Sunflower 6
“รีบหายนะลูก” แม่ขยับเข้ามาลูบผมฉันเบา ๆ อีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องพักฟื้นนี้ไปพร้อมกับพ่อ
“ตอนเย็นจะเข้ามาหานะ อยากกินอะไรให้น้องโทรมาบอก” เมษาขยับเข้ามายืนใกล้เตียงนอนยกมือข้างหนึ่งลูบผมฉันเบา ๆ ก่อนจะขยับออกห่างเดินตามพ่อกับแม่ไป
“อยากได้อะไรบอกเลยนะครับ” กุมภาที่ส่งช้อนมาให้เอ่ยบอกฉันอย่างน่ารัก
“ได้เลย แล้วกินข้าวกันหรือยัง”
“สั่งไก่ทอดมากินอยู่ครับ รอเขามาส่ง” มีนาตอบ ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วก้มหน้ากินข้าวช้าๆ เจ็บคอไปหมด อาหารโรงพยาบาลก็มีนะแต่ดูจืดชืดมากเลยฉันไม่อยากกินเลยกินแค่ที่น้องชายซื้อเข้ามาให้นี่แหละ แต่กินข้าวได้นิดหน่อยก็ต้องให้น้องเก็บเพราะคันคอแล้วไออย่างหนัก ไอจนต้องรีบเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำจนหมดแรง กว่าจะพยุงตัวเองขึ้นมาล้างหน้าล้างปากก็ทรมานอยู่ไม่น้อย
“...” จังหวะที่เดินออกจากห้องน้ำ กุมภาก็ขยับเข้ามาช้อนตัวอุ้มฉันกลับไปส่งที่เตียงนอนโดยมีมีนารีบลากเสาน้ำเกลือตามกลับมาติด ๆ
“คนไข้เป็นอะไรครับ?” น้องชายวางฉันลงบนเตียงก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูห้องพักฟื้น
“อ้วกน่ะครับ” มีนาเป็นคนที่เอ่ยตอบคุณหมอ
“กินข้าวกินยาหรือยัง” คุณหมอคนเดิมที่ช่วยพามาส่งโรงพยาบาลเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แววตาที่มองอย่างเป็นห่วงนั้นทำให้ข้องใจอยู่ไม่น้อย แต่มานั่งคิดอีกทีคุณหมอก็ต้องห่วงคนไข้อยู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร
“กินข้าวนิดหน่อยแต่ก็อ้วกออกมาหมดเลยครับ ส่วนยาก็ยังไม่ได้กินครับกำลังจะเอาให้กิน” มีนารีบตอบคุณหมอและพยาบาลที่เข้ามาตรวจทันที
“ถ้าอย่างนั้นหมอขอตรวจก่อนนะครับแล้วค่อยกินยา”
“ค่ะ” ตอนนี้เลือกอะไรไม่ได้เลย นอกจากยอมให้คุณหมอตรวจอาการ กระทั่งตรวจเสร็จเรียบร้อยคุณหมอก็เดินไปหยิบยาที่อยู่ในถุงยาก่อนจะยื่นมาตรงหน้าฉัน แล้วยืนรอกระทั่งฉันกินยาเสร็จ อาการพะอืดพะอมมีบ้างแต่ก็อดทนเอาไว้จนมึนหัวไปหมด น้องชายทั้งสองคนก็ยืนอยู่ใกล้ ๆ ยังคงมองอย่างสังเกตอาการ
“มีอะไรเรียกพยาบาลได้เลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ” มีนาเอ่ยขอบคุณคุณหมอเช่นเดียวกัน
คล้อยหลังคุณหมอเดินออกห่างฉันถึงได้ล้มตัวนอนอีกครั้งโดยมีสองแฝดนั่งอยู่ใกล้ ๆ ไม่ยอมขยับห่างไปทางไหนเลย
“พี่ลี”
“หือ?”
“พี่ลางานหรือยังคุณหมอบอกว่าพี่อาจจะต้องดูอาหารสักสองสามวันเลยนะ” กุมภาหมุนตัวกลับมามองฉันที่กำลังจะเคลิ้มหลับ
“หยิบโทรศัพท์ให้พี่หน่อย”
“นี่ครับ” มีนายื่นโทรศัพท์มาให้อย่างว่าง่าย ฉันรีบรับมาแล้วโทรหาพี่พิมพ์ทันที รอสายไม่นานก็ได้ยินเสียงสดใสของเจ้านายดังมาตามสาย
“พี่พิมพ์”
(จ้าน้องมาลี ว่าแต่ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นล่ะ)
“หนูไม่สบายค่ะพี่พิมพ์ หนูจะโทรมาลางานสักสามสี่วันได้ไหมคะ”
(ได้ ๆ ลาได้ แล้วเป็นอะไร เป็นยังไงบ้างตอนนี้อยู่ที่ไหนไปหาหมอหรือยัง) พี่พิมพ์รัวคำถามกลับมาหลายประโยคทำให้ฉันต้องหลับตาลงนิ่ง ๆ เพราะเหมือนจะเวียนหัวเล็กน้อย
“มาที่โรงพยาบาลแล้วค่ะ เป็นไข้หวัดใหญ่ค่ะพี่พิมพ์ หมอให้ดูอาการสองสามคืนค่ะแต่หนูขอลาเพิ่มสักวัน” รีบบอกพี่พิมพ์ด้วยความรู้สึกเกรงใจที่จู่ ๆ ก็ต้องลางานหลายวันแบบนี้
(ไม่เป็นอะไร ลาได้ถ้าไม่ไหวก็พักก่อน งานน่ะไม่ต้องห่วงเข้าใจไหม)
“ค่ะพี่พิมพ์”
(เด็กดี พรุ่งนี้พี่จะเข้าไปเยี่ยมนะคะ วันนี้พักผ่อนนะ อยากได้อะไรโทรหาพี่ได้เลย) ความใจดีของพี่พิมพ์ทำให้ฉันถึงกับขอบตาร้อนผ่าว ทั้งพี่พิมพ์ พี่มายด์ น้องขวัญ น้องเหมย ทุกคนน่ารักกับฉันมากจริง ๆ
“ขอบคุณค่ะพี่พิมพ์”
(เอาละพี่ไม่รบกวนแล้วนะ พักผ่อนแล้วก็หายเร็ว ๆ นะคะ)
“ค่ะพี่”
“ลาได้ไหมครับ?” มีนาเท้าคางลงบนขอบเตียงมองหน้าฉันพร้อมกับเอ่ยถาม
“ลาได้ เอาละ พี่เวียนหัวมาก ขอนอนสักหน่อยนะ”
“ครับ นอนพักนะ” กุมภารั้งผ้าห่มคลุมให้ฉันเบา ๆ แล้วเงียบเสียงไปทั้งแฝดคนพี่และแฝดคนน้องราวกับทั้งคู่นั้นตั้งใจให้ฉันได้นอนพักจริง ๆ สักทีหลังจากที่บอกว่าจะนอนแต่ก็ไม่ได้นอนมาหลายครั้ง