแม่ ดูเหมือนตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่จะเดินทางเข้าเมืองแทบทุกวัน ซึ่งในเมืองก็ไม่ได้มีอะไรมาก ชุดที่มีขายก็เป็นชุดทั่วไปแบบธรรมดา แต่สำหรับเธอเสื้อผ้าไม่ใช่สิ่งที่เธอใส่ใจไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม จึงคิดว่าอะไรก็ใส่ได้แต่ต้องสะอาดถูกกาลเทศะก็พอ ตอนนี้ที่ตัวเธอมีเงินอยู่หลายหยวนเพราะได้ค่าเนื้อมาจากเหอตี้เมื่อวานยังไม่ได้ใช้ เธอจึงคิดว่าจะเก็บไว้ให้แม่เผื่อไม่พอ ถ้าแม่ถามก็บอกตามตรงว่าเหอตี้ให้มาแค่นั้น แม่คงไม่ไปถาม คู่หมั้นเธอหรอกว่าให้ทำไม
แม่พาอิงเยว่ ไปที่ห้างฯที่ร้านค้าของรัฐ เพื่อดูที่ร้านขายชุดเสื้อผ้าต่างๆ ก่อนแล้วค่อยไปหาซื้อของอื่นทีหลัง
" สวัสดีค่ะ หาชุดอะไรอยู่ค่ะ " พนักงานขายถาม
" ฉันอยากได้ชุดวันหมั้นของลูกสาวค่ะ "
" คนนี้ใช่ไหมคะ" พนักงานถามพร้อมกับหันมาหาอิงเยว่
" ใช่ค่ะ " แม่หลี่อิง
" หุ่นแบบนี้หาชุดง่ายค่ะ มาทางนี้ค่ะมีให้เลือกเยอะเลย"
พนักงานพาไปเลือกชุดด้านใน ซึ่งมีชุดหลายแบบแขวนอยู่ อิงเยว่เลือกชุดที่ดูไม่รุงรังเรียบๆ ธรรมดาเพราะไม่ชอบที่ฟูฟ่องมากเกินไป แต่เธอไม่รู้เลยแบบที่เธอเลือกเป็นแบบที่เรียบแต่ผ้าดีและแพงมากที่สุด ถึง 150 หยวน และชุดทั่วไปอยู่ที่ 80-100 หยวน ก็แพงมากแล้ว แม่หลี่ เห็นลูกสาวชอบ ก็กัดฟันจ่ายเงินออกไปโดยไม่พูดอะไร อิงเยว่ พอรู้ราคาก็แทบอยากวางชุดลงเหมือนกัน แต่แม่ก็ให้เธอได้ใส่แบบที่ชอบ ที่ผ่านมาเสื้อผ้าใหม่ก็ได้ปีละ 2 ชุด ซึ่งถือว่าน้อยมาก ชุดวันหมั้นก็อยากให้ลูกได้ใส่แบบที่ชอบบ้าง คงไม่เป็นไร
🙏ขอบคุณค่ะ♥️