ร่างกายตอบสนองต่อสารพิษเช่นเดียวกันกับยา
เพียงแต่ยาไม่ได้ให้โทษฉัน...เหมือนกับสารพิษ
ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกับฉันกันแน่...เป็นสารพิษหรือว่าเป็นยา
บางทีเขาก็เป็นพิษ
บางทีเขาก็เป็นยา
เขาทำให้ฉันสับสน...
-ลินิน-
ท่ามกลางแสงสีของผับหรูชื่อดังใจกลางกรุง แผ่นหลังบางภายในชุดสีขาวที่คว้านลึกโชว์แผ่นหลังเนียนถูกมองโดยเพื่อนของเธอ หญิงสาวร่างบางยกแก้วสีอำพันขึ้นดื่ม เธอไม่ทันสังเกตถึงการมาของเพื่อนสาว
“ลินิน!!” เสียงเล็กแหลมของมินตราทำให้เจ้าของร่างบางสะดุ้งอย่างแรงจนตัวโยน เธอหันขวับไปเอ็ดเพื่อนเบา ๆ
“อะไรของแกเนี่ย” ลินินส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับความขี้เล่นของอีกฝ่าย ก่อนที่มินตราจะนั่งลงข้าง ๆ เธอ
“ร่าเริงหน่อยสิ”
“ตกงานเหมือนฉันไหมล่ะ” พอลินินเอ่ยพูดขึ้นสีหน้าของมินตราก็แปรเปลี่ยน เธอคว้าไหล่มนของเพื่อนเธอให้หันมามอง
“แกไม่ได้ตกงาน...แค่โดนย้ายต่างหาก”
“หึ มันต่างกันหรือไง” ริมฝีปากเล็กขมุบขมิบเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่เต็มเสียง ก่อนที่เธอจะหันหน้ากลับไปที่บาร์เหล้าดังเดิม ความเศร้าหมองของลินินทำให้มินตรารู้สึกไม่ดี แต่คงทำอะไรไม่ได้ไปกว่าการปลอบใจและดื่มเป็นเพื่อนเธอ
“พี่คะค็อกเทล...ขอหวาน ๆ นะคะ” มินตราหันไปบอกบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบาร์เหล้า
“ครับ...” เขาตอบรับเสียงสดใส การมีสาวสวยหุ่นดีมานั่งอยู่ตรงหน้าถึงสองคนมันเป็นอะไรที่ดีสำหรับเขา
“มันไม่ได้แย่เลยนะบริษัทกฎหมายที่แกว่า...” มินตราเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสในฉบับของเธอ ทำให้ลินินที่กำลังสับสนในหัวนั้นหันมามอง
“นั่นสิ...” เธอจะบอกได้อย่างไรว่ามีอริของเธอเป็นเจ้าของบริษัทนั้น ชื่อเสียงเรียงนามของเขาหากเอ่ยออกมาเป็นที่รู้จักกันในวงสังคมกว้าง
“มันดีมากเลยนะเว้ย แกจะได้ทำงานกับฮีโร่ของเรา”
“หึ ฮีโร่อะไรของแก”
“เอ้า แกไม่รู้เหรอเนี่ยว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทกฎหมายนั้น” ลินินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ เธอรู้ดีเสียยิ่งกว่ารู้อีก
“คดีความที่เพิ่งปิดไง คดีแพะดัง ๆ อ่ะ”
“รู้...” หญิงสาวพึมพำออกมา ซึ่งพอหันไปมองก็เห็นมินตราดวงตาลุกวาวเมื่อได้พูดถึงเรื่องนี้
“ฉันจะไปหาแกบ่อย ๆ เลย เห้อ...ฉันอยากได้เขา”
“พอเหอะ อกหักไปกี่รอบแล้ว เดี๋ยวน้ำตาเช็ดหัวเข่าอีก” ลินินส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับมินตรา เพื่อนของเธอฝักใฝ่หารักดี ๆ ตั้งนาน ทว่าครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อนสาวของเธอก็ไม่เคยสมหวังสักที
“แก...การที่แกย้ายที่ทำงานนี่แหละเขาเรียกสวรรค์เปิดทาง”
“หึ เปิดยังไง”
“ก็แกเพื่อนฉัน การที่แกย้ายไปอยู่นั่นจะทำให้ฉันได้ไปหาแก และจะได้เจอเขาบ่อย ๆ ไง คราวนี้แหละแกเอ้ย...”
“เพ้อแล้ว...มิน” มินตราขำออกมาเบา ๆ เมื่อลินินเอ่ยพูดตัดเธอ ก่อนที่เธอจะเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง
“มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้ แกว่าชาตินี้ฉันจะมีโอกาสได้คุยกับเขาไหมล่ะ”
“_”
“มันไม่ง่ายเลยนะที่เราจะได้คุยกับทนาย ถ้าไม่ได้มีคดีอะไร”
“ฉันก็ทนายไหมล่ะ” ลินินพูดแทรกขึ้นมา สงสัยเพื่อนตัวดีจะลืมไปเสียสนิทว่าเธอก็เป็นทนายความเช่นกัน
“หึ มันไม่เหมือนกันไง นั่นมันคุณอัทธ์เลยนะ ทนายอัทธากรผู้เลื่องลือ”
“หึ แกยังไม่รู้จักเขาซะหน่อย”
“แกไม่เคยอ่านบทสัมภาษณ์เขาล่ะสิ ถ้าแกได้อ่านแกจะตกหลุมรักเขา” ลินินเมินคำพูดของเพื่อนเธอ ในแวดวงทนายด้วยกันเองทำไมเธอจะไม่เคยได้ยินชื่อเขา แล้วทำไมเธอถึงจะไม่เคยคุยกับเขา
“นี่แหละสเปกฉันเลย ผู้ผดุงความยุติธรรมแห่งยุค” ลินินไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เพื่อนของเธอพูด ในเรื่องนี้เธอยอมรับ ทว่าการที่เธอเคยรู้จักเขามาก่อนนั้นทำให้เธอไม่ได้พิสมัยอะไรในตัวเขา
“เขาแก่แล้วนะ สเปกแกวัยล่ะอ่อนไม่ใช่เหรอ”
“แก่อะไร สามสิบสี่สามสิบห้าไม่ถือว่าแก่ อีกอย่างฉันชอบความอบอุ่น”
“จ้า...” ลินินไม่ต่อความยาวสาวความยืด เธอหันไปยกแก้วเหล้าที่ถูกชงไว้ขึ้นดื่ม ซึ่งเพื่อนของเธอก็ยกขึ้นดื่มด้วย
“ว่าแต่แกไม่สนใจเขาเลยเหรอ ฉันก็นึกว่าเป็นทนายแล้วแกจะกรี๊ดรุ่นพี่เหมือนกัน”
“เขาไม่ใช่สเปคฉันเลย”
“เหรอ...ดีเลยถ้างั้น ฉันขอก็แล้วกัน”
“ขอฉันทำไม อยากได้ก็เอาไปสิ” เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าคำพูดของเธอนั้นทำให้มินตราชะงักไป
“แกรู้ปะว่ามีไม่กี่เรื่องหรอกที่เพื่อนจะทะเลาะกัน เรื่องผู้ชายก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“โทษที ถ้าให้ฉันเลือกตอนนี้ฉันเลือกแกโดนไม่ต้องคิดเลยล่ะ” หญิงสาวตอบกลับทันควันโดยไม่ต้องคิดอะไร เพราะการที่เธอเคยรู้จักเขานั่นแหละที่ทำให้เธอกล้าพูดคำคำนี้ออกมาเต็มปาก
“โอเคเลยเพื่อนรัก” น้ำเสียงสดใสของมินตราทำให้ลินินยิ้มกว้างออกมา เธอรู้จักมินตราที่มหา’ลัยเมื่อสี่ปีก่อนตอนเธออยู่ปีสุดท้ายของการเป็นนักศึกษา เพราะความบังเอิญในหลาย ๆ ครั้งทำให้ทั้งคู่สนิทกันขึ้นมาแม้ว่าจะเรียนคนละคณะก็ตามแต่
“โอ๊ะ! ฉันว่าสวรรค์เปิดทางให้ฉันแล้วจริง ๆ” อยู่ ๆ มินตราก็อุทานขึ้นมาทำให้ลินินที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มนั้นหันไปมองตามสิ่งที่มินตรากำลังให้ความสนใจอยู่
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีครามและใบหน้าคมสันของผู้มาใหม่ทำให้เธอสำลักในทันที
“แค่ก ๆ” ลินินไอออกมาหน้าดำหน้าแดง โชคยังดีที่เธอเพียงแค่จิบเบา ๆ ไม่งั้นคงทำให้พื้นผับหรูแห่งนี้เปรอะเปื้อนได้
“อะไรของแกเนี่ย” มินตราบ่นเพื่อนอุบอิบแต่เธอก็ยื่นทิชชูให้เพื่อนของเธอ แต่พอลินินจะหันกลับไปสนใจแก้วเหล้าดังเดิมเพื่อนของเธอกลับเอ่ยพูดขึ้น
“แกไปแนะนำตัวสิ ฉันจะได้แนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนแกอีกที...”