6

1288 Words
ร่างสูงใหญ่ของนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังของเมืองไทย รูปงามแถมยังโสดสนิท เป็นที่หมายปองของสาวๆ มากหน้าหลายตา เดินเข้ามาในห้องประชุมของบริษัทด้วยใบหน้าที่เงียบขรึม “มาครบกันหรือยัง...ถ้ามาครบแล้วก็เริ่มประชุมได้” ภูริภัทร ศัจจานนท์ เจ้าของกิจการอาหารเสริมหลากหลายชนิด เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างและเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่เขาเริ่มทำกิจการนี้ได้เพียงสี่ปีเท่านั้น รายได้และผลกำไรทำให้เขาสามารถขยายกิจการไปทั่วประเทศและในต่างประเทศ ที่กำลังขยายตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และยังไม่รวมกิจการดั้งเดิมของบิดามารดาที่เสียชีวิตไปคือ โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ที่เขาต้องดูแลและบริหารอีกด้วย ภูริภัทรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะก้มมองดูรายละเอียดของการประชุมในวันนี้ ที่เลขาฯ ของเขาจัดทำไว้ให้ บานประตูห้องประชุมถูกเปิดออก ร่างของหญิงสาวสองคนเดินเข้ามาภายในห้อง ในมือถือถาดที่วางถ้วยกาแฟหอมกรุ่น เพื่อนำมาบริการผู้ที่เข้าร่วมประชุมรวมทั้งท่านประธานบริษัทด้วย ถ้วยกาแฟพร้อมน้ำดื่มถูกวางทางด้านขวามือของผู้เข้าร่วมประชุม ก่อนที่ถ้วยกาแฟที่อยู่ในมือของพิชชาพรจะวางด้านขวามือของท่านประธานหนุ่ม กลิ่นหอมจากเรือนกายสาวที่โชยเข้ามาปะทะจมูกโด่ง หอมยิ่งกว่ากลิ่นของกาแฟชั้นเลิศตรงหน้า เขาต้องสูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอด ก่อนจะเงยหน้ามองหญิงสาวที่มีเรือนกายหอมดั่งดอกไม้แรกแย้มคนนี้ ใบหน้าหวานสวยเนียนละเอียด ดวงตายาวรีปกคลุมด้วยแพขนตางามงอน แววตาสีน้ำตาลอ่อนมีบางอย่างที่น่าค้นหาและดึงดูดใจของเขาเป็นอย่างมาก เรียวจมูกโด่งรับกับเรียวปากอวบอิ่มระเรื่อสีชมพู เรือนผมยาวสลวยหยักศกเล็กน้อย ถูกรวบไว้ทางด้านหลัง สาวน้อยคนนี้จะรู้หรือไม่ว่าหัวใจของคนที่มองเต้นระส่ำอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่เขาผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีใครทำให้เขาใจสั่นไหวได้เท่านี้มาก่อน ริมฝีปากของพิชชาพรแย้มยิ้มละไมให้เขาเล็กน้อย เมื่อท่านประธานหนุ่มเงยหน้ามามองนิ่งและนาน หัวใจของพิชชาพรเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะเช่นกัน เมื่อได้สบตากับดวงตาสีดำเข้มคู่นั้น และรู้สึกใจสั่นไหวเหมือนกับมีกลองนับร้อยตีรัวระเร็วอยู่ในหัวใจ “ท่านประธานจะรับอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ” พิชชาพรเอ่ยถามเพื่อบรรเทาอาการเขินอาย ทำให้ท่านประธานบริษัทได้สติกลับคืนมา ที่หลงเพลิดเพลินกับใบหน้าหวานเนิ่นนาน “ไม่ล่ะ...ขอบใจ” ภูริภัทรตอบก่อนจะสนใจกับเอกสารตรงหน้าและเริ่มการประชุมทันที พิชชาพรและอรพินท์พนักงานสาวจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ แผนกต้อนรับลูกค้าและบริการ เดินออกไปจากห้องประชุมทันทีเมื่อหมดหน้าที่ การประชุมในวันนี้ดูเหมือนว่าท่านประธานจะไม่ค่อยมีสมาธิเท่าที่ควร เนื่องจากภายในใจนึกถึงสาวน้อยร่างบางที่นำกาแฟมาเสิร์ฟให้เขาอยู่ตลอดเวลา พยายามจะสลัดเธอให้ออกไปจากห้วงคำนึงแต่เขาก็ทำไม่ได้ จนกระทั่งการประชุมที่กินเวลานานกว่าสามชั่วโมงเสร็จสิ้นลง ภูริภัทรจึงลุกออกไปจากห้องประชุมทันที “ผู้หญิงที่เอากาแฟมาเสิร์ฟให้ทำงานตำแหน่งอะไรที่นี่” ภูริภัทรเอ่ยถามมาลัยเลขาฯ หน้าห้อง “คนไหนคะ” มาลัยเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เดินเข้ามาเสิร์ฟกาแฟสองคน เธอจึงไม่รู้ว่าชายหนุ่มถามถึงคนไหน “คนที่เอากาแฟมาให้ผม” ภูริภัทรตอบเสียงห้วน “อ๋อ!! น้องทราย...ชื่อของเธอคือพิชชาพรค่ะ ทำงานอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ค่ะ แผนกต้อนรับลูกค้าและบริการค่ะ แต่ว่าอยู่ระหว่างทดลองงาน เพราะน้องทรายเพิ่งมาเข้าทำงานได้แค่สองเดือนเองค่ะ” มาลัยตอบคำถามและแจกแจงรายละเอียดให้ท่านประธานหนุ่มฟัง ภูริภัทรพยักหน้ารับรู้ก่อนจะสั่งการอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เลขาสาวถึงกับอึ้ง “ต่อไปนี้ให้พิชชาพรมาทำงานเป็นผู้ช่วยของคุณ และบรรจุเธอเป็นพนักงานของบริษัทตั้งแต่วันนี้ แล้วไปตามเธอมาพบผมด้วย” ภูริภัทรสั่งเสียงเรียบ ก่อนจะสนใจงานที่อยู่ตรงหน้าต่อไป โดยไม่สนใจสีหน้าของมาลัยที่เต็มไปด้วยคำถาม หากแต่มาลัย เลขาฯ ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำตามที่เจ้านายสั่งทันที พิชชาพรมีสีหน้างงงวยเมื่อได้ยินคำพูดของมาลัย บริษัทนี้เป็นบริษัทใหญ่ การบรรจุพนักงานเป็นเรื่องยากสำหรับที่นี่ บางคนต้องรอถึงหกเดือนกว่าจะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ เพื่อที่จะให้แน่ใจว่า ต้องการร่วมงานกับบริษัทนี้ด้วยความตั้งใจจริง แต่ทว่าเธอทำงานได้เพียงสองเดือนกลับได้บรรจุเร็วกว่าคนอื่นและยังได้รับตำแหน่งใหม่ เป็นผู้ช่วยของเลขาฯ ของท่านประธานบริษัทอีกด้วย “จริงหรือคะพี่มาลัย” พิชชาพรเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “จริงสิจ๊ะ...พี่จะโกหกทรายทำไม พี่ดีใจด้วยนะที่ทรายได้บรรจุ แถมยังได้เป็นผู้ช่วยของพี่อีก...ทรายก็ตั้งใจทำงานให้สมกับที่บอสเมตตาก็แล้วกัน” มาลัยพูดเสียงนุ่มแฝงไว้ด้วยความเมตตา เพราะเธอถูกชะตากับพิชชาพรที่มีความขยันและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน “ค่ะ พี่มาลัย” หญิงสาวรับคำเสียงหนักแน่น “งั้น...ไปพบบอสได้แล้ว อย่าปล่อยให้บอสคอยนาน บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายขึ้นมาพายุทอร์นาโดดีๆ นี่เอง” มาลัยรู้นิสัยของภูริภัทรดี เพราะร่วมงานกันมาหลายปี เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของภูริภัทรดังขึ้นหลายครั้ง ทำให้เขาวางปากกาลงหลังจากเซ็นเอกสารเสร็จเรียบร้อย เสียงทุ้มเอ่ยอนุญาตให้ผู้ที่อยู่ด้านนอกเข้ามาภายในห้องทำงานของเขา สตรีร่างบางสวมชุดพนักงานสีฟ้าเดินเข้ามาภายในห้องท่านประธานที่โอ่อ่าดูดีสมฐานะ ด้วยอาการตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด “มาแล้วเหรอ...นั่งลงสิ” ภูริภัทรเอ่ยบอกหญิงสาวที่ยืนก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าเงยหน้ามองใบหน้าของท่านประธานหนุ่ม เพราะกลัวว่าหัวใจบอบบางของเธอจะทานทนกับความรู้สึกบางอย่างที่ประดังเข้ามาในหัวใจไม่ได้ หลังจากถูกปิดตายตั้งแต่เธอก้าวเท้าออกมาจากไร่พายุภัทรเมื่อสี่ปีก่อน “ขอบคุณค่ะ” พิชชาพรทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย “ที่เรียกมาเพื่อทำความเข้าใจกับคุณ เรื่องการทำงาน” ภูริภัทรพูดความต้องการของเขาที่เรียกเธอมาพบที่นี่ โดยไม่รู้ว่าเหตุผลนี้เป็นเหตุผลบางส่วนเท่านั้น “ค่ะ” “งานของคุณคือช่วยมาลัยทำงานตามที่มาลัยมอบหมายให้เธอทำ ส่วนอีกข้อคือเธอต้องเป็นเลขาส่วนตัวให้ฉันนอกสถานที่ อย่างเช่นไปพบลูกค้าข้างนอก หรือแม้แต่ไปทานอาหารกับลูกค้าและอื่นๆ ตามที่ฉันสั่ง เข้าใจหรือเปล่า” “หน้าที่นี้เป็นของพี่มาลัยไม่ใช่หรือคะ” พิชชาพรกลัวว่ามาลัยจะเข้าใจผิด หาว่าเธอมาแย่งตำแหน่งของมาลัยไป “มาลัยเขามีครอบครัวแล้ว...ตามฉันไปทุกที่เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้หรอก เพราะเขาต้องมีเวลาให้กับครอบครัวบ้าง...หรือว่าเธอมีครอบครัวแล้ว” ภูริภัทรหยั่งเชิงถาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD