“เออ กูใกล้จะถึงแล้ว”
“กูเดินอยู่เนี่ย..แค่นี้” ติ้ด!
“บ่นฉิบหาย กูมีเมียตั้งแต่ตอนไหนวะ..” คิวบ่นออกมาหลังจากที่กดวางสายจากวินดี้เพื่อนสนิทที่ร่างเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง โทรมาจิกให้เขารีบเข้าเรียน แต่ในระหว่างที่คิวกำลังเดินผ่านหน้าคณะนิเทศ เข้าก็ได้ยินเสียงแซวของกลุ่มนักศึกษาดังอยู่ไม่ไกล ก่อนฝีเท้าหยุดชะงัก เมื่อหันกลับไปก็พบกับบุคคลที่หายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์
“แหม ๆ ๆ ไหนมาด้วยกันได้จ้ะ..”
“พอดี ไปนอนด้วยกันมา..”
“อร๊ายย อีแรด!”
‘ที่หายไป ก็เพราะไอ้เชี้ยนี่สินะ’ คิวพลางคิดในใจ เมื่อเขาได้ยินกลุ่มของเด็กสาวคุยกัน แถมเธอยังนั่งตัวติดกับไอ้เชี้ยนั่นอีก แล้วที่เธอพูดออกมาคงจะเป็นเรื่องจริงสินะ
“ไม่มีปฏิเสธซะด้วย..ไปนอนด้วยกันมาจริงปะ?”
“เสือก”
“ฮ่า ๆ ๆ ลีโหดอ่า ดูหน้าเตอร์ดิ”
“สมควรละ ยุ่งเรื่องของคนอื่นไม่เข้าเรื่อง”
“ชิ กูไม่ยุ่งก็ได้..จะไม่หาเด็กให้มึงเตาะด้วย”
“อีเตอร์ อีแรด!”
“ฮ่า ๆ ๆ มา ๆ ๆ มานั่งกับเนยมา โอ๋ ๆ น๊าาา”
“หึ..แรดฉิบหาย”
ปากไวกกว่าความคิด คิวคิดว่าเขาพลางคิดอยู่ในใจ แต่ไหง.. มันกลับกลายเป็นคำพูดที่เอ่ยออกไปดังลั่น จนนักศึกษาแถวนั้นหันมาให้ความสนใจเขากันเป็นตาเดียว รวมถึงกลุ่มของเนยด้วยเช่นกัน
NOEY Talk
“หึ.. แรดฉิบหาย”
“...” ฉันหยุดชะงักการกระทำลงทันที ตวัดสายตามองไปยังปลายเสียงก็พบร่างสูงที่คุ้นตา เขาไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกเขาคือพี่คิว พี่ข้างบ้านของฉันเอง
“พี่เขาด่าใครวะมึง?” หมวยเอ่ยถามขึ้น พลางสายตาก็มองมาที่ฉันกับพี่คิวสลับกัน
“เออ นั่นดิ ด่ากูหรือเปล่าวะ” ตามด้วยเสียงเตอร์เพราะหมวยด่ามันว่าแรด อาจจะเป็นไปได้ที่พี่คิวด่ามันตามหมวย
“ไม่หรอก พี่เขารู้จักกับฉัน” ฉันเอ่ยออกไป ก่อนลุกขึ้นแล้วเดินออกมาหาพี่คิวที่ยืนเท้าสะเอวอยู่ จ้องมองฉันอย่างหาเรื่อง
หมับ..
“ไปด้วยไหม?” ลีเอ่ยถามฉันขึ้น เขามองฉันด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอกลี เนยรู้จักพี่เขา” ฉันส่งยิ้มตอบกลับไป เพื่อให้ลีนั้นสบายใจ อีกอย่างฉันไม่อยากให้กลุ่มเพื่อน ต้องไปมีเรื่องกับคนอย่างเขาด้วย ฉันจึงก้าวเดินเข้าไปหาพี่คิวทันที
“พี่พูดอะไร?” ฉันเอ่ยถามเขาออกไปทันที คนตรงหน้ายังคงยืนลอยหน้าลอยตา ทำเหมือนกับว่าไม่รู้สึกรู้ส่าอะไร
“ร่านดีเนอะ” จู่ ๆ คนตรงหน้าก็เอ่ยคำพูดหยาบคาบใส่ฉัน
“อะไรของพี่?” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัยอยู่ดี ๆ มาว่าฉันได้ยังไง ฉันไปทำอะไรให้เขากันทั้งที่ก็บอกไปตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าฉันจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับเขาอีก คนอะไรชอบหาเรื่อง
ประสาท!
“เปล่า ฉันก็แค่พอรู้แล้วว่าที่เธอบอกจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก เพราะเธอกำลังอ่อยผู้อื่นอยู่ไงละ..จริงไหม?”
“ปากหมา” ฉันพูดตอกหน้าเขากลับไปทันที ฉันกำมือเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธ อารมณ์คุกรุ่นในใจเริ่มจะปะทุออกมา
หมับ!
“อ๊ะ..ปล่อยนะ จะพาเนยไปไหน” ฉันเริ่มรู้สึกไม่ดีซะแล้วสิปากไวไปหน่อยดันเผลอหยาบคายใส่เขาไปอย่างไม่ทันตั้งตัว จนตอนนี้เขาลากฉันมาในซอกตึกเรียนที่มันดูเงียบไม่มีผู้คนเดินผ่านเลยสักคน
“...” เขาเงียบไม่เอ่ยออกอะไรออกมาเลย นอกจากสายตาเหี้ยมโหดคู่นั้นที่มันแทบจะยำฉันให้เป็นเละเป็นชิ้นๆ แล้ว
“ปล่อย” ฉันจึงเอ่ยออกไปอีกครั้ง ก็เขาจับข้อมือของฉันจนมันปวดร้าวไปหมดแล้ว ใครจะทนได้กันละ
พรึ่บ! ปึก!
“โอ้ย! ทำบ้าอะไรของพี่ เนยเจ็บนะ!” ฉันร้องออกด้วยความเจ็บเมื่ออยู่ๆ เขาก็เหวี่ยงข้อมือฉันอย่างแรงจนไปโดนผนังปูนแข็ง ๆ ไม่ต้องพูดเลยว่าตอนนี้มันจะบวมช้ำแค่ไหน
“ก็ให้ปล่อยไม่ใช่ โวยวายทำไม?”
“...” ฉันกัดฟันแน่น ไม่อยากจะเอ่ยอะไรออกไปเลยจริง ๆ คนอย่างเขาคงสะกดคำว่าลูกผู้ชายเป็นสินะ
“เฮ้อ ยายนิ่มจะรู้สึกยังไงนะ..ที่หลานแม่งแรดขนาดนี้”
“แค่นี้ใช่ไหม?” ฉันถามเขาออกไป ตอนนี้จิตใจมันร้อนรุ่มไปหมด ความอดทนมันกำลังจะขาดผึง
“หึ..” คนตรงหน้าฉันสบถออกมา จ้องมองฉันด้วยสายตาที่เหมือนเดิม สายตาที่ดูถูกฉันยังไงละ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เนยขอตัว” ฉันพูดขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากซอกตึกนั้น ด้วยความคุกรุ่นในใจ ต่อความกับคนอย่างเขาไปมันก็เปล่าประโยชน์ ฉันควรที่จะเลือกเดินออกมาและอยู่ห่าง ๆ ผู้ชายอย่างเขาจะดีกว่า
NOEY Talk End.