ห้างหรูใจกลางกรุง ห้างชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารที่เขาเพิ่งจะจากมากนัก ชายหนุ่มสอดสายตามองหาที่จอดรถอย่างหงุดหงิด
“ทำไมที่จอดรถบ้านนี้เมืองนี้มันหายากหาเย็นอย่างนี้วะ!” ชายหนุ่มวนรถขึ้นมาหลายชั้นพร้อมกับสบถพึมพำอย่างหัวเสียมาเป็นระยะๆ ตลอดเวลาที่ขับรถวนขึ้นมา ชายหนุ่มมองเลยข้ามไปยังอีกชั้นของลานจอด ในที่สุดฟ้าก็เห็นใจคนห่างบ้านเกิดเมืองนอนมานานอย่างเขา
“เฮ้ย! นั่นไงเจอแล้ว” ชายหนุ่มเคาะพวงมาลัยรถร้องออกมาอย่างดีใจ เขารีบวนรถขึ้นมาอีกชั้นทันที ที่จอดรถช่องไม่กว้าง แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาพญาเหยี่ยวของเขาไปได้ ถึงแม้จะคนละชั้นก็ตาม
ภูริชจับจ้องที่จอดนั้นไม่วางตาตั้งแต่รถยังอยู่อีกชั้น ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าที่จอด ตำแหน่งที่เขาเล็งข้ามชั้นไว้ทันที ไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างแม้แต่สักนิดเดียว
“เฮ้อ! ดีนะที่ยังมองหาที่จอดทัน เราคงทำบุญมาดีที่ไม่มีคนมาจอดก่อน” ชายหนุ่มพ่นลมออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเขาเสียบเข้าช่องจอดเป็นเจ้าของพื้นที่แคบไม่กี่ตารางเมตรที่เขามองหาอยู่นานอย่างภูมิใจ ยังไม่ทันจะดับเครื่องยนต์ก็มีเสียงไม่พึงประสงค์ดังมาจากกระจก
ก๊อกๆ ปังๆ
“นี่คุณ! เปิดประตูมาคุยกันก่อน คุณมาแย่งที่จอดรถของฉันได้อย่างไร ไม่เห็นหรือไงว่าฉันมาก่อน แล้วฉันก็กะพริบไฟรอกำลังจะเข้าจอดนะ”
เพลินวานโวยเป็นชุด มือก็ทุบกระจกรถของชายหนุ่มไม่ยั้ง ยังไม่ทันมองแม้แต่หน้าคนเสียมารยาทที่เธอก่นด่าด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มเจ้าของรถที่จอดก่อนก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ว่าเจ้าแม่เสียงแปร๋นที่ยืนต่อว่าเขาปาวๆ เป็นใครมาจากไหน หน้าตาเป็นอย่างไร แต่ที่รู้อย่างเดียวในตอนนี้คือ… เสียงของเธอแสบแก้วหูเหมือนพี่สาวของเขาไม่มีผิดเพี้ยน
“นี่คนสร้าง… เขาสร้างมนุษย์ผู้หญิงมาบล็อกเดียวกันทุกคนเลยหรืออย่างไรกันนะ ขนาดนั่งในรถยังแสบแก้วหูขนาดนี้ ถ้าอยู่ใกล้ เขาไม่หูดับไปเลยหรือยังไง” ชายหนุ่มสบถออกมากับตัวเอง ดันมือปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยเปิดประตูออกรถก้าวขาออกมาอย่างหงุดหงิด
“อะไรกันแม่คู๊ณ?...” ชายหนุ่มลากเสียงยาวถามทั้งที่ยังไม่มองหน้า
“ทำไมต้องแหกปากร้องอย่างกะเสียพรหมจรรย์โดยไม่ได้ตั้งใจขนาดนี้ นี่เขาโดนข่มขืนเป็นข่าวคึกโครมก็ไม่ร้องเสียงดังอย่างนี้นะ” เขาต่อว่าเจ้าของเสียงแหลมแสบแก้วหูอย่างรำคาญ พลางโน้มตัวก้มลงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ในรถ
“ถ้าฉันโดนพรากพรหมจรรย์ ป่านนี้นายโดนหักคอหรือโดนจับทุ่มคอนกรีตไปแล้ว ไม่ได้มายืนว่าฉันอย่างนี้หรอก… ไอ้ปากปีจอ หูรูดตายด้าน ขาดมนุษยธรรม”
ทั้งที่ไม่เห็นหน้าคนปากร้ายไร้ความเป็นสุภาพบุรุษชัดเจน แต่ความโมโหที่โดนแย่งที่จอดกับโดนว่าแรงๆ ทำเอาผู้หญิงที่โกรธยากอย่างเพลินวานแทบพ่นไฟ โกรธจนอยากงัดศิลปะการป้องกันตัวที่เรียนมาอัดผู้ชายตรงหน้าให้น่วมคามือ แต่ทันทีที่ทั้งสองเห็นหน้าอีกคนจังๆ ทั้งคู่ก็มีอาการตกใจไม่แพ้กัน
“คุณ!”
“นาย!...” สองหนุ่มสาวยกมือขึ้นชี้หน้าอีกฝ่าย เปลือกตาเบิกกว้างร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน
“นายนี่มันเป็นผู้ชายที่มารยาททรามมาก เจอนายทีไรฉันดวงซวยทุกที… วันนี้มันเป็นวันอะไรของฉันนี่ นายไม่ได้รับการอบรมมาเลยหรือย่างไร ไม่แหกตาดูบ้างเลยหรือไง… ว่าที่ตรงนี้ฉันมาก่อนและจองไว้ แล้วฉันก็กะพริบไฟรอแล้วด้วย”
เพลินวานใส่ไม่ยั้ง อารมณ์มาฟูลอ๊อฟชั่น ระดับเสียงไม่ได้ลดลงเลยแม่แต่นิดเดียว เธอวนหาที่จอดรถมาตั้งแต่ชั้นหนึ่งจนถึงชั้นที่แปดและมันก็เป็นชั้นสุดท้ายแล้วด้วย จะไม่ให้โกรธไม่ให้โมโหยังไงไหว
เมื่อเห็นว่าสาวเสียงแหลมแสบแก้วหูเป็นเพลินวาน สาวน้อยขาดความความอบอุ่นปากดี ชายหนุ่มก็ยิ่งอยากแกล้งให้สนุก เขายืดคอมองยั่วๆ เหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง
“คุณติดป้ายตีตราจองเป็นเจ้าของที่จอดตรงนี้เลยหรือไง หรือว่าเป็นเมียน้อยเจ้าของห้าง”
“อี๋” เพลินวานโกรธจนเสียงสั่น เต้นเร่านึกคำพูดที่จะเถียงกลับไม่ทัน
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมก็เห็นที่จอดตรงนี้ก่อนคุณเหมือนกันละ ผมเห็นตรงนี้ตั้งแต่อยู่ชั้นที่เจ็ดแล้ว แล้วเข้าจอดแล้วด้วย และจะจอดตรงนี้… คุณจะทำอะไรผมได้” ภูริชลอยหน้าลอยตายียวนตอบกลับเธอ
“ไม่ได้ ฉันเห็นก่อน คุณต้องถอยออก”
“ถ้าคุณอยากให้ผมเอารถออก คุณก็เข็นเอาก็แล้วกัน ผมไปละ… รีบมาก!...” ชายหนุ่มยกมือโบกให้เดินหันหลังออกไป เน้นเสียงรีบตอนท้ายพร้อมกับกดสัญญาณล็อกรถ และเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีที่ได้กวนประสาทเธอ
เพลินวานกำหมัดแน่น เพลิงพายุในใจของเธอตอนนี้แทบเผารถคันตรงหน้าได้
“ได้… นายรู้จักฉันน้อยเกินไปแล้ว นายมันคนไร้มารยาท ปากหมา หน้าอึ่งอ่าง… ไอ้บ้า...” เพลินวานเข่นเขี้ยวไล่หลังแผงหลังหนาของชายหนุ่มที่เดินออกไปไกลแล้ว
เพลินวานเดินกลับที่รถอย่างหงุดหงิด สีหน้าบอกบุญไม่รับอย่างแรง คนเป็นแม่ที่นั่งรออยู่ในรถเห็นลูกเดินหน้าหงิกขึ้นรถมาก็ไม่วายถาม
“เป็นอะไรไปอีกละเพลิน...”
“ก็ไอ้บ้าหน้าอึ่งอ่างนั่นนะสิ แย่งที่จอดรถเพลินหน้าด้านๆ คนอะไรไร้มารยาทชะมัด รู้จักเพลินวานน้อยไปหน่อยนะ” เพลินวานตอบมารดาพร้อมกับเปลี่ยนเกียร์ถอยรถกลับไปที่ขวางหน้ารถชายหนุ่ม หลังจากดับเครื่องยนต์เรียบร้อยเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีแผน จงใจไม่ปลดเบรกมือ แล้วยังใส่เกียร์ไว้ให้เรียบร้อย แถมด้วยล็อคคลัช ล็อคเกียร์เพิ่มอีกเพื่อความปลอดภัย
“ทำอย่างนี้มันจะดีหรือลูก… เพลิน! ถ้าเขาเสร็จธุระก่อนเขาก็ออกไม่ได้นะ” คุณนายเพลินไหมบอกลูกสาวเสียงนุ่ม มีเมตตาอย่างนางพยาบาลอาชีพเก่าของนาง
“ดีที่สุดค่ะแม่ ผู้ชายมารยาทแย่อย่างนายนั่น ต้องเจอผู้หญิงแสบอย่างเพลิน” เพลินวานบอกพร้อมกับเปิดประตูออกมารอนอกรถ เห็นมารดาที่ตามออกมาหน้าย่นก็อดขำไม่ได้
“ย่นหน้าอีกแล้ว… เดี๋ยวบาร์โค๊ดขึ้นหน้าอีกสองแถบนะ ไปเถอะค่ะ” เพลินวานแกล้งแหย่เดินไปจูงมือมารดาเข้าไปในห้าง
“แม่ไม่เคยเห็นเพลินแกล้งหรือต่อปากต่อคำผู้ชายแบบนี้มาก่อนเลยนะลูก หนูรู้จักเขามาก่อนหรือเปล่า”