ลินินออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ แม้ว่าจะมีอาการแฮงค์เหล้าอยู่ไม่น้อยแต่การทำงานที่ใหม่ในวันแรกเธอก็ไม่อยากได้รับคำครหาโดยเฉพาะจากเจ้าของบริษัท
เมื่อคืนเธอไปส่งเพื่อนของเธอซึ่งก่อนจะกลับเพื่อนของเธอก็ได้แลกไลน์กับเขาไป อัทธ์เป็นผู้ชายมีเสน่ห์เกินห้ามใจเธอไม่ปฏิเสธ หากว่าเพื่อนของเธอจะลงเอยกับเขาเธอก็อยากดูไปนาน ๆ เพราะเรื่องในอดีตระหว่างเธอกับเขามันไม่ดีสักเท่าไร
สำนักงานกฎหมายตรงหน้านี้เป็นที่ทำงานใหม่ของเธอ ซึ่งก่อตั้งได้ไม่นานแต่กลับมีชื่อเสียงเกินหน้าสำนักงานกฎหมายเอกชนอื่น ๆ
คดีความดัง ๆ ที่เป็นกระแสในสังคมมักมาจบที่สำนักงานกฎหมายนี้ และสถิติการชนะคดีทำให้ลูกความใฝ่หาที่จะมาว่าจ้างทนายของที่นี่
ลินินในชุดสูทสุภาพหญิง กางเกงขายาวในส้นสูงสามนิ้วและการรวบผมเป็นหางม้าไปทางด้านหลังทำให้เธอน่ามอง หญิงสาวค้อมศีรษะให้กับเพื่อนร่วมอาชีพหลายคนที่มองมายังเธอ เสียงกระซิบต่าง ๆ บอกว่าเธอมาทำงานที่นี่เพราะถูกดึงตัวมา
ใครกันดึงตัวเธอมา...
ซึ่งเจ้าตัวยังหาคำตอบไม่ได้สำหรับเรื่องนี้ จะว่าบิดาชาวจีนของเธอที่รู้จักกับเจ้าของบริษัทใหญ่อย่างเดอะเกรทฟีเจอร์กรุ๊ปฝากให้ก็ไม่ใช่ เพราะเธอได้ทวนถามหลายครั้งแล้วว่าพ่อของเธอได้ฝากงานใหม่ให้ไหมซึ่งอีกฝ่ายกลับบอกว่าไม่รู้เรื่อง
หญิงสาวเดินผ่านห้องทำงานหลายห้องเพื่อไปยังห้องของเธอตามที่ฝ่ายบุคคลได้บอก ความเป็นส่วนตัวของลูกความทำให้ห้องสำหรับติดต่อรับคำปรึกษาถูกปิดมิดชิดและถูกแบ่งอย่างชัดเจน ทว่าพอเดินไปจนสุดทางจนเกือบจะถึงห้องทำงานใหญ่ซึ่งป้ายหน้าห้องก็บอกอยู่ว่าเป็นห้องของใคร
กึก!
“อะไรกันเนี่ย...” ลินินพึมพำออกมาเมื่อห้องของเธออยู่ติดห้องทำงานใหญ่นั้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ห้องขนาดกลางนี้เป็นห้องของเธออย่างแน่นอนเพราะมีชื่อของเธอติดอยู่
อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเขาเองหรือเปล่าที่ดึงตัวเธอมาทำงานด้วย เขาสามารถทำได้ทุกอย่างเพราะว่าครอบครัวเขารวยมาก ครั้นเมื่อคืนที่ได้เอ่ยปากถามไปเขาก็ปฏิเสธเธอไปแล้ว ซึ่งเธอก็ยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าเขาจะดึงตัวเธอมาทำงานด้วยทำไม
“ช่างเถอะ ปวดหัวเปล่า ๆ” ลินินส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนที่เธอจะผลักประตูเข้ามาในห้องของเธอ โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมของใครบางคนมองเธอผ่านมู่ลี่สีขาวอยู่
ห้องทำงานขนาดใหญ่อยู่ท้ายสุดของทางเดินเป็นห้องทำงานของเขา อัทธ์นั่งลูบริมฝีปากหนาอย่างใช้ความคิด และคิดว่าในอีกไม่กี่นาทีเธอจะเดินเข้ามาหาเขา
“หนึ่ง...” ริมฝีปากหนาพึมพำออกมา เพราะเขาได้ทำบางอย่างไว้และคิดว่าเธอจะต้องเข้ามาหาเขาเป็นแน่ภายในสามวินาทีหลังจากนี้ ร่างหนาเอนแผ่นหลังพิงพนักพิงเก้าอี้พร้อมกับปิดเปลือกตาลง
“สอง...”
“สาม...”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
แกร็ก~
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทันทีที่เขาได้นับเลขถึงสาม ก่อนที่สายตาคมจะหันไปมอง
ใบหน้าโกรธเคืองแต่พยายามระงับอารมณ์ของลินินทำให้เขายกยิ้มออกมาที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะเลิกคิ้วให้เธอข้างหนึ่งเชิงเป็นคำถามว่าเธอเข้ามามีเรื่องอะไรกับเขา
“สวัสดีตอนเช้านะคะคุณทนาย” ลินินกระแทกเสียงคำว่าทนายด้วยความโมโห
“ครับ...คุณผู้ช่วยทนาย” หญิงสาวกำมือเข้าหากันแน่น เธอฉีกยิ้มกว้างให้เขาก่อนจะเอ่ยพูดเสียงลอดไรฟัน
“ฉันว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ ๆ ค่ะ ฉันจบนิติฯและก็เป็นทนายมาสี่ปีเต็ม ๆ แล้วนะคะ”
“เหรอครับ”
“ฉันมีใบอนุญาตทนายและสอบตั๋วทนายผ่านหมดค่ะ”
“คุณก็เลยบอกว่าคุณเป็นทนาย?” ลินินเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น เธอมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจอย่างชัดเจน
“คุณไม่ชอบฉันเหรอคะ” หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่เธอใคร่รู้ ดูก็รู้ว่าเขาไม่พอใจเธอแต่เรื่องมันก็นานแล้วทำแบบนี้เขากำลังใช้อำนาจแบบผิด ๆ
“ครับ ผมไม่ชอบคุณ ไม่พอใจก็ลาออกได้” ลินินอ้าปากพะงาบ ๆ มองหน้าเขา ชายหนุ่มตอบเธอออกมาตรง ๆ แถมยังไม่สนใจว่าเธอจะอยากลาออกหรือไม่
“ดีใจจังเลยค่ะที่คุณไม่ชอบฉัน เพราะฉะนั้น...ฉันจะอยู่ให้คุณเหม็นขี้หน้านี่แหละค่ะ” อัทธ์ยิ้มให้เธอก่อนที่เขาจะเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่ยี่หระ
“...ก็เชิญ” หญิงสาวตาโตขึ้น เธอหมดคำพูดกับเขา แต่ก่อนที่เธอจะหมุนตัวออกจากห้องนี้ไป
“อ่านให้จบในสามวัน”
“ห้ะ!” เขาคงหมายถึงสำนวนคดีความที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอสินะ ก่อนหน้านี้ตอนเปิดประตูเข้าไปเธอก็พบกับกองเอกสารที่สูงเลยศีรษะเธอซึ่งมันถูกวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอเอง และทั้งหมดก็เป็นคดีความของเขา
“ไม่ได้ยิน?”
“ได้ยินชัดเลยค่ะ แต่ภายในสามวันคุณกำลังแกล้งฉันหรือเปล่าคะ”
“คุณคิดว่าผมว่างมากมาแกล้งคุณ?”
“ไม่รู้สิ คุณบอกว่าคุณไม่ชอบฉันนี่คะ” ลินินกอดอกคุยกับเขา ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าจะพยายามถอยห่างเขาให้ได้มากที่สุดแต่ดูเหมือนว่าเธอจะเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว
“คุณไม่พอใจที่ฉันปฏิเสธการหมั้นกับคุณใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ยปากถามถึงเรื่องในอดีต ซึ่งหางคิ้วของเขาที่กระตุกนั้นเธอคิดไปแล้วว่าใช่ ทว่า
“ทำไมผมต้องไม่พอใจเรื่องนั้น คุณมีดีอะไรผมถึงอยากแต่งงานด้วย”
“_”
“บอกมาสักข้อสิ” สายตาคมที่ไล่มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าทำให้ลินินก้าวขาถอยหลังด้วยความรู้สึกประหม่า เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน และสิ่งที่เขาพูดก็ยากจะปฏิเสธ เธอไม่มีอะไรดี...อย่างที่เขาว่า
“ไม่มีหรอกค่ะ ถึงมียังไงฉันก็ไม่แต่งงานกับคุณ” ชายหนุ่มไหวไหล่ขึ้นอย่างไม่ยี่หระ
“หึ...” เขาหัวเราะออกมาก่อนจะลุกพรวดขึ้น ซึ่งการลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของคนตัวโตทำให้หญิงสาวตกใจ เขาสาวเท้ามาหาเธอแบบนี้หมายความว่าอย่างไรกัน
“อะไรของคุณ” หญิงสาวทำใจดีสู้เสือไม่ก้าวขาถอยหลังหนีแม้ว่าคนตัวโตมีท่าทีจู่โจมเธออย่างชัดเจน
“คุณว่าอะไรนะ...คุณไม่มีสิทธิ์บอกว่าไม่แต่งงานกับผมด้วยซ้ำ” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น เธอกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขา ซึ่งการที่เขาเอามือไขว้หลังแล้วโน้มหน้าลงมาหาเธอจนปลายจมูกคมแทบชนปลายจมูกเล็กของเธอ ทำให้ลินินกลั้นลมหายใจ
“ทะ ทำอะไร” ลินินไม่สามารถต้านสิ่งที่เกิดได้ เรียวขาเล็กในส้นสูงก้าวถอยหลังอย่างจำยอม
“คุณบอกว่ายังไงก็ไม่แต่งกับผม...เหรอ”
“คุณอัทธ์ช่วยให้เกียรติฉันด้วยค่ะ” อัทธ์ยกฝ่ามือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อบอกเธอว่าเขายังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ซึ่งการตีโพยตีพายของลินินทำให้เขานึกขัน
“ผมทำอะไรไม่ให้เกียรติคุณเหรอครับ” แผ่นหลังบางของลินินชนเข้ากับบานประตู เธอหายใจติดขัดเมื่อเขาไม่มีท่าทีว่าจะหยุดจู่โจม แถมยังพูดจายียวนเธออีก
“อะ ออกไปนะ” หญิงสาวยกมือขึ้นดันหัวไหล่หนาออก ก่อนที่เธอจะตัดสินใจใช้แผ่นหลังเปิดประตูกระจกสีชานั้นออก และเสียงหัวเราะของคนตัวโตที่ดังตามหลังมาทำให้ลินินหายใจฮึดฮัดไม่พอใจ
“ฮึ่ย...ไอ้บ้าเอ๊ย!” ไรขนอ่อนของเธอยังคงลุกชันขึ้น ก่อนที่เธอจะยกฝ่ามือลูบเบา ๆ ตามต้นแขน ความรู้สึกใกล้ชิดอิงกายกับชายชาตรีเธอไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว เพราะความรักในอดีตที่ไม่สมหวังมันทำให้เธอปิดกั้นตัวเองจากชายอื่น จนถึงตอนนี้ที่อายุของเธอก็เลยวัยเบญจเพสมาแล้วหญิงสาวยังไม่เคยใกล้ชิดชายอื่นเท่าเขาตอนนี้เลย
กลิ่นโคโลญจน์อ่อน ๆ ของเขายังติดที่ปลายจมูกเล็ก มันหอมชวนหลงใหลจนเธอต้องส่ายหน้าแรง ๆ กลิ่นของเขาให้ความรู้สึกเซ็กซี่ชวนจั๊กจี้หัวใจในความรู้สึกของเธอ
“แกเป็นอะไรลินิน!” หญิงสาวก่นด่าตัวเอง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของเธอเอง และกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้าทำให้เธอพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูกเล็ก
“เห้อ...” ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าเธอลาออกจากที่นี่เธอจะไม่มีงานทำ ลินินว่าความไม่เคยชนะและแน่นอนว่าไม่มีใครอยากจ้างเธอ หญิงสาวไม่ได้เข้าเป็นทนายของรัฐฯเพราะไม่ชอบการทำงานในระบบของรัฐบาล หากจนตรอกเธอก็คงต้องจำใจทำ แต่ตอนนี้ขอเกาะงานที่นี่ไว้แน่น ๆ
“...สู้!” กำปั้นเล็กชูขึ้นให้กำลังใจตัวเอง เธอเติบโตในครอบครัวชาวจีน หญิงสาวต้องการพิสูจน์ให้บิดามารดาทราบว่าเธอไม่จำเป็นต้องมีสามีเธอก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้
แต่ก่อนที่เธอจะได้เริ่มจัดการเอกสารตรงหน้าเสียงเคาะประตูห้องของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ลินินละสายตาจากกองเอกสารก่อนที่เธอจะเดินไปเปิดประตูกระจกห้องทำงานออก ซึ่งห้องทำงานแต่ละห้องจะรายล้อมไปด้วยบานกระจกสีชาซึ่งสามารถมองเห็นบุคคลภายนอกได้แต่บุคคลภายนอกมองไม่เห็นภายใน
แกร็ก!
“สวัสดีครับ ผมเป็นเลขาของคุณอัทธากร” หญิงสาวมองชายหนุ่มในชุดสูทตรงหน้าด้วยความมึนงง
“หือ...อ้อค่ะ” ลินินงงเล็กน้อยแต่เธอก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้เป็นทนายเพียงอย่างเดียว แต่เขาเป็นผู้บริหารด้วย
“เชิญเข้ามาก่อนก็ได้ค่ะ แต่ห้องรกนิดหน่อยนะคะ”
“ขอบคุณครับ ผมมาแนะนำงานของคุณและบอกเกี่ยวกับตารางของคุณอัทธากรครับ” ชายหนุ่มในวัยไล่เลี่ยกับเธอ เขามีใบหน้าละอ่อนคล้ายว่ามีเชื้อจีนเช่นเดียวกับเธอ
“ผมชื่อไต้ฝุ่นนะครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร ก่อนที่ลินินจะเชิญชายหนุ่มนั่งพูดคุยที่ชุดโซฟาตรงหน้าโต๊ะทำงานของเธอ
“จริง ๆ คุณอัทธ์มีผู้ช่วยทนายอยู่แล้วครับ แต่ว่าคดีความเยอะเกินไปจนต้องมีผู้ช่วยเพิ่ม พอจะโยนให้กับทนายคนอื่นลูกความก็ไม่ยอมครับ”
“อ้อ ค่ะ เข้าใจได้”
“เอกสารที่วางอยู่เป็นคดีความเก่าและใหม่ที่คุณอัทธ์เคยทำและก็กำลังดูแลอยู่ ถ้าเขามีเรื่องอะไรอยากให้คุณช่วยเขาจะโทรมาเองนะครับ โทรศัพท์อยู่ตรงนั้น...” ลินินหันไปมองตามฝ่ามือหนาของไต้ฝุ่น
“...เวลางานของที่นี่ไม่เป็นระเบียบนะครับ ต้องเข้างานแปดโมงเช้าแต่จะออกงานกี่โมงก็เรื่องของคุณ ถ้าปิดคดีเร็วก็ได้เงินเร็วครับ”
“ไม่ได้จ่ายเป็นเงินเดือนเหรอคะ”
“ไม่ครับ จ่ายตามความเก่งและความขยันครับ” หญิงสาวตาโตเล็กน้อย การทำงานที่นี่คงกดดันไม่น้อยเลย ลินินเกิดความวิตกขึ้นในใจ
“คุณอัทธ์ไม่อนุญาตให้ใครเข้าห้องแม้ว่าเคาะประตูแล้วนะครับ ส่วนตอนพักเที่ยงคุณอัทธ์จะออกไปทานข้าวข้างนอกกับคู่เดตครับ...ทุกวัน”
“ห้ะ คู่เดต?”
“ครับ อันนี้ผมไม่มั่นใจว่าพูดได้ไหมแต่ทุกคนก็รู้กันหมดว่าคุณอัทธ์ไปเดตทุกวันครับ”
“ทุกวันกับคนคนเดียวน่ะเหรอคะ”
“เปล่าครับ เปลี่ยนคนทุกวัน และก็เปลี่ยนเป็นเดือนครับ อย่างอาทิตย์นี้มีเจ็ดวัน...เจ็ดคนนี้ก็เดตจนครบเดือนครับ”
“_” ลินินพูดไม่ออก เธออ้าปากเหวอด้วยความตกใจแต่ก็กลัวเสียมารยาทก็เลยยกมือขึ้นป้องปากไปด้วย
“พอดีว่าที่บ้านของคุณอัทธ์อยากให้คุณอัทธ์แต่งงานน่ะครับ”
“_” ลินินพอเข้าใจเพราะครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็นคู่หมั้นของเขาเช่นกัน อีกทั้งตอนนี้เจ้านายใหม่ของเธอก็อายุจะเข้าสามสิบห้าแล้วด้วย
“...เอาเป็นว่าเวลาส่วนใหญ่ของคุณอัทธ์จะว่างก็ต่อเมื่ออยากว่างครับ” แม้จะพอเข้าใจว่าเขาต้องแต่งงาน แต่การที่เขามีคู่ควงเยอะอย่างนี้ และเพื่อนของเธออยู่ลำดับที่เท่าไร ได้ยินอย่างนี้ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ดูท่าจะเสือผู้หญิงไม่เบา...