เสียงทุ้มหวานที่เรียกชื่อเล่นของเธอบ่อยๆ ทำเอาเธอรู้สึกแปลกๆ ในหัวใจ
“เอ่อ คุณเรียกฉันว่า พี่ก็ได้นะคะ เพราะฉันคงแก่กว่าคุณหลายปี”
สุทธิรักษ์พิจารณาใบหน้างดงามนั้นอีกครั้ง เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะแก่กว่าเขา เพราะปีนี้เขาก็อายุ 33 ปีแล้ว ถ้าเธอแก่กว่าเขาต้องอายุ 34 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะผิวพรรณของเธอยังดูเต่งตึงไม่มีแม้เพียงริ้วรอยสักขีด ดวงตากลมโตที่ตกแต่งเครื่องสำอางมาอย่างบางเบานั้นขับความงามตามธรรมชาติ ยิ่งทำให้เธอดูไม่น่าจะอายุเกิน 27 ปี ซึ่งอย่างไรก็ต้องเด็กกว่าเขาแน่นอน
“คุณอย่ามาอำผมดีกว่าครับ ผมเองก็ไม่ได้เด็กอย่างที่คุณคิดหรอกนะ ผมเลยสามมาแล้วครับ เผลอๆ จะเป็นคุณเองหรือเปล่า ที่ต้องเรียกผมว่าพี่ แต่ผมไม่ชอบหรอกนะ อยากให้คุณเรียกว่า..ที่รักมากกว่า”
“อ้อนเก่งแบบนี้ ท่าทางจะมีลูกค้าประจำเยอะนะคะ”
“คุณอยากเป็นลูกค้าประจำผมอีกคนหรือเปล่าล่ะครับ”
“ขอบายดีกว่าค่ะ ไม่ชอบแย่งชิงกับใคร”
คนตัวโตแค่นยิ้มมุมปาก เธอไม่ชอบแย่งชิงกับใคร แต่ถ้าเธอเกิดหลงเสน่ห์เขาขึ้นมา ก็คงหนีไม่พ้น ที่จะต้องมาตบตีแย่งชิงเขากับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ต้องการจะเป็นตัวจริงของเขาทั้งนั้น ไม่เว้นแม้สักคน
“ปกติคุณมาที่นี่บ่อยไหมครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณเลย”
“ไม่เคยมาที่นี่หรอกค่ะ”
ที่จริงก็ไม่เคยไปที่ไหนที่เป็นลักษณะนี้เหมือนกัน แต่เรื่องอะไรเธอจะเผยความจริงให้ได้รู้กันล่ะ วันนี้เธอมาในมาดนางพญานะ
“จากนี้ก็มาที่นี่บ่อยๆ นะครับ ปั้นหยา”
“หาลูกค้าเก่งนะคะ”
คนหล่อยกยิ้มมุมปาก ก่อนชนแก้วกับเธอเบาๆ พร้อมยกกระดกหมดแก้ว เป็นเชิงให้เธอทำเหมือนกัน ซึ่งสาวแซ่บอย่างปั้นหยาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
“ได้ข่าวว่าวันนี้เป็นปาร์ตี้สละโสด คนไหนคือว่าที่เจ้าสาวครับ”
เขามองเธอนิ่งนาน แทบไม่กล้าหายใจเพราะลุ้นในคำตอบ แถมยังพยายามสะกดจิตให้เธอตอบในสิ่งที่เขาอยากได้ยินอีกต่างหาก
“เดาดูสิคะ ว่าคนไหน”
เขาหลุดยิ้มขำกับลูกล่อลูกชนของเธอ ไม่รู้หรอก ว่าเธอจะรู้ตัวไหมว่าเขาลุ้นคำตอบนี้ขนาดไหน เธอถึงจงใจกลั่นแกล้งเขาแบบนี้ หมดกัน คนอย่างนายสุทธิรักษ์ ทำไมเสียทรงได้ขนาดนี้
“เป็นคนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่คุณ ใช่ไหมครับ”
คนสวยส่งยิ้มหวานหยดให้ชายหนุ่มตรงหน้า ทำเอาหัวใจแกร่งเต้นกระตุก เธอสวยเหลือเกิน ยิ่งยิ้มแบบนี้ เธอยิ่งดูหวานซ่อนเปรี้ยว ถูกใจเขาที่สุดจนไม่อยากจะละสายตาไปจากใบหน้าของเธอเลยจริงๆ ให้ตายสิ
“ไม่รู้ค่ะ หาคำตอบเอาเอง”
“ได้ครับ ผมหาคำตอบเอาเองก็ได้ แต่ถ้าว่าที่เจ้าสาวไม่ใช่คุณ มีรางวัลอะไรให้ผมไหมครับ”
“อะไรคะ เกี่ยวอะไรกับรางวัลล่ะ”
“ก็ผมเดาไง ว่าไม่ใช่คุณ แล้วถ้าว่าที่เจ้าสาวไม่ใช่คุณจริงๆ แปลว่าผมตอบถูก คุณก็ต้องให้รางวัลผมสิครับ ปั้นหยา”
ปัณยตาอึ้งไปกับความเจ้าเล่ห์ของเขา ไม่คิดว่าจะมาไม้นี้ เธอไม่เห็นมีส่วนไหนที่ได้เปรียบเลย แถมยังไงเขาก็ตอบถูกอยู่แล้วเพราะเธอไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาว กลายเป็นเธอยิ่งเสียเปรียบ ต้องให้รางวัลเขาอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าของรางวัลที่เขาต้องการคืออะไร มีมูลค่าขนาดไหน
“ฉันคงไม่มีเงินมากมายมาเปย์คุณ เหมือนสาวๆ ของคุณหรอกนะคะ”
“แล้วใครบอกว่าผมต้องการเงินหรือของมีค่าเป็นรางวัลล่ะครับ”
คนหล่อยกยิ้มมุมปาก แค่นี้ก็พอจะเดาได้แล้ว ว่าเธอไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาวจริงๆ หัวใจเขาแทบระเบิดออกมาด้วยความดีใจเสียเดี๋ยวนี้
“ไว้ถ้าเฉลยมาแล้วคุณตอบถูก ฉันจะให้รางวัลตามที่คุณต้องการแล้วกันค่ะ แต่ถ้าตอบผิด ฉันขอรางวัลจากคุณแทนแล้วกันนะคะ ถือเป็นของขวัญวันแต่งงาน”
หึหึ ไม่ทันแล้ว ปั้นหยาคนสวย คงเพิ่งรู้ตัวสินะ ว่าสายตาของเธอเมื่อครู่ มันบอกความจริงกับเขาทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว
“ครับ ได้เลย คุณอยากได้อะไร ผมหามาให้คุณได้หมดทุกอย่าง แค่คุณกล้าขอ”
ดวงตาคมกริบแสนมีเสน่ห์จ้องมองเธอด้วยแววตาวาววับ ทำเอาเธอต้องยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดอีกครั้ง หวังดับอาการประหม่าที่มันเกิดขึ้นบ่อยเกินไปแล้ว
“คู่นี้เล่นเกมจ้องตากันอยู่เหรอครับ มาร่วมเล่นเกมกับพวกผมดีกว่า”
เฟมัส หนุ่มน้อยหน้าตี๋ ผิวพรรณขาวสะอาด ด้วยหน้าตาพิมพ์นิยมและสกิลการออดอ้อน ทำให้เขากลายเป็นตัวท็อปของบาร์แห่งนี้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เพิ่งเข้ามาทำงานนี้ได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น
“เกมอะไรคะ”
ปัณยตากลบเกลื่อนความเขินจากการโดนผู้ชายแปลกหน้าแซวด้วยการทำทีเป็นสาวมั่นดังเดิม แล้วหันมาสนใจเกมที่หนุ่มหล่อคนนี้ชวนเล่น ราวกับมันน่าสนใจเสียเต็มประดา
“เกม 21 ครับ ไม่รู้ว่าพี่ๆ เคยเล่นกันหรือเปล่า แต่เกมนี้ฮิตมาหลายปีแล้ว คงไม่ว่าผมแก่นะครับ พี่คนสวย”
หนุ่มน้อยพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีเสน่ห์ ทั้งยังยิ้มตาหยีตบท้าย ต่อให้ว่าพวกเธอว่าแก่ แต่น่ารักขนาดนี้ ใครจะโกรธลง
และพวกเธอก็แก่จริงๆ นั่นแหละ เพราะเกม 21 พวกเธอเล่นกันมาในวงเหล้าตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนเซียนกันทุกคน พวกเธอมักจะรวมหัวกันฆ่ารุ่นพี่และรุ่นน้องจนเมาแอ๋เสมอ
“มันเล่นยังไงคะ เฟมัส พี่อรไม่เคยเล่นเลย”
อรกมล คุณแม่ลูกหนึ่งสุดแซ่บ สบตากับเพื่อนรักแล้วทำทีใสซื่อ
“คือพวกเราจะนับเลขเรียงกันไปครับ ตั้งแต่เลข 1 – 21 แต่ละคนนับได้ 1 หรือ 2 ตัวเลขเท่านั้น แล้วถ้าเลข 21 ไปตกอยู่ที่ใคร คนนั้นต้องดื่มหมดแก้วครับ”
สาวสวยทั้งสี่คนอมยิ้มชอบใจพร้อมมองสบตากันอย่างมีเลศนัย
“โอเคค่ะ พี่อรเข้าใจแล้ว เรามาเริ่มกันเลยนะคะ น่าสนุกมากเลย”
แล้วเกม 21 ก็ทำให้สาวสวยสุดแซ่บทั้งสี่คนเมามายไม่น้อย แต่ยังดีกว่าหนุ่มน้อยหน้าขาวแสนขี้อ้อนทั้งสามคน ซึ่งเมามากอย่างที่ไม่เคยเมาแบบนี้ในเวลาทำงานมาก่อน ไม่คิดว่าสาวสวยที่อ้างตัวว่าไม่เคยเล่น จะร่วมมือกันฆ่าพวกเขาทีละคนจนเมาแอ๋แทบคลานขนาดนี้
“ฮ่าๆๆ พี่ๆ เคยเล่นกันมาก่อนใช่ไหมครับ ทำไมเก่งกันแบบนี้ พวกผมเมาแย่แล้วนะครับ แบบนี้ใครจะรับผิดชอบ”
เฟมัสออดอ้อนแขกสาวคนสวย ที่แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้ซื้อเวลาพาเขาออกไปข้างนอก แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในนี้ พวกเขาต้องดูแลและทำให้พวกเธอสนุกให้มากที่สุด
“ฮ่าๆ พี่อรคงรับผิดชอบเฟมัสไม่ไหวนะคะ พี่อรแต่งงานแล้ว”
“ว้า แย่จัง ทำไมถึงรีบแต่งงานจังครับ ไหนว่าสมัยนี้สาวๆ เขาฮิตแต่งงานกันตอนอายุเลยเลขสามกันไปแล้วไง”
สิ่งที่พูดไม่ได้เพราะอยากเอาใจแขกสาวทั้งสี่ แต่เพราะเธอทั้งสี่คนยังสวย แซ่บ หุ่นดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และใบหน้าสวยใส ไม่น่าจะเกินสามสิบปีไปได้
“พี่อรก็เลยเลขสามไปหลายปีมากแล้วค่ะ”
“อย่ามาโกหกผมดีกว่า พี่อรกับพี่ๆ ทุกคนออกจะสวยน่ารักขนาดนี้ ไม่ถึงสามสิบหรอก”
“ปากหวานจังเลยนะคะ เฟมัส แต่ในนี้มีพวกพี่สองคนแต่งงานแล้ว และกำลังจะแต่งงานอีกหนึ่ง มีสาวโสดแค่คนเดียวเท่านั้น”
ใช่สิ ปาร์ตี้วันนี้คือปาร์ตี้สละโสด แต่นั่งคุยกันมาครึ่งค่อนคืน พวกเขาก็ยังไม่ได้ถามว่าคนไหนคือว่าที่เจ้าสาว แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามีสองคนในนี้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว
“จริงหรือครับ คนไหนว่าที่เจ้าสาวครับเนี่ย”
“ให้เดาแล้วกันค่ะ คนไหนออร่าเจ้าสาวสุดคะ”
สามหนุ่มกวาดตามองสาวสวยทั้งสี่คน แล้วก็ต่างชี้นิ้วกันไปคนละทาง โดยที่สุทธิรักษ์กลั้นใจรอคำตอบครั้งสุดท้าย ว่าสาวชุดแดงของเขา จะใช่ว่าที่เจ้าสาวตัวจริงหรือไม่
“พี่เฉลยก็ได้ค่ะ พี่อรกับพี่พิชา แต่งงานแล้ว ส่วนว่าที่เจ้าสาวคือ พี่มาร์ค่ะ สาวโสดคนเดียวที่เหลือ คือปั้นหยาของเรานี่เอง”
“โห พี่ปั้นหยา สวยแซ่บขนาดนี้ ไม่มีแฟนหรือครับ”
“ไม่ชอบหาเหาใส่หัวค่ะ”
ปัณยตาส่งยิ้มมีเสน่ห์ให้หนุ่มหล่อทั้งสาม ก่อนจะชนแก้วกันอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนจากเกม 21 มาเป็นหมุนขวดเหล้าที่หมดแล้ว โดยกติกาพิเศษไม่เหมือนที่ไหนเพราะเมื่อปากขวดไปหยุดอยู่ที่ใคร คนนั้นได้สิทธิพิเศษ สามารถถามคำถามที่อยากรู้กับใครก็ได้ และอีกฝ่ายต้องตอบความจริงเท่านั้น