ตอนที่ 4 ซื้อของขวัญ (3)

1445 Words
“กินอะไรกันดี” จิรายุรีบถาม คว้าเมนูมาเปิดดูทำราวไม่สนใจตากลมโตที่จับจ้องเขาอยู่ “ของเราข้าวหน้าปลาไหลก็แล้วกัน” ณภัทรว่าพร้อมหันไปยิ้มให้มาลินี “เราชอบกินเหมือนกับมะลินั่นแหละ” กล่าวพลางเลื่อนแขนจะหยิกแก้มเนียนใสของเพื่อนสาวอย่างมันเขี้ยว แต่เมื่อถูกสายตาแข็งกร้าวของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามขึงใส่ ณภัทรเลยต้องเลื่อนมือลงอย่างจำใจ พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ทำเป็นหวง” จบประโยคของณภัทรทั้งมาลินีและมนรดาหันมาสบตากัน หัวคิ้วเรียวของมาลินีเลิกขึ้นคล้ายสงสัย ใครหวงใคร? แต่มนรดากลับไหวหน้า ก่อนจะชะโงกหน้าหันไปถลึงตาใส่ณภัทรคนต้นเรื่อง ในกลุ่มเพื่อนใคร ๆ ก็ดูออกว่าจิรายุชอบมาลินี หากแต่ด้วยการแสดงออกของเขาที่มีต่อมาลินีเช่นนั้น ทำให้มาลินีไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแอบชอบ และกลับคิดว่าจิรายุเกลียดตัวเองด้วยซ้ำ “ไม่มีอะไรหรอก ณภัทรมันปากพล่อยแบบนั้นแหละ กินทาโกะยากิกันดีกว่า” มนรดารีบโบกไม้โบกมือเลิกหน้าให้ทุกคนกินเมนูที่พนักงานเพิ่งนำมาเสิร์ฟตั้งโต๊ะ “เออ ๆ หิวจะแย่อยู่แล้ว” ณภัทรรีบเอออออีกคน บอกพลางรีบรับจานจากพนักงานเสิร์ฟที่เข้ามาได้จังหวะพอดิบพอดี มาลินีที่เริ่มสงสัยอาการของเพื่อนจึงเม้มปากแน่น ตากลมหันไปประสานกับตาคมอีกคู่ที่นั่งตรงข้ามกัน ซึ่งตอนนี้เขาทำหน้านิ่งเหมือนเคย แต่เหมือนจะค่อนไปทางตึงเข้มมากกว่า “กินสิ จะจ้องอะไรนักหนา” เสียงดุ ๆ ของจิรายุที่ดังขึ้นมา ทำให้มาลินีไม่ได้คาใจกับประโยคของณภัทรอีก เธอหันมาสนใจกับอาหารตรงหน้า ขณะที่จิรายุนั้นพรูปากออกมาเบา ๆ ก่อนจะเขม่นมองณภัทรที่ยิ้มแหยด้วยสายตาคาดโทษ เรื่องที่เขาแอบชอบมาลินี มีเพียงมนรดากับณภัทรเท่านั้นที่รู้ ซึ่งเขาก็อยากให้มันเป็นความลับตลอดไป ตอนนี้ทุกคนจึงเอาแต่สนใจอาหารตรงหน้าไม่มีใครพูดอะไรอีก แต่ในระหว่างที่มาลินีเงยหน้าขึ้นเพื่อหยิบเครื่องดื่มเตรียมจะยกดื่ม สายตาพลันเห็นร่างสูงใหญ่ของดนุนัยกับหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านอาหารพอดี ทั้งคู่ท่าทางดูสนิทกันมาก แต่พอสังเกตชัด ๆ ถึงได้รู้ว่าหญิงสาวคือแฟนเก่าของดนุนัยนั่นเอง เพราะเธอเคยเห็นดนุนัยพาผู้หญิงคนนั้นมาค้างคืนที่บ้านหลายครั้งเมื่อสมัยที่ทั้งคู่ยังคบกันอยู่ ช่วงเวลานั้นสื่อทุกสำนักต่างก็ยกให้พวกเขาเป็นคู่รักแห่งปี เพราะหญิงสาวเป็นถึงซุปตาร์ นางร้ายเบอร์หนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญคือหล่อนเป็นถึงลูกสาวท่านทูตชาติตระกูลดีทุกอย่าง แต่พวกเขาคบกันได้ไม่กี่ปีหลังจากที่ฝ่ายหญิงกลับไปเรียนต่อที่เมืองนอก ข่าวของทั้งคู่ก็เงียบหายไป บ้างก็ว่าทั้งคู่เลิกกันไปแล้ว บางคนก็เม้าท์ว่าทั้งสองแค่ห่างกันเท่านั้น เพราะฝ่ายหญิงติดเรียน มาลินีมองสองหนุ่มสาวที่ดูพูดคุยหยอกล้อแล้วรู้สึกเจ็บจี้ดในหัวใจจนไม่มีอารมณ์กินกับข้าวแสนอร่อยตรงหน้าอีก เธอถอนสายตาจากบุคคลทั้งสองหลุบตามองกับข้าวในจาน แต่ดูเหมือนจะมีบางคนที่ยินดีกับภาพนั้น “งานนี้ถ่านไฟเก่าคุชัวร์” จิรายุว่าพลางกดยิ้มมุมปาก ขณะที่นัยน์ตาเข้มกลับหมายมั่นมองดวงหน้าหวานที่หรี่ลงฉายชัดความหม่นแสงทำเอารู้สึกหงุดหงิดอย่างไรชอบกล ส่วนมนรดานั้นเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรักดี รีบวางมือลงบนมือเล็กเย็นเฉียบแล้วบีบเบา ๆ มาลินีเงยหน้ามองเพื่อนสาวอย่างขอบคุณ เมื่อมนรดาพยักหน้าให้เธอ เรื่องที่เธอแอบรักดนุนัยนอกจากป้าอบที่รู้แล้วก็มีมนรดากับจิรายุอีกคนที่รู้เรื่องนี้ “พวกเราไปดูหนังต่อไหม?” ณภัทรเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนกินข้าวเสร็จ หากแต่ได้แค่ความเงียบกลับมา จนเขาหัวเราะหึ ๆ คนเดียว มองเพื่อนอีกสามคนสลับไปมาอย่างขอคำตอบ “ตกลงว่าไง ทำไมเงียบกันไปหมด” ถามอีกครั้งพร้อมกวักมือเรียกพนักงานมาเช็กบิล เมื่อพนักงานเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ณภัทรจึงเอ่ยถามค่าอาหาร “ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ?” ณภัทรเตรียมหยิบกระเป๋าตังค์ออกจากกระเป๋ากางเกง แต่พนักงานชายกลับปฏิเสธพร้อมหันไปทางโต๊ะของดนุนัยกับผู้หญิงที่มาด้วยกัน “โต๊ะโน้นรับผิดชอบให้เรียบร้อยแล้วครับ” กล่าวจบจึงผละออกไป ทิ้งให้สองหนุ่มกับสองสาวหันไปทางบุคคลที่ที่ถูกกล่าวอ้าง ณภัทรและมนรดายกมือไหว้ขอบคุณดนุนัยที่มองมาที่พวกเธออยู่ก่อนแล้ว ส่วนจิรายุและมาลินีเพียงค้อมศีรษะเล็กน้อยด้วยสีหน้าราบเรียบ “งั้นเราไปชอปปิงต่อนะ” ครั้งนี้เป็นมนรดาพูดขึ้น จากนั้นผุดลุกขึ้นพร้อมฉุดแขนมาลินีไปด้วย ณภัทรเห็นแล้วรีบโพล่งขึ้นมาว่า “โอเคงั้นเราด้วย เผื่อมีอะไรให้ช่วยถือ” “ไม่ต้องยะ ไม่ได้ซื้อของเยอะขนาดต้องมีคนถือหรอก แต่ถ้านายจะเป็นป๋าเปย์ก็ได้นะ” กล่าวจบมนรดาหัวเราะคิก แต่ณภัทรกลับดีดหน้าผากเล็กของเพื่อนสาวดังป้อก! “โอ้ยแกดีดหน้าฉันทำไมเนี่ย” ตวัดตาค้อนควักพร้อมยกมือลูบหน้าผากป้อย ๆ ณภัทรมองแล้วหัวเราะพรืดก่อนจะพูดว่า “ก็อยากแกล้งอะมีอะไรไหม?” เยี่ยมหน้าเข้ามาใกล้ด้วยท่าทียียวน “คนบ้า!” มนรดายู่หน้าค้อนให้ณภัทรหมายจะฟาดฝ่ามือลงบนแขนกำยำ หากแต่ณภัทรเบี่ยงออกพร้อมยักคิ้ว มาลินีมองเพื่อนทั้งสองที่กำลังต่อล้อต่อเถียงกันแต่ออกแนวหยอกเล่นมากกว่าแล้วอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะปรายสายตาไปทางดนุนัยกับแฟนเก่าของเขา ซึ่งฝ่ายนั้นไม่ได้มองเธอ เพราะมัวแต่คุยกับอดีตคนรัก มาลินีเคลื่อนสายตากลับด้วยใบหน้าจืดเจื่อน จิรายุที่ยืนกอดอกมองเธอแล้วส่ายหน้าราวกับรำคาญ ยอมรับว่าเห็นหน้าหม่น ๆ ของเพื่อนแล้วรู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “ไปกันเถอะ” มาลินีบอกมนรดาซึ่งกำลังเถียงกับณภัทรอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “เราไปด้วย” ณภัทรเอ่ยขึ้นอีกครั้ง และขยับมายืนใกล้มาลินี มนรดาเห็นความระริกระรี้ในแววตาคมราวกับสุนัขจิ้งจอกจึงเลิกคิ้วข้างเดียวถาม “พร้อมจะเปย์ไหมละ?” “ได้สิ แต่เราเปย์มะลิคนเดียวนะ ส่วนแกก็จ่ายเองก็แล้วกัน พ่อแกเป็นถึงผู้นำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของประเทศคงมีเงินเยอะแล้วเนอะ” “ขี้งก” มนรดาแหวใส่เพื่อนชาย ก่อนจะดึงมาลินีให้ออกห่างจากณภัทรที่เตรียมจะจับมือมาลินี “ออกไปห่าง ๆ เลย แล้วไม่ต้องตามเราสองคนมานะ” ว่าแล้วก็ลากเพื่อนรักออกไป ปล่อยให้ณภัทรหันมายักไหล่กับคนยืนทำหน้านิ่ง “เอาไงต่อวะ มึงจะไปไหนต่อ?” “กูจะกลับบ้าน” จิรายุเอ่ยเสียงห้วน แต่สายตามองตามสองสาวไม่กะพริบ ณภัทรมองคนปากแข็งแล้วส่ายหน้าระอา “มึงรักมะลิมึงก็บอกไปดิว่ามึงชอบเขา ก็เหมือนกูไงแสดงออกมาตรง ๆ ว่ากูชอบ ถึงมะลิจะปฏิเสธกูก็เหอะ และกูก็จะตื้ออยู่อย่างนั้นจนกว่ามะลิจะมีแฟน ถ้าเธอมีแฟนเมื่อนั้นแหละกูก็เลิกตื้อ” พูดด้วยสีหน้าจริงจังเสียจนจิรายุแทบอยากจะยกกำปั้นหลุน ๆ ชกใบหน้ามาดมั่นนั่น รู้ทั้งรู้เขาชอบมาลินี เพื่อนยังจะมาคิดแข่งกับเขาอีก แต่เขารู้ว่าไม่มีใครได้หัวใจของมาลินีหรอก เพราะหัวใจของเธอถูกยกให้ใครบางคนไปแล้ว คิดแล้วก็ปรายตาไปทางหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ในร้านอาหารที่พวกเขาเพิ่งเดินออกมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD