Chapter 22 ของขวัญต้อนรับกลับบ้านจากน้า

1320 Words
“เธอไม่ได้เข้ามานั่งทำงานที่นี่หรอกครับเพราะตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง ทุกอย่างในครัวก็ให้เชฟเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ในฐานะหุ้นส่วนของร้าน หนูเพลินสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ตามความเหมาะสม แต่ว่าต้องวางรายงานและยอดขายไว้ที่โต๊ะ ส่วนที่เหลือเธอจะจัดการเอง” ผู้จัดการเก่าแก่บอกพร้อมกับยื่นซองเอกสารในมือที่เขาถือไว้อยู่นานให้เพลินวาน ผู้รับขมวดคิ้วมุ่นแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้สูงวัยกว่าจะอ่านความคิดของหญิงสาวออก “นี่คือ… ใบมอบอำนาจและหนังสือสัญญาที่คุณพิณฝากไว้ให้หนูเพลิน… สัญญาฉบับนี้ถูกร่างขึ้นพร้อมกับสัญญาซื้อขายหุ้นของร้านเมื่อสามปีก่อน และให้อาเก็บไว้ รอวันที่หนูเพลินกลับมา” “หมายความว่าอย่างไรคะ” “ทุกอย่างอยู่ในซอง แค่หนูเพลินเปิดซองดูก็จะมีความกระจ่างทุกอย่าง คุณมารตีคงจะบอกหนูเพลินแล้วว่า หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของร้านที่เหลืออยู่เป็นชื่อหนูเพลิน หนูเพลินไปพักในห้องก่อนก็ได้นะ อีกครึ่งชั่วโมงอาจะพาไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ที่นี่คนเก่าแก่เหลือไม่กี่คน ทุกอย่างดูเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว” “ค่ะ” เพลินวานรับคำ เธอถือซองเอกสารที่เพิ่งจะได้รับมาเพียงไม่นาน สาวเท้าเดินลงบันได เธอเดินตรงไปยังตำแหน่งห้องทำงานที่เธอคุ้นเคยมานานหลายปี ร้านที่เธอทำงานจะมีสองชั้น ห้องทำงานและในส่วนของครัวที่เธอรู้จักจะอยู่ชั้นล่างของร้าน รวมถึงชั้นทำงานของผู้บริหาร ที่พักและ ล็อกเกอร์เก็บของพนักงานจะอยู่ชั้นนี้ ส่วนตัวร้านที่รับรองลูกค้าอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึก ชั้นนี้เป็นอีกที่หนึ่งเปลี่ยนแปลงไปมากจนเธอแปลกใจ ทุกอย่างดูเป็นสัดส่วน ลงตัวมากกว่าผู้บริหารอย่างมารตีที่ทำไว้อย่างดีแล้ว ให้ดีมากขึ้นอย่างน่าทึ่ง เพียงแค่ก้าวแรกที่ก้าวเท้าสัมผัส แม้ว่าทุกอย่างในร้านจะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่ห้องนี้ยังคงหลงเหลือความทรงจำและเค้าเดิมมากที่สุดเท่าที่เธอสัมผัสมา โต๊ะยังเป็นตัวเดิม ที่นอนที่เธอนอนเป็นประจำสมัยเรียนยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมของมัน ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะถูกแทนที่ด้วยโซฟาเบทตัวใหม่ แต่ก็ยังคงเป็นลักษณะเดิม อีกที่หนึ่งที่เพิ่มเติมเข้ามา คือห้องน้ำขนาดเล็ก จากลักษณะของมันคงยังไม่ได้เริ่มใช้งานมาก่อน มุมห้องอีกด้านถูกกั้นด้วยพาร์ทิชั่นล้อมโต๊ะขนาดเล็ก เหมือนว่าที่ตรงนั้นจะมีพื้นที่น้อยกว่าโต๊ะทำงานของเธอด้วยซ้ำ ‘ทำเพื่อเราขนาดนี้เลยหรือเนี่ย’ เพลินวานวางกระเป๋าลงบนโต๊ะและหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานของเธอ ความสงสัยทั้งหมดในใจ ทำให้เธอเปิดซองเอกสาร เพื่อไขความกระจ่างให้ตัวเอง ใบหุ้นที่มารตีไม่ได้มอบให้เธอด้วยตัวเอง นางคงจะพอเดาได้ว่า… ถ้านางให้กับมือเธอคงไม่กล้ารับไว้ เห็นอย่างนี้เธอยิ่งต้องทำร้านแห่งนี้ให้ได้ดี ให้สมกับความไว้วางใจที่มารตีกับเจ้าของร้านคนใหม่มอบให้ ‘ของขวัญต้อนรับกลับบ้านจากน้า… แล้วก็เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าไปด้วยเลย… ห้ามปฏิเสธที่จะรับเด็ดขาด’ การ์ดใบเล็กที่แนบมาหญิงสาวเกิดความรู้สึกอิ่มเอมตื้นตันเอ่อล้นขึ้นมาแน่นอก ทันทีที่เธอเห็นเอกสารทั้งหมดในซอง ในหนังสือสัญญาระบุขอบเขตและหน้าที่ของเธอชัดเจน เธอยังสามารถปรับปรุงและทำทุกอย่างในร้านแห่งได้ตามที่เธอเห็นสมควร ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากขึ้น จากที่ตอนแรกที่ยังกังวลอยู่มาก เพลินวานไม่เคยคิดเลยว่ามารตีจะให้ทุกอย่างกับเธอมากมายขนาดนี้ แค่ที่ผ่านมาเธอก็ไม่รู้จะทดแทนอย่างไร สิ่งเดียวที่เธอทำได้ตอนนี้ คงจะเป็น… ตั้งใจทำงานและพัฒนาร้านอย่างที่เธอเคยพูดและตั้งใจไว้สินะ ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูเรียกสติคนข้างในห้องหันไปยังจุดต้นกำเนิดเสียง ประตูเปิดกว้างออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายเลยวัยกลางคนก้าวเข้ามาในห้อง “เป็นอย่างไรบ้าง… โต๊ะทำงานหนูเพลินยังใช้ตัวเดิมนะ ผู้บริหารคนใหม่ไม่อยากให้หนูต้องเปลี่ยนแปลงมากมาย อีกทั้งยังปรับปรุงห้องน้ำและเปลี่ยนที่นอนตัวใหม่ให้หนู เพราะเห็นว่าของเก่ามันสภาพไม่ค่อยดีแล้ว หนูเพลินจะได้ไม่ลำบากไปอาบน้ำรวมกับใครในห้องอาบน้ำ” “ขอบคุณคุณอามากสำหรับทุกอย่างที่ทำไว้ให้เพลิน อยู่ข้างนอกเพลินคงต้องเรียกว่าผู้จัดการเหมือนเดิมนะคะ” เพลินวานตอบกลับผู้จัดการอย่างนอบน้อม “ไม่เป็นไร อยู่ข้างนอกอาเองก็ต้องเรียกว่าเชฟเพลินเหมือนกัน ทุกคนจะได้มองแปลกแยกไป หนูเพลินพร้อมหรือยังที่จะไปในครัว” “เพลินขอเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสักครู่นะคะ เพลินคงทำงานไปเลย ไม่กลับมาที่นี่แล้ว...” “ถ้าอย่างนั้น อาไปรอที่ห้องทำงานของอานะ เพลินพร้อมก็ไปพบอาที่ห้องนะ” “ค่ะ” เพลินวานรับคำผู้จัดการที่กำลังเปิดประตูห้องทำงานของเธอออกไป เธอหันไปหยิบชุดเชฟที่ร้านเตรียมไว้ให้ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ในเวลาเพียงไม่นานเพลินวานมายืนอยู่ในครัว สถานที่แห่งความสุขในวันวาน จุดเริ่มแรกที่จุดประกายความฝันของเธอ และทำให้เธอก้าวเดินและมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ แต่ในวันที่เธอได้รับตำแหน่งเชฟเต็มตัวก็ทำให้เธอหวนนึกถึงความหลังที่จากมาไม่ได้… ที่ตรงนั้นเป็นครัวของเขา… ทว่าที่นี่เป็นครัวของเธอ.... หญิงสาวไล้มือไปบนเคาน์เตอร์อลูมิเนียมมันวาวสะอาดลื่น ‘โต๊ะเชฟ’ โต๊ะแห่งความฝันของหลายคน ทว่าที่นี่จะเป็นครัวของเธอ… ครัวที่เธอเฝ้ารอว่าสักวันจะต้องมายืนตรงจุดนี้ให้ได้ หญิงสาวอดที่จะหวนนึกถึงชายหนุ่มที่ฝังรอยรักรอยร้าวในใจไม่ได้… ชายหนุ่มหล่อเหลาสูงสมาร์ทที่ยืนเด่นอยู่หน้าโต๊ะเชฟของเขา ในที่ที่เธอเพิ่งจากมาไม่นาน ‘เชฟอิริค’ หนุ่มหล่อเชื้อชาติอิตาลีอาจารย์สอนในคลาสเรียนอิตาเลี่ยนที่เธอหลงรักตั้งแต่แรกเห็น ผู้ชายสูงสง่าเคร่งขรึม แต่ทว่าเวลาเขายืนอยู่หน้าเตาเขากลับดูอ่อนโยนอบอุ่น แววตาสีเขียวมรกตของเขาเปล่งประกายความสุขออกมาทุกครั้งที่เธอเห็นเขาทำอาหาร ตอนนี้เขากลายเป็นเชฟหนุ่มหล่อวัยสามสิบห้าที่เลอ เฟ บลองส์ ร้านอาหารสุดหรูระดับหกดาว ร้านแห่งความรักและความทรงจำ สถานที่ที่ทำให้เธอรู้จักคำว่ารักครั้งแรก แล้วก็เป็นที่เดียวกันกับที่สร้างความอับอาย จนไม่สามารถแบกหน้าทนสายตาหยามหยันของเพื่อนร่วมงานต่อไปได้ ‘เสน่ห์ของอาหารอยู่ที่… การสรรค์สร้างจากวัตถุดิบและปรุงออกมาอย่างลงตัว ความอร่อยจากการลิ้มรสจากปลายลิ้น… เริ่มจากคุณภาพ ความใส่ใจและปรารถนาดี บวกกับการสรรค์สร้างที่รังสรรค์จากแนวคิดของเชฟมืออาชีพ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า’ เป็นคำพูดของเชฟอิริคที่เธอยังจำได้ดีไม่เคยรางเลือน เชฟบริหารร้านอาหารสุดหรูระดับหกดาวที่การันตีความอร่อยด้วย… มิชลินสตาร์เชฟสามดาวอย่างเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD