“เอาวันที่สะดวกก็ได้ค่ะ ก่อนพามาก็งดน้ำงดอาหารน้องตั้งแต่สองทุ่มเป็นต้นไป”
“วันศุกร์แล้วกันครับ” ตุลาไม่ถามเจ้าของแมวเลยสักคำ
“พี่ตุลย์ไม่ต้องทำงานเหรอคะ”
“วันศุกร์นั้นแหละ เสาร์อาทิตย์จะได้ช่วยดูแลได้” น่าจะพอลางานวันศุกร์ได้นะ ถ้าลาไม่ได้ค่อยให้คุณนายรัศมีจัดการให้
“ถ้าพี่ตุลย์สะดวกวันศุกร์ ก็มาวันศุกร์ก็ได้ค่ะ” เธอตกลงเอาที่เจ้าของบ้านสะดวก เพราะเธอจะพามาเองก็ไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นนัดไว้เลยนะคะ วันพฤหัสก็งดน้ำงดอาหารน้องตั้งแต่สองทุ่ม คลินิกเปิดแปดโมงครึ่งค่ะเอาน้องมาแต่เช้า บ่ายๆ ก็ฟื้นยาสลบแล้วเอากลับบ้านได้ค่ะ”
“วางยาสลบด้วยเหรอคะ”
“ถ้าไม่วางยาแมวก็จะเจ็บมากนะสิ” ตุลาหันมาบอกคนตัวเล็ก
“ค่ะ...”
ขวัญข้าวลูบหัวเจ้าแมวอ้วนที่นอนร้องเหมียวๆ เหมือนไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง หลังจากจัดการนัดหมายวันตัดหางแมวแล้ว เขาก็หิ้วตะกร้าแมวให้หญิงสาว
“ซื้ออะไรกลับไปกินที่บ้านเลยแล้วกันนะ คราวนี้อยากกินแบบไหนเอาให้ชัด พี่จะได้จอดรถถูกร้าน”
“ข้าวค่ะ อยู่หอกินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวจี่คงไม่อยากกินไปอีกนานเลย”
ตุลาพยักหน้ารับแล้วรอจนขวัญข้าวนั่งรถเรียบร้อยแล้วจึงขับรถออกไป เขาลอบมองหญิงสาวที่พูดคุยกับแมวเบาๆ
ทีเรื่องแมวนี้ทำหน้าระรื่นขึ้นมาเชียว แต่...ก็น่ารักดีแฮะ.
...
แม้จะแปลกที่แต่เพราะความอ่อนเพลียทำให้ขวัญข้าวหลับสนิท แต่ที่เธอหลับนั้นไม่ใช่ในห้องนอน แต่เป็นห้องนั่งเล่นและมีแมวอ้วนกลมนอนอยู่ใกล้กัน
ชายหนุ่มเจ้าของบ้านยืนมองภาพเบื้องหน้าอย่างงุนงง หรือเพราะเขาไม่อนุญาตให้เธอเอาแมวไปนอนด้วย เธอก็เลยออกมานอนกับแมวแบบนี้ เขายื่นมือไปหมายจะปลุกแต่ก็เปลี่ยนใจ หันไปเขียนโน้ตสั้นๆ แล้วเดินไปติดที่ตู้เย็น เดินกลับมาอีกทีก็เห็นคนตัวเล็กงัวเงียลุกขึ้นมาแล้ว
“พี่ตุลย์...” เธอเรียกเหมือนไม่มั่นใจว่าเป็นเขา
“พี่จะไปทำงานแล้ว อยู่บ้านดีๆล่ะ”
“ค่ะๆ” เธอยังลืมตาไม่เต็มที่แต่ก็พอมองเห็นร่างสูงโปร่งที่สวมเสื้อช็อปสีเทา ตรงอกเสื้อเหมือนจะปักชื่อบริษัท
“พี่จดเบอร์โทรที่โรงงานไว้ให้ เผื่อมีธุระด่วน อยู่ในโรงงานบางทีพี่ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือแล้วก็กุญแจสำรอง ถ้าออกไปข้างนอกก็ล็อกบ้านดีๆ เข้าใจนะ”
“ค่ะ” เธอก็ยังคงพยักหน้ารับอย่างมึนงงอยู่ เมื่อคืนเธอเป็นห่วงเจ้าฟูฟูเลยย่องออกมาดูเจ้าแมวอ้วนที่อยู่ในกรง และก็จริงอย่างที่คิด ดูมันไม่ค่อยชอบใจที่ต้องนอนในกรงนัก แรกทีเดียวแค่คิดว่าจะอุ้มแมวมานอนเล่นปลอบขวัญให้มันหายกลัว แต่ไปๆมาๆ หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
“พี่ไปล่ะ” โดยไม่รู้ตัว มือใหญ่เอื้อมไปลูบหัวหญิงสาวเบาๆ แล้วยิ้มขบขัน
ขวัญข้าวเห็นรอยยิ้มของเขาแล้วก็รู้สึกแปลกๆในอก เห็นเขาหยิบแว่นกันแดดออกมาสวมแล้วเดินออกไปใส่รองเท้านอกบ้าน กระทั่งได้ยินเสียงรถออกไปแล้วเธอจึงได้สติ ยกมือขึ้นแตะศีรษะตัวเอง เมื่อครู่เขาลูบหัวเธอเหรอ? หญิงสาวยังรู้สึกเหมือนกึ่งในกึ่งตื่นจนหันมาสบตากับเจ้าแมวอ้วนที่ร้องเหมียวๆ คล้ายบอกว่าหิวแล้วทำให้เธอได้สติ
ก็ไหนคุณน้ารัศมีบอกว่าลูกชายเป็นหนุ่มโรงงาน หนุ่มโรงงานแบบไหนทำไมดูเท่ห์ ดูดีไปหมดแบบนี้นะ!
หญิงสาวส่ายหน้าไปมา แล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองคงอยู่ในสภาพไม่น่ามองนัก เขาถึงได้กลั้นหัวเราะแบบนั้น ช่างเถอะ ไหนๆ เขาก็เคยเห็นเธอสภาพร้องไห้ขี้มูกย้อยมาแล้วนี่ ขวัญข้าวลุกขึ้นแล้วเดินไปเทอาหารเม็ดใส่ชามให้เจ้าฟูฟูแล้วจัดการเก็บอึร่อนทรายของมันให้เรียบร้อย จึงไปจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แม้น้ำท่วมแต่ทางมหาวิทยาลัยยังจัดการเรียนแบบออนไลน์ ขวัญข้าวไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้องนอนจึงยกโน้ตบุ๊ตออกมานั่งเรียนที่ห้องนั่งเล่น และเมื่อเจ้าของบ้านไม่อยู่ เธอก็ปล่อยให้เจ้าแมวอ้วนกลมออกมาเดินเล่นในห้อง
“ห้ามออกไปข้างนอกนะ”
ขวัญข้าวบอกเจ้าแมวหางเจ็บ แล้วกลับมาเตรียมเรียนออนไลน์ แต่เห็นเจ้าอ้วนหันมาสบตาด้วยเล็กน้อย เธอก็อดคิดถึงคนที่บอกว่าไม่ชอบแมว แต่ยอมหยุดงานเพื่อพาแมวไปหาหมอไม่ได้ เขาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอแต่เขาจบคณะวิศวะ ส่วนเธอเรียนคณะมนุษยศาสตร์ ด้วยความชอบด้านภาษาจึงเลือกเรียนคณะนี้ เธอไม่ได้สนิทกับเขาอย่างที่น้ารัศมีคาดหวังนัก แม่ของเธอกับน้ารัศมีเป็นเพื่อนรักกัน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่แม่ของเธอมีปัญหาชีวิตหย่าร้างกับพ่อ แม่กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและพาเธอมาเช่าบ้านอยู่ใกล้กับน้ารัศมี แต่ตอนนั้นตุลาไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าอีกจังหวัด นานๆจะมากรุงเทพฯเจอกันที พอได้ยินว่าเขากลับมาอยู่กรุงเทพฯ ก็พอดีกับแม่ได้งานใหม่ย้ายบ้านกันอีก แต่ถึงอย่างนั้น แม่กับน้ารัศมีก็ยังติดต่อกันเรื่อยๆ มีโอกาสก็นัดพบกันที เธอได้ยินน้ารัศมีพูดบ่อยๆ ว่าอยากให้ลูกสองคนสนิทกันเหมือนที่แม่ๆ สนิทกัน แต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายจะให้มาสนิทสนมกับเด็กผู้หญิงอย่างเธอก็คงไม่สะดวกใจนัก
เมื่อตอนที่น้ารัศมีรู้ว่าเธอสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ ยังฝากฝังให้ ‘พี่ตุลย์’ มาดูแลเธอ แต่เขาเองก็เพิ่งเข้าทำงานประจำได้ไม่นาน เธอก็ไม่กล้ารบกวนอะไรเขา การตัดสินใจมาใช้ชีวิตคนเดียวเป็นเรื่องที่เธอเตรียมใจไว้แล้ว เธอจึงไม่รู้สึกโกรธหรือน้อยใจอะไร แต่ในวันที่เดือดนร้อนเขายอมเสียเวลามารับ อย่างน้อยก็นับว่ามีน้ำใจอยู่มากทีเดียว
หญิงสาวเผลอยกมือขึ้นลูบผมตัวเอง นึกถึงสัมผัสที่เขาทิ้งไว้ก่อนจะออกไปทำงาน คงแค่เอ็นดูและทำไปเพราะคำสั่งของน้ารัศมี เจ้าแมวน้อยตัวอวบเดินเข้ามาคลอเคลีย ขวัญข้าวมองแล้วยื่นมือไปเกาคางให้เบาๆ เธอกับเจ้าแมวนี้ก็คงไม่ต่างกัน ไม่ควรหวั่นไหวกับความใจดีเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับ เพราะถึงเวลาก็ต้องกลับไปอยู่ในที่ๆ เป็นของเธอ
ตุลาขับรถไปทำงานด้วยความเคยชิน ระยะทางสิบหกกิโลไปกลับรวมสามสิบสองกิโลแม้จะสิ้นเปลื้องน้ำมันรถอยู่ไม่น้อย แต่เขาเป็นคนอยู่ติดที่ ถ้าชินกับที่ไหนแล้วก็ไม่อยากจะเปลี่ยน บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นบ้านของปู่ย่า ช่วงวัยรุ่นเขาเคยมาอยู่ที่บ้านนี้เพราะปู่ย่าไม่มีลูกหลานคนอื่นมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนพ่อก็ยุ่งกับกิจการที่ลงทุนไปไม่น้อย และเขาเองก็ไม่ชอบชีวิตในกรุงเทพฯ แต่เมื่อปู่ย่าเสีย เขาก็กลับไปอยู่ที่กรุงเทพฯ และกลับมาเรียนที่นี่ในระดับปริญญาตรี ที่ผ่านมาได้ยินแม่พูดเรื่อง ‘ข้าวจี่’ จนเบื่อ ทั้งที่ไม่ได้เจอกัน เขาไม่ชอบอะไรที่ถูกวางแผนให้ต้องทำตาม แม่อยากให้ลูกสนิทกันเหมือนที่แม่ๆ เป็นเพื่อนรักกัน แต่เขาเป็นผู้ชายจะให้ไปเล่นอะไรกับเด็กผู้หญิงได้เล่า
อืม...แต่ถ้าเล่นแบบผู้ใหญ่ก็ได้อยู่นะ
ชายหนุ่มสายหน้าไปมาแรงๆ นั้นลูกสาวของเพื่อนแม่นะ เป็นคนที่แม่หวงอย่างกับลูกในไส้ ถ้าทำอะไรเกินเลยคงทำให้ผู้ใหญ่มองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ น้ำคงท่วมไม่กี่วันเหมือนทุกปีนั้นแหละ ประเดี๋ยวเธอกับเจ้าแมวอ้วนนั้นก็กลับไปอยู่ที่ของเธอแล้ว