ตอนที่ 6

1869 Words
EP 6   “ผมไม่ยอม อย่ามายุ่งกับเตยหอม” “คุณก็เลือกเอาก็แล้วกันระหว่างนังเตยหอม กับความสุขของน้องเจน” ปิยนุชจ้องหน้าสามีไม่หลบตา ก่อนจะแสยะยิ้มหยัน “ฉันไม่ได้จะฆ่าจะแกงอะไรนังเตยมันสักหน่อย” “แล้วคุณจะทำอะไร คุณคิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นมาอีก บอกผมมาเดี๋ยวนี้นะคุณนุช!” “ฉันก็แค่... จะให้นังเตยมันเข้าหอแทนน้องเจน” “ไม่ได้นะคุณนุช!” “ทำไมจะไม่ได้คะ เพราะถึงแม้มันจะมีเลือดของคุณอยู่ในตัวครึ่งหนึ่ง แต่ในสายตาของฉันมันก็เป็นแค่ขี้ข้าที่ต้องรองรับคำสั่งเป็นสั่งตายของฉัน หรือคุณจะเถียงล่ะ...” เกรียงไกรกำมือแน่น เขาพยายามจะช่วยเตยหอม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล “คุณนุช คุณทำแบบนี้ไม่ได้หรอก คุณอเล็กไม่ใช่คนโง่ เขาไม่มีทางไม่รู้ว่าคนที่เข้าหอด้วยเป็นใคร ทางที่ดี ผมว่าคุณก็ปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามโชคชะตาเถอะ” “ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันยอมให้น้องเจนเสียใจแน่ ยังไงซะ ก็ต้องมีผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งเสียสละ และฉันก็เลือกแล้วว่ามันต้องเป็นนังเตยหอม” “ได้โปรดเถอะคุณนุช...” เกรียงไกรคุกเข่าลงตรงหน้าของภรรยา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ผมจะไปหาผู้หญิงบริสุทธิ์คนอื่นมาให้ ปล่อยเตยหอมไปเถอะ แค่นี้ชีวิตของเธอก็ทุกข์มากแล้ว” ยิ่งเห็นสามีแสดงท่าทางปกป้องเตยหอมเท่าไร ปิยนุชก็ยิ่งอยากจะทำลายความบริสุทธิ์ของเด็กนรกคนนี้ แม่มันไม่อยู่ แต่ก็ยังเหลือมันเป็นเสี้ยนหนามตำหัวใจ “ต่อให้คุณกราบตีน ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ นังเตยหอมมันจะต้องเข้าหอแทนน้องเจน” “คุณนุช... ได้โปรดเถอะ... ผมขอร้อง...” “หึ... เสียใจด้วยนะคะคุณสามีที่รัก เพราะฉันจะไม่มีวันยอมให้คุณขัดขวางได้อย่างแน่นอน ทางที่ดีคุณอยู่เฉยๆ เถอะ แล้วก็มีความสุขกับความสุขของน้องเจน ลืมคำสัญญาที่เคยให้กับฉันเอาไว้แล้วหรือคะ” ปิยนุชทวงสัญญาด้วยน้ำเสียงเย็นชา เกรียงไกรตาแดงก่ำ เขาทำได้แค่ก้มหน้ามองพื้น และปล่อยให้ความทุกข์กลืนกินจิตวิญญาณเท่านั้น เตย... พ่อขอโทษ... “คืนวันเข้าหอ ฉันจะให้นังเตยมันไปนอนกับคุณอเล็กที่ฉันมอมเหล้าจนเมามาย” ปิยนุชหัวเราะร่วนกับแผนการแยบยลของตนเอง “แล้วหลังจากนั้นล่ะ คุณจะทำยังไงกับเตยหอม...” เกรียงไกรถามเสียงเบาหวิว “ฉันก็จะส่งนังเตยไปอยู่ที่อื่น ที่ไหนก็ได้ที่ไกลจากกรุงเทพฯ และความลับนี้มันจะตายไปพร้อมกับพวกเราทุกคน” เกรียงไกรที่คุกเข่าอยู่ปล่อยร่างให้นั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง เงยหน้ามองภรรยาด้วยความเสียใจ “ทำไมคุณคิดถึงอะไรชั่วร้ายแบบนี้ออกมาได้นะคุณนุช... คุณคิดบ้าๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน” “หึ... มันชั่วร้ายตรงไหนกันคะ ฉันก็แค่ทำทุกอย่างเพื่อน้องเจน เพราะฉันเป็นแม่ที่ดี แม่ที่รักลูก ไม่เหมือนกับคุณหรอกค่ะ ที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง สนองความใคร่มักมากไม่เคยพอ จนทำให้นังเตยมันเกิดมารกโลกใบนี้” ความชั่วในอดีตของเขาถูกปิยนุชควักขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ แล้วนำมายีบนใบหน้า เขาก้มหน้าน้ำตาไหล ความผิดบาปกัดกินก้อนเนื้อในอกจนทรมาน       “ไม่ได้นะคุณแม่ เจนไม่ยอมหรอกค่ะ” เจนจิราโวยวายทันควัน เมื่อได้ยินแผนการของมารดาในเช้าก่อนไปเรียน “ทำไมล่ะน้องเจน แผนนี้มันดีที่สุดแล้วนะลูก แม่อุตส่าห์คิดตั้งนาน” เจนจิรามองมารดาหน้างอง้ำ “แล้วถ้าเกิดพี่อเล็กเขาติดใจนังเตยมันขึ้นมา เจนจะทำยังไงล่ะคะ แม่ก็รู้ว่าเจนรักพี่อเล็ก” “คุณอเล็กจะไปรู้ได้ยังไงว่านอนกับใคร ในเมื่อแม่จะมอมเหล้าคุณอเล็กให้เมา แล้วจากนั้นก็ให้คุณอเล็กนอนกับนังเตยแค่คืนเข้าหอคืนเดียวเอง” “แต่เจนไม่อยากให้นังเตยมันใกล้ชิดกับพี่อเล็กนี่คะ” “แล้วน้องเจนมีทางเลือกเหรอลูก ในเมื่อแม้แต่รูทวารของน้องเจนก็ยังไม่ซิงเลยนะ” “คุณแม่น่ะ ทำไมพูดแบบนี้คะ” เจนจิราตวาดมารดา เมื่อท่านเอาความจริงมาโยนใส่หน้า “แม่ขอโทษ แม่แค่ต้องการพูดให้น้องเจนมองเห็นความเป็นจริงน่ะ เราต้องใช้ความซิงของนังเตย เพื่อที่จะหลอกให้คุณอเล็กรู้ว่าน้องเจนของแม่เป็นสาวพรหมจรรย์ แม้ว่าน้องเจนจะไม่มีทางเป็นแบบนั้นก็ตาม” เจนจิราไม่ชอบแผนการนี้ของมารดาเลย แต่ตนเองก็ไม่มีทางเลือก เพราะแผนนี้มันดีที่สุดแล้ว “แล้วแม่รู้ได้ยังไงคะว่านังเตยมันซิง” ปิยนุชยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “น้องเจนเคยเห็นมันคบผู้ชายไหมล่ะ” “ไม่เคยค่ะ” “ถูกต้อง ในเมื่อมันไม่เคยมีแฟนมาก่อน แถมตั้งแต่มันมาอยู่ที่นี่มันก็ไม่เคยไปนอนค้างที่อื่นเลย แม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่านังเตยมันยังซิง” เจนจิรากระแทกลมหายใจออกมา หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว “มันจะยอมทำตามคำสั่งของคุณแม่เหรอคะ” “มันต้องยอมสิ มันไม่กล้าหือกับแม่หรอก” ปิยนุชพูดออกมาด้วยความมั่นใจ “แล้วถ้ามันไม่ยอมล่ะคะ คุณแม่จะทำยังไง” “แม่ก็จะไล่มันออกไปจากบ้าน แต่น้องเจนไม่ต้องเป็นกังวลหรอก แม่เชื่อว่ามันจะต้องยอม” ปิยนุชยื่นมือมาแตะแก้มนวลที่ถูกเคลือบด้วยเครื่องสำอางจนหนาเตอะแผ่วเบา “น้องเจนไปเรียนให้สบายใจเถอะลูก ทางนี้แม่จะจัดการให้เรียบร้อย” “ค่ะ งั้นเจนไปเรียนก่อนนะคะ” “ขับรถดีๆ ล่ะ อย่าขับรถเร็วมากนัก อ้อ แล้วก็รับนังเตยมันไปด้วย มันจะได้ยิ่งเป็นหนี้บุญคุณพวกเราไง” เจนจิรามองมารดาด้วยความทึ่งจัด “ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าคุณแม่จะฉลาดในเรื่องเลวๆ แบบนี้เสมอ” “น้องเจน” “เจนชมหรอกค่ะคุณแม่” เจนจิราระบายยิ้ม ก้มลงจูบแก้มมารดาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปนอกตัวตึก ปิยนุชนั่งยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะสั่งให้คนใช้นำโทรศัพท์มือถือมาให้ และต่อสายหาเจสสิก้าทันที “คุณเจสคะ นี่นุชเองนะคะ คือวันนี้นุชจะออกไปดูฤกษ์กับหลวงพ่อน่ะค่ะ เดี๋ยวได้ฤกษ์วันไหนนุชจะรีบแจ้งไปทันทีเลยนะคะ ทางคุณอเล็กจะได้เตรียมตัวทัน” “ได้เลยค่ะน้องนุช แล้วขอเป็นฤกษ์ที่เร็วที่สุด เหมือนที่เราคุยกันเมื่อวานนะคะ” “ด้วยความยินดีค่ะคุณเจส” ปิยนุชวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็รีบลุกขึ้นยืน เพื่อที่จะกลับขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุด แต่ก็เกรียงไกรเดินสวนมาพอดี “ไปข้างนอกกับฉันนะคะคุณเกรียง” “คุณจะไปไหนเหรอ” “ฉันจะไปวัดค่ะ จะไปหาฤกษ์แต่งงานให้กับน้องเจน และคุณก็ต้องไปกับฉันด้วย” เกรียงไกรมองหน้าภรรยาด้วยสายตาไร้ความรู้สึก ก่อนจะตอบออกไป “จะไปตอนไหนก็ให้คนมาเรียกผมก็แล้วกัน” “เก้าโมงเช้าค่ะ” ปิยนุชบอกสามีเสร็จก็เดินผ่านไป เกรียงไกรระบายลมหายใจออกมาด้วยความเครียด เพราะรู้ว่าเตยหอมจะต้องมีมลทินไปตลอดชีวิต โดยที่ตัวเองไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้เลย ชายสูงวัยก้าวเดินไปตามเฉลียงของตัวบ้านเพื่อตรงไปยังสวนกล้วยไม้ของตนเอง ระหว่างทางก็เห็นเตยหอมกำลังวิ่งกระหืดกระหอบไปที่รถสปอร์ตสีแดงเพลิงของเจนจิรา “เตยหอมลูกพ่อ...” เขาทำได้แค่พึมพำน้ำตาไหล ทำได้เพียงแค่นี้จริงๆ                           “นี่แกรู้หรือยังว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับพี่อเล็กในเร็วๆ นี้” ระหว่างที่นั่งรถไปมหาวิทยาลัยด้วยกัน เจนจิราก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงของผู้กำชัยชนะ “เอ่อ... ยังไม่ทราบค่ะ แต่ยังไงเตยยินดีด้วยนะคะ” เตยหอมข่มความรู้สึกเบาโหวงในอกเอาไว้อย่างสุดกำลัง และก็ยินดีกับเจนจิราอย่างจริงใจ เจนจิรายิ้มเยาะ ละสายตาจากถนนมามองด้านข้างของเตยหอมด้วยความดูแคลน “แน่ใจนะว่าแกยินดีกับฉันจริงๆ น่ะนังเตย” “เอ่อ... เตยยินดีกับคุณเจนจริงๆ ค่ะ” “แต่ฉันคิดว่าแกกำลังเสียใจอยู่ หึ... อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกแอบชอบพี่อเล็กของฉันน่ะ” “เตยไม่...” “แต่ดอกหญ้าอย่างแกก็ทำได้แค่แอบมองแอบชอบเท่านั้นแหละจริงไหม ในเมื่อสุดท้ายพี่อเล็กเขาก็รู้ว่าดอกฟ้าอย่างฉันมันน่าชื่นชมมากกว่าดอกหญ้าไร้ค่าอย่างแก” เตยหอมน้ำตาซึม ก้มหน้ามองมือของตัวเองที่ประสานกันเอาไว้บนตัก “ฉันเคยบอกแล้วไงว่าผู้ชายที่คู่ควรกับแกน่ะไม่พ้นลูกคนสวนลูกคนขับรถหรอก ได้แค่นั้นก็ถือว่าเป็นบุญของแกแล้วล่ะ จริงไหม” เตยหอมนั่งนิ่ง จมอยู่กับความอดสู จนกระทั่งรถคันงามเลี้ยวเข้าจอดข้างทาง “ลงไป” “เอ่อ...” หล่อนอดแปลกใจไม่ได้ที่ถูกเจนจิราขับไล่ลงกลางทางอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ตอนขึ้นรถ เจนจิราเป็นคนคะยั้นคะยอบอกให้ติดรถไปมหาวิทยาลัยด้วยกัน “บอกให้ลงไปไงล่ะ ยังจะมานั่งบื้ออีก ไปสิยะ” “ค่ะ...” มือเล็กสีขาวสะอาดคว้าหาที่เปิดประตู ก่อนจะลนลานก้าวลงไปจากรถ เจนจิราขับรถจากไปด้วยความเร็ว ในขณะที่หล่อนยืนยิ้มเศร้าๆ ก่อนจะก้าวตรงไปยังป้ายรถเมล์ที่น่าจะอยู่ห่างออกไปไกลพอสมควร หล่อนชินเสียแล้วล่ะ... ปิ้นนนน เสียงแตรรถทำให้คนที่เดินเหม่อลอยอยู่สะดุ้ง และต้องเอี้ยวตัวหันไปมอง รถของอเล็กซิส...? หล่อนจำได้ และเมื่อรู้ว่าเป็นรถของใครก็รีบย่ำเท้าเดินหนี แต่เขาก้าวลงมาจากรถ พร้อมกับวิ่งมาขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน “รีบเดินหนีฉันเชียวนะเตยหอม” “เอ่อ... เปล่าค่ะ” หล่อนก้มหน้าลงมองพื้นแทนการสบประสานสายตากับดวงตาสีฟ้ากระจ่างของอเล็กซิส เขากำลังจะแต่งงานกับเจนจิรา หล่อนไม่ควรแม้แต่จะอยู่ใกล้กับเขาอีก “ก็เห็นๆ อยู่ว่าเดินหนี” “คุณอเล็ก...” ข้อมือเล็กถูกอุ้งมือใหญ่อบอุ่นคว้าเอาไว้ หล่อนตกใจพยายามบิดหนี แต่ไม่หลุด เพราะมือของเขาใหญ่โตและแข็งแรงเหลือเกิน “เดี๋ยวไปส่งที่มอ” “มะ... ไม่เป็นไรค่ะ เตยไปเองได้ค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD