บทนำ

2435 Words
​“จัดการหาเลขาคนใหม่มาให้ฉันด้วยนะ ไม่เอาแบบคนเก่านะ” เพลิงพิษเอ่ยสั่งขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาเอาเอกสารสำหรับประชุม ซึ่งรับหน้าที่เป็นเลขาชั่วคราวแทนคนเก่าที่เขาเพิ่งไล่ออกเมื่อวันก่อน เจ้าหล่อนไม่ใช่เพียงแค่อ่อยและยั่วเขาเท่านั้น ยังขยันสร้างเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เอาชื่อเขาไปข่มขู่คนอื่นอีก จนต้องเล่นยาแรง ยื่นใบลาออกให้เซ็นแบบโดยดี ถ้าหากไม่ยอม เขาก็จะสั่งให้ทุกบริษัทไม่ต้องรับเจ้าหล่อนทำงานและไม่มีที่ยืนในสังคม เลขาแต่ละคนที่รับเข้ามา ไม่ได้เรื่องเลยสักคน ไม่อ่อยเขา ก็อ่อยลูกน้อง หรือไม่ก็พนักงานในบริษัทนี่แหละ งานการก็ทำไม่เรียบร้อย จนเขาต้องจัดการเองทั้งหมด “ครับ” ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่ง พลางหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วไปยังฝ่ายบุคคลทันที เพื่อเร่งให้หาเลขาคนใหม่ให้เจ้านาย ก่อนที่ระเบิดชุดใหญ่จะลง ------------- “แม่จ๋า... วันนี้หนูจะไปสัมภาษณ์งานเป็นเลขาของบริษัท xxx นะแม่” หญิงสาวเจ้าของเสียงนามว่า ‘ภารดา’ บอกกับมารดาขึ้น เมื่อเธอได้รับเมลตอบกลับจากบริษัทที่ส่งประวัติไปสมัครงานในตำแหน่งเลขา ทำให้เธอตื่นเต้นจนรีบตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวไปสัมภาษณ์โดยที่ยังไม่ได้บอกให้พ่อกับแม่รู้ “จะดีเหรอลูก นั้นบริษัทของมาเฟียเลยนะ” มารดาของภารดาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เมื่อลูกสาวคนเดียวของหล่อนบอกว่าจะไปสัมภาษณ์งานในบริษัทของมาเฟียทำเอาหล่อนรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา กลัวว่าบุตรสาวจะได้รับอันตราย แถมลูกสาวของหล่อนก็แทบไม่สู้คนด้วยซ้ำ “ดีสิคะแม่ เงินเดือนก็ดี สวัสดิการก็เพียบ โบนัสก้อนโตด้วย จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงล่ะคะแม่” ภารดากล่าวเมื่อนึกถึงผลตอบแทนที่ได้รับสูงกว่าตำแหน่งอื่น ๆ จนทำให้เธอไม่อาจที่จะพลาดโอกาสนี้ไปได้ และยังช่วยให้พ่อแม่ของเธอไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย จะได้มีเวลาพักผ่อน “คิดดีแล้วใช่ไหมลูก แม่ไม่อยากให้หนูทำงานหนักสักเท่าไร กลัวว่าจะไม่ได้พักผ่อนเอา” ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ไม่คิดมากสิจ๊ะแม่ หนูทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อกับแม่สบาย ถ้าทำให้แม่กับพ่อไม่ต้องเหนื่อย หนูถือว่าคุ้มมากเลยค่ะ” เนื่องจากท่านทั้งสองก็สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงด้วย ไม่อยากให้ทำขนมขายแบบนี้ทุกวัน เธออยากให้พวกท่านพักบ้าง เรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านเธอจะเป็นคนจัดการเอง ถ้าหากได้งานนี้จะได้มีเงินพาพวกท่านไปเที่ยวพักผ่อนกัน “แม่สงสารเอ็งเหลือเกินเลยภาที่ต้องมาลำบากแบบนี้” มือบางลูบศีรษะลูกสาวอย่างแผ่วเบา ภารดาเป็นเด็กดีมาตลอด เรียนก็เก่ง ขยันหาออร์เดอร์ขนมมาให้ สำหรับหล่อนแล้วคนเป็นแม่ย่อมมักเป็นห่วงลูกเสมอ ยิ่งรู้ว่าไปสมัครงานกับบริษัทของมาเฟียแล้วด้วย... ความเป็นห่วงมากเพิ่มทวีคูณ ไม่อยากให้ลูกต้องไปพบเจอกับอันตราย “หนูไม่ลำบากเลยจ้ะแม่ หนูไปก่อนนะคะ ฝากบอกพ่อด้วย” “โชคดีนะลูก แม่ขอให้ได้งานนะ” หล่อนกล่าว แล้วเดินไปทำขนมต่อ ทางด้านของภารดาใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมงโดยเรียกแท็กซี่จากแกรบมารับถึงหน้าบ้าน วันสัมภาษณ์งานไม่มีใครอยากไปสายกันหรอก ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีแม้กระทั้งตอนออกมาจากบ้าน เธอถือเคล็ดข้อสำคัญนี้มาก บริษัท XXX “ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ” พนักงานสาวฝ่ายประชาสัมพันธ์เอ่ยถามพลางมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร แล้วยังทำท่าทางเหม่อลอยราวจิตหลุด “ดิฉันมาสัมภาษณ์งานค่ะ” ภารดาได้สติรีบบอกทันทีพลางส่งยิ้มให้กับอีกฝ่าย เมื่อกี้เธอกำลังตกตะลึงในความสวยของคนตรงหน้า คนอะไรช่างสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์จุติมาเกิด ทำเอาเธอละสายตาไม่ได้เลย จนเผลอแสดงความป้ำเป๋อของตัวเองออกมาจนขายขี้หน้า “อ๋อ... เชิญตามมาทางนี้เลยค่ะ” หญิงสาวบอก แล้วเดินนำหน้าพาไปยังชั้นทำงานของท่านประธาน ซึ่งมีลูกน้องคนสนิทของท่านเป็นคนสัมภาษณ์เอง ภารดาเดินตามอย่างรวดเร็ว เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อเรียกขวัญกำลังใจตัวเองให้มากที่สุด อีกไม่กี่วินาทีตรงหน้า เธอก็จะได้รู้แล้วตำแหน่งเลขาจะตกเป็นของเธอหรือเปล่า เธอเหลือบตามองคนข้าง ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่กล้าจะเอ่ยปากพูดด้วย เมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิด พนักงานประชาสัมพันธ์ก็พาเธอเดินตรงมานั่งโต๊ะทำงานของใครคนหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง โดยมีผู้ชายใบหน้าหล่อเหลากำลังนั่งอ่านเอกสารในมืออยู่ “สวัสดีค่ะคุณเอกภพ” หญิงสาวเอ่ยทักทายพลางส่งยิ้มให้ “สวัสดีครับ แล้วพาใครมาด้วย” ชายหนุ่มเงยหน้าตอบกลับ พลางหันมองผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยความสงสัยปนตกใจ “ผู้หญิงคนนี้บอกว่ามาสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเลขาของบอสค่ะ” “อ๋อครับ... ขอบคุณมากครับที่เป็นธุระให้” เสร็จหน้าที่ของตนเอง พนักงานสาวประชาสัมพันธ์เดินหันหลังไปยังลิฟต์ เพื่อกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ “สวัสดีค่ะ” ภารดายกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเก้ ๆ กัง ๆ พลางยกมือขยับแว่นให้เข้าที่ “เชิญนั่งลงก่อนเลยครับ ผมชื่อ เอกภพ หรือเรียกว่าเอกก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัว พลางมองสำรวจหญิงสาวที่จะมาสัมภาษณ์ในตำแหน่งเลขาของเจ้านายด้วยความตกใจอย่างมาก เขาขมวดคิ้วพลางมองสำรวจการแต่งกายของหญิงสาว ซึ่งไม่ต่างอะไรคุณป้าคุณยายเลยสักนิด กรอบแว่นสีดำหนาเตอะ กระโปรงตัวยาวกับคัชชูส้นสูง เสื้อสายดอกสีเหลืองอีกต่างหาก โอ้โฮ!!! มนุษย์ป้าของแท้เลย ซึ่งสวนทางกับอายุของหญิงสาวมาก เขาสะบัดศีรษะเบา ๆ เพื่อมองชัด ๆ อีกรอบว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้ตาฝาดหรือตาลายไปใช่ไหม หญิงสาวอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น ก็ยังวัยรุ่นอยู่เลย ทำไมถึงได้แต่งตัวแบบนี้... หรือว่ารสนิยมของคนเราไม่เหมือนกัน “ฉันคือ ภารดา ชื่อเล่นชื่อว่า ภา ค่ะ” เธอแนะนำตัวกับชายหนุ่มตรงหน้า พลางส่งยิ้มเพื่อเป็นการผูกมิตร “คุณรู้หรือเปล่าครับว่าจะมาทำงานให้กับใคร” “รู้สิคะ ทำไมเหรอคะ” ถามกลับด้วยความสงสัย ทำงานกับมาเฟียแล้วไง ก็แค่เป็นเลขา ไม่ต้องออกไปสู้รบกับใคร “เปล่าครับ ผมแค่กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาอีกรอบ” เอกภพยิ้มออกมาเล็กน้อยกับความใสซื่อของหญิงสาว “มีปัญหายังไงเหรอคะ ภาต้องวิ่งหลบหนีกระสุนหรือว่าต้องเรียนการต่อสู้ไว้ เวลาเกิดเรื่องขึ้นมาจะได้เอาตัวรอดได้” เธอบอกไปตามที่คิด เธอไม่เคยทำงานกับมาเฟียเลยไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง แต่ถ้าให้เธอจัดการผู้ชายหลาย ๆ คน เธอไม่เอาด้วยหรอกนะ เธอสู้ไม่ไหว จะให้วิ่งหลบหนีกระสุน เธอก็ไม่เอาด้วย ยิ่งวิ่งไม่เร็วเหมือนชาวบ้านชาวช่อง กลัวโดนยิงตายก่อนนะสิ “ไม่ใช่ครับ เลขาคนก่อนทำเรื่องเอาไว้เยอะเลย แต่ผมคิดว่าคนอย่างคุณภาไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้ปวดหัวแน่นอน” เขายอมใจกับความคิดของผู้หญิงคนนี้เลยจริง ๆ คิดไปไกลยันสามโลก จนเขาถึงกับเหวออ้าปากค้าง “ผู้หญิงเฉิ่ม ๆ อย่างภาจะไปทำอะไรได้คะ ภาน่ะไม่สนใจอะไรหรอกค่ะ ขอแค่มีงานทำก็พอแล้ว” ทุกวันนี้มีข้าวให้กิน มีงานให้ทำ มีที่ซุกหัวนอน พ่อแม่อยู่สบาย เธอก็หมดห่วงแล้ว ใครจะบ้าบอหาเรื่องใส่ตัวเองล่ะ ยิ่งทำงานกับมาเฟียด้วย ต้องรักษาชีวิตเอาไว้ดี ๆ เกิดทำอะไรไม่ถูกใจขึ้นมา เดี๋ยวจะโดนสั่งเก็บเอาได้ เธอกลัวตาย “สมมุติว่าถ้ามีใครมาด่าคุณภาหรือจะทำร้าย คุณภาพร้อมสู้กลับไหมครับ” อันนี้เป็นคำถามสำคัญเลยก็ว่าได้ เขาต้องถามทุกครั้งเวลามีการสัมภาษณ์เลขาและส่วนใหญ่ก็ทำได้ “นิดหน่อยค่ะ ทำไมเหรอคะ” เธอเอียงคอเล็กน้อยถามด้วยความสงสัย “ท่านประธานมีผู้หญิงมากมายเข้ามาพัวพัน ไม่ว่าจะเป็นนางแบบ ลูกคุณหนู คุณภารับมือไหวไหมครับ” เสียงทุ้มบอก ถ้าหากรับมือไม่ไหว เขาจะได้ให้ทดลองงานซะ 1 อาทิตย์ แล้วค่อยมาพิจารณาดูใหม่ว่าสมควรรับไว้ทำงานดีหรือเปล่า เพราะเลขาของเจ้านายเขาต้องสู้รบตบมือกับพวกผู้หญิงซะส่วนมาก ถ้าหากอ่อนแอไม่สู้คน ก็จะโดนผู้หญิงเหล่านั้นเล่นงานคืนเอาได้ “ไหวค่ะ แค่นี้สบายมากอยู่แล้ว” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่ลึก ๆ ก็อดกังวลไม่น้อย เธอไม่ค่อยตบหรือทะเลาะกับใครเลย กลัวว่าจะแพ้อีกฝ่ายได้ แต่เงินเดือนในตำแหน่งเลขาสูงลิบลิ่วขนาดนี้ คนอย่างภารดาพร้อมรับมือทุกรูปแบบ ต่อยมาต่อยกลับ ไม่ยอมให้ทำฝ่ายเดียวหรอกนะ! “งั้นผมรับคุณภาเข้าทำงานครับ ส่วนเรื่องเงินเดือน บริษัทจ่ายให้เดือนละสองแสนบาท ไม่รวมสวัสดิการ โบนัส เบี้ยขยันและอีกสารพัด ถ้าหากคุณทำงานดี” “สองแสน!!!! คุณไม่ได้ล้อภาเล่นใช่ไหมคะ” ร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจกับจำนวนเงินที่ได้รับ เล่นเอาเธอแทบเป็นลมล้มพับไปเลย เงินเดือนขนาดนี้ ยังไม่รวมค่าต่าง ๆ อีก ไม่ต่ำกว่าสามแสนแน่ เธอสามารถเปิดร้านขนมให้พ่อกับแม่ได้เลยนะเนี่ย “พูดจริงครับ เงินเดือนคุณภาสองแสนบาท” เขาอยากจะหัวเราะออกมากับท่าทางของหญิงสาวเมื่อกี้ “ภาจะเป็นลม ไม่คิดว่าเงินเดือนจะเยอะขนาดนี้ ตอนแรกในประกาศบอกว่าห้าหมื่นถึงหนึ่งแสน” มือบางล้วงยาหอมขึ้นมาสูดดมเข้าปอดลึก ๆ กลัวว่าจะเป็นลมเอาจริง ๆ “แค่คุณภาทำงานของตัวเองให้ดีและจัดการพวกผู้หญิงของบอสได้ ผมถือว่าเงินเดือนแค่นี้ยังน้อยไปเลยครับ” เขาเชื่อมั่นเลยว่าหญิงสาวตรงหน้าจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยกว่าเลขาคนเก่า ๆ ที่ผ่านมา เพราะเขาเห็นถึงความตั้งใจในแววตาคู่นั้นและที่สำคัญเธอไม่มีทางอ่อยเจ้านายเขา รับประกันฟังธง! “คุณเอกเชื่อในฝีมือภาได้เลยค่ะ ไม่มีวันผิดหวังแน่นอน แล้วจะให้ภาเริ่มทำงานได้วันไหนคะ” “วันพรุ่งนี้เลยครับ วันนี้คุณภากลับไปพักผ่อนแล้วเตรียมตัวรับมือกับงานดีกว่านะครับ รับรองได้เลยว่าปวดหัวเข้าขั้นสมองระเบิด” เพราะว่าพรุ่งนี้จะมีคู่ขาของบอสและพวกลูกคุณหนูหลายคนแวะเวียนมาหา อยากให้หญิงสาวได้กลับไปเตรียมอกเตรียมใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะได้ตั้งรับไว้ถูก “งั้นภาขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ เอ่อ! ลืมบอกไปเลยค่ะว่าพ่อกับแม่ของภาขายขนมไทย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะหิ้วมาฝากนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ลาชายหนุ่มอีกครั้งแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างมีความสุขเมื่อได้งานทำเรียบร้อย โดยไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้ต้องรับมือกับศึกหนักอันใหญ่หลวงตรงหน้าชนิดที่ว่า ยาพาราร้อยเม็ดก็เอาไม่อยู่ ช่วงบ่าย “แม่จ๋า หนูกลับมาแล้ววว” เสียงหวานตะโกนลั่นบ้าน สองมือถือของใช้ส่วนตัวที่เพิ่งซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน “เป็นยังไงบ้างนังหนู เอ็งได้งานหรือเปล่า” เสียงของบิดาเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่ภรรยาเดินมาบอกว่าลูกสาวไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเลขาของมาเฟีย ทำให้เขาค่อนข้างเป็นห่วงและกังวลเล็กน้อย “พ่อคิดว่ายังไงล่ะ” วางของลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้างท่าน “ได้อยู่แล้ว ลูกสาวพ่อเก่งจะตาย” บอกเลยว่าเรื่องอวยลูกเนี่ย เขามาที่หนึ่งเลย ชมลูกให้เพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงฟังไม่หยุดปาก “ตามนั้นเลยค่ะพ่อ หนูได้งานแล้ว และรู้ไหมคะว่าเงินเดือนเท่าไร” “ไม่รู้...” ส่ายหัวพลางมองหน้าลูกสาวอย่างรอคำตอบ “สองแสนบาทค่ะ” “สองแสนบาท เอ็งไม่ได้ล้อพ่อกับแม่เล่นใช่ไหมนังหนู” ทั้งเขาและภรรยาต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ พลางหันมองหน้ากันสลับมองหน้าลูกสาว จำนวนเงินเมื่อกี้ เขาได้ยินไม่ผิดแน่นอน ทำไมมันช่างมากมายขนาดนี้ “ใช่จ้ะ เงินเดือนหนูสองแสนบาท” “แม่ไม่เคยเห็นใครได้เงินเดือนเยอะขนาดนี้มาก่อน เอ็งต้องตั้งใจทำงานให้ดี ๆ ละ รู้ไหม เจ้านายจะได้รักและเอ็นดูมาก ๆ” ไม่ลืมย้ำกำชับหนักแน่น การได้ค่าตอบแทนมาก นั้นหมายความว่าลูกสาวเขาต้องมีคุณสมบัติมากพอที่ทางบริษัทยอมจ่าย “จ้ะแม่ เงินเดือนก็ดี สวัสดิการก็เพียบ ใครปล่อยให้หลุดมือก็บ้าแล้ว หนูจะพยายามทำอย่างเต็มที่ จะได้มีเงินมาเปิดร้านให้พ่อกับแม่ไงจ๊ะ” “ไม่ต้องเลย... แค่นี้ก็เหนื่อยพอแล้ว แค่เอ็งมีงานทำ พ่อกับแม่ก็สบายใจ” “จ้า แต่ว่าตอนนี้มีอะไรให้กินบ้างจ๊ะ หิวมากเลย” “ไปดูในตู้กับข้าวเลย แม่ทำของโปรดไว้ กินเสร็จจะได้มาช่วยแม่ทำขนมต่อ” “รับทราบค่ะแม่” เธอยิ้มแล้วลุกจากเก้าอี้ หยิบถุงของใช้ส่วนตัวเดินขึ้นห้องนอนเพื่ออาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวให้สดชื่น แล้วค่อยมาลงกินข้าวและช่วยมารดาทำขนมให้เสร็จ ก่อนถึงเวลาจัดส่งให้ลูกค้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD