“ทำร้ายเขาไปแล้วอย่างงั้นเหรอ” เสียงเข้มของนายแพทย์หนุ่มเอ่ยคำถามที่ยากจะเปล่งออกมาต่อหน้าแฟนสาวของตัวเอง ภายในใจของคุณหมอหนุ่มภาวนาขอให้เธอตอบว่าไม่ได้ทำ!!
“....” มือหนากำหัวไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาเอาไว้แน่น แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากเธอ มีเพียงแค่สายตาว่างเปล่าจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของแฟนหนุ่ม เหมือนเธอต้องการให้ความเงียบเป็นคำตอบ
“ตอบสิวะ!!” ยิ่งคุณหมอหนุ่มเห็นแฟนสาวของตัวเองนิ่งและเงียบมากเท่าไหร่ บวกกับร่างบางไม่มีแม้แต่คำอธิบายใด ๆให้กับเขา
อารมณ์กรุ่นโกรธภายในใจเริ่มปะทุออกมา มือหนาออกแรงบีบหัวไหล่ที่มากขึ้นใบหน้าสวยนิ่วคิ้วขมวดเมื่อรู้สึกเจ็บ ร่างบางเริ่มดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากความเจ็บปวดนั้น แต่ยิ่งเธอดิ้นเท่าไหร่แรงบีบก็ยิ่งแรงมากเท่านั้น
“ใช่!!” น้ำเสียงเย็นยะเยือกตอบกลับหมอหนุ่มหน้าตาเฉย ไร้ซึ่งใบหน้ารู้สึกผิดแต่อย่างใดแสดงออกมาต่อหน้าของแฟนหนุ่ม มีแค่เพียงเธอที่ต้องพยายามกักเก็บความรู้สึกภายในของตัวเองเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเพื่อไม่ให้ผู้ชายคนนี้ได้เห็นความอ่อนแอของเธอ
“ทำแบบนั้น ไปทำไมวะ”
“ณดายังมีอนาคตอีกไกล ไม่อยากเสียเวลา ณดายังไม่พร้อม” คำพูดของหญิงสาวเหมือนคมมีดกรีดหัวใจของเขาให้ขาดวิ่นเป็นชิ้น ๆ
มือหนาที่บีบไหล่ของร่างบางเอาไว้ก่อนหน้านี้ปล่อยมือลงช้า ๆ เหมือนคนกำลังไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าเศร้าหมองของหมอหนุ่มแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีแม้แต่อ้อมกอดปลอบประโลมใจจากแฟนสาวที่มักจะเข้ามากอดเวลาที่เขากำลังเสียใจหรือเหนื่อยล้าเหมือนเช่นเดิม หญิงสาวเดินหันหลังจากไปโดยที่เธอไม่แม้แต่จะเอื้อนเอ่ยคำล่ำลาหรืออธิบายใด ๆ ให้หมอหนุ่มเข้าใจเลยสักนิด
เพียงแค่เห็นแผ่นหลังบางความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาปะทะที่อกแกร่งรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดและจุกที่อกเหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจและตายลงตรงนั้น
เฮือก!! ค่ำคืนที่เงียบสงบร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งตื่นตัวโยง เมื่อคุณหมอหนุ่มฝันถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดเมื่อหลายปีก่อน อดีตที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปโดยสิ้นเชิง
ทุกวันนี้เขาอยู่ได้เพราะอุทิศตัวเองให้กับวงการแพทย์ ชายหนุ่มเหมือนมนุษย์ที่มีแค่ลมหายใจแต่ไร้ซึ่งหัวใจ
ร่างสูงยันตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง มือหนาเอื้อมตัวไปเปิดโคมไฟหัวนอน เหงื่อที่ไหลซึมออกจากขมับเป็นเครื่องยืนยันว่าก่อนหน้านี้เขาฝันร้าย ฝันร้ายที่กัดกินใจของเขามานานหลายปีได้กลับมาอีกครั้ง
หัวใจด้านชากลับเจ็บปวดราวกับน้ำพุที่พึ่งทะลักออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงอดีตของตัวเอง อดีตที่ยากจะลืม แต่เหมือนว่ายิ่งหมอหนุ่มอยากลืมมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ชายหนุ่มนึกถึงและจดจำมากขึ้นกว่าเดิม
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหลับตาลงอีกครั้ง หมอหนุ่มสูดลมหายใจเข้า ออก เพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา ได้แต่เตือนตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดผ่านไปแล้ว ก่อนที่หมอหนุ่มจะล้มตัวนอนอีกครั้งโดยที่โคมไฟหัวเตียงยังคงเปิดอยู่
“สวัสดีค่ะคุณหมอไบรอัน” ร่างสูงโปร่งของคุณหมอหนุ่มเดินเข้าไปในวอร์ด เสียงเอ่ยทักทายของพยาบาลสาวไม่สามารถเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มหรือแม้แต่หางตาให้มองเธอเลยสักนิด
ทุกย่างก้าวเดินด้วยความเร่งรีบ หมอไบรอันเดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเองด้วยใบหน้าอิดรวย เนื่องจากเมื่อคืนคุณหมอหนุ่มพักผ่อนไม่เพียงพอและด้วยเช้าวันนี้เขามีเคสผ่านตัดจึงต้องปลุกตัวเองให้ตื่นมาทำหน้าที่ของตัวเองในแต่ละวัน
“เป็นอะไรวะ?” เสียงเข้มของคุณหมอคามินเอ่ยถามคุณหมอไบรอัน เมื่อเห็นใบหน้าอิดโรยของเพื่อนสนิทของตัวเอง เพียงแค่เห็นใบหน้าของเพื่อนรักความสงสัยจึงเกิดขึ้นภายในใจของหมอคามิน เพราะเมื่อวานไบรอันไม่มีเวรและได้กลับไปพักผ่อนที่คอนโดเร็วกว่าปกติแต่เหตุใดเช้าวันนี้ใบหน้าของเพื่อนรักถึงยังดูเหมือนคนไม่ได้นอน
“ไม่มีอะไร”
“ฝันถึงเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอวะ” คำถามจี้ใจของหมอคามิน ทำให้ร่างสูงของหมอไบรอันถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
“........” คำถามที่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากคุณหมอไบรอัน คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมเมื่อร่างสูงนิ่งเงียบ ครุ่นคิดถึงความฝันเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย
“ไปหาหมอไหม” ด้วยความเป็นห่วงจากหมอคามิน เขาอยากให้เพื่อนลองไปพบหมอ เนื่องจากเรื่องที่ฝั่งใจของหมอไบรอันได้ผ่านมาหลายปีแล้วแต่คำตอบที่ได้ ทำให้หมอคามินถึงกับส่ายหัวเบา ๆ
“กูก็หมอ!!”
“กูหมายถึงจิตแพทย์” ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรักหมอคามินเพียงแค่อยากให้หมอไบรอันไปพบจิตแพทย์ เพื่อบรรเทาสภาพจิตใจที่ถูกความแข็งกระดากฝั่งกลบอยู่ก้นบึ้งของหัวใจเขา
“ไม่ล่ะ ขอบใจ”
ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น วันที่แฟนสาวของหมอไบรอันเลือกที่จะเดินออกไปจากชีวิตของชายหนุ่ม หมอไบรอันตัดสินใจเดินทางไปเรียนแพทย์เฉพาะทางที่ต่างประเทศทันที
แต่หลังจากที่หมอหนุ่มได้เรียนจบเฉพาะทางที่ต่างประเทศ หมอไบรอันได้กลับมาเป็นหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลของผู้เป็นพ่อ โดยที่เขามีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล
จากชายหนุ่มที่อบอุ่นและอ่อนโยน แปลเปลี่ยนเป็นผู้ชายที่แข็งกระด้างเหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกจนถึงทุกวันนี้
“คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ” หมอไบรอันออกตรวจคนไข้ในช่วงบ่าย หลังจากที่เขาเข้าห้องผ่าตัดในช่วงเช้าของวันเสร็จ ชายหนุ่มทำหน้าที่หมอได้เป็นอย่างดี ทั้งทุ่มเทและดูแลคนไข้เป็นอย่างดี เขามักจะอ่อนลงเมื่อพูดคุยกับคนไข้ที่มีอายุมากกว่า
“ดีขึ้นแล้วครับคุณหมอ ขอบคุณครับ” เสียงชายสูงวัยเอ่ยขอบคุณคุณหมอหนุ่ม ดวงตาแดงก่ำของคนไข้ที่ดีใจ หลังจากหายจากอาการป่วยจนเกือบตายแต่ก็ยังสามารถมีลมหายใจกลับมาอีกครั้ง จากความทุ่มเทของคุณหมอหนุ่มคนนี้
“รักษาสุขภาพด้วยนะครับ”
“คุณหมอเย็นชาจังแก แต่ยังไงฉันก็หลงรักคุณหมอไบรอันอยู่ดี” เสียงหวานของพยาบาลสาวสองคนที่ยืนกระซิบกระซาบกันอยู่มุมเสาภายในห้องพักรวมของคนไข้
เพราะความหล่อเหลาและพ่วงด้วยความสามารถแถมยังเป็นถึงลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้
ทำให้ใครหลายคนต่างอยากเสนอตัวให้กับหมอไบรอันแต่ด้วยบุคลิกที่เย็นชาและไร้ซึ่งมารยาทต่อหน้าผู้หญิง ทำให้สาว ๆ ในโรงพยาบาลทำได้แค่เพียงแอบมองหมอไบรอันเท่านั้น
“จีบสิแก รออะไร”
“ไม่ได้นะ จะเข้าไปจีบคุณหมอไบรอันต้องมีชั้นเชิง แกก็รู้ว่าคุณหมอโหดจะตาย”
“หรือว่าคุณหมอจะมีแฟนแล้ว”
“ไม่น่าจะใช่นะแก ฉันสืบมาแล้ว คุณหมอโสดร้อยเปอร์เซ็นต์” น้ำเสียงดี้ด้าของพยาบาลสาว ทำให้คุณหมอหนุ่มเงยหน้าจากชาร์ตคนไข้เพ่งสายตาดุมองไปยังพยาบาลสาวทั้งสองคนด้วยใบหน้าติเตือนกับการกระทำของพวกเธอ
เพียงแค่ได้เห็นสายตาของหมอไบรอัน พยาบาลทั้งสองคนถึงกับลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“คุณหมอไบรอันคะ คุณหมอธีวัฒน์ต้องการพบค่ะ” เมื่อพยาบาลวัยกลางคนได้รับสายตรงจากเลขาของผู้บริหารโรงพยาบาลพ่วงตำแหน่งคุณหมอของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอจึงเดินเข้ามาแจ้งกับคุณหมอหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านเอกสารด้วยท่าทางสุขุม
“ครับ”
ร่างสูงก้าวเดินเข้าไปในห้องของผู้บริหารของโรงพยาบาล ท่าทางสุขุม นิ่งและเงียบตามแบบฉบับของหมอไบรอัน ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยไม่มีอารมณ์ใด ๆ แสดงออกมา
“มีอะไรครับ”
“เมื่อไหร่จะกลับไปทานข้าวที่บ้านบ้าง”
“ตอนนี้เป็นเวลางาน ผมไม่อยากคุยเรื่องส่วนตัวครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับคุณพ่อของตัวเอง ที่กำลังนั่งเอนตัวพิงเก้าอี้มองใบหน้าของลูกชายที่แทบไม่ได้เจอ หลังจากที่ไบรอันตัดสินใจด่วนไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งก็สร้างความงุนงงให้กับผู้เป็นพ่อไม่น้อย เนื่องจากก่อนหน้านั้นไบรอันขอคิดเรื่องไปเรียนต่อเอาไว้ก่อน
“ยังไงแกก็ลูกพ่อ”
“ครับ”
“ไปหาพ่อที่บ้านบ้างสิ” ด้วยความคิดถึงลูกชาย ชายสูงวัยที่ใกล้เกษียณนั่งมองหน้าลูกชายที่เติบโตเป็นหนุ่ม เพราะตั้งแต่เขาบังคับให้ลูกชายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศและมีพี่สาวของเขาคอยบงการชีวิตของไบรอัน แถมยังชอบบงการจับคู่ให้กับไบรอัน จนมาวันนี้ไบรอันไม่เคยกลับไปเหยียบที่บ้านหลังนั้นอีกเลย
“เจอกันที่โรงพยาบาลดีที่สุดครับ”
“แต่นั่นก็บ้านแกนะ”
“ครับ ผมแค่ไม่มีเวลา” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยบอกกับพ่อของตัวเอง แววตาเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายเมื่อเห็นใบหน้าสลดของผู้เป็นพ่อ
“ที่ป้าภคพรทำ ก็เพราะหวังดีกับแก อยากให้แกมีผู้หญิงที่ดีเคียงข้าง”
“ไม่จำเป็น”
“แต่แกควรมีคนรักได้แล้ว เพราะคนเราต้องมีความรัก” เมื่อเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของลูกชายตัวเอง ทำให้ผู้เป็นพ่อเริ่มเป็นห่วงและเริ่มเห็นด้วยกับพี่สาวตัวเองที่อยากให้ไบรอันมีคนรัก อาจจะช่วยบรรเทาจิตใจของลูกชายตัวเองได้บ้าง
“ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะบางครั้งความรักก็ทำให้เราทุกข์ได้เหมือนกัน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างสูงจะยันตัวเองลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกจากห้องทำงานของผู้บริหารไปเงียบ ๆ ไร้ซึ่งประโยคบอกกล่าว