ความเงียบก่อตัวขึ้นในวิลล่าหรูหรา มีเพียงเสียงลมหายใจเบา ๆ ที่แฝงความอึดอัดระหว่างทั้งสองคน ภาคินยืนพิงผนัง มองไปยังลลนาอย่างไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นการสนทนายังไงดี ส่วนลลนานั่งอยู่ริมหน้าต่าง เบือนหน้าออกไปชมทิวทัศน์ภายนอกที่เงียบสงบ เธอค่อย ๆ ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเรียบเฉย แต่ในใจกลับว้าวุ่น ราวกับพยายามหลบหนีความรู้สึกที่ทับถมอยู่ภายใน
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง ความใกล้ชิดของทั้งสองที่เคยคุ้นเคยกลับกลายเป็นเหมือนเขตแดนที่ไม่สามารถข้ามผ่านได้ง่าย ๆ ภาคินลอบถอนหายใจ หวังว่าการพูดอะไรบางอย่างอาจจะช่วยทำลายความเงียบนี้
ภาคินเดินอย่างเงียบเชียบไปที่โต๊ะวางขวดไวน์ ก่อนรินของเหลวสีแดงเข้มลงในแก้วคริสตัล เสียงไวน์ไหลกระทบแก้วแผ่วเบาแต่ชัดเจนท่ามกลางความเงียบ เขายกแก้วขึ้นจิบช้า ๆ แล้วเดินกลับไปนั่งทอดยาวบนโซฟา เบือนสายตาไปยังลลนาที่กำลังยืนอยู่ริมหน้าต่าง
เธอยังคงถือแก้วไวน์ไว้ในมือ ร่างบางของเธอยืนในแสงสลัวที่สะท้อนเข้ามาจากภายนอก ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด ภาคินมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความหลงใหลและความคาดหวัง สาวน้อยของเขาช่างดูสวยสง่า แม้ในยามที่ความเงียบครอบงำ
ลลนาหันตัวหลบออกจากสายตาของภาคินช้า ๆ ก่อนเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างเงียบเชียบ เสียงฝีเท้าของเธอเบาแทบไม่ได้ยิน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ยังคงสอดประสานอยู่ในความเงียบงันนั้น สายตาของภาคินยังคงติดตามเธออย่างเงียบงัน ความรู้สึกที่อัดแน่นในใจเขาไม่ได้ถูกเอ่ยออกมา
"หิวรึยัง" เสียงเข้มของภาคินดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำลายความเงียบที่กดดันบรรยากาศมานาน ลลนาที่กำลังจะปิดประตูห้องนอนหยุดชะงัก คำถามนั้นแทรกเข้ามาอย่างไม่คาดคิด ราวกับเป็นความพยายามที่จะดึงเธอกลับมาให้ใกล้กันอีกครั้ง
เธอหันมองผ่านบานประตูแง้มเล็กน้อย สบตากับเขาเพียงชั่วครู่ก่อนตอบเบา ๆ แต่แฝงด้วยความหนักใจ
“ยังค่ะ”
"อาบน้ำก่อนแล้วออกมานะ เดี๋ยวทำอะไรให้กิน"
เสียงของภาคินอ่อนโยนลงกว่าที่เคย ดวงตาของเขาสบกับเธอ แฝงด้วยความห่วงใยที่เขาไม่เคยแสดงออกบ่อยนัก
ลลนายืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอน ความอ่อนโยนในน้ำเสียงนั้นทำให้หัวใจเธอหวั่นไหว เธอมองเขาอีกครั้ง สายตาที่บอกถึงความตั้งใจของเขา ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ ไม่ได้ตอบอะไรเพิ่ม แล้วหายเข้าไปในห้องนอน
เธอนั่งอยู่ปลายเตียงในห้องนอน หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ยังอ้อยอิ่งอยู่ ไม่กล้าก้าวออกไปข้างนอก ใจเธอรู้ดีว่าการเผชิญหน้ากับภาคินเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความรู้สึกที่สับสนยังทำให้เธอลังเล สายน้ำที่เคยช่วยปลอบประโลมดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้ความหนักใจของเธอบรรเทาลง
ถอนหายใจยาว ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง มองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ความอ่อนแอและความสับสนที่ปะทุขึ้นในใจทำให้เธอหยุดนิ่งไปอีกครั้ง แต่ลลนารู้ว่าหนีไปตลอดไม่ได้
“ยังไงก็ต้องคุยกันอยู่ดี”
ลลนาก้าวออกจากห้องในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวตัวเล็ก เนื้อผ้าแนบเนียนไปกับผิวอ่อนเยาว์ที่เต็มตึง ร่างสวยของเธอเคลื่อนออกมาอย่างช้า ๆ ท่ามกลางแสงเทียนที่ไหววับ โต๊ะริมหน้าต่างซึ่งทอดยาวมองออกไปเห็นทะเลที่มืดลงแล้ว เป็นภาพที่ชวนให้เงียบงัน สายลมเย็นจากทะเลพัดเข้ามาเบา ๆ
ภาคินที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับตะลึงกับความงดงามของเธอในยามนี้ สายตาของเขาไม่อาจละจากเธอได้ ราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ที่แผ่ออกมาจากร่างบาง เขาก้าวเข้ามาหาเธออย่างไม่รู้ตัว มือใหญ่ยื่นออกไปกุมมือน้อย ๆ ของเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วค่อย ๆ เลื่อนเก้าอี้ออกสำหรับเธอ
“นั่งเถอะ”
เสียงของเขานุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขากดไหล่เนียนใสของเธอเบา ๆ ให้เธอนั่งลง สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจเธอเต้นแรง รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่เคยคาดคิด
ภาคินเดินออกไปที่เคาน์เตอร์ครัว ก่อนหยิบจานสเต็กที่ย่างอย่างดีออกมาวางบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง บนโต๊ะนั้นยังมีอาหารหลายจานจัดเตรียมไว้อย่างประณีต ทั้งซุปเฟรนช์ออเนี่ยนหอมกรุ่นและสลัดผักสดที่เธอชอบ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกจัดวางไว้ด้วยความเอาใจใส่
ลลนามองอาหารตรงหน้า รู้สึกถึงความอ่อนโยนที่แฝงอยู่ในทุกจานที่เขาทำ หัวใจของเธอเริ่มสั่นคลอนเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าภาคินยังคงจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเธอได้เสมอ
"เขายังจำได้เหรอ..."
เธอคิดในใจ ความรู้สึกอุ่น ๆ ค่อย ๆ แทรกเข้ามาในใจของเธอ ขณะที่สายตาเธอจับจ้องไปที่อาหาร และเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเงียบ ๆ รู้สึกถึงความผูกพันที่ยังคงอยู่
ทั้งคู่ทานอาหารกันเงียบ ๆ ภาคินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ลอบมองลลนาเป็นระยะ ขณะที่เธอยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอย่างเงียบเชียบ แสงเทียนที่ริบหรี่ซึ่งควรจะสร้างบรรยากาศโรแมนติกกลับยิ่งทำให้ความอึดอัดระหว่างพวกเขาเพิ่มขึ้น ความเงียบงันในค่ำคืนนี้เหมือนจะยิ่งขยายช่องว่างระหว่างกันออกไป
ลลนาจิบไวน์แก้วแล้วแก้วเล่า ราวกับต้องการให้ความรู้สึกมึนเมาช่วยลบเลือนความคิดว้าวุ่นในใจ ทุกครั้งที่ยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก เธอรู้สึกเหมือนจะหนีห่างจากความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที แต่ความเงียบระหว่างพวกเขากลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกกดดันมากขึ้น
ภาคินมองเธอเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับตีกันยุ่ง ความสวยของเธอในยามนี้ที่ถูกแสงเทียนอาบไล้ทำให้เขาหวั่นไหว แต่ความอึดอัดระหว่างพวกเขากลับชัดเจนเกินกว่าจะทำลายได้ง่าย ๆ
"คุณลุงคะ... อาทิตย์หน้าหนูจะกลับอังกฤษค่ะ"
ลลนาหมดความอดทนและตัดสินใจทำลายบรรยากาศอันอึดอัดนั้นก่อน ย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง น้ำเสียงของเธอเรียบง่ายแต่เด็ดเดี่ยว ราวกับเธอเตรียมใจมานานแล้ว
คำพูดนั้นทำให้ภาคินนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ แก้วไวน์ที่เขาถืออยู่ในมือหยุดค้างกลางอากาศ ดวงตาของเขาเบิกกว้างเล็กน้อย แสดงถึงความตกใจที่ปะปนกับความรู้สึกบางอย่างที่กดทับอยู่ในใจมาตลอด
"กลับอังกฤษเหรอ?"
เขาถามเสียงเบา แต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่สามารถซ่อนเร้นได้ ความเงียบกลับมาครอบคลุมอีกครั้ง ทว่าคราวนี้มันไม่ได้เกิดจากความอึดอัด แต่เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
ภาคินหมดความอดกลั้นเช่นกัน ร่างสูงของเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว ก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวลลนาที่นั่งอยู่ ราวกับความอดทนที่เขาพยายามเก็บไว้พังทลายลงทันทีที่ได้ยินคำว่า
"กลับอังกฤษ"
เขายืนตรงหน้าเธอ สายตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธออย่างไม่หลบเลี่ยง ความรู้สึกที่อัดแน่นมานานแสดงออกผ่านแววตาและท่าทางของเขา มือหนาของเขายกขึ้น แต่หยุดชะงักกลางทาง ก่อนจะเอื้อมไปกุมมือเธอไว้แน่น
"ทำไมต้องรีบกลับ?"
น้ำเสียงของเขาเข้มข้นและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปะทุอยู่ภายใน ราวกับเขากำลังพยายามต่อสู้กับความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุม
"หนูจะแต่งงานค่ะ ไมเคิลขอแล้ว"
คำพูดนั้นเหมือนเป็นการเปิดเผยความจริงที่ทำให้ภาคินหมดความอดกลั้นมากยิ่งขึ้น เขาไม่สามารถทนกับความรู้สึกที่รุนแรงได้อีกต่อไป
ทันใดนั้น เขาดึงร่างสวยของลลนาเข้ามาในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาอย่างรวดเร็ว จับเธอไว้แน่นไม่ให้ไปไหน ร่างของเธอแนบชิดกับอกเขา ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านไปถึงเธอ เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้และกระซิบเสียงเครียด
"ไม่... ไม่ให้แต่งกับใครทั้งนั้น"
เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเจ็บปวดและความต้องการที่ชัดเจน ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อยจากอารมณ์ที่ถาโถม เขาหวังว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้เธอเปลี่ยนใจหรืออย่างน้อยก็ให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกยังไง
“คุณลุงคะ... หนูเจ็บ”
ลลนาเอ่ยเสียงสั่น ความรู้สึกเจ็บปวดจากแรงบีบที่แขนของเธอทำให้เธอรู้สึกถึงความรุนแรงที่ซ่อนอยู่ในความรู้สึกของเขา
ภาคินหยุดชะงักจากคำร้องของเธอ เขาสำรวจใบหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวและความต้องการ เขาไม่ต้องการอ้อมค้อมกับลลนาอีกแล้ว แปดปีที่ห่างกันมันเพียงพอแล้ว ในใจของเขาต้องการที่จะให้เธออยู่ข้างกายเขาตลอดไป