Chapter 1 / No & Not
‘อยู่เป็นเพื่อนกัน แบบนี้ตลอดไปเลยนะ’
คำ ๆ นี้ ดังกึกก้องในโสตประสาทหูของฉัน วันละหลาย ๆ รอบ
อย่าชอบเพื่อนเด็ดขาด สมองด้านดีออกคำสั่ง
รักไปเถอะ พังค่อยถอย ส่วนเลวร้ายบอกสั่งให้ลุย
ฉันเป็นแค่ผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ไม่ได้สวยมากหรือมีความพิเศษอะไร หน้าตาพอถูไถกลมกลืนไปกับกลุ่มเพื่อน ฐานะก็พอมีพอกิน ฉันเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียนในเมืองหลวง
พ่อแม่ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มาก แค่จบมีงานทำ เท่านั้นท่านก็ดีใจมากแล้ว
ฉันอยู่หอพักราคาย่อมเยา ห้องอาจแคบ พื้นที่ใช้สอยมีน้อย แต่สำหรับคนกินง่ายอยู่ง่ายแบบฉัน มันโอเคแล้ว
ฉันเป็นคนนิ่ง ๆ ยิ้มยากสักนิดนึง พูดมากเป็นบางครั้ง ไม่ค่อยงอแงกับอะไรงี่เง่า เป็นคนมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง
“นี่ไอโน หมูกระเทียมอีกแล้วนะ เปลี่ยนเมนูบ้างไหมแก”
ไหล่มนของฉันถูกบีบเบา ๆ เก้าอี้ด้านข้างถูกเลื่อนออก พร้อมกับมีร่างสวยของเพื่อน ที่เข้ามานั่งชิดกัน
โน... คือชื่อของฉัน ฉันชื่อ อโณทัย ชื่อเล่นก็เลยได้มาแบบง่าย ๆ ว่า 'โน'
“ก็ป้าร้านนี้ผัดอร่อย ขี้เกียจคิดเมนูด้วย อันนี้แหละ ง่ายดี”
ฉันตอบพลางมองหน้าเธอ ใบหน้าสะสวย แต่งแต้มสีสันเป็นโทน ๆ ในแต่ละวัน ซึ่งวันนี้ มาแนวคิ้วท์คิขุเชียว หวานชมพูมาแต่ไกล ยิ่งมองใกล้ ๆ แบบนี้ก็คิดว่าเฉดสีแนวนี้ เธอคงละเลงมาทุกแบรนด์เชียวค่ะ
“ดูไอ้ฟืนดิ เมนูสุดแปลก บ้านมันคงไม่เคยให้กินไข่เค็ม”
นารา ว่าพลางเบ้ปากมองฟืน ผู้ชายสุดหื่นแต่รักเพื่อนเป็นที่สุด เขาชอบมีสาว ๆ ไม่ขาดมือ แต่ก็ยังไม่ลงหลักปักฐานว่าจริงใจกับคนไหน
ผู้ชายอย่างฟืน คงต้องเจอผู้หญิงที่หื่นกว่ามั้ง ถึงจะสยบได้
“ระวังกูเจาะไข่แดงเค็มของมึง เดี๋ยวก่อน เจอกูแน่อีนา”
ฟืนว่าพลางตักไข่แดงเข้าปาก การพูดแบบนี้ เป็นปกติของพวกเรา ตบมุขรับมุขกันอย่างสนุกสนาน เวลาฉันอยู่กับเพื่อนสองคนนี้ ก็จะคึกครื้นหน่อย แต่กลุ่มเพื่อนของเรา ยังมีอีกสองคน ชายอีกหนึ่ง ครึ่งชายครึ่งหญิงอีกหนึ่ง
“ร้อนมากจ้า กะเทยอึดอัดมาก”
ที แต่ชอบให้เพื่อนเรียกทีน่า เดินมานั่งรวมกับพวกเรา พร้อมกับสะบัดคอเสื้อโชว์ความขาว ด้วยอากาศบ่ายแก่แบบนี้ ทำให้ทีถึงกับต้องสลัดคราบตุ้งติ้ง เหลือเพียงผู้ชายผิวขาวที่บ่นว่าอากาศมันอบอ้าวเท่านั้นเอง
“แล้วทำไมต้องกอดไอโนด้วยเนี่ย”
ฟืนตบไหล่ทีดังเปรี้ยะ! ฉันกลายเป็นหมอนที่เพื่อน ๆ ชอบกอดมากที่สุด
มันสนุกตรงที่พวกนี้ ตีกันจริงจังมาก ไม่กลัวว่าเพื่อนจะเจ็บแม้แต่น้อย
“ก็ไอโนมันน่ากอด”
ทีว่าพลางกอดแขนฉันแบบอ้อน ๆ เพื่อนแค่แกล้งกันน่ะ ฉันไม่สวยขนาดนั้นหรอก!
“อยู่กันมาสามปี กอดโนไม่เคยเบื่อเลยไง”
ฟืนจ้องทีเขม็ง เราเรียนด้วยกันมาสามปีแล้วค่ะ
“โนเป็นของกู พวกมึงหลีก”
นาราเข้ามาแทรกกลางวง เราชอบเล่นกันแบบนี้ แต่ละวันก็เปลี่ยนกันแย่งกัน แต่ฉันจะโดนบ่อยสุด เพราะพูดน้อยสุดเลย
หมายถึงฉันไม่ค่อยห้ามพวกเขาไม่ว่าจะลากจูงฉันไปทางไหน เพื่อนก็พากันได้ใจ แล้วทุกครั้งหวยมาออกที่ฉัน นาราก็มักจะหอมไหล่ฉันเป็นรางวัล
รางวัลที่ตัวฉันเปลืองเนื้อหนังมากที่สุด.....
“อายคนอื่นบ้าง โนก็ไม่คิดจะห้ามเพื่อนเลยไง”
ระหว่างที่เรากำลังวุ่นกันอยู่นั้น ก็มีเสียงของเพื่อนอีกคนดังขึ้น พร้อมกับแรงกระชากจนนารา ทีน่า ไม้ฟืน แตกแยก กระจายกันไปคนละทิศละทาง
ใครคนนั้นตรงเข้ามานั่งข้างฉัน เขาโอบไหล่ฉัน พลางดันเพื่อนทุกคนออกห่างจากฉัน
ตอนนี้ เขาทำเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉัน ทั้งที่เขาคือเจ้าของประโยคนั้น ประโยคที่ยังดังกึกก้องในหูของฉัน
“ยุ่งอะไร เชี่ยน็อต”
ฟืนว่าแบบเคือง ๆ เขามองมือของน็อตที่โอบไหล่ฉัน แล้ววางกำปั้นลงเต็มแรง
นี่ถ้าน็อตเอามือออกนะ ไหล่ฉันไม่เขียวเลยเหรอ?
“เลิกวอแวโนสักที นี่ก็ด่าเพื่อนบ้าง ปล่อยให้พวกมันได้ใจอยู่ ใจดีเกินคน”
ฉันส่ายหน้าให้กับคำต่อว่า มันก็ไม่เห็นจะต้องซีเรียสอะไรรึเปล่า เราก็ยังเป็นเด็กสิบเก้า อาจจะใกล้ยี่สิบ แต่ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามอายุนี่นา ทำตัวไร้สาระบ้างจะเป็นไร
“ปล่อยไหล่โนเถอะ เดี๋ยวพวกสาระแนก็เอาไปฟ้องเมียมึง ถ้าโทรมาด่าโนอีกรอบนะ กูจัดแน่ ดาราแล้วไงล่ะ แหม...... ”
นาราเบ้ปาก แล้วผลักน๊อตออกจากฉัน ตัวเธอเข้ามาแทรกนั่งแทนที่น็อตอย่างไวเลย
น็อตมีแฟนแล้ว แต่เธอเป็นดาวรุ่งที่กำลังบูมเลย น้อยคนจะรู้ว่าน็อตกับเธอเป็นแฟนกัน แต่คนที่รู้ก็ดันอยู่คณะเดียวกันกับเรา ไม่ว่าใครใกล้ชิดน็อต ก็จะโดนเธอโทรมาต่อว่า ไม่เว้นแม้กระทั่งทีน่า ที่มีร่างกายเช่นเดียวกับน็อตก็โดนเหมือนกันค่ะ
ขณะที่น็อตกำลังจะอ้าปากอธิบาย ก็มีสายเข้าซะก่อน ซึ่งอย่าเดาว่าใคร ก็ปีใหม่แฟนสาวของน็อตนั่นแหละ
“ไปที่ไหนก็ไป ไปคุยไกล ๆ พวกกู”
ที โบกมือไล่ น็อตเลยรีบคว้ามือถือวิ่งออกไปให้ห่างไกลจากพวกเรา มันจะเป็นอะไรที่ดูจะปกติใช่ไหมคะหากมันแค่เพื่อนกัน
สำหรับฉันมันมากกว่านั้น เพราะฉันคิดกับน็อต มากกว่าเพื่อนไปนานแล้วน่ะสิ...