เกลียดเธอวะ?

1446 Words
ภายในห้องทำงานที่เงียบสงัดมีเพียงร่างสูงโปร่งของหมอไบรอันที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานท่าทางสุขุม เพียงแค่ได้อ่านเนื้อหาในหนังสือนิยายรักเล่มนั้นจนเกือบจบ คุณหมอหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมในความคับข้องใจ หนังสือเล่มหนาถูกปิดลงอย่างแรง เนื้อหาภายในหนังสือที่คล้ายกับชีวิตรักของเขาเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ใจหนึ่งของคุณหมอพาลนึกคิดไปถึงผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาไม่เคยลืมเรื่องราวที่เธอทำเอาไว้กับเขา “ผู้ชายนอกใจงั้นเหรอ” เสียงพึมพำของหมอไบรอันพูดออกมาเบา ๆ เนื้อเรื่องที่ดำเนินมาเรื่อย ๆ เหมือนจะเป็นนิยายรักหวานแหววที่ทำให้คนอ่านใจฟู แต่พอมาถึงกลางเรื่องกลับมีเรื่องดราม่าที่พระเอกแอบนอกใจนางเอกแถมยังมีคนรอบข้างของพระเอกรวมอยู่ด้วย (โทรมาทำเชี้ยอะไรเวลานี้ อย่าบอกกับกูว่ามีเคสด่วนนะ) เมื่ออ่านนิยายเล่มนั้นจบหมอไบรอันถึงกับรีบต่อสายหาเพื่อนรักของตัวเองในยามวิกาลด้วยความสงสัยที่ตีรวนกันอยู่ในหัวของเขา (ยี่หวาอยู่กับมึงรึเปล่า) เสียงทุ้มของคุณหมอหนุ่มเอ่ยถามหาภรรยาของเพื่อนรัก เขาเพียงแค่อยากถามสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัย (อ้าว!!เมียกูไม่อยู่กับกูจะให้อยู่กับใคร) น้ำเสียงเอะอะโวยวายของหมอคามิน เมื่อได้ยินประโยคคำถามแปลกประหลาดจากไบรอันที่เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น (ขอคุยด้วยหน่อย) (ไอ้ไบรอัน มึงมีอะไร จู่ ๆ อยากคุยกับเมียกู) และยิ่งไปกว่านั้น ชายหนุ่มที่หวงเมียและลูกน้อยยิ่งกว่าจงอางหวงไข่กลับมาโวยวายอีกครั้ง นี่คงเป็นครั้งแรกที่ไบรอันขอคุยสายกับยี่หวาเป็นการส่วนตัว ปกติทั้งสองรู้จักกันอยู่แล้วแต่ก็มักจะพูดคุยกันในระหว่างที่พบเจอมากกว่าจะขอคุยสายแบบนี้ ความแปลกใจของหมอคามินแน่นคับอกแต่ก็ยอมให้เมียรักคุยสายกับเพื่อนรักของตัวเองโดยที่เขาไม่ลืมที่จะเปิดสปีกเกอร์โฟน “หมอไบรอันมีอะไรรึเปล่าคะ” หมอคามินยื่นมือถือของตัวเองให้กับยี่หวา หญิงสาวเปล่งคำถามของตัวเองออกมา เธอเองก็สงสัยไม่ต่างอะไรกับผู้เป็นสามีเลยสักนิด “นักเขียนคนนั้นเป็นใคร” หมอไบรอันไม่รอให้ยี่หวาและคามินสงสัยนาน ชายหนุ่มเปล่งคำถามที่ตัวเองอยากรู้ออกมาทันที ประโยคสั้น ๆ ทำให้ยี่หวาถึงกับงุนงงจนต้องถามหมอไบรอันกลับไป “คนไหนคะ?” “คนที่ยี่หวาอยากได้หนังสือ” “อ๋อ หมอไบรอันสนใจนิยายด้วยเหรอคะ นิยายเรื่องนี้ดังมากเลยนะ” เมื่อหมอไบรอัน ไขข้อข้องใจให้กับเธอ ยี่หวาก็เริ่มเข้าใจทันทีแต่ก็ยังมีฉุดคิดไม่น้อยที่จู่ ๆ หมอไบรอันถามถึงนักเขียนคนโปรดของเธอ “แค่อยากรู้ว่านักเขียนเป็นใคร” “ตอนนี้ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ ว่านักเขียนคนนี้เป็นใคร หน้าตาเป็นยังไง แต่ถ้าหมอ ไบรอันอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร? พรุ่งนี้ไปเจอที่งานหนังสือได้นะคะ นักเขียนคนนี้จะเปิดหน้าเป็นครั้งแรก” “ที่ไหน?” “หอประชุมแห่งชาติ เวลาบ่ายโมงค่ะ” “ขอบคุณ” หมอไบรอันไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรต่อ เขาเอ่ยขอบคุณก่อนที่จะชิงตัดสายไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะรอให้ปลายสายตั้งคำถามกลับ ตาคมจ้องมองปกหนังสือที่มีนามปากกาของเธอติดอยู่ สมองพิจารณานามปากกานั้น นามปากกาที่เขารู้สึกคุ้นจนอยากเห็นหน้านักเขียนและเขาต้องไขข้อสงสัยเรื่องนี้ให้ได้ ดวงตากลมโตกวาดตามองไปโดยรอบหอประชุมแห่งนี้ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่รักการอ่านมากมายรวมตัวอยู่ในงานนี้ รวมถึงนักเขียนชื่อดังหลายคนที่ต่างพากันมาพบปะกับนักอ่านของตัวเอง “ตื่นเต้นจังแก”น้ำเสียงสดใสสั่นเครือปนไปด้วยความตื่นเต้นของยี่หวาเอ่ยบอกกับชามาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ “จะตื่นเต้นทำไม คนเยอะแยะ” รอยยิ้มหยอกล้อของชามาที่ยิ้มส่งให้เพื่อนรักของตัวเอง จนคุณแม่ยังสาวถึงกับเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ “พูดจาได้กวนประสาทมาก” “ขอบคุณที่ชมค่ะ” “ว่าแต่เวกัสจะดูแลไรอันได้จริง ๆ ใช่ไหม” ความว้าวุ่นใจของณดากลับมาอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองฝากลูกสาวเอาไว้ให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง ที่ตอนนี้รับอาสาดูแลไรอันในขณะที่เธออยู่ในหอประชุมแห่งนี้ “ไอ้เวกัสมันดูแลเด็กดีจะตาย ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ” “ขอบใจพวกแกสองคนมากนะเว้ย” อย่างน้อยในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีปะปนอยู่ เธอมีลูกสาวที่น่ารักและมีเพื่อนที่คอยซัพพอร์ตเธอเสมอมา “ไม่เป็นอะไรเลย พวกฉันยินดีช่วยแกเสมอ” ณดาแจกรอยยิ้มที่สดใสของตัวเองให้กับนักอ่านที่รอขอลายเซ็นจากเธอ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่รายล้อมเธออยู่ มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธอแทบไม่ละสายตา สายตาที่ปะปนความรู้สึกหลากหลายประกายออกมาจากสายตาคู่นั้น “เธอจริง ๆ สินะ!!” ร่างสูงของหมอไบรอันยืนอยู่มุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นนักเขียนได้ชัดเจน หมอหนุ่มเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่ไม่คิดจะได้เจอเธออีกในชาตินี้ ตาคมจ้องมองรอยยิ้มของเธอ รอยยิ้มที่เขามักจะได้เห็นเสมอในเวลาที่ตัวเองท้อหรือต้องการกำลังใจจากเธอเมื่อในอดีตที่ผ่านมาแต่วันนี้รอยยิ้มที่สดใสนี้กลับทำร้ายจิตใจของเขาแทบกระอักเลือด “เกลียดเธอว่ะ? ณดา” หลายปีที่ผ่านมาเขาเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวของณดาไม่น้อย เธอเปลี่ยนไปมากเปลี่ยนจนเขาคิดว่าเธอเป็นคนละคนกับผู้หญิงที่เคยทำร้ายจิตใจของเขา เพราะตอนนี้เธอดูสวยขึ้นและโตเป็นผู้ใหญ่จนหน้าแปลกใจ ทั้งที่อายุของเธอยังไม่ถึงสามสิบเลยด้วยซ้ำแถมซ้ำยังมีหนุ่ม ๆ ภายในงานมองมายังเธอเป็นตาเดียว “ชามาแกดูหนังสือตรงนี้ไปก่อนนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำแปบหนึ่ง” หลังจากที่เธอเสร็จงาน ณดาจึงเดินมาหาชามาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ “ให้ไปส่งไหม” “ไม่ต้องหรอก ห้องน้ำอยู่แค่นี้เอง แกอ่านหนังสือไปเถอะ” หลังจากที่ณดาเอ่ยบอกกับชามา เธอจึงรีบเร่งเดินไปยังห้องน้ำโดยไม่รอคำตอบจากเพื่อนรักของตัวเองแม้แต่น้อย “หึ!!ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ณดาที่กำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ เธอก้มมองดูรูปลูกสาวที่เวกัสถ่ายส่งมาให้ด้วยความเอ็นดูเป็นอันต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนดักหน้าเธออยู่ กึก!! เพียงแค่ณดาเงียบหน้าขึ้นมามองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ร่างบางถึงกับชะงักราวกับถูกแช่แข็ง ผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอหน้าและหลบเลี่ยงมาตลอดหลายปีแต่ตอนนี้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ “คุณคงจำคนผิด” ณดาพยายามจะเดินหนีหมอไบรอัน เพราะเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีก “ณดา ใช่ชื่อคุณรึเปล่า คุณใช่ผู้หญิงใจยักษ์คนนั้นไหม” “ฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย” “หึ!!พูดง่ายดี ตอนนี้ชีวิตเธอมีความสุขแล้วสินะ” มือหนาจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่น ตาคมสบประสานกับดวงตากลมโต “ใช่!!ทุกวันนี้ฉันมีความสุขมาก ฉันได้อยู่กับคนที่ฉันรัก พอใจคุณแล้วใช่ไหม” เพียงแค่เห็นแววตาว่างเปล่าของเธอและประโยคคำพูดที่เธอเปล่งออกมา ทำให้มือหนาถึงกับหมดแรงปล่อยข้อมือของเธอให้เป็นอิสระ “ผมคงปล่อยให้คุณมีความสุขมานานสินะ” หัวใจแกร่งที่ด้านชากับถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก เพียงแค่ได้ยินผู้หญิงคนนี้เอ่ยบอกว่าเธอมีความสุขกับคนที่เธอรักซึ่งนั่นไม่ใช่เขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD