“สำหรับพี่...” ถอนใจเบาๆ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีกันให้วุ่น “พี่ไม่ได้หมายความว่าแค่อุ้มท้อง ทำตามวิธีวิทยาศาสตร์หรอกนะ” มองจ้องเข้าไปในดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น และก็อดที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกที่มีต่อพีรดามันยังคงชัดเจนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ค่ะ...พรีมพร้อมจะเป็นเมียเก็บของพี่ไฟ”
“เดี๋ยวก่อนนะ...” เมียเก็บเลยเหรอ เป็นคำที่น่าสนใจดี และจะว่าไปเขาก็อยากฟังความคิดในหัวเล็กๆ หัวนั้นต่อให้หมดสิ้น
“พี่ไฟ...มีอะไรหรือเปล่าคะ” ประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดห้ามออกมาแบบนั้น
“แล้ว...พรีมจะไม่ทำงานเหรออุตส่าห์เรียนจบมาขนาดนี้”
“ก็ถ้าพี่ไฟจะกุรณา...พรีมขอทำงานตอนกลางวันได้ไหมคะ”
“ทำงานตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนก็เป็น ‘เมียเก็บ’ ทำลูกให้พี่น่ะเหรอ” ไม่รู้เพราะอะไร แต่พอเห็นสายตาจริงจังคู่นั้นมันก็อดที่จะนึกสนุกขึ้นมาไม่ได้
“ใช่ค่ะ”
“แล้วพรีมจะทำงานที่ไหน”
“ทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านไอศกรีมเหมือนเดิมค่ะ แล้วก็จะหางานประจำไปด้วยค่ะ”
อนลฟังคนที่พูดเหมือนวางแผนไว้จนหมดแล้ว
“แล้วถ้าพรีม ‘ท้อง’ ขึ้นมาล่ะ คิดว่างานมันจะไม่ส่งผลต่อลูกของเราเหรอ”
ไม่แน่ใจว่าทำไมดวงตาพี่ไฟมันเปลี่ยนไป ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนตอนดูผลการเรียน แถมพี่เขายังขยับเข้ามาใกล้กันมากเหลือเกิน
“เอ่อ...ก็ยังไม่ทราบค่ะ คือพรีมก็ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น” เกือบอึกอักแสดงความประหม่าให้เขาได้รับรู้ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่านั่นไม่ใช่คุณลักษณะที่ดีของคนที่กำลังสัมภาษณ์งาน
ใช่...เธอมองสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นไม่ต่างจากการสมัครงานพาร์ตไทม์ เธอไม่รู้หรอกว่านายจ้างจะตอบรับหรือปฏิเสธ แต่การแสดงออกถึงความจริงจัง จริงใจก็เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จได้ระดับหนึ่ง
อนลชอบความมุ่งมั่นของคนตรงหน้า และอีกใจเขาก็อยากแกล้งทดลองใจอีกฝ่ายไปด้วย แต่ไอ้เรื่องที่จะให้เธอมาเป็นเมียเก็บเขาจริงๆ นี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน
“เพราะเรื่องบุญคุณเหรอ พรีมถึงจะยอมให้พี่...”
รู้สึกเหมือนครั้งนี้เขาเว้นวรรคนานจัง
“เปิดซิง” ก้มไปกระซิบข้างหูด้วยถ้อยคำสำคัญ แก้มแดงๆ นั่นก็เป็นการ การันตีได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งที่เขาคิดและพูดออกไปนั้นคือเรื่องจริง
“ค่ะ...แล้วก็เพราะ...”
น่าสนใจที่อยู่ดีๆ พรีดาก็เริ่มเขินอาย อึกอัก แถมยังจงใจหลบตาเป็นครั้งแรกด้วย
“เธอรู้ไหมหนูน้อย...” เชยคางมนขึ้นมาสบตากัน พออีกฝ่ายกลืนน้ำลายอย่างประหม่า ความปรารถนาที่มีต่อเธอก็ยิ่งเด่นชัด
มันน่าอนาถที่เขาหลงรักเด็กตรงหน้าด้วยใจมั่นคง จนคู่หมั้นแสนสวยก็ยังทนไม่ไหวนอกใจไปหาผู้ชายคนอื่น แต่มันก็คือความจริงที่ไม่มีทางจะปฏิเสธได้
มือเล็กประสานกันแน่น มองริมฝีปากหยักที่ขยับเข้ามาใกล้เหลือเกิน แล้วใจไม่รักดีก็เหมือนจะเฝ้ารอ เฝ้ารออย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“พี่ก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง แล้วรู้ไหมว่าผู้ชายน่ะไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่สามารถไว้วางใจได้...” มองใบหน้าไร้เดียงสาที่ทั้งประหม่า และก็เขินอาย จนแก้มใสๆ แดงจัดขึ้นเรื่อยๆ
“พรีม...”
“ผู้ชายทุกคนน่ะ มักมากกับเรื่องกามารมณ์ทั้งนั้น...อย่าได้แม้แต่จะเสนอตัวไปเป็น ‘เมียเก็บ’ ของใครอีก” ขยับออกห่าง พีรดาคงไม่รู้หรอกว่าเขาจำใจต้องฝืนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้มากแค่ไหน
ความใกล้ชิดระหว่างกันมันเหมือนมีแรงดึงดูดลึกลับ เขาแทบคลั่ง อยากดึงคนตรงหน้าเขามากอดรัดและกดจูบให้สมกับอารมณ์ที่แท้จริง แต่การจะใช้บุญคุณมาเรียกร้องกับเด็กผู้หญิงดีๆ สักคนมันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรม
“พี่ไฟจะไม่ให้พรีม...ทำลูกให้พี่แล้วเหรอคะ” ลุกขึ้นยืนตามคนที่ผละออกห่าง
“ไม่”
พีรดามองคนที่ส่ายศีรษะปฏิเสธ
“พี่จะไม่ทำลายอนาคตของพรีมหรอกนะ เรียนจบแล้วก็ไปมีเส้นทางเป็นของตัวเองเถอะ”
พี่ไฟ...ครวญเบาๆ ในใจ เธอแอบรักคนไม่ผิดจริงๆ
“พี่ไฟคะ...ขอร้องฟังพรีมสักนิด”
อนลมองร่างบางที่วิ่งมายืนขวางตรงหน้า ยิ่งมองความรู้สึกรักก็ยิ่งชัดเจน และเขาจะไม่มีทางทำลายอนาคตของคนที่เขาชุบเลี้ยงมากับมือเด็ดขาด ความปรารถนาของเขาคืออยากเห็นเธอมีอนาคตที่ดี
“พรีมต้องการมีลูกให้พี่ไฟ สัญญาต้องเป็นสัญญาค่ะ”
มองใบหน้าหวานของคนที่ดูท่าจะดื้อรั้นไม่ใช่น้อย
“งั้นพี่...ในฐานะ ‘ผู้มีพระคุณ’ ของพรีม ขอปลดปล่อยพรีมจากพันธนาการและสัญญาทั้งหมด พรีมไปมีชีวิตของตัวเองเถอะ พี่ช่วยแล้วก็ไม่ได้คิดจะเอาอะไรตอบแทน”
“แต่พรีมต้องการค่ะ ไม่ว่าพี่ไฟจะพูดอะไร แต่ตลอดสี่ปีมานี่ พรีมรู้แค่ว่า พรีมมีชีวิตอยู่ มีหน้าที่ต้องตอบแทนบุญคุณของพี่...ให้พรีมตั้งท้องลูกของพี่ไฟเถอะนะคะพรีมจะไม่รับคำปฏิเสธค่ะ”
มองเด็กดื้อตรงหน้า ทำไมเธอไม่รีบคว้าโอกาสที่เขาสั่งให้ไป หนีไปให้พ้นจากคำว่า ‘เมียเก็บ’ หรือแค่ผู้หญิงที่ทำหน้าที่ ‘บนเตียง’
“นะคะ พรีมจะไม่เรียกร้องความสัมพันธ์ที่มากกว่าแค่เมียเก็บ เมียลับๆ ของพี่...พรีมจะอยู่เงียบๆ เก็บทุกอย่างให้เป็นความลับ และก็จะไม่เรียกร้องอะไร” จะว่าไปแม้แต่อัยยา เธอก็ไม่เคยบอกให้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ในฐานะเด็กในอุปถัมภ์กับผู้อุปถัมภ์ระหว่างเธอกับพี่ไฟ