หลังจากที่จัดการทำความสะอาดถ้วยชามและโต๊ะรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ฉันก็รีบเดินเข้าไปรอไบรอันในห้องนอน
จริง ๆ แล้วเราสองคนนอนห้องเดียวกัน ฉันนอนบนเตียงตัวใหญ่ส่วนไบรอันนอนบนโซฟาตัวยาวตรงมุมห้อง เขาเสียสละให้ฉันทุกอย่างแม้แต่ที่นอนนุ่ม ๆ ของเขาเอง สุภาพบุรุษสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ
แต่ปกติแล้วไบรอันก็กลับห้องดึกดื่นทุกวันฉันตื่นมาเห็นเขาอีกทีก็ตอนที่เขาหลับอยู่บนโซฟาแล้ว ตอนนี้จึงไม่แน่ใจว่าควรจะวางตัวแบบไหนในยามที่อยู่ห้องนอนด้วยกันสองต่อสอง แค่คิดถึงตอนที่ตัวเองพลาดท่าเสียหลักไปนั่งบนตักของเขา แก้มสองข้างที่เคยขาวผ่องก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
“นายจะทดสอบอะไรฉันเหรอ?” ฉันเอ่ยถามไบรอันทันทีที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ตะ...แต่ทว่า ท่อนล่างของเขานุ่งเพียงผ้าขนหนูสีขาวปล่อยท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ ฉันรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที แก้มที่แดงระเรื่ออยู่แล้วก็ยิ่งแดงเข้มกว่าเดิม
“ลุกขึ้น” เพียงแค่เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูก็ทำเอาฉันสะดุ้งตกใจและเขินอายในเวลาเดียวกัน ฉันดีดตัวลุกขึ้นทั้งที่ยังหันหน้าไปทางอื่น ใจดวงน้อยของฉันมันเต้นแรงจนต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมไว้
“นะ...นายมีอะไร”
“หันหน้ามา” ฉันหันหน้าไปหาไบรอันช้า ๆ เขานั่งเช็ดผมที่เปียกชุ่มอยู่บนเตียงนอน ก่อนจะโยนผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่ตรงบ่ามาให้ฉัน “มาเช็ดผมให้ฉันหน่อย”
ฉันที่ตั้งท่ารับผ้าขนหนูผืนเล็กแทบจะไม่ทันได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนหน้านั้นคิดไปถึงไหนต่อไหน เมื่อตั้งสติได้ฉันจึงสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วทำตามคำสั่งของเขาโดยง่าย
“นาย...”
“ที่ฉันทดสอบเธอก่อนหน้านี้ ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอมีทักษะป้องกันตัวแค่ไหน” ฉันกำลังจะเอ่ยถามเขาอีกครั้งแต่ไบรอันก็บอกจุดประสงค์ของเขาออกมาก่อน ฉันจึงได้แต่เอียงคอเล็กน้อยพลางแสดงสีหน้าเชิงคำถาม ทั้งที่สองมือก็ยังไล้เช็ดผมที่เปียกชุ่มให้เขาอย่างต่อเนื่อง “เธอจะอยู่กับฉันตลอดไปไม่ได้ วันหนึ่งเธอก็ต้องกลับไปอยู่ในที่ของเธอ ตอนนี้ฉันจัดการงานที่ต้องทำเรียบร้อยแล้วเหลือแค่เข้าไปคุยธุระกับนายนิดหน่อย”
“แล้ว...”
“ฉันจะสอนทักษะการป้องกันตัวให้กับเธอ ถ้าฉันมั่นใจว่าเธอสามารถปกป้องตัวเองได้เมื่อไหร่ ฉันถึงจะปล่อยให้เธอออกไปข้างนอกได้”
“เพราะอย่างนี้ใช่ไหมนายถึงไม่ให้ฉันออกไปไหนในตอนที่นายไม่อยู่ นายเป็นห่วงฉัน...ใช่ไหม?” ฉันพูดพลางอมยิ้มให้ไบรอันแต่เขากลับทำสีหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“หึ ตัวก็แค่นี้...ทักษะเอาตัวรอดก็ไม่มี เธอต้องคิดพิจารณาตัวเองให้ดีนะว่าไปทำอะไรกับใครเขาไว้ ถึงได้มีคนตามไล่ล่าเธอถึงขั้นเอาชีวิต”
“ขนาดชื่อตัวเองฉันยังไม่รู้เลยแล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉันไปทำอะไรใครไว้”
“เอาเถอะช่างมัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันคุยธุระกับนายเสร็จ ฉันจะมาสอนทักษะการป้องกันตัวเบื้องต้นให้กับเธอแล้วกัน” พูดจบ ไบรอันก็ดึงผ้าขนหนูผืนเล็กจากมือของฉัน ซึ่งฉันก็รีบยื้อแย่งผ้าขนหนูนั้นไว้พร้อมเอ่ยถามในสิ่งที่อยากรู้ไปอย่างไม่ลังเล
“นายทำงานอะไรกันแน่ การที่นายจะสอนทักษะป้องกันตัวให้ฉัน นายก็ต้องมีความชำนาญมันในระดับหนึ่ง”
“ลองเดาดูสิ ฉันอาจจะทำในสิ่งที่เธอคิดไว้อยู่แล้วก็ได้” ไบรอันพูดพร้อมก้มหน้ามามองหน้าฉันใกล้ ๆ ปลายจมูกของเราแทบจะสัมผัสกันอยู่รอมร่อ ใจดวงน้อยของฉันมันจะไปเหลืออะไรเล่า เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากเบ้าอยู่แล้ว คนบ้า! ชอบทำให้ฉันคิดประเจิดประเจ้ออยู่เรื่อยเลย ยังไม่ทันจะได้เขินไบรอันก็พูดจาแดกดันใส่ฉันตามนิสัยของเขาเหมือนเคย “แต่ฉันว่าการที่เธออยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง มันอาจจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเธอตกอยู่ในสภาพนี้ก็ได้นะ”
ว่าจบเขาก็ดึงผ้าขนหนูจากมือของฉันไปเช็ดผมของตัวเองต่อพร้อมเดินไปแต่งตัวจากอีกโซนหนึ่งของห้อง ปล่อยให้ฉันนั่งหน้าเหวอ อยู่คนเดียวตามลำพัง
“ไม่หล่อแล้วยังปากร้ายอีก”
ฉันพึมพำเสียงเบาแล้วกระทืบเท้าปึงปังเดินไปหยิบผ้าขนหนูและชุดนอนเข้าไปในห้องอาบน้ำ
หลังจากที่ฉันจัดการธุระส่วนตัวทาครีมทาแป้งเสร็จเรียบร้อย ฉันก็ย่องเบามาที่เตียงนอนเงียบ ๆ ไบรอันได้หลับไปแล้ว ฉันจึงไม่อยากส่งเสียงดังรบกวนเขา
สองมือน้อยดึงผ้าห่มมาปกคลุมร่างกายของตัวเองทั้งที่สายตามองคนที่หลับอยู่บนโซฟามุมเดิม ฉันนอนมองไบรอันอยู่เงียบ ๆ ด้วยความคิดที่มากมายในสมองน้อย ๆ
การที่มีเขามันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจจัง~
ฉันพลิกตัวไปมาบนเตียงกว้างอย่างกระสับกระส่าย รู้สึกนอนไม่ค่อยหลับ การที่ฉันฝันร้ายทุกวันมันทำให้ฉันกลัวการนอนหลับไปเลย ฉันพลิกตัวหันไปมองไบรอันเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับตัวเอง ไม่รู้ทำไม...เห็นหน้าเขาแล้วรู้สึกใจชื้นขึ้นมาทุกที
ฉันผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะตัดสินใจลุกลงจากเตียงเพื่อไปหาไบรอันที่หลับอยู่บนโซฟาตัวยาวตรงมุมห้อง ฉันคุกเข่าลงแล้วจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของไบรอันใกล้ ๆ คนอะไรขนาดนอนหลับก็ยังหล่อ
“อืม~” ไบรอันครางในลำคอเบา ๆ เขาขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมามองฉัน “จะทำอะไร”
“คะ...คือ...ฉันนอนไม่หลับ”
“นอนไม่หลับแล้วมาจ้องฉันทำไม”
“คือ...”
“กลับไปนอนที่ของเธอ” ไบรอันพูดแล้วส่งสายตาไปยังเตียงกว้าง ฉันก็ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างดื้อรั้น ก่อนที่ไบรอันจะพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว “ไปนอน!”
“ฉันขอมองนายแบบนี้จนกว่าจะง่วงไม่ได้เหรอ นะ...ไบรอัน”
“ไป...นอน” คราวนี้เขาเน้นเสียงพูดทีละคำด้วยสีหน้านิ่ง ๆ เขาคงเอือมระอากับฉันเต็มทนถึงได้ไล่แล้วไล่อีก ฉันก็ได้แต่เบ้ปากราวกับเด็กน้อยกำลังจะร้องไห้พร้อมกับทำตามคำสั่งของเขาอย่างจำใจ แต่ทว่า...
หมับ!
ไบรอันคว้าข้อมือของฉันเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงฉันเข้าไปจุมพิตเบา ๆ ฉันไม่ได้ขัดขืนเพียงแค่หลับตาลงพร้อมเปิดปากรับรสจูบของเขาอย่างเต็มใจ
“เธอไม่ควรไว้ใจใครแม้แต่ฉัน” เขาพูดหลังจากที่ถอนจูบออกจากปากอวบอิ่มของฉัน ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกนอกจากงุดหน้าลงเล็กน้อยด้วยความเขินอาย
“ฉันไว้ใจนาย...”
“เธอไม่ควรไว้ใจใคร! ไปนอนได้แล้ว” น้ำเสียงของไบรอันจะว่าตำหนิก็ไม่ปาน อะไรเนี่ย...เขาเป็นคนดึงฉันไปจูบแท้ ๆ แล้วทำไมฉันต้องโดนเขาทำสีหน้าไม่พอใจใส่ด้วย
“ชิ!” ฉันกระแทกเท้าปึงปังเดินไปยังที่นอนของตัวเอง ก่อนจะหันมาเบ้ปากใส่ไบรอันด้วยท่าทางกระเง้ากระงอด ไบรอันก็พลิกตัวเพื่อจะนอนหันหลังให้ฉัน
ไม่สนใจกันอีกแล้ว...คนขี้เก๊ก!
ฉันนึกในใจพลางยกกำปั้นทำราวจะทุบหัวเขา ฉันก็ทำได้แค่นั้นแหละ ก่อนไบรอันหันมามองฉันพร้อมชี้นิ้วทำท่าทางเหมือนสั่งให้ฉันนอน ฉันจึงเนียนท่ายืดเส้นยืดสายแทนก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้เขาบ้าง
.
.
.
.
.
มาแล้วค๊าบ
งื้อ...เขาจูบกัน
คอมเมนต์พูดคุยกันน๊า