EP.5

1457 Words
5 ทันทีที่เธอพูดจบคนตรงหน้าก็เหมือนจะนิ่งไปชั่วครู่ แต่สุดท้ายเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากออกมาและพูดขึ้นอย่างกับจะหัวเราะเยาะกับคำพูดของเธอ “ฉันไม่เชื่อในความหวังดีของคนที่เพิ่งจะเจอหน้ากันไม่กี่นาทีหรอก” “…” ปลายฟ้ากลืนน้ำลายลงคอเมื่อคำพูดเชิงบวกของเธอไร้ความหมายกับคนตรงหน้า เธอทำท่าครุ่นคิดอยู่สิบวินาทีก่อนจะโน้มน้าวจิตใจเขาอีกครั้ง “ขอเวลาแค่เดือนเดียว ถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อตัวนายเองนายก็ทำเพื่อคนที่นายรักและรักนาย แม่ของนายยังอยากเห็นนายมีความสุข อย่าคิดว่ามีแค่คนที่นายสูญเสียไปรักนายคนเดียวสิ ลองเปิดโอกาสให้ปัจจุบันเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันนายบ้าง” “ไม่ต้องมาสอนฉัน!” เขาพูดเสียงห้วนแล้วจ้องหน้าเธอเขม้ง “นายจะไม่สนใจความหวังดีของฉันฉันไม่ว่า แต่นายสนใจความหวังดีของคนรอบข้างนายด้วย” ปลายฟ้ายังคงพูดต่อ เธอไม่ได้อยากทำให้เขาโกรธแค่อยากจะทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมากับคำพูดพวกนั้นบ้าง แต่เปล่าเลย… “บอกว่าอย่ามาสอนฉัน” ไฟท์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมกับมือที่ยื่นเข้ามาบีบไหล่คนตัวเล็กจนเธอต้องเก็บอาการเจ็บไว้ เขาจะได้เข้าใจว่าเธอไม่ได้กลัว “ฉันไม่ได้สอน แค่…” “ออกไป!” คนร่างสูงจับเธอเหวี่ยงไปที่ประตู ถึงแม้เขาจะคิดว่ามันไม่ได้ออกแรงมากนักแต่ด้วยความที่เธอตัวเล็กกว่าเขามากเลยทำให้ร่างบางหน้ากระแทกเข้ากับประตูไม้ที่ถูกออกแบบมาเป็นรูปแกะสลัก “อ๊ะ โอ๊ย” เธอทาบมือไปที่โหนกแก้มเล็กๆ มันรู้สึกเจ็บขึ้นมาและแสบตอนที่ปลายนิ้วสัมผัสกับผิวเนียนละเอียด ก่อนจะมองปลายนิ้วนั้นที่มีเลือดเปื้อนและมันกำลังซึมออกจากบาดแผลนั้น “…” เขาหันหลังระงับความหงุดหงิดในใจโดยไม่สนใจคนที่ยืนอ้าปากค้าง น้ำตาซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว “…” ปลายฟ้ากัดเม้มปากแน่น ถ้าเธอเป็นคนขี้โมโหสักนิดตอนนี้คงจับขวดเหล้านั้นตีหัวผู้ชายนี้ไปแล้ว ถึงแม้จะโกรธแต่ก็ต้องสูดลมหายใจจนเต็มปอดแล้วพ่นลมออกมาเพื่อระงับความโกรธนั้น “ออกไป ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงใจเย็นลงไปเกือบครึ่งเมื่อเหลือบมองผู้หญิงที่ใบหน้าเปื้อนเลือดอยู่ ในใจแอบรู้สึกผิดแต่ก็ไม่แสดงอาการใดออกมาให้เธอรับรู้ “ฉันจะทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไป” ปลายฟ้าพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น ดวงตาที่มีน้ำใสๆ เอ่อนองหลับตาลงเพื่อไล่มันทิ้ง คนร่างสูงถอนหายใจแรงๆ แล้วหันไปมองผู้หญิงที่ใบหน้าเปื้อนเลือดอย่างหาเรื่อง ก่อนที่เขาจะเริ่มคิดได้ว่าทำรุนแรงเกินไป เมื่อมองเห็นคราบน้ำตาของเธอ ถึงแม้ว่าสีหน้าของเธอจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร “มานั่ง” เขาสั่งเสียงเรียบก่อนจะเดินไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเอากล่องปฐมพยาบาลสีใสออกมา แต่คนที่เขาออกปากสั่งก็ยังยืนนิ่งมองเขา ไฟท์เดินไปกระชากแขนเธออีกครั้งแล้วกดให้นั่งกับโซฟา ก่อนจะเอ่ยปากสั่งอีกครั้งพร้อมกับโยนกล่องปฐมพยาบาลให้บนโซฟาจนมันกลิ้งไปอยู่ข้างๆ ตัวเธอ “ทำแผลซะ” “ยังมีความรู้สึกผิดอยู่นะ” เธอพูดออกมาภายในใจก็แอบคิดว่าเขาก็ยังมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นอยู่บ้าง ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่ แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อคนตรงหน้าพรูดประโยคต่อมา “ฉันไม่อยากให้แม่เห็นแล้วหาหมอมารักษาพฤติกรรมของฉันอีก” ปลายฟ้ามองคนตรงหน้าด้วยความคิดที่แตกต่าง บางทีก็ดูเข้าใจง่ายแต่บางครั้งก็ดูซับซ้อน “สรุปนายให้เวลาฉันหนึ่งเดือน เพื่อลองกลับไปเป็นตัวเอง” ปลายฟ้าเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากคิดอะไรมากกับคำพูดที่ดูใจร้ายของเขา “ไม่” คนถูกขอยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง “ที่จริงฉันถูกจ้างมาให้ดูแลนายหนึ่งปี แต่ฉันขอเวลานายแค่เดือนเดียวถ้าภายในหนึ่งเดือนฉันไม่สามารถทำให้นายเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ฉันจะยกเลิกงานนี้เองโดยที่จะบอกแม่นายว่าฉันยอมแพ้” เธอพูดออกมาต่อรองเพื่อให้เขายอมรับข้อเสนอ เพราะยังไงเขาก็ต้องตกลงอยู่แล้ว หนึ่งปีแลกกับหนึ่งเดือนเชียวนะ “…” “คิดเอาแล้วกันเพราะฉันอุตส่าห์ยื่นข้อเสนอดีๆ แบบนี้ หรือนายจะเลือกให้ฉันมากวนใจหนึ่งปีก็แล้วแต่ ฉันจะได้กินๆ นอนเป็นเพื่อนนายแล้วรับเงินจากแม่นายฟรีๆ ไม่ต้องเหนื่อย” ปลายฟ้าพูดแล้วทำแผลที่แก้มของตัวเองไปด้วย “เหอะ เหลือเชื่อเลย แม่ฉันคิดยังถึงเลือกคนอย่างเธอมา” “นายจะยอมรับข้อเสนอนี้มั้ย” เธอถามอีกครั้งเพื่อรบเร้าให้อีกคนตอบตกลง “บอกเลยว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนความคิดความรู้สึกของฉันได้ ฉันไม่มีวันออกไปจากตรงนี้ได้” คนพูดยังคงหนักแน่นกับความรู้สึกตัวเอง เขาแน่ใจว่าไม่สามารถรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ หลังจากที่สูญเสียผู้หญิงคนนั้นไป รักครั้งแรกและครั้งเกียวของเขาตลอดห้าปี “ฉันไม่ได้ต้องการให้นายลืมอดีตลืมเรื่องราวต่างๆ เหล่านั้นหรอก คงมีแต่คนพูดให้นายลืมมันใช่มั้ย แต่ฉันอยากทำให้นายใช้วิตปัจจุบันโดยที่มีอดีตเหล่านั้นอยู่เบื้องหลังได้ต่างหาก ไม่ใช่ทำให้ตัวเองจมอยู่ในความเศร้าแบบนี้” “…” เขาเงียบไปและหันหน้าหนีคนพูด “เอาล่ะ เรามาคุยเรื่องในอดีตของนายดีกว่า” ปลายฟ้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลแล้วตบเบาะให้เขานั่งลง แต่เขาก็ไมสนใจ “ฉันไม่จำเป็นต้องเล่าอะไรให้เธอฟัง” ไฟท์เอ่ยเสียงเรียบแล้วเดินไปนั่งที่ปลายเตียงอย่างใช่ความคิด “ฉันไม่ได้บอกนะว่าให้นายเล่า แต่ช่วยตอบคำถามของฉันหน่อย มันเป็นคำถามที่ไม่ทำให้นายเจ็บปวดนักหรอก” เธอพยายามอธิบายแต่เขาก็ยังหันหน้าหนีอย่างรำคาญ “…” “นายชอบทำอะไรเวลาว่างๆ” ปลายฟ้าหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าพร้อมปากกาก่อนจะทำท่าเตรียมจดคำตอบลงไปท้ายคำถามที่เตรียมมา “…” แต่ก็ไรซึ่งคำตอบ “ขอร้องล่ะ บอกแล้วใช่มั้ยว่ามันไม่ใช่คำถามที่ทำให้นายเจ็บปวด” คนที่ฟังถึงกลับขมกรามแน่น ไม่ใช่คำถามที่ทำให้เจ็บปวดงั้นเหรอ ในเมื่อคำถามเหล่านั้นมันกำลังทำให้เขาคิดย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต ดวงตาที่คมกริบนั้นกำลังแดงก่ำจนปลายฟ้าต้องขมวดคิ้วและคิดขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังทำผิดพลาด “ถ้าเธออยากรู้ ก็ไปหาคำตอบมาเอง” “…” เธอกลืนน้ำลายลงคอเมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำผิดมหันต์ “ออกไปจากห้องของฉันตอนนี้ซะ” เขาพูดโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามอง “อืม แต่ว่า…” “ออกไป” น้ำเสียงที่เยือกเย็นสั่งอีกครั้ง เลยทำให้ปลายฟ้าต้องลุกขึ้นจากโซฟา เธอเดินผ่านเขาไปเกือบถึงประตูแต่ความรู้สึกผิดในใจก็ทำให้หยุดแล้วก้าวถอยหลังกลับมายืนตรงหน้าเขาอีกครั้ง และทำในสิ่งที่ใครก็ไม่คิดว่าเธอจะทำ พรึ่บ! ปลายฟ้าไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เธอแค่ไม่อยากให้เขาคิดมากกว่าเดิมโดยที่เธอเป็นต้นเหตุ มือบางเดินเข้าไปโอบรอบไหล่กว้างของเขาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วกอดไว้แน่นจนเขาเองยังตกใจ เพราะตอนนี้ใบหน้าของเขากำลังซบอยู่กับหน้าอกของเธอที่นุ่มนิ่ม “…” “ขอโทษที่ฉันทำให้นายรู้สึกไม่ดี” “…” “พรุ่งนี้เจอกันนะ” “ฉันไม่ได้บอกว่าจะตกลง” เขาพูดเสียงเรียบแต่ยังถูกเธอกอดไว้แน่น จนคนกระทำและคนถูกกระทำต้องรู้สึกใจเต้นอย่างไม่มีสาเหตุ “ที่นายไม่ผลักฉัน ถือว่านายตกลงรับข้อเสนอนั้นของฉันแล้วกัน” คนพูดยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะจนคนร่างสูงรู้สึกตัวผลักเธอออกทันควัน ก่อนจะพูดตวัดเสียงใส่ “ออกไป!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD