ตอนที่ 2 อยากลองจูบ (2)

1502 Words
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” เธอลุกจากโซฟาแล้วเดินมายืนอยู่ที่โต๊ะทำงานใหญ่ แต่แล้วเรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นร่างใหญ่บนเก้าอี้ทำงานหลับตาสนิท สองมือหนาประสานกันวางอยู่บนหน้าตัก เขาหลับตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ? มาลินีครุ่นคิด เมื่อมีโอกาสใกล้ชิด มาลินีอดที่จะสำรวจความหล่อเหลาของเขาไม่ได้ ดนุนัยมีดวงหน้าคมเข้ม หน้าผากของเขานูนสัน กว้างกำลังดี จมูกของเขาโด่งโค้งคล้ายสันเขาดูมีเสน่ห์ และขนตาของเขาก็หนางอนจนผู้หญิงอย่างเธอยังอิจฉา ขณะที่ผิวแก้มของเขานั้นไม่ได้ใสจ๋าเหมือนผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หยาบกระด้าง ริมฝีปากของเขาก็เหมือนกัน ไม่ได้บางเกินไป มีเนื้อเต็มอิ่มแต่ออกจะคล้ำนิดหน่อย เพราะเขาเป็นคนผิวเข้ม ทว่าก็รับกันดีกับคางได้รูปที่ตอนนี้เขียวปื้น เพราะผ่านการโกนมาหมาด ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตมาลินีไม่เคยเห็นเขาปล่อยหนวดยาวเกินหนึ่งมิลลิเมตรเลย ดนุนัยเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองดีมาก เพราะอย่างนั้นเขาจึงดูดีทุกกระเบียดนิ้ว แม้อายุจะครบสามสิบเจ็ดปีในอาทิตย์หน้านี้แล้ว หากแต่เขายังดูหนุ่มแน่นราวชายอายุยี่สิบปลาย ๆ อยู่เลย เขาไม่ใช่คนผิวขาว แต่มีผิวสีแทนตามแบบผู้ชายส่วนใหญ่ หากทว่าทุกอย่างกลับลงตัวเหมาะเจาะ มาลินีชั่งใจอยู่นานว่าจะปลุกเขาดีไหม เพื่อบอกว่าเธอแปลเอกสารเสร็จแล้ว แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้เขาหลับสนิทถ้าเธอปลุกเขาก็เท่ากับไปทำลายความสุขของเขา จึงตัดสินใจวางกระดาษลงบนโต๊ะ หมายจะเดินออกไป หากแต่ความรู้สึกส่วนลึกในใจบางอย่าง สั่งให้เธอทำสิ่งที่เธอคิดว่าโอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปใกล้คนที่หลับอยู่ มือเล็กรวบผมไว้ท้ายทอยก่อนจะโน้มหน้าลงมาจรดกลีบปากอิ่มลงบนปากหยักได้รูปเบา ๆ จากนั้นจึงยืดตัวขึ้นเตรียมจะเดินจากไป แต่แล้วในวินาทีที่เธอจะเอี้ยวตัว ลำแขนแกร่งของคนที่หลับอยู่เมื่อครู่ตวัดรั้งเอวกิ่วของเธอไว้ ทำให้ร่างเพรียวในชุดเอี๊ยมล้มแหมะอยู่บนหน้าตักแข็งแรงของชายหนุ่มอย่างจัง “คุณนิก!” ตากลมใต้คิ้วเรียวโค้งเบิกกว้าง เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ นอกจากเมื่อคืนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มาลินีรู้สึกถึงเนื้อถึงตัวกับเขามากขนาดนี้ แต่ที่เธอตกใจยิ่งกว่าคือเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าเมื่อกี้เธอขโมยจูบเขา!!! “เมื่อกี้ทำอะไร?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม มาลินีที่นั่งแข็งทื่อตกอยู่ในพันธนาการของเขา จะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรก็ดูโกหกเกินไป เพราะเขาน่าจะรู้แล้ว ในเมื่อโดนจับได้จัง ๆ จึงจำเป็นต้องพูดความจริง “เอ่อคือมะลิ…มะลิจูบคุณนิกค่ะ” พูดแล้วก็ก้มหน้างุดไหล่บางห่อลู่วูบไหวไม่กล้าสู้หน้า แต่จำต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา เมื่อลำนิ้วแกร่งเชยคางมนขึ้นมา “นั่นเขาไม่เรียกว่าจูบหรอก… ถ้าจูบมันต้องแบบนี้” จบประโยคนุ่มทุ้ม มือหนาที่วางอยู่รอบเอวเลื่อนขึ้นมาสอดใต้เรือนผมนุ่มลื่น รั้งดวงหน้าหวานเข้ามาใกล้ ก่อนจรดริมฝีปากประทับลงบนกลีบปากสีหวาน มาลินีถึงกับเบิกตากว้าง! ทำอะไรไม่ถูก เธอชาวาบไปทั่วทั้งร่างกับสัมผัสอุ่นร้อน ร่างเล็กที่แข็งทื่อเมื่อครู่อ่อนยวบลงในทันทีด้วยความวาบหวาม ดนุนัยไม่ได้จูบเธอรุนแรง เขาค่อย ๆ ดูดจูบปากนุ่มของเธอ จากละมุนแล้วค่อย ๆ เพิ่มการรุกรานและดูดดื่ม จนมือเล็กที่วางกองรวมอยู่หน้าตักค่อย ๆ เลื่อนขึ้นเกาะกุมลำแขนกำยำของเขาไว้มั่น ตอบรับจุมพิตเร่าร้อนราวกับถูกสะกดจากเขา เธอรับรู้ถึงเรียวลิ้นอุ่น ๆ ตวัดรัดพันลิ้นนุ่มของเธอมาดูดดุนหนักหน่วง พาให้ร่างเล็กอารมณ์กระเจิง แล้วแปรเปลี่ยนเป็นความต้องการบางอย่างให้เลือดอุ่นในกายพล่าน มาลินีจูบตอบชายหนุ่มอย่างที่เขาทำ เรียวลิ้นนุ่มตวัดรัดลิ้นอุ่นที่เข้ามาลวงล่อ ฉวยดูดกลีบปากอุ่นแรงหนัก หากแต่ดูเงอะงะ เพราะไร้ประสบการณ์ ทว่าดนุนัยกลับชื่นชอบ จนตาคมฉายประกายวาววับ ดนุนัยไม่หยุดแค่จูบกลีบปากอิ่ม เขาเลื่อนริมฝีปากลงมายังซอกคอระหงที่ล่อลวงต่อสายตายิ่งนัก มาลินีเป็นคนผิวขาว ขาวจนเกือบจะคล้ายน้ำนม เขาอดไม่ได้ที่จะสัมผัสขบเม้มบนเรียวคอหอมกรุ่นเนียนนุ่มนี้เบา ๆ และก่อนที่จะผละใบหน้าออกห่าง เขาดูดแรง ๆ ตรงผิวอ่อนซอกคอด้านซ้ายให้หายมันเขี้ยวเด็กสาวริจะลองรัก “ทีนี้รู้หรือยังว่าการจูบเป็นยังไง?” เสียงทุ้มกระซิบแหบอยู่ข้างริมหู ทำให้คนที่สติเพริด รีบพยักหน้าอย่างขวยเขิน พวงแก้มของเธอแดงระเรื่ออย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาร้อนแรงของเขา “มองหน้าฉันสิสาวน้อย” มือใหญ่แตะลงที่คางของเธอ แล้วรั้งให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา มาลินีเห็นแววตาลุ่มลึกคู่นั้นจับจ้องเธอคล้ายต้อนให้เธอหมดหนทางหลบหลีก “ทำไมต้องขโมยจูบฉัน?” น้ำเสียงของเขาเผยแรงกดดันแบบที่มาลินีไม่เคยได้ยินมาก่อน ขัดกับสีหน้าที่ตอนนี้ปรากฏแวววาม “เอ่อคือมะลิ…” มาลินีอึกอักตอบไม่ได้ ตากลมโตระริกไหว มองเขาอย่างหวาดหวั่น ทั้งที่ดวงหน้าเข้มไม่ได้มีแววดุเลยสักนิด แต่ทำไมเธอถึงต้องประหม่าไปหมดด้วยนะ “มะลิขอโทษค่ะคุณนิก ต่อไปมะลิจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ อย่าโกรธมะลิเลยนะคะ” สองมือเล็กยกขึ้นมาไหว้เจ้าของใบหน้าคมเข้มซึ่งตอนนี้ใกล้กันแค่ไม่ถึงครึ่งนิ้ว จนเธอต้องผละหน้าออกห่างเขาอีกนิด แต่ดูเหมือนเขาจะขยับเข้าใกล้ตามเมื่อเธอถอยห่าง “เธอจูบกับผู้ชายแบบนี้ทุกคนหรือ?” ครั้งนี้เนื้อเสียงของเขาฟังดูเข้มจัดกว่าเมื่อกี้มาก “เปล่านะคะ มะลิไม่เคยจูบ และไม่คิดจะจูบใครทั้งนั้น” เธอรีบสั่นหน้าปฏิเสธสีหน้าจริงจัง ทำเอาคนฟังถึงกับกลั้นยิ้มไม่อยู่ “ทำไมล่ะ?” ดนุนัยยังอยากเล่นจึงเอ่ยถามต่อ “ก็มะลิไม่ได้รักเขา แล้วมะลิจะจูบกับพวกเขาได้ยังไง” บอกแล้วใบหน้าร้อนฉ่าอย่างห้ามไม่อยู่ เรียวปากเม้มหนักเกือบจะเป็นเส้นตรง “แสดงว่าเธอจะจูบเฉพาะ… คนที่เธอรักงั้นสิ” “ใช่ค่ะ” ดวงหน้าหวานพยักหงึก ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอะใจพร้อมกับสมองกำลังประมวลคำพูดของเขาแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง หากแต่ยังไม่ทันได้แก้ตัวรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดลงอย่างกะทันหัน เพราะถูกดวงหน้าใหญ่น้าวลงมาหา เขาจูบเธออีกแล้ว ครานี้เขาไม่ได้นุ่มนวลเหมือนครั้งแรก มาลินีรับรู้ได้ถึงความรุนแรงและเรียกร้อง เล่นเอาเธอที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเหมือนกำลังจะขาดอากาศเพราะหายใจไม่ทันต่อการรุกรานวาบหวาม “แค่นี้ถึงกับหายใจไม่ทันเลยหรือ?” คนตัวใหญ่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยอกเอิน ขณะที่ปลายนิ้วแกร่งก็ไล้พวงแก้มใสเบา ๆ ไปด้วย “มะลิเปล่า” ปฏิเสธไม่เต็มเสียง มือเล็กยันแผงอกเขาไว้ ราวกับอยากออกห่าง และด้วยความที่เธอนั่งอยู่บนตักของเขา มาลินีสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อหน้าขาเป็นมัด ไหนจะลำแขนล่ำสันที่โอบรัดเธอไว้ ทั้งแข็งและแน่นหนั่น โดยเฉพาะหน้าอกที่เธอวางมือทาบอยู่ในขณะนี้มีกล้ามเป็นมัด ๆ ดนุนัยเป็นผู้ชายที่แข็งแรงมาก “คุณนิกปล่อยมะลิลงได้หรือยังคะ” มาลินีอยากจะลงจากตักแข็งแรงนี้ และอยากจะออกจากห้องนี้โดยเร็วที่สุด เธอไม่ชอบบรรยากาศชวนน่าอึดอัดอย่างนี้เลย หากแต่ไม่มีคำตอบจากเขา รังแต่ร่างบางจะยิ่งจมเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของเขา เพราะแรงกระชับรัดรึงจากลำแขนกำยำ “คุณนิกอย่าแกล้งมะลิสิคะ” มาลินีอยากทำตัวเล็กลีบเพื่อให้หลุดพ้นจากวงแขนแข็งแรงเต็มประดา กลัวเขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเธอนัก ยิ่งตอนนี้มุมปากของเขาเผยรอยหยักยิ้ม เดาไม่ออกว่าเขาจะทำอะไรกับเธอต่อ *********** คุณนิกชอบแกล้งน้องอีกแล้วค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD