"ข้าวต้มร้อนๆค่ะคุณตุนท์" เต็มฟ้ายกชามมาเสิร์ฟให้กับเขาด้วยตนเองอีกแล้ว
"ขอบใจ" เขาตอบเธอเหมือนไม่ได้รู้สึกพิเศษกับชามข้าวที่วางอยู่ตรงหน้าแต่ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้วเขารู้สึกถึงความสดใสของเธอ
"แล้วเธอล่ะ" เขาถามกลับเสียงเรียบเหมือนถามแค่พอเป็นพิธี
"เดี๋ยวเต็มฟ้าไปทานกับพี่ปิ่นในครัวค่ะ"
"อืม" เขาตอบและตักข้าวต้มเข้าปาก
"อร่อยไหมคะ" เต็มฟ้ายืนรอคำตอบ
"ก็..พอกินได้" เขาไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรว่าอร่อยแค่ไม่อยากให้ราคาจนเธอหลงตัวเอง
"กินได้แปลว่าอร่อย" ดาวเต็มฟ้าเลิกตาคู่สวยขึ้นพยายามจะให้เขาพูดให้ได้แต่เขาไม่ตอบจนเธอหน้าเจื่อนเดินกลับไปหาปิ่นในครัว โดยมีสายตาที่มองตามและยิ้มที่มุมปาก
"เป็นอะไรไปคะคุณเต็มฟ้า มาทานกันเร็ว" ปิ่นชวน
"เจ้านายพี่น่ะสิ นับวันก็ยิ่งเหมือนผีดิบไปทุกที มีหัวใจบ้างหรือเปล่านะ" เธอบ่นพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้
"คนเคยอกหักก็แบบนี้แหล่ะ ด้านชา ตั้งแต่เลิกรากับคุณเอริกาไปก็เป็นแบบนี้มาตลอด เก็บตัวพูดน้อย" ปิ่นสาธยาย
"ใครหรือคุณเอริกา" เธอเริ่มอยากรู้อยากเห็นเผื่อว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ให้กับเธอบ้าง
"แฟนเก่าคุณตุนท์น่ะสิ ทิ้งไปนานแล้วเคยมาอยู่ที่นี่กับคุณตุนท์ รู้สึกว่าจะไปเจอผุ้ชายคนใหม่ โอ้ยสมัยรักกันนะหวานปานจะกลืนคุณตุนท์ทั้งรักทั้งหลงคนมันครอบครัวไม่อบอุ่นอยู่แล้วพอมีคนรักเข้ามาก็ยึดติดไว้จนวันหนึ่งเขาทิ้งไปถึงกับไปไม่เป็น" ปิ่นเม้ามอยเจ้านายอย่างรู้ดี
"จริงหรือ ไม่น่าเชื่อว่าผีดิบอย่างเขาจะเคยคลั่งรักด้วย"ดาวเต็มฟ้าฟังอย่างใจจดจ่อ
"แล้วที่ว่าครอบครัวไม่อบอุ่นล่ะคะ"
"ก็ เห็นว่าไม่ค่อยถูกกับคุณพ่อน่ะ คุณท่านเป็นคนดุเจ้าระเบียบถ้าไม่ได้ดั่งใจล่ะก็ด่ากราดเลยทีเดียว" ปิ่นถึงจะอายุไม่มากแต่ก็อยู่มานานพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
"อย่างนี้นี่เอง เขาถึงไร้ความรู้สึก" ดาวเต็มฟ้าเอามือเท้าคางพูดเบาๆจากเกลียดก็เริ่มสงสารในความอาภัพรักของมาเฟียอย่างเขา แต่เธอก็ไม่ได้อยากคิดอะไรกับเขามากไปกว่าการอยากหาทางเอาตัวรอดไปจากที่นี่
เมื่อเธอทานข้าวต้มกับปิ่นเรียบร้อยอยู่ว่างๆเธอกำลังจะไปช่วยปิ่นทำงานบ้านแต่ครั้งนี้เป็นวันแรกที่เธอเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าในบ้านนี้ยังมีห้องเก็บของห้องหนึ่งที่เธอไม่เคยเดินเข้าไปเลย เธอตั้งใจจะเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูเพราะเห็นว่าห้องไม่ได้ล็อคแต่เมื่อเปิดเข้าไปก็เห็นว่าของทุกชิ้น เฟอร์นิเจอร์ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าคลุมสีขาวทุกอย่าง ห้องนี้มันดูกว้างขวางเกินกว่าจะเป็นแค่เพียงห้องเก็บของเท่านั้น เธอสนใจวัตถุชิ้นใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เธอลองเปิดผ้าขึ้นดูก็ปรากฏว่ามันคือเปียโนไม้หลังใหญ่ที่ดูหรูหรา ดูก็รู้ว่าราคาแพงมากเลยทีเดียว ซึงดูเหมือนมันจะถูกสั่งทำขึ้นพิเศษไม่ใช่รุ่นที่มีขายตามมาตรฐานร้านปกติ สภาพใหม่กริบเหมือนไม่เคยได้ใช้งานมาก่อน ดาวเต็มฟ้าเคยอยู่ชมรมดนตรีสากลตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย พอเห็นเปียโนจึงเกิดอาการคันไม้คันมืออยากลองทบทวนฝีมือ เธอจึงได้เอาผ้าคลุมออกทั้งหมดและนั่งลงตรงเก้าอี้สตูลที่อยู่คู่กับเปียโนเข้าชุดกัน เธอบรรจงจรดปลายนิ้วเรียวยาว กดปุ่มไล่เรียงตัวโน๊ตด้วยความพริ้วไหว จากนั้นร่างกายของเธอก็ค่อยๆโอนเอนไปตามจังหวะดนตรีที่เธอบรรเลง เธอหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลงของตัวเองพร้อมฮัมเพลงคลอเบาๆ สอดประสานกับเสียงเปียโนได้อย่างกลมกลืนจนจบเพลง
เมื่อเธอเล่นจบก็ได้เห็นร่างผู้ชายสูงตะหง่านยืนเอามือกอดอกจ้องมองเธอเล่นเปียโนอยู่ที่ประตู
"คุณตุนท์" เมื่อเธอเห็นว่าเป็นเขาเธอตกใจเล็กน้อย
"เก่งนะ เล่นได้เพราะดีแต่ขอโทษนะห้องนี้ฉันไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา" เขาเสียงแข็งกับเธออีกแล้วแต่ยังไม่ถึงกับตวาด อันที่จริงเขาประทับใจที่เธอบรรเลงเพลงแต่ติดแค่ว่ามันเป็นเปียโนที่เขาสั่งทำให้เอริกาในวันเกิดของเธอ เมื่อเขาและเธอห่างหายกันไปเขาจึงเอาผ้าสีขาวมาคลุมเหมือนไม่อยากเห็นมันอีก
"ขอขอโทษค่ะ" ดาวเต็มฟ้ารู้สึกว่าตัวเองพลาดอีกแล้ว
"แล้วอย่าเข้ามาอีกถ้าฉันไม่อนุญาต"ตุนท์กำชับและเดินหันหลังกลับไป
.........................................
ตกบ่ายของวันตุนท์ได้ลงมาจากห้องชั้นบน
"เดี๋ยววันนี้เธอไปกับฉัน" ตุนท์บอกเมื่อเห็นดาวเต็มฟ้ากำลังช่วยงานปิ่นอยู่ตรงสวนข้างบ้าน
"ไปไหนคะ" ดาวเต็มฟ้าสงสัยว่านอกจากต้องไปทำงานที่คาสิโนแล้วเธอยังจะต้องไปที่ไหนอีก
"ไม่ต้องถามเดี๋ยวรู้เอง" ตุนท์ทำตัวใจร้ายเสมอ
ดาวเต็มฟ้าไม่กล้าถามอะไรต่อได้แต่ต้องยอมไป เขาพาเธอขึ้นรถตู้คันประจำมุ่งหน้าไปสู่เส้นทางที่เธอคุ้นเคยมันดีและแน่นอนว่าเขาใช้ผ้าปิดตาเธอก่อนออกเดินทาง
"บ้าน" เมื่อเขาแก้ผ้าที่ปิดตาเธออกมา ดาวเต็มฟ้าหันมามองตุนท์ด้วยความแปลกใจและตื่นเต้น
"ใช่บ้านเธอ"ตุนท์มองหน้าดาวเต็มฟ้า
"คุณยอมปล่อยเต็มฟ้ากลับบ้านแล้วหรือคะ" เธอรู้สึกดีใจจนพูดไม่ถูก
"เปล่า ฉันแค่พาเธอมาล่อเสือออกจากถ้ำ เผื่อคนรักของเธอมันจะกลับมาบ้าง" คำตอบที่แสนจะเลือดเย็นของเขาบาดใจเธอยิ่งนัก
"อะไรกัน" เธออึ้งกับคำตอบที่ได้รับ
จอนและอิทประกบเธอทั้งสองข้างพาเธอเข้าไปในบ้าน บ้านที่ไม่เคยถูกล็อคเลยตั้งแต่วันที่เธอถูกพาตัวออกไป
"หาดูให้ทั่วเผื่อมันจะกลับมา"ตุนท์สั่งลูกน้องให้ค้นหาตามห้องต่างๆ รวมถึงดาวเต็มฟ้าเองก็เดินไปที่ห้องพี่ชายของเธอด้วยเช่นกันหวังว่าเขาจะกลับมาหรือทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้เธอเห็นบ้าง
ดาวเต็มฟ้าคว้าสมุดไดอารี่เล่มหนึ่งที่เป็นของเติมตะวันเธอไม่เคยที่จะเปิดอ่านมันมาก่อนเพราะเห็นว่าเป็นของส่วนตัวพี่ชายแต่วันนี้วันที่ห่างกันไปเช่นนี้เธอขอหยิบมันติดตัวไปเป็นที่ระลึกยามคิดถึง
"ทำอะไร" เสียงตุนท์ดุดันขึ้นเมื่อเห็นท่าทีแปลกของเธอ
"ไหนในมือมีอะไรเอามาดู" ตุนท์คว้าข้อมือเธอที่ซ่อนไดอารี่ไว้ด้านหลัง
"ก็แค่สมุด เต็มฟ้าจะเอาไว้เขียนเล่นแก้เหงา" เธอรีบบอก
เมื่อเขาดึงมือเธอขึ้นมาดูและเห็นว่ามันเป็นแค่สมุดเล่มหนึ่งจริงๆจึงปล่อยมือเธอ
"ไป กลับกันได้แล้ว" ตุนท์ออกคำสั่งเหมือนเป็นการบอกลูกน้องที่เดินตามเข้ามาไปด้วยในตัว
"หู้ววว"ดาวเต็มฟ้าถอนหายใจโล่ง เป่าลมออกปาก ใจเธอแทบจะหยุดเต้น
"ฉันเจอพวกมันเมื่อไร ฉันเก็บพวกมันแน่" ตุนท์แกล้งขู่แต่นั่นก็ทำให้ดาวเต็มฟ้ากลัวใจเขาจริงๆ
.........................................