“ทำยังไงดี จะทำยังไงดี”
“โอ๊ย ไม่น่าเลยยายสา แกไม่น่าอยากรู้อยากเห็นเลย แล้วทีนี้จะทำยังไง”
สามินีพูดออกมาด้วยความกังวล ตั้งแต่กลับมาจากปางไม้
เถ้าแก่ฮวงหญิงสาวก็นอนไม่หลับ เธอรู้สึกกลัวและระแวงไปหมดว่าจะมีใครมาทำร้ายเธอหรือเปล่า
“ฮือ... แล้วทีนี้จะทำยังไง” หญิงสาวโอดครวญ นั่งซบหน้ากับมือตัวเอง คิ้วสวยขมวดเข้าหากันแน่นเพราะกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะนึกถึงคนที่เธอคิดว่าจะให้ความช่วยเหลือและทำให้เธอลดความกังวลและความหวาดกลัวได้บ้าง
ตืด... ตืด...
สามินีโทรไปหาคนที่คิดว่าจะช่วยเธอได้ เธอเฝ้ารออย่างมีความหวัง ใจก็ภาวนาขอให้เขารับสายเธอด้วย แล้วคำขอของเธอก็เป็นจริง
“สวัสดีครับน้องสามีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่าครับ”
“พี่คมช่วยสาด้วยค่ะ” ใช่แล้วคนที่เธอโทรหาคือคมสัน ญาติผู้พี่ของเธอ ซึ่งเป็นคนแนะนำให้เธอมาสอบบรรจุครูที่นี่ เนื่องจากเธอเคยบอกเขาว่าอยากไปใช้ชีวิตห่างไกลผู้คนหน่อย เพราะต้องการความเรียบง่าย
อีกอย่างที่เธอตัดสินใจโทรหาเขาเพราะนอกจากจะเป็นญาติของเธอแล้ว เขายังเป็นถึงหัวหน้าเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกด้วย เรื่องนี้คนแรกที่เธอควรบอกถึงสิ่งที่รู้มาก็ควรจะเป็นเขา!
“มีอะไรครับ”
“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ” หลังจากนั้นหญิงสาวก็เล่ารายละเอียดที่เธอได้ยินและเห็นให้ญาติผู้พี่ฟังทั้งหมด
“เฮ้อ! สา เรื่องนี้อันตรายมากทำไมถึงได้ทำอะไรไม่รู้จักคิดแบบนี้ฮะ ถ้าพวกนั้นรู้ขึ้นมาจะทำยังไง”
“ฮือ... พี่คมก็สาไม่รู้นี่คะว่าจะเป็นแบบนี้ สาก็แค่สงสัยเฉย ๆ เอง”
“เฮ้อ เอาเถอะ เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้พี่ว่าสาไม่ปลอดภัยแล้วล่ะ นายจอมพลฉลาดเป็นกรดมันต้องรู้แน่”
“พี่คมแบบนี้จะทำยังไงดีคะ สากลัว” สามินีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
หมวดคมเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวพี่จัดการเอง มีอยู่หนึ่งคนที่น่าจะช่วยสาได้ แต่ระหว่างนี้สาอาจต้องอยู่กับเขาสักระยะ สาจะยอมหรือเปล่า”
“เอ่อ... อยู่ด้วยกันเหรอคะ”
“ใช่ สาไม่ต้องห่วงหรอกเขาเป็นสุภาพบุรุษพอ ที่สำคัญพี่ขอให้เขามาช่วยจัดการเรื่องของปางไม้เถ้าแก่ฮวงเอง ตอนนี้เขาก็กำลังสืบเรื่องนี้อยู่อย่างลับ ๆ และผู้กองเขาเป็นคนดี สาไว้ใจได้”
“เอ่อ... ถ้าพี่คมบอกว่าเป็นคนดีสาก็เชื่อค่ะ เอาเป็นว่าสาจะอยู่กับเขาก็ได้ แต่ว่าเขาจะยอมเหรอคะ”
“เรื่องนั้นไว้พี่จัดการเอง”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่คม” หลังจากหญิงสาวพูดขอบคุณแล้ว คมสันก็วางสายไป ส่วนเธอก็กำลังคิดถึงผู้กองที่พี่ชายเธอพูดถึง ทว่าเธอฝืนลืมตาได้ไม่นานก็ต้องหลับไปเพราะความง่วงที่กลืนกิน
เช้าวันต่อมาคมสันก็เดินทางมาหาผู้กองปราบแต่เช้าเพื่อที่จะคุยเรื่องของสามินีญาติของเขา
ตอนแรกคิดจะให้หญิงสาวกลับบ้าน ทว่าคิดไปคิดมาทำอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าเธอจะปลอดภัย ซึ่งหากน้องสาวเขากลับบ้านจริงเธอจะกลายเป็นเป้าให้นายจอมพลสงสัยได้ง่าย ทีนี้แหละจากที่ไม่รู้ก็จะกลายเป็นรู้ เพราะถ้าเขาเป็นนายจอมพลเขาคงสงสัยและปะติดปะต่อเรื่องด้วยตัวเองได้
การที่นายจอมพลพาสามินีไปปางไม้นั่นเท่ากับว่าผู้ชายคนนี้มั่นใจว่าหญิงสาวไม่มีทางล่วงรู้ความลับของเขา แล้วถ้าเกิดว่าอยู่ดี ๆ สามินีกลับบ้านทันทีหลังจากกลับมาจากปางไม้ คงจะคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากว่าหญิงสาวกำลังหนีอะไรบางอย่าง แล้วคนฉลาดอย่าง
นายจอมพลจะไม่รู้เลยเหรอว่าเธอกำลังหนีอะไร
ถึงตอนนั้นต่อให้สามินีถึงบ้านแล้วใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะยังไงซะนายจอมพลคงตามล่าสามินีถึงบ้านของเธอแน่ ๆ และคงไม่คิดจะเก็บเธอไว้
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือจากผู้กองปราบผู้ซึ่งมาสืบและทำคดีนี้โดยเฉพาะให้คุ้มครองน้องสาวเขา จะว่าเสี่ยงก็เสี่ยงจะว่าปลอดภัยก็ปลอดภัย แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้หญิงสาวกลับบ้าน ถามว่าทำไมไม่ให้เธอมาอยู่กับเขาให้มันจบ ๆ นั่นก็เพราะว่าที่นี่ไม่มีใครรู้ว่าเขากับเธอเป็นญาติกัน ถ้าเกิดบอกว่าเป็นญาติตอนนี้คงเชื่อยากและอาจทำให้นายจอมพลสงสัยได้
ที่สำคัญเขาไม่อยากให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องการแจ้งความผิดของปางไม้เถ้าแก่ฮวง จะบอกว่าตอนนี้ชีวิตเขากำลังตกอยู่ในอันตรายก็ไม่ผิดนัก
อีกอย่างการที่ให้ผู้กองปราบดูแลน้องสาวคนนี้ของเขาก็เป็นเรื่องดีเพราะไอ้นิสัยดื้อเงียบของเธอที่ทำอะไรไม่รู้จักคิดหรือคิดน้อยไปอาจโดน
ผู้กองหนุ่มคนนี้ดัดนิสัยและกำราบลงได้บ้าง
อีกนัยหนึ่งเขาอยากได้ผู้กองคนนี้เป็นน้องเขย ยิ่งได้ข่าวว่าไม่มีคนรักก็ยิ่งอยากได้ หน้าที่การงานดีทั้งยังหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ ถ้าสามินีได้ไปก็ถือว่าโชคดีของเธอแล้ว และเขาคิดว่าน้องของเขาต้องได้ผู้กองคนนี้ไปครองแน่นอน ลางสังหรณ์ของเขามันฟ้อง!
“สวัสดีครับผู้กองปราบ”
“สวัสดีครับหัวหน้าคม วันนี้มาแต่เช้าเลยนะครับ”
“ครับ เอ่อ...”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้กองปราบเอ่ยถามหลังจากที่เห็น
คมสันมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ
จากนั้นเขาก็ได้ฟังคำบอกเล่าวีรกรรมของหญิงสาวที่เขาจับตาดูอยู่ทั้งหมด หลังจากได้ฟังเรื่องราวและคำขอร้องให้ช่วยปกป้องหญิงสาวแล้ว ผู้กองปราบแทบไม่เชื่อเลยว่าผู้หญิงอย่างสามินีเธอจะใจกล้าอยากรู้
อยากเห็นเรื่องอันตรายแบบนี้
“ผู้กองครับ ผมขอร้องล่ะนะครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริง ๆ”
คมสันเอ่ยย้ำ พร้อมทั้งส่งสายตาอ้อนวอนไปให้
“เฮ้อ!” ผู้กองปราบถอนหายใจก่อนจะมองไปยังจ่าแสนผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
“ไม่ครับผู้กอง ถ้าแม่เสือที่บ้านรู้เข้างานผมงอกแน่ครับ ผมไม่อยากนอนนอกบ้าน”
“ผมก็เหมือนกันครับผู้กอง” จ่าเข้มรีบปฏิเสธทันทีเมื่อเห็น
ผู้กองหนุ่มมองมา
“ผู้กองนั่นแหละครับเหมาะสมที่สุดเพราะยังไม่มีพันธะ” จ่าหาญหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้กองหนุ่มพูดขึ้น
“แต่ผมไม่อยากวุ่นวาย”
“แต่ผู้กองก็จับตาดูเธออยู่แล้วนี่ครับ ถ้ามีเธออยู่ในสายตาตลอดเวลา บางทีผู้กองอาจรู้อะไร ๆ มากขึ้นก็ได้นะครับ” จ่าแสนรีบเข้ามากระซิบที่หูของผู้กองหนุ่ม
ผู้กองปราบคิดตาม ก็เห็นด้วยกับคำพูดของจ่าแสน แต่การจะให้เขาและเธออยู่ด้วยกันก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ เพราะยังไงซะเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นผู้ชาย การมีผู้หญิงสวย ๆ มาอยู่ด้วยอาจมีอะไรไม่สมควรเกิดขึ้นก็ได้
“นะครับผู้กอง”
“เฮ้อ! ก็ได้ครับผมจะช่วย”
“ขอบคุณครับ” คมสันรีบพูดขอบคุณ จากนั้นก็เริ่มวางแผนที่จะให้
ผู้กองปราบไปอยู่กับสามินีในฐานะอะไร และแล้วก็ได้ข้อสรุปว่าชายหนุ่มจะเข้าไปอยู่กับสามินีในฐานะพี่ชาย ที่อยากมาดูความเป็นอยู่ของน้องสาวที่มาทำงานยังพื้นที่ห่างไกลที่นี่นั่นเอง