“ คุณป้าขา อาทิตย์นี้เจ้าขาไม่ได้กลับบ้านนะคะ เพราะว่ามีงานด่วนมากะทันหัน ”
“ ไม่เป็นไรหรอกลูก ตั้งใจทำงานเข้า เจ้านายจะได้รักมาก ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีแม่แจ่มพูดพล่ามทั้งวัน แค่นี้ก็รำคาญหูจะแย่ ” ท่านหมายถึงแม่บ้านที่อยู่ด้วยกันมาร่วมยี่สิบปี
“ ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะคะ เจ้าขาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ รักคุณป้าค่ะ สวัสดีค่ะ ”
แล้วปลายสายก็กดตัดไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนนิ่ง สายตาที่จ้องมองไปในอากาศนั้นตื่นตระหนกและกังวลเหลือเกิน
เจ้านายจะได้รักมาก ๆ อย่างนั้นเหรอ !
ใครจะรักพนักงานที่ทำร้ายหนึ่งในผู้บริหารด้วยการโจมตีจุดยุทธศาสตร์จนหน้าดำหน้าเขียวกันเล่า !
เจ้าขาเอ๊ย อุตส่าห์ดีใจว่าเรียนจบมาใหม่ ๆ ได้งานในตำแหน่งเลขานุการท่านประธานของบริษัทชื่อดัง ทีนี้จะไปบอกคนอื่นได้ยังไงว่าเธอถูกไล่ออกตั้งแต่อาทิตย์แรกเพราะไปบีบไข่ท่านประธานถึงขั้นแอดมิทโรงพยาบาล !
ก็เธอจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าไอ้คนหื่นกามข้างห้องจะเป็น ท่านประธานของบริษัทอีกคน ผู้ชายสองคนที่โผล่เข้ามานั่นก็คือบอดี้การ์ดประจำตัวของเขาที่พักอยู่ห้องฝั่งตรงข้าม เคราะห์ดีที่พวกเขาไม่ยิงเธอให้ตาย ๆ ไปซะ ข้อหาประทุษร้ายท่านประธานจนหน้าเขียว
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นและเสียงร้องทักทายทำให้เจ้าขาหลุดจากภวังค์แล้วหันไปมอง เป็นร่างสูงโปร่งแต่งตัวด้วย ชุดสูทเนี้ยบตามเคยของธนภพ มือข้างซ้ายถือกระเช้า ของเยี่ยมจำพวกรังนก โสม และซุปไก่สกัดมาด้วย
“ เจ้าขา เป็นไงบ้างครับ ”
“ พี่ภพ ” เธอเรียกชื่อเขาก่อนยกมือไหว้แล้วนั่งแหมะลงที่เก้าอี้อีกครั้ง พวกเขาพูดคุยกันทางโทรศัพท์คร่าว ๆ แล้ว เจ้าขานั่นแหละที่รีบโทรหาเขาเพราะไม่มีทางออกใด ๆ
“ ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะครับ พี่บอกแล้วไง ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้เอง ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย เธอได้แต่นั่งก้มหน้า
“ เจ้าขาไม่ได้ตั้งใจ เจ้าขาก็แค่ป้องกันตัว ”
“ พี่รู้ครับ ”
“ เจ้าขาต้องโดนไล่ออกแน่ ๆ เลยค่ะ ”
“ ไม่หรอกน่า เจ้าขาไม่ได้ตั้งใจนี่ครับ พี่ภพรับรองว่าเจ้าขาจะไม่ต้องถูกไล่ออก สัญญา ” เขาว่าพลางชูนิ้วก้อยขึ้นเป็นสัญลักษณ์ นั่นทำให้เธอพอยิ้มออกมาได้บ้าง
“ ขอบคุณพี่ภพมากนะคะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วพี่ไตรเป็นไงบ้าง ”
“ ใครคะ ”
“ ก็ท่านประธานอีกคน ที่... เอ่อ ที่เจ้าขามีเรื่องด้วย ”
ธนภพหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงเหตุการณ์อันน่าอิหลักอิเหลื่อนั้น เจ้าขาได้แต่ส่ายศีรษะ
“ เจ้าขาไม่ทราบเลยค่ะ ไม่กล้าเข้าไป ”
“ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปพร้อมพี่เลยดีไหม ”
“ จะดีเหรอคะพี่ภพ ”
“ ดีสิครับ พี่จะได้ถือโอกาสนี้ช่วยเจ้าขายืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วย ไปครับ ” เขาว่าพลางยื่นมือไปหา แต่เจ้าขาทำเพียงลุกขึ้นยืน
“ ขอบคุณนะคะพี่ภพ ไปกันเถอะค่ะ ”
ธนภพมองตามพลางลอบถอนใจเงียบ ๆ รู้จักกันมาตั้งนานแค่จะแตะปลายมือเธอยังไม่ยอม ไม่รู้จะหวงเนื้อ หวงตัวอะไรนักหนา
ประตูห้องถูกเคาะแล้วเปิดออก บอดี้การ์ดสองคน ลุกขึ้นยืนทำความเคารพธนภพ ส่วนคนป่วยที่นอนอยู่ บนเตียงหันมาจ้องทั้งคู่เขม็ง ดวงตาสีอำพันที่เคยคมหวาน บัดนี้มันวาวโรจน์น่ากลัวพิลึก เจ้าขาเสียวสันหลังวาบ ก้าวไปหลบด้านหลังธนภพอย่างอัตโนมัติ
“ สวัสดีครับพี่ไตร ทำไมมาไม่บอกไม่กล่าวเลยล่ะครับ ผมจะได้ให้คนไปรับ ”
“ ฉันมีมือมีตีน จะไปไหนมาไหนมาชอบเอิกเกริกยุ่งยาก แต่ก็ขอบใจที่มีแก่ใจอยากจะไปรับ ” อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น เจ้าขายิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ ไร้มารยาทที่สุด กระนั้นธนภพก็ยังยิ้มสู้
“ พี่ไตรครับ นี่น้องเจ้าขา พนักงานคนใหม่ มาทำหน้าที่เลขาของคุณแม่ครับ เจ้าขา นี่พี่ไตร ประธานบริษัท ที่สาขาเวียดนาม ”
“ สวัสดีค่ะท่านประธาน ” เจ้าขารีบยกมือขึ้นทำความเคารพ
“ ชื่ออะไรนะ ”
“ เจ้าขาค่ะ ”
“ ที่บ้านมีเชื้อเจ้าหรือไง ทำไมตั้งชื่อแบบนี้ ”
“ เปล่าค่ะ ”
“ อ๋อ หรือวอนนาบีเจ้า เห็นเอะอะก็มารยาท เอะอะก็สมบัติผู้ดี หรือที่บ้านก็เจ้า เจ้ามือป๊อกเด้งอะนะ ” พูดพลางหัวเราะขำในมุกไร้มารยาทของตน เจ้าขาโกรธจนตัวสั่นและทำให้ ลืมตัวลืมตนไปชั่วขณะ
“ แล้วคุณล่ะคะ ทำไมชื่อไตร มาจากไตปลาหรือเปล่า ”
“ ไตปลาอะไรของคุณ ”
“ เป็นอาหารทางภาคใต้ค่ะ เขาเอากระเพาะปลา มาหมักกับเกลือไว้นาน ๆ แล้วค่อยเอามาปรุงอาหาร คล้าย ๆ ปลาร้าน่ะค่ะ ” อีกฝ่ายตาลุกโพลง
“ นี่คุณหาว่าชื่อผมแปลว่าปลาร้างั้นเหรอ ! ”
ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปกว่านี้ ธนภพจึงรีบ ห้ามศึก
“ เอาล่ะ ๆ พอเถอะครับ น้องเจ้าขาไม่ได้ตั้งใจจะหมายความแบบนั้นหรอกครับ แล้วนี่พี่ไตรเป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม ”
“ เจ็บสิ แม่งบีบเข้าไปเต็มแรงซะขนาดนั้น บ้าฉิบหาย ไม่รู้จะแพนิคอะไรนักหนา คนอย่างนายไตรคงไม่ลดตัวลงไปข่มขืนใครหรอก ” ไตรตอบเหวี่ยง ๆ นั่นทำให้เจ้าขาคอแข็งบ้าง เธอเชิดหน้าขึ้นทันที
“ ฉันไม่ได้แพนิคนะคะ ก็คุณเล่นแก้ผ้าวิ่งเข้ามาในห้อง จะไม่ให้ฉันกลัวได้ยังไง ”
“ ถึงผมจะแก้ผ้าก็ไม่มีเจตนาจะทำอะไรคุณ ผมก็บอกคุณแล้ว ขออยู่ในห้องคุณสักครู่ ” ไตรเถียงคอเป็นเอ็น นั่นทำให้ธนภพแย้งขึ้นบ้าง
“ แล้วพี่ไตรแก้ผ้าแล้ววิ่งเข้าไปในห้องของเจ้าขา ด้วยเหตุผลอะไรกันล่ะครับ ” คราวนี้อีกฝ่ายหลบสายตา อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ คงจะหาคำตอบมาโกหกไม่ได้สินะ หลักฐานมันมัดตัวซะขนาดนั้น เจ้าขาแอบยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ
“ ก็แก้ผ้านอนตามปกติ ” เขาอ้อมแอ้มตอบ
“ แล้ววิ่งไปในห้องของเจ้าขาทำไม ” ธนภพจี้อีกครั้ง อีกฝ่ายตอบมาด้วยเสียงเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด
“ จิ้งจก ”
“ อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยิน ”
“ ในห้องมันมีจิ้งจก หูแตกหรือไงวะ ! ” เขาพูดเสียงดังขึ้น เจ้าขารีบก้มหน้าหลบ กลัวจะเสียมารยาทหลุดขำออกไป
คนบ้าอะไรตัวใหญ่อย่างกับช้างแต่กลัวจิ้งจก !