ลินินก้าวขาถอยหลังเมื่อเขาลุกขึ้นยืน และมีท่าทีว่าจะเดินมาหาเธอ ทว่าเขาแค่เดินอ้อมโต๊ะทำงานมายืนกอดอกมองหน้าเธอเพียงเท่านั้น
“เธอบอกฉันมาสิ....” เขาพูดกับเธอต่างออกไป ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มพูดคุณกับผมแต่ตอนนี้เขากำลังเรียกเธอแปลกไป ราวกับตอกย้ำให้เธอนึกคิดว่าเขากับเธอรู้จักกันมาก่อน และรู้จักดีเลยทีเดียว
“แม้คุณจะเป็นคนแรกของฉัน แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนต่อไปค่ะ คุณไม่ต้องใส่ใจมากกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนแบบนั้นหรอกค่ะ” ลินินเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนไหววูบยามพูดถึงเรื่องราวเหล่านั้น
“ฉันคิดว่าเป็นเธอนะ ที่คิดกับเรื่องนั้น”
“_”
“เธอจำมัน และยังคิดว่าฉันผิด ทั้ง ๆ ที่ฉันช่วยเธอจากไอ้สารเลวนั่น” หญิงสาวเหยียดยิ้มออกมา เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ช่วยด้วยการทำเลว ๆ แบบเดียวกัน มันไม่เรียกว่าช่วยหรอกค่ะ” ชายหนุ่มชะงักไปในทันที “อีกอย่างนะคะ ฉันยอมคุณเพราะคิดว่าคุณเป็นน้องคุณต่างหากล่ะ”
“_”
“ถ้าติดใจฉัน ขอบอกตรงนี้ว่ามันจะไม่มีครั้งที่สอง” หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นด้วยความรู้สึกว่าเธอต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น ทว่ามันกลับทำให้เขาเหยียดยิ้มออกมา
“อะไรทำให้เธอมั่นใจว่าฉันอยากได้เธอเป็นครั้งที่สอง เธอสวย? หุ่นดี? นิสัยดี? ...”
“_”
“ฉันไม่เห็นอะไรสักอย่าง” ลินินรู้สึกเหมือนโดนกระชากออกไปตบหน้า เธอรู้สึกเสียหน้าเป็นที่สุด ขณะที่เจ้าของคำพูดเพียงแค่ยืนมองเธอนิ่ง ๆ
“เหอะ ฉันรู้นะคะว่าคุณเป็นคนพาฉันมาทำงานที่นี่...แล้วคุณทำไปทำไมคะ”
“สงสารมั้ง...แค่นั้น” หญิงสาวตกใจที่เขายอมรับ แต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาจี้ที่หัวใจ เขารู้สึกสงสารเธออย่างนั้นสินะ เพราะความเป็นจริงเธอกำลังจะถูกไล่ออกจากที่ทำงานเดิมอยู่แล้ว
“ฉัน...ฮึก...ขอตัวค่ะ” หญิงสาวว่าพร้อมกับหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป ดวงตาคู่สวยของเธอเอ่อไปด้วยน้ำตายามเธอพูดคำนั้นออกไป ขณะที่เจ้าของคำพูดก็ได้ยกมือขึ้นขึ้นกุมขมับตัวเอง
“มึงพูดเหี้ยไรวะ” เขาสบถออกมาพร้อมกับกล่าวโทษตัวเองในใจด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดที่พูดถ้อยคำเหล่านั้นซึ่งมันตรงข้ามกับความเป็นจริง...
กว่าจะสามารถดึงสติกลับมาสนใจงานของตัวเองต่อ นาฬิกาบนผนังก็ได้บอกว่าตะวันได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว ลินินเตรียมกลับบ้านเพื่อไปเก็บกระเป๋าเอาของสำคัญมาทำงานที่นี่
ไต้ฝุ่นบอกเธอว่าทนายความส่วนใหญ่ของที่นี่ทำงานหามรุ่งหามค่ำและแน่นอนว่างานที่ยังไม่ลดลงของเธอทำให้เธอต้องทำแบบนั้นเช่นกัน
หญิงสาวกลับมาถึงบ้านก็พบกับอากงอาม่าของเธอที่มาหาที่บ้าน เธอพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยด้วยตลอดเพราะนอกจากจะทำให้มีปากเสียงกันแล้วการกดขี่ผู้หญิงของครอบครัวเธอก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่อยากเจอหน้า
ลินินไม่ได้เข้าไปในบ้าน เธอกลับขึ้นรถและกำลังจะมุ่งหน้ากลับไปทำงานต่อ ทว่า
ครืดด ครืดด~
เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ข้างกายทำให้เธอหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นเพื่อนของเธอเอง หญิงสาวกดรับสายพร้อมกับต่อลำโพงเข้าเครื่องยนต์อย่างไม่คิดอะไร
“ว่าไง...”
[ฉันมาหาแกที่ทำงาน แต่ไม่เจอแก]
“อ้อ ฉันกลับบ้านมาเอาของน่ะ ว่าแต่แกมีอะไรหรือเปล่าฉันกำลังกลับไปทำงานต่อ”
[อย่าเพิ่งกลับเลย อิอิ ฉันกำลังอยู่กับคุณอัทธ์แหละ]
“ห๊า..” ฝ่าเท้าเล็กเหยียบเบรกกะทันหัน หญิงสาวไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“แกไปอยู่ทำไมที่นั่น”
[ก็ไม่ดีเหรอ คือฉันเอาคำพูดแกไปคิดใช่ปะ แล้วแบบฉันยังไม่ได้เริ่มจีบเขาเลย...ฉันยังไม่ถอยหรอก]
“แล้วตอนนี้คือยังไงแกอยู่กับเขาได้ยังไง”
[ก็อยู่ ๆ เขาก็ชวนฉันไปดื่ม]
“อะไรนะ!”
[เขาบอกว่ามีเรื่องให้คิด เครียดหน่อย ๆ ฉันก็เลยบอกว่าฉันไปเป็นเพื่อนได้]
“ให้ฉันไปด้วยไหม คือคุณอัทธ์เขาไม่ใช่คน...”
[นี่ ฉันโตแล้วนะ ขอบคุณที่เป็นห่วง ฉันเตรียมถุงยางพร้อม]
“อะไรของแก ไหนบอกจะเก็บซิงไว้ชิงโชค” ลินินยกมือขึ้นกุมขมับ อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกแปลกไป “แกต้องเข้าใจก่อนว่าเขามีตัวเลือกเยอะนะมิน”
[อื้ม ฉันรู้ แค่แบบไปเป็นเพื่อนอาจไม่มีอะไรหรอก]
“ไม่รู้สิ เขาไว้ใจไม่ได้หรอกนะ”
[ฉันถึงโทรมาบอกแกไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง เอาเป็นว่าฉันจะดูแลตัวเองให้ดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้รู้ว่าฉันเต็มใจ]
“...แกว่างั้นเหรอ”
[อื้ม อ้อ แค่นี้แหละ คุณอัทธ์ออกมาละ] เสียงโทรศัพท์ตัดไปนานแล้ว แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ขับรถไปเสียที จะว่าไปเพื่อนเธอกับเขาจะยังไงต่อมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
เรื่องที่เขาต่อว่าเธอยังคงอยู่ในหัว อดีตที่เธอเคยทำทำให้เขาไม่ชอบเธอและดูถูกเธอผ่านสายตา แต่การกระทำของเขากลับขัดกับสิ่งที่พูดอย่างไม่น่าเชื่อ
ลินินยกมือขึ้นทาบหัวใจดวงน้อย เธอรู้สึกแปลกไปกับสิ่งนี้ เธอดีใจยามเขาเข้าใกล้ เรื่องกาแฟ เรื่องทานข้าวนั่นอีก และเธอเสียใจยามเขาต่อว่าเธอ ใบหน้าเล็กส่ายหน้าไปมาอย่างนึกขบขันกับสิ่งที่คิดก่อนที่เธอจะออกตัวขับรถไปต่อ ทว่าปลายทางกลับไม่ใช่ที่ทำงาน
“ขอเมามันวันหนึ่งก็แล้วกัน งานค่อยว่ากัน” ลินินพึมพำออกมาก่อนที่เธอจะเหยียบคันเร่งขับรถออกไปสู่ถนนกว้าง
ความบังเอิญเกิดกับเธอได้มากแค่ไหนกันเชียวเธอถึงเจอเขาที่ร้านเหล้า คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อบังเอิญสบตากับหญิงสาวที่เดินเข้ามาในร้านเหล้านั่งชิลล์ ขณะที่มินตราก็ได้หันหลังให้กับทางเดินเข้าร้าน
“มองอะไรคะ...”
“เปล่าครับ” ชายหนุ่มไม่เห็นว่าลินินจะเดินเข้ามาทักเพื่อนของเธอ เจ้าหล่อนเดินไปอีกทางแสดงว่าสองคนนี้ไม่ได้นัดกันไว้
“เมื่อกี้คุณถามว่าฉันกับลินินเจอกันตอนไหนใช่ไหมคะ”
“ครับ...” มินตราทำหน้าครุ่นคิดและระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้รินเหล้าให้เธอไปด้วย
“ตอนปีสี่ค่ะ ฉันเห็นว่ายัยนินไม่ค่อยมีเพื่อนเลยไปนั่งคุยด้วย จากนั้นเราก็บังเอิญเจอกันบ่อย ๆ แล้วก็สนิทกัน” อัทธ์พยักหน้าเล็กน้อย เขาชวนมินตรามาดื่มเพื่อถามเกี่ยวกับเธอคนนั้น ชายหนุ่มยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มระหว่างนั้นก็มองแผ่นหลังบางของลินินที่นั่งอยู่ไกลออกไปด้วย
“ฉัน...ดีใจที่ยัยนินได้ทำงานกับคุณนะคะ” เขาเลิกคิ้วและมองใบหน้าสวยคมของเธอด้วยแววตามีคำถาม
“แบบ ยัยนินกำลังจะถูกไล่ออกตั้งนานแล้ว เธอเครียดมาก ๆ เพราะที่บ้านของเธอน่ะค่ะ ชอบบอกให้เธอรีบหาสามีเพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานแบบนี้อีก...”
“_”
“แต่ยัยนินก็พยายามตั้งใจทำงาน แต่พักหลัง ๆ เธอได้แต่คดีเสี่ยงแพ้ค่ะ ก็เลยไม่ชนะเหมือนกับว่ายังไงก็ต้องแพ้”
“หึ ทนายก็งี้แหละครับ แพ้เป็นส่วนใหญ่”
“คุณไม่เคยเห็นยัยนินที่ศาลเหรอคะ”
“เคยสิครับ...” เขาว่าพร้อมกับเลื่อนสายตาไปมองลินิน ก่อนจะพบว่าเธอกำลังหันมามองเขาเช่นกัน ซึ่งเจ้าหล่อนก็ได้ยกมือขึ้นลูบต้นคอแต่บอกเลยว่าไม่เนียน เพราะเขารู้ว่าเธอลอบมองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“จริงเหรอคะ ฉันก็ว่าอาชีพเดียวกันก็ต้องเจอกันบ้าง”
“ครับ...” เพราะว่าเคยเจอ และเห็นความพ่ายแพ้ของเธอเขาถึงอยากรู้จักเธอมากขึ้น แม้จะเคยเป็นคู่หมั้นกันแต่ก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ซึ่งเรื่องนั้นทำให้เขาไม่ชอบเธอ แต่อยู่ ๆ ชายหนุ่มกลับอยากรู้จักตัวตนของเธอจริง ๆ เขาก็เลยดึงเธอมาทำงานด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอัทธากรอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตาพยายามเข้ามาขอนั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนลินิน แต่หญิงสาวก็ได้ปฏิเสธไปหมดทุกคน ลินินรู้ลิมิตในการดื่มสุราของตัวเองแต่พอเห็นเขาเมื่อครู่ฝ่ามือบางก็กระหน่ำยกเหล้าขึ้นดื่มอย่างไม่สนใครหน้าไหน
อัทธากรผู้ชายปากร้ายหาว่าเธอไม่สวย หุ่นไม่ดี นิสัยแย่ และให้เธอมาทำงานด้วยเพราะความสงสาร ในสายตาของเขาเธอคงน่าเวทนา
ปั่ก!
“ไอ้บ้า...” ยามหันไปมองเขาทีไรก็เห็นว่าเขามองเธออยู่ จนแล้วจนรอดหญิงสาวก็ไม่หันไปอีก ต่างจากอีกฝ่ายที่พูดกับอีกคนแต่สายตาของเขากลับมองแผ่นหลังของเธอไม่หยุด
มีผู้ชายหลายคนพร้อมจะจู่โจมเจ้าหล่อน ราวกับเป็นเหยื่อให้กับเสือร้ายจ้องจะตะครุบ หากว่าเธอเมาอีกนิดคงไม่รอดพ้นแน่
“ผมคิดว่าผมพอแล้วครับ”
“อะไรนะคะ ฉันยังไม่ได้ที่เลย” มินตรามึนงง เพราะเธอยังดื่มไม่หมดขวดเสียด้วยซ้ำ
“พอดีผมนึกได้ว่ามีงานน่ะครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ”
“แล้ว...”
“ครับ? ”
“คือฉันได้ยินจากยัยนินน่ะค่ะว่าคุณต้องไปดูตัวทุกวันในตอนเที่ยง แล้วอย่างนี้...”
“_”
“คือ...แล้วฉันไปหาคุณได้ช่วงไหนบ้างคะ”
“หึ สำหรับคุณแล้วช่วงเย็นผมว่างตลอดครับ” เขาตอบออกไปตามความจริง หลังจากผ่านช่วงเย็นชายหนุ่มก็ทำงานต่อ เพราะฉะนั้นมีแค่ช่วงเที่ยงกับช่วงเย็นที่เป็นเวลาพักของเขา
“งั้นฉันก็ไปหาคุณได้น่ะสิ”
“ครับ...” ชายหนุ่มไม่ได้ปิดกั้นเธอ มินตราสวย พูดเก่ง อัธยาศัยดี อีกทั้งช่วงนี้เขาต้องเร่งหาเมียตามคำสั่งของพ่อเขา เพราะอย่างนี้เขาถึงต้องออกเดตไม่เว้นแต่ละวัน
มินตราเม้มริมฝีปากแสดงความเขินอายออกมาโดยไม่รู้ว่าเขาก็เปิดโอกาสแบบนี้ให้กับผู้หญิงทุกคน
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะคะ” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนโดยมีชายหนุ่มเดินตามไปส่งที่รถของเธอ
ขณะเดียวกันที่ลินินตัดสินใจหันกลับมามองเพื่อนของเธอและชายหนุ่มอีกครั้งแต่เธอก็ไม่พบเสียแล้ว
“ยัยมิน...” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาเพราะคิดว่าเพื่อนของเธอกับเขาคนนั้นคงไปต่อกันที่โรงแรมแล้ว
ลินินรู้สึกว่าการกระทำของเขานั้นแย่เสียจริง เพราะเขาเป็นคนที่มีคู่ควงเยอะแต่ยังจะมาทำแบบนี้กับเพื่อนของเธออีก หญิงสาวยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกอึกใหญ่
“อึก อึก...” ก่อนที่เธอจะกระแทกแก้วลงโต๊ะ พร้อมกับคว้าคอขวดเหล้าขึ้นมารินใส่แก้วอีกครั้ง แต่แล้ว
หมับ!
“อ๊ะ...” ฝ่ามือหนาของใครบางคนก็ได้ยื่นมาคว้าขวดเหล้าของเธอไว้เสียก่อน ใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาวค่อย ๆ เงยขึ้นไปมอง ซึ่งหน้าของเขาก็ทำให้เธอชะงักไป
“ชื่ออิทธ์หรือชื่ออัทธ์คะ”
“_”
“ถ้าชื่ออิทธ์ฉันจะฝากให้พี่ไปชกหน้าพี่ชายคุณหน่อยน่ะค่ะ” น้ำเสียงยานคางของคนตัวเล็กทำให้เขาส่ายหน้า แล้วอะไรทำให้เธอพูดอย่างนี้ ลินินกำลังพูดถึงน้องชายฝาแฝดของเขา ซึ่งเธอกำลังบอกให้น้องเขามาชกหน้าเขาอย่างนั้นหรือ
“เธอเมาก็ควรกลับบ้าน” เขาว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะกวาดสายตามองโดยรอบ ผู้ชายหลายคนที่ที่จ้องจะตะครุบเหยื่อตัวเล็กนี้หันหน้าหนีแทบไม่ทัน
“ถ้าชื่ออัทธ์...ฉานนน~ จะถามว่าฉันไม่สวยตรงไหน เอาปากกามาวงสิ”
“_” ลินินยืนขึ้น ก่อนที่เธอจะเซคล้ายจะล้มทำให้เขาต้องยื่นลำแขนแกร่งไปโอบรอบเอวเธอ
“หึ หึ พูดมาได้ว่าไม่อยากได้ฉันเป็นรอบที่สอง”
“...เมาแล้วเพ้ออย่างนี้ตลอดเหรอวะ” อัทธ์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนที่เขาจะดึงตัวเธอเข้ามาหาแผ่นอกแกร่ง
“เหรอ ถ้าฉันถอดผ้าต่อหน้า...คุณก็ไม่ทำใช่ไหม”
“_”
“หน็อย~ กล้ามากมาบอกว่าฉันไม่สวย หุ่นไม่ดี นิสัยแย่” ลินินพูดไม่หยุดแถมยังส่งเสียงดังจนคนรอบข้างหันกลับมามองเธอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะตัดสินใจช้อนร่างบางของเธอขึ้นแนบอก ตัวเธออ่อนปวกเปียกยากจะขัดขืน
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นลูบเบา ๆ ที่แผ่นอกแกร่ง เธอเงยหน้าขึ้นมองสันกรามของเขา ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นนาบที่ใบหน้าคมสันนั้น
“ฉันจะคอยดูว่าคุณจะ...อึก ยอมมีอะไรกับฉันอีกครั้งไหม”