วิวาห์ร้างใจ
EP 2
“เอ่อ...” หล่อนลังเลอยู่สักพักก็จำต้องก้าวขึ้นไปนั่งบนรถคันงามของอเล็กซิสอย่างไม่มีทางเลือก “ขะ... ขอบคุณมากนะคะที่มีน้ำใจกับเตย”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ก็บอกว่าผ่านทางนั้นพอดีไง”
เขาระบายยิ้ม ก่อนจะหักพวงมาลัยพารถคันงามขึ้นไปวิ่งบนถนนอีกครั้ง
อเล็กซิสลอบมองเตยหอม ก็พบว่าหล่อนนั่งตัวลีบแทบจะชิดประตูรถจนน่าสงสาร หล่อนคงจะประหม่า
“อยู่ปีไหนแล้วล่ะเธอน่ะ”
“เอ่อ ปีสองแล้วค่ะ”
“แล้วเธอเรียนคณะอะไรหรือ”
“เอ่อ... เตยเรียนการโรงแรมค่ะ” หล่อนตอบโดยที่ตัวเองยังคงก้มหน้างุดอยู่ตลอดเวลา
“เฮ้ย จริงอ่ะ บ้านฉันก็ทำธุรกิจโรงแรม ถ้าเรียนจบแล้วก็มาฝึกงานได้นะ ฉันยินดีรับ”
“ขะ... ขอบคุณค่ะ”
“เธอนี่ขอบคุณบ่อยจัง มันติดปากมากหรือไงไอ้คำนี่นะ”
หล่อนเผลอเงยหน้าและหันไปมองเขา ก็พบว่าเขาหันมามองพอดี ดวงตาสีฟ้ากระจ่างที่ทอดมองมาทำให้หัวใจสาวเต้นแรงมาก จนแทบจะกระดอนออกมาจากทรวงอก
“เอ่อ...”
อเล็กซิสหัวเราะขบขัน ส่ายหน้าไปมา เขาคงจะเอือมระอาในความน่าเบื่อหน่ายของหล่อนนั่นแหละ
“ทำไมไม่ไปเรียนพร้อมกับเจนจิราล่ะ อยู่มอเดียวกันไม่ใช่หรือ”
“เอ่อ...” หล่อนคงต้องโกหกออกไป เพราะหากพูดความจริงเจนจิราจะต้องดูแย่ในสายตาของอเล็กซิส “คุณเจนไปแต่เช้าแล้วค่ะ เตยตื่นไม่ทัน”
หล่อนเห็นเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่หน้าปัดบนรถยนต์ก่อนจะพูดขึ้น
“นี่ก็ยังเช้าอยู่เลยนะ แสดงว่าเจ้านายของเธอไปมอตั้งแต่หกโมงเช้าเลย”
หล่อนไม่ชอบที่จะต้องโกหกเลย รู้สึกว่ามันไม่ดี แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด
“ก็... ประมาณนั้นแหละค่ะ”
“แล้วนี่กินข้าวเช้ามาหรือยังล่ะ”
จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น และก็ทำให้หล่อนต้องเหลือบตาไปมอง
“ทานมาแล้วค่ะ”
“แต่ฉันยังไม่ได้กินเลยเนี่ย และก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วด้วย” มือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้าท้องไปมา จากนั้นก็หันมามองหล่อน
เตยหอมอึกอักเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น
“งั้นคุณอเล็กซิส...”
“อเล็ก” เขาย้ำให้หล่อนเรียกแค่ชื่อเล่น
“เอ่อ... คุณอเล็กจอดตรงนี้เถอะค่ะ เดี๋ยวเตยขึ้นรถเมล์ไปเรียนเองค่ะ” หล่อนเกรงใจเขา เพราะเขาคงหิวมากจริงๆ
“ทำไมล่ะ รังเกียจที่ฉันจะไปส่งมากหรือนี่”
“ปะ เปล่านะคะ แต่เตยเห็นคุณอเล็กหิว ก็เลยคิดว่าคุณอเล็กน่าจะจอดรถแล้วหาอะไรทานสักหน่อยก่อน...”
“แล้วทำไมเธอต้องไปโหนรถเมล์ล่ะ”
“ก็เตยไปเอง คุณอเล็กจะได้ทานอาหารเช้าโดยไม่ต้องพะวงเกี่ยวกับเตยไงคะ”
เขาหันหน้ามามองหล่อนด้วยสายตาที่อ่านความรู้สึกไม่ออก “ฉันต้องการคนนั่งเป็นเพื่อน”
“คะ?”
“ฉันกินไม่นานหรอกนะ รับรองว่าเธอไม่เข้าคลาสสายแน่นอน”
“เอ่อ... คุณอเล็กคะ เตยว่า...”
เขาไม่สนใจท่าทางลำบากใจของหล่อนแม้แต่น้อย รถคันงามถูกหักเลี้ยวจอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“อาหารร้านนี้น่าจะอร่อย” เขาพึมพำด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอียงหน้ามามองหล่อน “รีบลงมาสิครับ เดี๋ยวไปเรียนสายแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ”
“ค่ะ”
หล่อนไม่มีทางเลือก จำต้องก้าวลงไปจากรถสปอร์ต และเดินตามหลังอเล็กซิสเข้าไปในร้านที่ตกแต่งเอาไว้สวยงามอย่างไม่มีทางเลือก
หล่อนไม่ได้รังเกียจเขา แต่หล่อนกลัวต่างหาก กลัวหัวใจของตัวเองมากเหลือเกิน...
“นั่งสิ” เขาเลื่อนเก้าอี้ให้
“ขอบ... คุณค่ะ”
อเล็กซิสระบายยิ้ม ก่อนจะทรุดกายใหญ่โตนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงกันข้ามกับหล่อน
หัวใจของหล่อนเต้นแรงไม่หยุด มือเล็กที่ประสานกันเอาไว้บนตักเล็กก็มีแต่เม็ดเหงื่อ
“เธอว่าที่นี่อะไรอร่อย”
“เอ่อ... เตยไม่ทราบหรอกค่ะ”
“แล้วถ้าเธอเป็นคนหิว เธออยากจะสั่งอะไรมากิน” แล้วเขาก็ยื่นเมนูที่กางออกแล้วมาให้
“คือเตย...”
“จิ้มมาสั่งเมนูหนึ่งสิ เร็วเข้า”
หล่อนประหม่า ขัดเขินเหลือเกิน ยิ่งสายตาสีฟ้าสวยจ้องมองมาแบบนี้ หล่อนก็ยิ่งแทบเป็นบ้า
“อันนี้ค่ะ”
เขามองเมนูที่หล่อนจิ้ม และอมยิ้ม จากนั้นก็ดึงเมนูออกไปจากมือของหล่อน พร้อมกับกวักมือเรียกพนักงาน
“เอาแบบนี้สองที่ครับ”
“รอสักสิบนาทีนะคะ” พนักงานสาวรับเมนูและเดินจากไป
“คุณอเล็กจะทานสองชุดเลยเหรอคะ”
“ใครว่าล่ะ ฉันสั่งมาเผื่อเธอหนึ่งที่ต่างหาก”
เขายิ้มทรงเสน่ห์อีกแล้ว และมันก็ยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาน่ามองมากยิ่งขึ้น หล่อนตกลงไปในหลุมเสน่ห์ของอเล็กซิสล้ำลึกจนยากจะถอนใจเสียแล้ว
“ตะ แต่... เตย... ทานมาแล้วนะคะ”
“กินแล้วก็กินอีกได้นี่”
“แต่เตยยังอิ่มอยู่เลยค่ะ”
“งั้นถ้าเธอไม่กิน ฉันก็ต้องกินคนเดียว แล้วเธอคิดว่าฉันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะกินหมดทั้งสองชุดล่ะ” เขาเอียงคอมองมา รอยยิ้มละไมเต็มดวงหน้า
หล่อนแก้มแดงระเรื่อ หลบสายตาคมกริบของอเล็กซิสลงมองมือตัวเองอีกครั้ง
“ถึงฉันจะร่ำรวยแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ใช่คนที่จะกินอาหารทิ้งๆ ขว้างๆ แถมราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ด้วย”
เขาต้อนหล่อนจนไม่เหลือทางปฏิเสธอีก จึงต้องตอบรับออกไป “เอ่อ... ก็ได้ค่ะ”
“เยี่ยมมาก”
ทำไมเขาจะต้องยิ้มน่ามองแบบนี้ด้วยนะ รู้ไหมว่าหัวใจของหล่อนเต้นไม่หยุดแล้ว
“เตย ใครมาส่งแกวะ โคตรหล่อเลยว่ะ” เพื่อนของหล่อนเห็นเข้าพอดีตอนที่อเล็กซิสเดินตามลงมาหา เพราะหล่อนเผอเรอทำกระเป๋าเงินตกเอาไว้บนรถสปอร์ต
“เอ่อ... คนที่รู้จักน่ะ”
“จริงอ่ะ”
“จริงสิ ไม่มีอะไรหรอก”
หล่อนอธิบาย และก้าวเดินเพื่อจะตรงไปยังคณะของตนเอง แต่เพื่อนสนิทก็ยังเดินตามมาเซ้าซี้ต่ออีก
“ไม่อยากเชื่ออ่ะ แกจะต้องมีซัมติงอะไรกับพ่อสุดหล่อนั่นแน่เลย ไม่อย่างนั้นพ่อสุดหล่อนั่นไม่มองแกตาเยิ้มแบบนั้นหรอก”
“ไม่มีอะไรจริงๆ นก”
“ไม่เชื่อ”
“เชื่อฉันเถอะ มันไม่มีอะไรจริงๆ เขาก็แค่ผ่านมาพอดี เลยรับฉันติดรถมาด้วย”
รัชนกยังคงส่ายหน้าดิก และพยายามจะแซวต่อ แต่ก็มีเพื่อนของเจนจิราเดินเข้ามาหาเสียก่อน
“อย่ามาโกหกหน่อยเลยเตยหอม”
“ฉันไม่ได้โกหกนะยุ้ย”
“แล้วที่ร้านอาหารเช้าล่ะ คืออะไร... หึ... เตรียมหาคำแก้ตัวกับยายเจนให้ดีๆ เถอะ”
“อ้าว แล้วยายเจนตัวร้ายมาเกี่ยวอะไรด้วยนังยุ้ย” รัชนกเค้นเสียงถามอย่างไม่พอใจ
“ก็เพราะผู้ชายคนนี้คือคู่หมั้นคู่หมายของยายเจนไงล่ะ”
“จริงอ่ะเตย” รัชนกหันมาถามเตยหอม ซึ่งเตยหอมก็พยักหน้าตอบรับ
“หึ... มีคู่หมั้นหล่อลากดินขนาดนี้แล้ว แต่นังเจนเพื่อนรักของแกยังแรดไล่กินผู้ชายทั้งมอได้อีกนะ แม่ง... น่ายกย่องว่ะ” รัชนกพูดอย่างทึ่งจัด
“ปากดีไปนะนังนก เดี๋ยวยายเจนมาเมื่อไหร่ แกสองคนเละเป็นโจ๊กแน่”
“มาเลย ไม่กลัวหรอก” รัชนกท้าทาย
“มึงไม่กลัว แต่นังเตยมันต้องกลัว เพราะมันเป็นขี้ข้ารองตีนของยายเจน จึงไหมล่ะนังเตย” ปัทมายิ้มเยาะ มองมาที่เตยหอมอย่างดูแคลน
“ไปให้พ้นเลยนะ อียุ้ยบ้า” รัชนกปกป้องเตยหอม
“ไปก็ได้ หึหึ”
ปัทมาเดินจากไปแล้ว รัชนกจึงหันมาปลอบเตยหอม
“อย่าคิดมากนะเตย อียุ้ยแม่งก็ปากดีไปอย่างนั้นแหละ ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นเป็นคู่หมั้นนังเจนมันจริงๆ เหรอ”
“อืม”
“โธ่ เสียดายของชะมัด นี่ถ้าเขาเป็นของแก ฉันจะไม่อิจฉาแบบนี้เลย” รัชนกบ่นอุบ ก่อนจะจูงมือของเตยหอมเดินไปยังคณะที่พวกตนเล่าเรียน