ตอนที่ 1
"ออกไป! ถ้าไม่มีเงินก็ไปหาที่อยู่อื่น" เสียงเจ้าของอพาร์ทเม้นไล่ลูกค้าที่ค้างค่าเช่ามาหลายเดือนและโยนข้าวของหล่อนออกมาอย่างไม่ปราณี ดีที่ของของเธอไม่มากเท่าไหร่ ไม่เช่นนัั้นคงเกลื่อนเต็มถนน
"เออ! ไปก็ได้ อย่ามาแตะต้องของๆ ฉันนะเว้ย ไอ้ฝรั่งขี้นกเอ้ย" พิณตรา หรือพินต้า ที่ใครๆ ในที่นี้ต่างเรียกเธอ ณ สหรัฐอเมริกา ที่ที่เธอตั้งใจหนีปัญหาทางบ้านมาลงหลักปักฐานที่นี่ แรกๆ ที่มาเธอก็ยังคงอยู่สบาย อพาร์ทเมนท์หรูคือตัวเลือกแรกที่เธอเลือกเข้าอยู่ จนเมื่อเงินทองที่มีเริ่มร่อยหรอแถมงานพิเศษที่เธอทำเพื่อหารายได้และประทังชีวิตก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เพราะทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ถูกไล่ออก จนต้องเดินหางานใหม่เป็นว่าเล่น ส่วนวันนี้เธอถูกชายต่างชาติเจ้าของอพาร์ทเมนต์โยนข้าวของเธอออกจากห้อง แรกๆ เขาก็พูดคุยกับเธอดีเพราะพิณตราในทีแรกดูเหมือนกระเป๋าหนักจ่ายเงินตรงเวลาทุกเดือนแต่พอเข้าเดือนที่สาม สี่ ห้า เธอเริ่มจ่ายช้าไม่ตรงเวลาต้องจ่ายค่าปรับตลอด จนตอนนี้ เดือนที่หกเธอไม่มีเงินจ่าย จึงต้องโดนขับไล่ออกมา พิณตราลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะ นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาว ควักเงินที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งเหรียญและแบงค์ออกมานับรวมกัน ยี่สิบห้าดอลล่า ทิปในร้านอาหารที่เธอเคยทำแค่วันเดียวยังมากกว่าเลย เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยอ่อนและท้อ เมื่อสักครู่หลังจากถูกไล่ออกมาจากอพาร์ทเมนท์เธอก็ตรงไปร้านกาแฟที่ทำงานอยู่ แต่ก็ถูกเจ้าของร้านไล่ออกอย่างไม่ใยดีและเธอก็ไม่เคยง้อพวกเจ้าของร้านสักครั้ง ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ทุกอาทิตย์
"หิวจัง" เห็นเด็กเล็กๆ วิ่งเล่นกันในสวนสาธารณะ และกำลังต่อแถวซื้อไส้กรอกในราคาหกดอลล่า ไส้กรอกธรรมดาส่งกลิ่นหอมหวลกระแทกรูจมูกพิณตราทำให้ท้องร้องขึ้นมา อาหารที่เธอไม่เคยคิดจะทานเลยสักครั้งแต่คราวนี้มันช่างน่ากินเสียเหลือเกิน
"ไส้กรอกบ้าไรตั้งหกดอล กินกี่อันถึงจะอิ่มเนี่ย" เด็กสาวบ่นหากเป็นเมื่อก่อนเธอสามารถซื้อได้ทั้งรถ แต่ตอนนี้เหลือเงินแค่ ยี่สิบห้าดอลล่า กับการหาที่พักและงานใหม่
"พี่เป็นคนไทยเหรอ" อยู่ๆ เด็กผู้ชายหน้าตาน่าเอ็นดูที่ถือไส้กรอกอยู่ก็เอ่ยถาม
"อืม ใช่ มีอะไรล่ะ" ตอบปัดด้วยความรำคาญ
"กินมั้ย" ส่งไส้กรอกให้พิณตรา
"ให้ทำไม ทำตกพื้นหรือไง" แม้จะอยากกินมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่กล้าไว้ใจใครง่ายๆ แม้กระทั่งเด็ก
"เห็นมองนานแล้ว"
"ไม่ได้อยากกินสักหน่อย" อยู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมารู้สึกเสียหน้าที่เด็กตรงหน้าเริ่มจะรู้ทัน
"มีสองอัน แบ่งให้ได้นะ" ยังไม่ละพยายามส่งให้หล่อนอีกที
"ขอบใจ มาเที่ยวเหรอ" พิณตราเอ่ยถามเด็กน้อยข้างกายที่ตอนนี้นั่งกินไส้กรอกด้วยกันบนเก้าอี้ยาวอย่างเป็นมิตร
"ไม่ใช่ ผมอยู่นี่"
"เหรอ"
"แล้วพี่มาเที่ยวเหรอ พี่ชื่ออะไร ผมชื่อนนท์"
"พี่ชื่อพิณ อายุเท่าไหร่น่ะเรา"
"หกขวบแล้วกินอีกมั้ย ผมยังมีเงินอีก"
"จะซื้อเพื่อนด้วยไส้กรอกเหรอ"
"ทำไมต้องซื้อ ผมแค่คิดว่าพี่หิว" อยู่ๆ เด็กชายชื่อนนท์ก็วิ่งหายไปทางรถขายไส้กรอกอีกครั้ง ไม่นานก็วิ่งกลับมา พร้อมกับไส้กรอกอีกสองอัน
"มีเงินเยอะเหรอ" รับไส้กรอกที่เด็กน้อยส่งให้มารับและส่งเข้าปากอีกรอบ
"มีเงินเก็บเยอะ"
"นี่เงินพี่" เธอควักเงินที่มีให้เด็กน้อยดู
"มีเหลือแค่นี้เอง เอาไว้เผื่อฉุกเฉินลยไม่กล้าใช้ต้องรอให้ได้งานใหม่ก่อนถึงจะพอมีเงิน ตอนนี้พี่ต้องหาที่อยู่ใหม่เพิ่งโดนไล่ออกมาน่ะเพราะไม่มีเงินจ่าย" นานๆ จะได้พูดภาษาไทยกับคนไทยในประเทศที่มีแต่คนต่างชาติเลยถือโอกาสระบายออกมา
"ไปอยู่กับผมมั้ย บ้านผมมีหลายห้อง แบ่งให้พี่ห้องนึงก็ได้"
"ผมอยู่กับแม่สองคนและแม่ผมก็ใจดีนะ"
"ไม่ได้ อยู่ๆ มาชวนคนแปลกหน้าเข้าบ้านแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ไม่สอนหรือไง"
"ก็แม่สอนว่าเห็นคนลำบากต้องช่วย"
"จริงเหรอ งั้นขอยืมเงินได้มั้ย สัญญาว่าถ้าได้งานแล้วจะคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก" เด็กน้อยคิดหนักอยู่พักนึงก่อนจะควักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงทั้งหมด และส่งให้พิณตรา
ตอนที่ 2
"น้องนนท์ แม่บอกแล้วไงว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ อย่าคุยกับคนแปลกหน้า" พิมพ์ดาวเอ่ยดุลูกชายตนเองหลังจากกลับมายังที่พักแล้วพบว่ากระปุกออมสินของลูกชายตนเองเบาหวิว ถามไปถามมาจึงยอมสารภาพ
"ผมแค่อยากช่วยพี่เค้า พี่เค้าเป็นคนไทยด้วยนะแล้วก็สวยด้วยล่ะ"
"แม่ไม่โกรธที่นนท์เอาเงินของตัวเองทั้งหมดให้เขา แต่แม่โกรธที่นนท์เที่ยวไว้ใจคนแปลกหน้าแบบนั้น มันอันตรายนะลูกหากเขาเกิดเป็นพวกมิตรฉาชีพจับตัวนนท์ไปเรียกค่าไถ่หรือตัดแขนตัดขาไม่ได้เจอหน้าแม่อีก แล้วแม่จะอยู่ยังไงล่ะครับ" พิมพ์ดาวนั่งลงกับพื้นคุยกับลูกชายที่นั่งอยู่บนโซฟา
"ผมขอโทษครับ แม่ดาวอย่าร้องไห้นะ" ปาดน้ำตาพิมพ์ดาวอย่างอ่อนโยนด้วยสองมือเล็กๆ เธอมักจะอ่อนไหวเสมอถ้าเป็นเรื่องลูกชาย
"ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีกครับ"
"ได้ ครั้งนี้แม่จะยกโทษให้ งั้นลุกไปอาบน้ำได้แล้วดูซิเนี่ยมอมแมมไปหมดแล้ว" พาลูกชายตัวเองที่ทำท่าอิดออดไม่อยากอาบน้ำเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก
พิมพ์ดาว หย่ากับสามีหลังจากให้กำเนิดลูกชายได้เพียงไม่กี่ปีเขายังคงทำหน้าที่พ่อของลูกอย่างไม่บกพร่อง ส่งเสียค่าเลี้ยงดูทุกเดือนอย่างตรงเวลา จนกระทั่งเขามาจากโลกนี้ไป พินัยกรรมระบุจะมอบทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดให้กับลูกชายตัวน้อยโดยมีผู้ดูแลคือ พิมพ์ดาว จนกว่าลูกชายจะอายุสิบแปด เธอจึงจะเป็นอิสระและทรัพย์สมบัติจึงจะตกเป็นของลูกชาย โดยมีข้อแม้ให้หล่อนพาลูกชายมาเล่าเรียนที่อเมริกาและอาศัยอยู่ภายในบ้านที่เขาซื้อไว้ และเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตอนสมัยยังรักกัน และประจวบเหมาะกับที่เธอตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานและการพาลูกชายมาอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆ คนใหม่ๆ อาจทำให้ลูกชายของเธอมีความสุขมากขึ้นมากกว่าการต้องย้ายโรงเรียนเกือบทุกเทอมและหลีกหนีคำครหาจากบรรดาญาติสามี
"โอ้ย! อีผู้หญิงบ้า แกทำอะไรของแก" หลังจากวันที่ถูกไล่ออกจากอพาร์ทเมนต์เป็นเวลาสองอาทิตย์ พิณตราก็ได้งานใหม่ในโฮสเทลแอนด์คาเฟ่แห่งหนึ่ง มีที่พักให้พร้อมแต่มีข้อแม้ว่าเธอต้องคอยเปิดปิดประตูให้พวกนักท่องเที่ยวทุกวันในวันที่เธอเข้ากะ ซึ่งมันก็ดีต่อตัวเธอเพราะมันทำให้เธอได้เงินเพิ่มขึ้นอีก
"ข ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ" เธอตั้งใจแกล้งทำกาแฟที่ยกมาหกใส่ชายแก่ที่มาใช้บริการทุกวัน เพราะเขามักจะลวนลามเธอแบบจับเนื้อต้องตัวรวมถึงวันนี้เธอเหลืออด เพราะเขาจับก้นเธออย่างจงใจ
"เดี๋ยวฉันไปเอามาให้ใหม่" พิณตราคนที่พร้อมชนและหาเรื่องคนเก่าหายไป เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยความเงียบ ไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใครแม้ตัวเองจะถูกรังแกก็ตามเธอ ยอมเป็นฝ่ายเดินหนีออกมาเอง
"เห้ย ไม่ได้ เจ้าของร้านอยู่ไหน ฉันอยากคุยพนักงานมาทำแบบนี้กับลูกค้าได้ไง" เขายื้อข้อมือหล่อนไว้ไม่ให้ไปจากตรงนั้น สักพักเจ้าของร้านผู้ชายก็รีบวิ่งแจ้นออกมา เอ่ยขอโทษขอโพยแต่เขาไม่ยอมยิ่งโวยวายไปใหญ่ จะยอมแต่โดยดีก็ต่อเมื่อไล่พิณตราออกหรือไม่ก็ให้เขาทานกาแฟที่ร้านฟรีหนึ่งเดือนโดยเขาอ้างว่าเขาเป็นนักวิจารณ์ชื่อดังหากไม่ทำตามที่เสนอเขาจะเขียนวิจารณ์ร้านนี้ให้ยับ เด็กสาวได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเถียงอะไรแต่ก็กำมือแน่นด้วยความโกรธ
"คุณควรจะขอโทษเธอนะ เพราะคุณลวนลามเธอ ฉันเห็น" จู่ๆ ก็มีเสียงภาษาอังกฤษสำเนียงไทยเอ่ยออกมาพิณตราเงยหน้าขึ้นมาทันที แทบไม่เชื่อสายตาว่าจะได้เจอกันอีก
"อะไร! นี่พวกเดียวกันใช่มั้ย" เขาเริ่มมีพิรุธหันมาว่าคนมาใหม่
"ถ้าคุณไม่เชื่อคุณลองเปิดกล้องวงจรปิดของร้านก็ได้ค่ะ แล้วเรามาดูพร้อมกันว่าสิ่งที่ฉันพูดจริงหรือเปล่า" เอ่ยบอกเจ้าของร้าน
"ได้ ครั้งนี้ฉันจะยอมไม่เอาเรื่องเธอ แต่อย่าหวังว่าฉันจะเหยียบมาร้านนี้อีกและรอดูบทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ได้เลย" เขาทิ้งท้ายไว้อย่างหัวเสียวางเงินบนโต๊ะและเดินออกไปทันที
"เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เจ้าของร้านหันมาบอกพิณตราซึ่งเธอก็เดินตามเข้าไปหลังร้านอย่างว่าง่ายไม่ได้เอ่ยพูดคุยกับคนที่เข้ามาช่วยสักคำ
"คุณพิณตราคะ" พิมพ์ดาวที่มักจะเข้ามาซื้อกาแฟในร้านแห่งนี้เป็นประจำและเพิ่งจะเจอเห็นพิณตราเป็นครั้งแรก โชคดีที่วันนี้เธอตัดสินใจนั่งดื่มกาแฟในร้านไม่เหมือนทุกครั้งที่มักจะซื้อกลับบ้าน และดันพบกับเหตุการณ์ที่เธอต้องเข้าไปยุ่ง เธอรีบเดินออกจากร้านเดินตามพิณตราที่เดินลากกระเป๋าผ่านหน้าร้านไป
"มีอะไร" เธอตอบไม่ได้หันมองคนที่เอาแต่เดินตามพยายามดักหน้าดักหลัง
"เกิดอะไรขึ้นคะ โดนไล่ออกเหรอ"
"ใช่ ก็อย่างที่เห็นนี่แหละคราวนี้เลิกตามได้แล้ว" หยุด และหันมาตอบ
"ได้ไงคะ เดี๋ยวฉันช่วยเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านให้ได้นะคะ"
"ไม่ต้อง เพราะตั้งใจจะออกอยู่แล้ว"
"แล้วจะไปอยู่ไหนคะ"
"ไม่รู้" ตอบแค่นั้นแล้วก็รีบเดินออกไปจากหล่อนทันทีโดยไม่ได้หันมอง
พิณตรากลับมานั่งที่ม้านั่งในสวนสาธารณะตัวเดิมที่เคยเจอกับเด็กน้อยใจดีที่แบ่งไส้กรอกและให้ยืมเงิน การถูกลูกค้าในร้านด่าไม่น่าอับอายเท่ากับเจอพิมพ์ดาว แค่รู้สึกสมเพชตัวเองที่หล่อนต้องมาเห็นสภาพตกต่ำของตนเอง
"พี่ ไส้กรอกอีกมั้ยครับ" เสียงหนุ่มน้อยที่เธอกำลังรอเอ่ยทักขึ้น พร้อมกับส่งไส้กรอกให้ก่อนจะนั่งลงตรงข้างกับพิณตรา
"มาไวจัง" พิณตราพูดกับคนข้างๆ ทั้งที่จริงแล้วเธอนั่นแหละที่มารอก่อนหลายชั่วโมงเพราะตกงาน
"อ้ะ! พี่ค*****นให้แต่ดอกเบี้ยไว้ให้ทีหลังนะ เพราะพี่ตกงานอีกแล้ว" พิณตราส่งเงินให้นนท์ เด็กชายตรงหน้ารับไปแบบงงๆ พร้อมกับหันมาถาม
"ดอกเบี้ยคืออะไร"
"ก็คือแบบ..."
"อ๋อ คุณนี่เองที่ไถเงินลูกชายฉัน" เสียงพิมพ์ดาวที่กำลังยืนกอดอกส่งสายตาดุๆ มาที่ทั้งคู่
ตอนที่ 3
"นอนตรงนี้ก่อนนะคะ ขอเวลาสักสองสามวันพี่คงเตรียมห้องนอนให้คุณได้" พิมพ์ดาวจัดแจงปูผ้าบนโซฟาที่จะใช้เป็นที่นอนชั่วคราวให้หล่อนไปก่อน จริงๆ มีอีกห้องที่เธอตั้งใจจะให้พิณตราได้นอนพัก แต่ดูเวลาตอนนี้แล้วคงจะจัดเตรียมทำความสะอาดไม่ทันคงต้องใช้เวลา
"จริงๆ พิณกำลังจะหางานและที่พักคงไม่รบกวนพี่" เธอปดคำโตไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาทั้งงานและที่พักตอนนี้ได้ที่ไหนด้วยเงินที่มีก็น้อยนิด
"มืดแล้วค่ะ ที่นี่มีโซฟาและก็อาหาร พี่ไม่คิดเงิน ห้องน้ำอยู่ซ้ายมือถ้าคุณจะอาบน้ำ หรือถ้าหิวมีอาหารอยู่ในครัว ทำตัวตามสบายค่ะ"
"ถ้าพิณหางานได้เมื่อไหร่พิณจะรีบย้ายออกและจะจ่ายค่าที่พักให้"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่พูดว่าขอบคุณก็พอ" หล่อนพูดและส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินขึ้นห้องตัวเองทิ้งให้พิณตราได้อยู่คนเดียว
"พี่เค้าจะอยู่กับเรานานมั้ยครับ" เมื่อเข้ามาในห้องลูกชาย เด็กน้อยก็เอ่ยถามทันที
"ไม่รู้สิครับ"
"ผมชอบพี่พิณ อยากให้อยู่ด้วยกัน"
"เหรอ แต่ตอนนี้น้องนนท์ต้องนอนได้แล้วนะ"
พิมพ์ดาวล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างของตนเอง กำลังใช้ความคิด
พิณตราลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงและได้กลิ่นอาหารยามเช้าลอยเข้ามาเตะจมูก มองดูเวลาที่ติดอยู่ผนังเธอไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้ รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เสียงร้องที่ท้องกลับบอกให้เธอเดินตามกลิ่นหอมๆ ของอาหารไป
"ผมไม่กินผักได้มั้ย" เด็กน้อยต่อรองเขี่ยผักในจาน เนื้อทุกชิ้นถูกจัดการลงท้องไปหมดแล้วเหลือแต่แครอทและบล็อกโครี่ และมันเป็นแบบนี้ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน
"ได้สิ แต่วันนี้แม่จะไม่ไปส่งนนท์นะ"
"งั้นกินก็ได้" เด็กน้อยตอบหงอยๆ ค่อยๆ จิ้มแครอทเข้าปาก
"ไม่อยากกินก็ไม่เห็นต้องบังคับ" พิณตรานั่งลงข้างเด็กน้อย แย่งจานที่มีแต่ผักมาตรงหน้าตัวเองและหยิบเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ
"ใช่ ใช่ ใช่" เด็กน้อยได้ทีเสริมบ้าง ทำให้ถูกสายตาคาดโทษจากพิมพ์ดาวส่งมาทันที
"มันคือการเลี้ยงลูกของพี่ค่ะและพี่ก็ไม่อยากจะตามใจลูกทุกเรื่อง"
"อืม จะบอกว่าพิณยุ่งใช่มั้ยคะ" ดันจานที่มีแต่ผักกลับไปให้หนุ่มน้อยดังเดิม
"แล้วแต่คุณจะคิด นี่ของคุณค่ะ" แม้จะไม่ค่อยพอใจที่หล่อนบังอาจมาก้าวก่ายเรื่องการเลี้ยงลูกแต่ก็ไม่ลืมส่งจากอาหารที่ทำเผื่อคนตรงหน้า
"น้องนนท์แม่ให้เวลาอีกสิบนาที" เธอเอ่ยบอกลูกชายก่อนจะเดินขึ้นห้องไปเพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า
"เอาผักมาพี่กินให้ แล้วอย่าบอกแม่ล่ะ" หนุ่มน้อยรีบจิ้มผักตัวเองใส่จานพิณตราทันที
"จะไปไหนกัน" อดเอ่ยถามไม่ได้
"ไปโรงเรียนครับ"
"ผมขอไปตามมิกกี้กับมินนี่ก่อนนะครับ" เอ่ยบอกคนเป็นแม่และวิ่งออกนอกบ้านไปทันที พิมพ์ดาวแต่งตัวมิดชิดเสื้อคอเต่าที่พิณตราเห็นหล่อนตั้งแต่ครั้งแรกจนตอนนี้ สวมทับด้วยเสื้อโค้ทตัวหนาและถุงมือถุงเท้าและรองเท้าหนังอย่างดี แทบจะไม่เห็นเนื้อหนังมังสาหล่อนสักนิดดูโคร่งใหญ่ไปหมดจนน่าอึดอัด
"ถ้าจะไปด้วยควรสวมเสื้อหนากว่านี้นะคะ" หันมาเอ่ยบอกพิณตราที่แต่งตัวสบายๆ ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับอากาศที่นี่มากนัก
"ไม่เป็นไร ไม่หนาวหรอก" ผิดคาด อากาศยามเช้าที่ดูเช้าเกินไปสำหรับเด็กสาวทำให้หล่อนเริ่มขนลุก
"เห็นมั้ยพี่บอกแล้วไงว่าหนาว" ระหว่างที่ทั้งคู่เดินตาม หนุ่มน้อยนนท์ และเพื่อนฝาแฝดข้างบ้านทั้งสอง มิกกี้ มินนี่ ทั้งสามเดินจูงมือกันไปโรงเรียนแบบนี้ทุกวัน แต่วันนี้แปลกไปคือมีคนที่มาส่งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง
"เอาเสื้อพี่ไปก็ได้ค่ะ" ถอดเสื้อคลุมของตัวเองให้พิณตรา เพราะสังเกตเห็นว่าหล่อนลูบแขนป้อยๆ คงเพราะอากาศหนาว
"ไม่เป็นไร พิณไม่หนาว" ปฏิเสธออกไปทั้งที่ตนเองก็หนาวเต็มที
"ไม่เป็นไรเหมือนกันค่ะ" ถือวิสาสะใช้เสื้อตัวเองคลุมให้หล่อน
"ตอนเย็นเจอกันที่บ้าน ตั้งใจเรียนนะครับ" เอ่ยบอกลูกชายตัวน้อยเมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนและไม่ลืมที่จะกดจูบแก้มทั้งสองข้างของลูกชายส่วนเด็กน้อยก็หอมแก้มกลับ พิณตราได้แต่ยืนดู และนอกจากหนุ่มน้อยลูกชายหล่อนที่หอมแก้มเพื่อร่ำลายังมีฝาแฝดทั้งสองเข้ามารุมหอมแก้มพิมพ์ดาวอีก
"พี่ทำแบบนี้ทุกเช้าเลยเหรอ" ทั้งคู่นั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ ก่อนทางกลับบ้าน
"ถ้าเรื่องดูแลน้องนนท์ พี่ทำทุกวินาทีไม่มีวันหยุดค่ะ" เมื่อนึกถึงลูกชายจึงเผลอยิ้มขึ้นมา พิณตราเพียงพยักหน้าเล็กน้อย
"คือ พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณพิณตรา"
"เรียกพิณเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ตอนนี้พิณเป็นคนธรรมดา ไม่มีชื่อเสียงเงินทองและพี่ชายพิณก็ไม่ใช่รองผู้อำนวยการเหมือนเดิมแล้ว" เด็กสาวไม่ได้พูดด้วยความเสียใจเลยแม้แต่น้อย เวลาคงทำให้เธอทำใจได้
"พิณอยากอยู่กับพี่และน้องนนท์มั้ย" พิณตราละจากถ้วยกาแฟมองหน้าหล่อนทันที
"พี่ค่อนข้างรู้สถานการณ์ทางการเงินของพิณ และที่สำคัญพิณก็เข้ากับน้องนนท์ได้ดีและบ้านพี่ก็กว้างมากจะเป็นไรไปถ้าจะมีสมาชิกเพิ่มอีกคน" เมื่อเห็นพิณตราคิดหนัก
"พี่ไม่ได้จะซ้ำเติมนะคะแค่อยากช่วยเหลือ หรือถ้าพิณไม่สบายใจช่วงนี้พักที่บ้านพี่ไปก่อนก็ได้ค่ะ หากหาที่อยู่ได้ แล้วจะย้ายออกก็ไม่เป็นไร" หล่อนคงอยากได้ความเป็นส่วนตัวและนิสัยเจ้ายศเจ้าอย่างยังคงมีอยู่ พิมพ์ดาวคิด
"ก็ได้ค่ะ" อย่างน้อยช่วงนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่พัก
"ดีค่ะ เรื่องห้องเดี๋ยวขอเวลาสักสองวันพี่จะรีบทำความสะอาดให้ ช่วงนี้พิณคงต้องนอนที่โซฟาไปก่อนนะคะ" พิมพ์ดาวยิ้มแหยๆ เอ่ยชวนคนตรงหน้าพักอยู่ด้วยกันแท้ๆ แต่เธอไม่พร้อมสักอย่าง ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
"งั้นพี่ต้องไปทำงานแล้วล่ะ เจอกันที่บ้านนะคะ"
"อ้อ กุญแจบ้านพี่ซ่อนไว้ตรงกระถางต้นไม้ใบเล็กสุดหน้าบ้านนะคะ" พูดจบก็เดินออกไป แม้จะงงเล็กน้อนกับความใจดีของหล่อนแต่ก็ยินดีรับไว้ นึกถึงตอนที่ตัวเองทำไม่ดีกับพิมพ์ดาวไว้ ทั้งแสดงกิริยาและคำพูดที่ไม่ค่อยน่ารักแต่หล่อนเหมือนลืมสิ่งที่เธอทำ