‘เราต้องการแค่ผู้หญิงที่เต็มใจปรนเปรอสวาทให้เราเท่านั้น’
กาเบียลไล่คำพูดของเจ้านายหนุ่มออกจากหัว เขาไม่สนใจว่าหญิงสาวคนนี้จะเต็มใจหรือไม่ ตอนนี้เขาต้องหาผู้หญิงไปให้เจ้านาย และเขาถูกใจผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้ามาก
เจ้าของนัยน์ตาคมดุ จ้องมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อ
ผ้าราคาแพง มองดูเป็นคนมีฐานะ ไม่ใช่พวกเร่ร่อนเหมือนเธอ จึงเอ่ยถามกึ่งตอบรับ กึ่งปฏิเสธว่า
“จะให้ข้าทำงานอะไร แล้วไปทำที่ไหน”
“ในปราสาทดาเนี่ยล เจ้าเคยได้ยินชื่อปราสาทดาเนี่ยลหรือเปล่า ข้าเป็นคนรับใช้ของท่านวูฟร์ ดาเนียล ที่เก้า ตอนนี้เรากำลังต้องการสาวใช้ไปทำงานในปราสาทของท่าน”
‘ปราสาทดาเนี่ยล มันอยู่ที่ไหน ข้าไม่รู้จัก’
หญิงสาวพึมพำพูดอยู่คนเดียวในใจ ใช่! เธอไม่รู้จักปราสาทแห่งนี้ เธอกับน้องชายเป็นพวกเร่ร่อน และเพิ่งมาอยู่ในทรานซิลวาเนียได้ไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำไป
“ข้าจะได้รับเงินตอบแทนเท่าไร”
“มากโข สาวน้อย มากพอจนเจ้าไม่ต้องทำงานไปอีกหลายปี”
‘ทำงานบ้าอะไร ได้เงินมากถึงเพียงนั้น’
หญิงสาวค้านอยู่ในใจ ดวงตากลมโตหรี่เข้าหากัน มีความหวาดระแวงอยู่ กำลังจะปฏิเสธ แต่แล้วก็นึกถึงอาการเจ็บป่วยของน้องชาย ซึ่งต้องใช้เงินในการรักษาเป็นจำนวนมาก จึงยอมตอบตกลงในที่สุด
“ก็ได้ ข้าจะไปทำงานกับท่าน แต่ข้าขอไปบอกน้องชายก่อนได้ไหม”
“ได้สิ สาวน้อย”
กาเบียลแทบกระโดดตัวเข้าลอย รับคำตอบรับของหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“เจ้าชื่ออะไรสาวน้อย”
“เธน่า...ข้าชื่อเธน่า”
“ถ้ายังงั้นไปกันเถอะเธน่า พาข้าไปบ้านของเจ้า ไปบอกน้องชายของเจ้า และเราต้องกลับไปยังปราสาทดาเนี่ยลก่อนพระอาทิตย์ตกดิน”
เธน่าไม่เข้าใจในคำพูดของกาเบียล ว่าทำไมต้องเร่งรีบเช่นนี้ แต่ก็ยอมเดินตามอีกฝ่ายไปยังรถยนต์คันใหญ่ที่จอดอยู่ไม่ไกล
และขณะเดินตามกาเบียลไป ก็มีคำถามผุดขึ้นอยู่ในหัวว่าเธอตัดสินใจถูกหรือไม่ ที่ยอมไปทำงานในปราสาทดาเนี่ยล เพราะมีบางสิ่งบางอย่างรบ
กวนจิตใจว่า เมื่อเข้าไปเยือนปราสาทแห่งนี้แล้ว จะไม่มีโอกาสได้กลับออกมาอีก...
วูฟร์นึกเกลียดเวลาในยามรัตติกาลจับใจ ทันทีที่ลำแสงสีทองของดวงสุริยาเหือดหายไปจากฝากฟ้ากว้าง ทันทีที่ความมืดมิดในยามราตรีเข้ามาเยือน ร่างกายของเขาก็ถูกไฟสวาทเล่นงานทั่วทุกอณู เจ็บปวดไปทั้งร่างกาย แม้พยายามต่อสู้กับมันมากเพียงใดก็ไม่สามารถเอาชนะคลื่นดำฤษณาที่กำลังจู่โจมเล่นงานเขาได้
“กาเบียล...กาเบียล เจ้าอยู่ไหน”
วูฟร์ตะโกนเรียกคนรับใช้เสียงแหบแห้ง เลือดแดงฉานเริ่มไหลออกจากจมูกและปาก ร่างใหญ่กำยำ งอตัวด้วยความเจ็บปวดเพราะพิษพันธุกรรมสวาทอันเป็นดั่งคำสาปของเขา
“กาเบียล...”
น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกนั้นเริ่มแผ่วเบา วูฟร์พยายามเลื่อนกายลงจากเตียงใหญ่ ทว่าพอปลายเท้าแตะโดนพื้นพรม ร่างใหญ่กำยำก็ทรุดลงไปกับพื้น ไม่สามารถช่วยตัวเองได้
“นรก!”
วูฟร์ชกมือกับพื้น เกลียดอาการอ่อนแอของตนเองจับใจ คร่าใดที่ถูกพิษเพลิงสวาทแล่นงาน เขาถึงกับหมดเรี่ยวแรง ต้องได้ผู้หญิงมาปรนเปรอสวาท ถึงจะกับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง
กาเบียลเปิดประตูห้องนอนเข้ามาเห็นภาพของเจ้านายหนุ่มทรุดอยู่กับพื้น ก็รีบวิ่งตรงไปหา โดยไม่ลืมเอ่ยบอกกับเธน่าด้วย
“นายท่าน!”
“เธน่า มาช่วยข้าพยุงนายท่านไปบนเตียง”
เธน่าเดินตามหลังกาเบียลมา พอเห็นร่างใหญ่กำยำทรุดอยู่กับพื้น มีเลือดหยดลงเป็นทางอยู่บนพื้นขยายเป็นวงกว้าง ก็ตกใจอยู่ไม่น้อย รีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองร่างใหญ่คนละข้างกับกาเบียล
“งานที่ข้าจ้างเจ้าให้มาทำ คือการดูแลนายท่านวูฟร์ เข้าใจไหม เธน่า”
กาเบียลเอ่ยบอกเสียงเคร่งเครียด หลังจากประคองร่างใหญ่ให้ล้มตัวลงนอนบนเตียงได้แล้ว
“ค่ะ...ค่ะ...คุณกาเบียล”
เพราะสงสารร่างใหญ่กำยำ ซึ่งมีสีหน้าขาวซีด ยังคงมีเลือดออกจากปากและจมูกไม่หยุด เด็กสาวที่ไร้เดียงสา อีกทั้งไม่เคยรู้ว่าวูฟร์มีอาการเช่นนี้เพราะเหตุใด จึงรีบรับคำของกาเบียล จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดคราบเลือดให้กับวูฟร์จนสะอาด โดยไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้กาเบียลไม่ได้อยู่ในห้องนอนใหญ่แล้ว
“เจ้า...เจ้า...ชื่ออะไร...”
วูฟร์เค้นถามได้อยากยากลำบาก และเป็นครั้งแรกที่เขาอยากรู้ชื่อของหญิงสาวที่กำลังจะบำเรอสวาทช่วยให้เขาหลุดพ้นจากความทรมานของพิษพันธุกรรมสวาท
“เธน่าค่ะ นายท่าน...”
เธน่าเอ่ยบอกเสียงหวาน เห็นว่าเสื้อเชิ้ตของวูฟร์เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด ก็เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อแล้วดึงเสื้อออกจากร่างใหญ่กำยำในทันที
เพราะไม่ต้องการให้วูฟร์นอนจมอยู่กับคราบเลือดที่เปื้อนเสื้อเป็นวงกว้าง เธน่าจึงถอดเสื้อออก แต่วูฟร์กลับคิดว่าหญิงสาวพร้อมแล้วสำหรับการบำเรอสวาทให้กับเขา จึงออกคำสั่งเสียงสั่นพร่า
“ถอดกางเกงให้ข้า ใช้ปากน้อยๆ ลิ้นนุ่มๆ ของเจ้าเลีย ดูดท่อนเนื้อ มอบความสุขให้กับข้าเดี๋ยวนี้”
สาวน้อยที่ยังไร้เดียงสา ไร้ซึ่งประสบการณ์รักถึงกับผงะตกใจ หน้าถอดสีซีด เอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก
“นะ...นายท่าน...พูด...พูดว่าอะไรนะคะ”
วูฟร์กำลังถูกพิษเพลิงสวาทเล่นงานจนตัวสั่น เริ่มรำคาญกับท่าทีของ
เธน่า นั่นก็เพราะคิดว่าหญิงสาวกำลังเสแสร้ง แกล้งเล่นละครฉากบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอยู่
“ข้าบอกให้เจ้าใช้ปากและลิ้นของเจ้าเลียท่อนเนื้อของข้า เดี๋ยวนี้! เธน่า ทำตามที่ข้าสั่งเดี๋ยวนี้!”
ไม่ได้สั่งแค่ปากเปล่าเท่านั้น คราวนี้วูฟร์กระชากกางเกงของตัวเองออก เผยให้เห็นแก่นกายใหญ่โต ส่วนบนแดงช่ำมันวาวไปด้วยน้ำกามารมณ์สีใส ทำเอาเธน่ายิ่งตกใจมากกว่าเดิม
“ข้า...ข้าไม่ได้มาเพื่อนอนกับท่าน แต่ข้ามารับจ้างทำงานในปราสาทของท่าน”
เธน่าตะโกนตอบ ทำท่าจะกระโจนหนี แต่มีหรือที่กระต่ายเนื้อหวานจะหนีพ้นเงื้อมมือของหมาป่าหนุ่ม