“เดี๋ยวรับประทานอาหารกันนะครับ เดินทางมาเหนื่อย ๆ ยังไม่ได้ทานอะไรกันเลย” เกริกหันไปสนใจกับหญิงสาวแสนสวยที่เขาพามาด้วย ก่อนจะเดินตามมารดาเข้าไปในบ้าน
ฟ้าลดาได้แต่ยืนบื้อ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดคอ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนไร้ค่าที่ถูกลืม
ลมหายใจของฟ้าลดาสะดุด มันแทบหายใจไม่ออก เกริกไม่สนใจเธอเลย เขาทำเหมือนกับว่าลืมเลือนเธอไปเสียแล้ว
ฟ้าลดายืนคิดและตัดสินใจ ระหว่างเดินเข้าไปรับประทานอาหารกับครอบครัวของเขา กับหนีกลับบ้านไปตอนนี้ เธอควรทำอย่างไรดี
ฟ้าลดาถามตัวเองด้วยหัวใจไม่เป็นสุข เขาไม่อยากเห็น จะหน้าด้านอยู่ทำไม นั่นคือประโยคที่เธอถามตัวเองในใจ แต่ใจอีกฝั่งก็ค้านว่า เธอควรไปดูให้แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกค้าจริง ๆ ไม่ใช่คู่ควงคนใหม่ของสามี
ลูกค้าอะไรถึงได้หอบกันมาถึงบ้าน แนะนำให้พ่อแม่รู้จักกันขนาดนี้
ฟ้าลดายืนลังเลอยู่หน้าประตูบ้าน เสียงหัวเราะภายในบ้านดังขึ้น ทำให้รู้สึกว่าเธอเหมือนคนนอกก็ไม่ปาน
“อ้าวหนูฟ้า มากินข้าวกันเร็ว กินกันหลาย ๆ คนสนุกดี” ถ้าไม่เพราะประโยคของแม่สามี ฟ้าลดาคงถอดใจหนีกลับไปนอนร้องไห้เป็นเผาเต่าอยู่ที่บ้านของตัวเองแล้ว
“มานั่งใกล้ตาเกริกสิจ๊ะหนูฟ้า จะได้คุยกันด้วย ไม่ได้เจอกันเลยใช่ไหม ตาเกริกนี่ก็กระไร หนีเมียไปทำงาน ปล่อยให้เมียอยู่บ้านคนเดียว” นางตำหนิลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก
“คุณดานั่งตรงนี้ก็ได้ครับ” เกริกเลื่อนเก้าอี้ให้ผู้หญิงอีกคน ในขณะที่กับเธอได้แต่ยืนบื้อเป็นหัวหลักหัวตออยู่ใกล้ ๆ เขา แต่เขาไม่คิดจะใส่ใจ
ฟ้าลดารู้สึกขมคอจนแทบกลืนข้าวไม่ลง เธอค่อยๆ หย่อนตัวนั่งลงใกล้ๆ กับเกริกอีกด้านด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง หัวใจเจ็บปวดแปลบๆ อย่างหักห้ามไม่ไหว
“หนูฟ้าน่ะมากินข้าวเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ทุกวัน น้อง ๆ ของเราน่ะไม่ค่อยอยู่ติดบ้านหรอก ติดเพื่อน บ้างก็ไปทำการบ้านรายงานอะไรก็ไม่รู้” แม้มารดาของเขาจะพยายามพูดถึงเธอ แต่หัวข้อสนทนานั้นก็หาทำให้เกริกสนใจเธอไม่
เขาตักอาหารให้อีกคน ในขณะที่เธอนั่งเขี่ยข้าวในจานไปมา เธออยากให้เขาตักอาหารให้บ้าง แต่คงเป็นไปไม่ได้ แม้แต่หน้าเขายังไม่อยากจะมอง
“แล้วจะกลับกันเลยเหรอนี่” ประโยคเอ่ยถามของบิดาทำให้เกริกต้องบอกความประสงค์ของตน
“จะพักที่นี่ซักสองคืนครับ ดูวิวสวยๆ แถวบ้านเรา เพื่อถ่ายไปใช้ในงานด้วยน่ะครับ”
“อ้อ... งานเกี่ยวกับอะไรล่ะ”
“คุณดาเธอเขียนบทความลงหนังสือน่ะครับ เกี่ยวกับภูมิปัญญาชาวบ้าน ผมเลยแนะนำที่นี่ เพราะสนิทคุ้นเคยกับคนแถวนี้ดี เลยมาช่วยเก็บภาพสวยๆ ให้เธอด้วยน่ะครับ”
“เก่งเสียจริง เป็นนักเขียนเหรอ” ท่าทางภาคภูมิใจของพ่อสามีทำให้ฟ้าลดากัดปากเบา ๆ ผู้หญิงอีกคนดูเก่งกาจ พูดจาคล่องแคล่ว เฉลียวฉลาด ในขณะที่เธอไม่มีงานมีการทำ เทียบกันแล้วฟ้าลดารู้สึกไร้ค่าเสียเหลือเกิน
“ผมเลยจะขอให้คุณดาพักกับเราสักสองสามวันน่ะครับ”
“ก็ดีนะ นาน ๆ ที เกริกได้เจอกับหนูฟ้า คืนนี้ก็ให้หนูฟ้าค้างเสียที่นี่เลย ดีไหมจ๊ะหนูฟ้า ไม่ต้องไป ๆ มา ๆ ให้เหนื่อย” ประโยคของมารดาทำให้ฟ้าลดายิ้มเขิน แต่รอยยิ้มของเธอก็ต้องจางหายไป
“อย่าดีกว่าครับ ผมมาทำงาน จะเกะกะวุ่นวายเสียเปล่า ๆ เดี๋ยวผมพาฟ้าลดาไปส่งบ้านเองครับ” ประโยคตัดรอนนั้นทำให้ฟ้าลดาอิ่มตื้อ เธอกลืนข้าวไม่ลงอีกต่อไป และทุกคนบนโต๊ะอาหารก็เงียบกริบ คล้ายกับว่าจะเห็นชอบกับประโยคของสามีไร้ใจที่รู้สึกรำคาญเธอตั้งแต่เจอหน้ากัน
หลังรับประทานอาหารเสร็จ เกริกก็แจ้งความประสงค์กับบิดามารดาว่าเขาจะไปส่งฟ้าลดาที่ไร่ของเธอ
ฟ้าลดาเลยจำใจต้องขึ้นรถไปกับสามีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ที่รีบไล่ฟ้ากลับบ้านเป็นเพราะว่าเกริกอยากจะอยู่กับหล่อนใช่ไหมคะ” ฟ้าลดาเอ่ยถามเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
“คุณไปที่บ้านพ่อแม่ผมทำไม” เกริกเอ่ยถามเสียงเข้ม น้ำเสียงดูห่างเหินและเย็นชา
ฟ้าลดากลืนน้ำลายเหนียวดหนืดลงคอ เขาไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับมาอย่างกล่าวโทษ เสมือนว่าเธอไปทำอะไรไม่ดีมาอย่างนั้น
“ฟ้าแค่ไปกินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ฟ้าเป็นสะใภ้ ไปบ้านพ่อแม่สามีมันผิดตรงไหนคะ”
“หึ!” เขาทำเสียงในลำคอ ฟ้าลดาเม้มปากเข้าหากัน ระยะทางที่กลับไร่มีแต่ป่าเขา ไร้บ้านคน ถ้าใครรถมาเสียที่นี่ จะค่อนข้างลำบากมากหากต้องตามช่างมาลากรถไปซ่อม
เธอมองข้างทางด้วยความรู้สึกหว้าเหว่ในใจ ชีวิตครอบครัวลุ่ม ๆ ดอนๆ ของเธอเหมือนมาสุดทางเสียอย่างนั้น
“หล่อนเป็นลูกค้าหรือเป็นใครกันแน่คะ เกริกถึงได้พามาที่บ้าน แนะนำให้พ่อแม่ได้รู้จัก”
“ผมไม่จำเป็นต้องตอบคุณ”
“ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไร้ยางอาย รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วก็ยังจะมายุ่ง หน้าหล่อนคงหนาเสียยิ่งกว่าอะไร”
“ว่าคนอื่นไม่ก้มมองตัวเอง คุณก็ไม่ได้ดีไปกว่าใคร ต้องการแย่งผมมาจากผู้หญิงที่ผมรัก โดยใช้วิธีการทุกอย่าง แม้จะเป็นวิธีสกปรกแค่ไหนก็ทำ หน้าคุณหนาแค่ไหน ผมก็อยากรู้”
ฟ้าลดาถึงกับสะอึกในประโยคเจ็บแสบของสามี เขาปกป้องผู้หญิงคนนั้น
“ฟ้าไม่กลับไร่แล้วค่ะ เลี้ยวรถกลับเดี๋ยวนี้ คืนนี้ฟ้าจะนอนบ้านพ่อแม่ของเกริก จะได้รู้กันไปว่าผู้หญิงคนนั้นจะหน้าหนากว่าฟ้ารึเปล่า ถึงได้ชอบแย่งสามีชาวบ้าน” ฟ้าลดาพูดเสียงเข้ม เธอหึงหวงเขาสุดใจ และเกลียดผู้หญิงคนนั้นเป็นที่สุด รู้ว่าผู้ชายเขามีเมียอยู่แล้วยังจะหน้าหนาเข้ามาตีสนิทอีก
“ไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนนั้นที่หน้าไม่อาย รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วยังใจง่ายมานอนค้างอ้างแรมบ้านผู้ชาย แต่เกริกเองก็มีเมียอยู่แล้ว จำไม่ได้หรือไง”
“ผมจำได้ ว่าได้ภรรยาคนนี้มาได้อย่างไร อยากนอนบ้านพ่อแม่ผมนักใช่ไหม ได้... งั้นไสหัวลงไปจากรถ แล้วเดินกลับไปเอง”
เอี๊ยด!!! เสียงล้อรถเบียดไปกับถนน ก่อนที่เกริกจะหยุดรถ เขาเปิดประตูรถเต็มแรง แล้วจัดการดึงร่างภรรยาลงไปอย่างโมโห ที่เธอมายั่วอารมณ์เขา
“ลงมาเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ลง ฟ้าไม่ลงตรงนี้นะ เกริกอย่าทำแบบนี้กับฟ้านะ โอ๊ย!” ฟ้าลดาร้องเสียงหลงเมื่อโดนกระชากลงจากรถ และโดนผลักจนกระเด็น
“อยากกลับไปนอนบ้านของพ่อแม่ผมนัก ก็เดินกลับไปเองสิ ผมกับคุณดาจะไปนอนที่อื่น”
“ไม่ได้นะ เกริกแต่งงานกับฟ้าแล้ว ทำไมถึงไม่ให้เกียรติกันเลย”
“ก็ผมเคยบอกแล้วไงว่าถ้าคุณอยากแต่งงานกับผมนัก ผมจะทำให้คุณรู้ว่านรกมีจริง” เขาปิดประตูรถปังใหญ่ ก่อนจะขับออกไปไม่เหลียวหลัง
ฟ้าลดามองไปรอบกายอย่างขวัญเสีย ที่นี่มีแต่ป่าเขา ไร้บ้านคน เธอจะเดินเท้ากลับไร่ของตัวเองก็อีกไกล แม้ไร่ของพี่ชายกับที่ดินของครอบครัวเกริกจะติดกัน แต่ระยะทางเข้าไร่ค่อนข้างห่างจากบ้านของเกริกมากพอสมควร เพราะที่ดินของพี่ชายกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา เดินเท้าวันหนึ่งก็ไม่ถึง ต้องขับรถเท่านั้น