ร่างกายนุ่มนิ่มเดิมทีอยู่ไกลๆ ก็ยังมีกลิ่นหอมอ่อนโชยมาเป็นทุนเดิม วันนี้ได้สูดดมใกล้ๆ ทำให้ตนมิอาจถอนตัว ทุกคืนต้องทนถูกนางกอดไว้โดยไม่แตะต้องทั้งที่ใจปรารถนา ไห่เทาเองแม้เว้นระยะห่างออกจากผู้คนแต่ก็เป็นบุรุษเช่นกัน ใบหน้าหล่อเหลาก้มซุกลำคอขาวพร้อมขบเม้มตีตราตามสัญชาตญาณที่ถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น
“อื้อ!” นางสะดุ้งเมื่อริมฝีปากร้อนจัดประทับจูบตรงจุดชีพจร มือเล็กที่ทาบวางลงบนอกแกร่งเผลอขยุ้มเสื้อคลุมจนมันยับย่นไปหมด
“….” คนตัวโตผละออกจากซอกคอหอม สายตาทั้งสองประสานกันราวต้องมนต์ นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ดวงตาสีท้องฟ้ายามค่ำคืนของเขามันงดงามมากถึงเพียงนี้
“เหม่ยหลิง...” เสียงทุ้มเย็นชากล่าวเรียกชื่อนางอย่างโหยหา มือใหญ่ประคองดวงหน้าพริ้มเพราพลางกวาดนัยน์ตาคมจับจ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อ แรงดึงดูดเชิญชวนให้พวกเขาเข้าหากันอย่างอ้อยอิ่ง
“อื้อ” เหอไห่เทาละเมียดละไมกลีบปากบางจนร่างเล็กอ่อนระทวยลงบนอกกว้าง แขนแกร่งเปลี่ยนมาอุ้มนางขึ้นเพื่อวางลงอย่างนุ่มนวลบนเตียงนอน
รุ่ยอ๋องแม้หล่อเหลาเกินใครกลับมีอุปนิสัยเย็นชาสงวนวาจา ชอบวางท่านิ่งเฉยสง่างาม ซ้ำยังเว้นระยะกับคนรอบกายไม่มีมิตรสหายสนิทสนม บุรุษยังไม่ข้องเกี่ยวนับประสาอะไรกับสตรี แต่การกระทำของเขาเวลานี้หาใช่มือใหม่ไม่...ออกจะช่ำชองเลยด้วยซ้ำ
จุมพิตหวานล้ำแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มือสากข้างที่ว่างอยู่ดึงเอาสายรัดเอวซึ่งเป็นดั่งปราการด่านสุดท้ายออก เรือนกายเปลือยเปล่านวลผ่องต้องแสงจันทร์ชวนให้ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายฝืดเหนียวลงคอแห้งผาก แม้ช่วงที่นางบาดเจ็บจะเคยเห็นมาบ้างแต่ก็มิได้มานั่งพิจารณาเช่นเวลานี้ ส่วนใดควรมีก็มีครบถ้วนซ้ำแล้วยังดูอวบอิ่มน่าสัมผัส บางส่วนที่ควรเล็กก็แบบบางเสียจนใช้สองมือโอบมิด
“ยะ อย่ามองนะ” นางจะรู้หรือไม่ว่าแววตาที่ส่งมานั้นปลุกเร้าอารมณ์ผู้ล่าได้ดีเพียงใด
เขาผละกายออกทิ้งช่วงให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอก่อนที่จะปลดเสื้อผ้าหลุดลุ่ยของตนออกจากกาย
ร่างสมส่วนกำยำใช่เล่นสมกับที่เป็นนักรบเจนสนาม ไหล่กว้าง อกแน่น ช่วงแขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามและหน้าท้องเป็นลอนสวยซึ่งถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้ามาตลอด
“ข้าจะทำต่อแล้วนะ ถ้าเจ้าไม่ต้องการก็ผลักออกแล้วข้าจะออกไปทันที” เจ้าของนัยน์ตาคมกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง สายตาคู่นั้นสะท้อนความอดทนที่พร้อมจะขาดสะบั้นตลอดเวลา หญิงสาวที่มีสีหน้าตกตะลึงไม่น้อย นางไม่ตอบอะไรแต่กลับดึงอีกฝ่ายเข้าหา ตัวเหม่ยหลิงเองก็โหยหาเขามากเช่นกัน
“ตอนที่ท่านจูบ..ข้ารู้สึก...ดี” ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านมิอาจดับลงหากไม่ได้เขาช่วยบรรเทา กระนั้นเรื่องเช่นนี้หากมิใช่ว่าบุรุษตรงหน้าคือพระสวามีอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม นางก็คงเลือกใช้กระบี่ที่มารดามอบให้ปาดคอไปเสีย
“งั้นรึ ถ้ายาหมดฤทธิ์ยังจะพูดแบบนี้อยู่หรือไม่” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนก้มลงไปจูบหญิงสาว มือสากลูบไล้เรือนร่างเปลือยเปล่าพร้อมทั้งกอบกุมเต้าหู้นุ่มขนาดเต็มมือด้วยความชอบใจ
นิ้วยาวหยอกล้อกับยอดถันสีอ่อนจนมันเริ่มชูชันเป็นไต ท่านอ๋องผละจากลำคอระหงที่ตนทิ้งรอยแดงจางเอาไว้ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปอีก
“อ๊า!” ร่างเล็กสะดุ้งตัวเมื่อเต้าอิ่มถูกริมฝีปากได้รูปเข้าครอบครอง เขาสลับดูดดึงไปมาจนนางส่งเสียงน่าไม่อายโดยไม่ได้ตั้งใจ ความเสียวซ่านเกินควบคุมเป็นเช่นนี้เอง...ยิ่งกว่าที่เคยได้ยินมามากนัก
บางสิ่งซึ่งร้อนพอๆ กับริมฝีปากที่กำลังปรนเปรอนางอยู่ชนเข้ากับเรียวขาอ่อน ขณะที่สมองยังไม่ทันได้คิดสิ่งใดมากกว่านั้นนิ้วยาวก็แทรกเข้ามายังบุปผาฉ่ำวาวเสียก่อน
“แบบนี้...เข้าไปไม่ได้แน่” ส่วนกลางชื้นแฉะชุ่มไปด้วยน้ำหวานแล้วก็จริงแต่มันคับแน่นเสียจนแค่สอดใส่นิ้วยังลำบาก หากเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นจะเป็นเช่นไร
เหม่ยหลิงหายใจเหนื่อยหอบ สมองของนางพร่าเบลอจนไตร่ตรองสถานการณ์ลำบากยิ่ง หากยามปกติมีชายใดกระทำการรุกล้ำร่างกายนางเพียงนิดคงถูกถีบออกไปก่อนจะจัดการทิ้งให้สิ้นชื่อ ทว่ายามนี้กลับรู้สึกต้องการสัมผัสจากพระสวามีใจแทบขาด
ราวกับว่าคิดสิ่งใดได้สิ่งนั้น ยังไม่ได้ตั้งตัวสองขาเรียวดุจกิ่งหลิวก็ถูกมือใหญ่จับแยกออก เหอไห่เทาซุกวงหน้าเข้าหาความเป็นหญิงพร้อมใช้ลิ้นสากตวัดเลียเย้าหยอกจนคุณหนูอี้ครางกระเส่า
“ถ้าเสียงดังกว่านี้คนอื่นจะได้ยิน” ต่อให้วาจาจะกล่าวเช่นนั้นแต่เจ้าตัวกลับรู้สึกตรงกันข้าม เขาอยากรังแกนางมากกว่าเดิมเสียอีก ดวงเนตรสีดำสนิทช้อนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่านยากก่อนลากสิ้นสากไปตรงจุดกึ่งกลางความชื้นแฉะพร้อมกับใช้นิ้วสอดเข้าออกหมายขยายทางคับแคบให้อ้ากว้าง
“ขะ ข้า อื้อ…ท่านอ๋อง อ๊า!” ร่างบางกระตุกเกร็งก่อนปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจากช่องทางเปียกโชก ความต้องการของนางถูกบรรเทาลงบ้างแล้วก็จริงแต่สวนทางกับชายหนุ่มที่ทวีความโหยหามากขึ้นจนเกินดับ
นิ้วยาวค่อยๆ ถูกสอดใส่เพิ่มเข้าไปอีกนิ้วและเริ่มขยับ ทรวงอกอวบกระเพื่อมไหวตามแรงกระแทกกระทั้น ใบหน้าสวยหวานของนางแสดงสีหน้ายั่วยวนเสียจนไห่เทาเผลอหนักมือเกินไป
“อะ...อ่า ไห่เทา ข้าต้องการท่าน” พอรู้ตัวว่าตนเองเผลอเอ่ยนามของบุรุษสูงศักดิ์ สองมือน้อยก็รีบเลื่อนมาปิดปากทันที
“เรียกสิ ข้าอนุญาต” ใบหน้าหล่อเหลาซุกซบลำคอขาวพลางขบกัดผิวจนมีแต่ร่องรอยกลีบดอกไม้ ฝ่ามือแสนซุกซนก็นวดเฟ้นอกอิ่มไม่ปล่อย
“ไห่เทา” เวลานี้ความต้องการของหญิงสาวมิต่างกับแก้วไร้ก้น เติมน้ำลงไปเท่าใดก็ไม่อาจเต็ม
คนด้านบนพ่นลมหายใจร้อน เสียงเพรียกหาที่กล่าวนามเขาซ้ำๆ จนชายหนุ่มอยากทำให้นางเรียกชื่อเขาคนเดียวไปทั้งคืน
“เจ้าอยากให้ข้าปล่อยเจ้ากลับไป แต่ข้าคงบันดาลความปรารถนานั้นให้ไม่ได้อีกแล้ว” ความจริงแล้วเรื่องราวของพวกเขาเกินย้อนคืนกลับตั้งแต่วินาทีที่ตนแตะต้องนางด้วยความต้องการ แต่ว่าหลังจากนี้ต่อให้นางอยากหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวเพียงใดเขาก็คงมิอาจยินยอมให้มันเกิดขึ้น
“อ๊า!” ร่องชุ่มน้ำถูกบางสิ่งเบียดเข้ามา คำว่าร่างกายถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือสิ่งใดนางเข้าใจได้แล้วในวันนี้
เจ็บจัง....
“อืม เหม่ยหลิง” คนด้านบนเอ่ยเรียกก่อนที่จะประกบริมฝีปากลงมาหวังให้นางช่วยเมตตาคลายความเกร็งแน่นให้เขาลงบ้างแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี
“แน่นเกินไปแล้ว” สิ่งนั้นเสียบคาไว้ยังใจกลางความเป็นหญิงโดยไม่ขยับเขยื้อนอยู่พักใหญ่เพื่อให้อีกฝ่ายปรับตัว
“อื้อ!” มือหยาบเคล้นคลึงอกนุ่มพร้อมทั้งสำรวจเรือนร่างอรชรไปเสียทุกส่วน ก่อนจำต้องผละออกจากกลีบปากบางเมื่อเห็นว่านางใกล้ขาดอากาศหายใจและเปลี่ยนไปขบเม้มลำคอที่มีจ้ำแดงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของคนงาม ขณะเดียวกันเอวสอบก็เริ่มเคลื่อนไหว เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่อความเจ็บปวดเริ่มเจือจางและถูกแทนที่ด้วยความกระสัน
“เจ้าทำให้ข้าไม่อยากอ่อนโยนแล้วจริงๆ” อ๋องหนุ่มเอ่ยเสียงสั่นพลันขยับสะโพกเบียดท่อนเอ็นลำหนาเข้าออกภายในช่องเนื้อคับแคบจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังตามจังหวะตอกตรึงของเขา
“อ่า อ่า อ้า อื้อ ไห่เทา ชะ ช้าลงหน่อย” คนใต้ร่างแกร่งกล่าวขออย่างเว้าวอน
“ซี้ด เหม่ยหลิง...” เรื่องที่นางขอมามันเป็นไปไม่ได้เลย ตั้งแต่ทั้งคู่ตกอยู่ภายใต้พิษความเสน่หา เขาก็มิอาจควบคุมความกระหายของตนเองได้อีกต่อไป
พั่บ พั่บ พั่บ
ส่วนแข็งขืนกระทั้นเข้าส่วนอ่อนนุ่มเดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าจนนางปรับตามไม่ทัน ทุกสัมผัสที่ลากผ่านครูดกับจุดอ่อนไหวด้านในของหญิงสาว เหม่ยหลิงจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายอารมณ์ ผนังอ่อนนุ่มตอดรัดกระตุกแรงก่อนที่จะถึงสวรรค์ในหนที่สอง
ช่องสวาทเต็มไปด้วยธารน้ำใสโอบรอบแก่นกายปูดบวมทำให้การเคลื่อนไหวของเขาลื่นไหลมากขึ้น ความใหญ่โตสอดแทรกร่องฉ่ำพร้อมเอวสอบโยกเข้าออกถี่ระรัว
“อะ อื้อออ อ้าๆๆ” เสียงหวานร้องลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อครู่นางเพิ่งเสร็จไปแต่หากรุ่ยอ๋องยังไม่ยั้งมือแบบนี้มีหวังคงเป็นนางอีกที่จะถึงฝั่งปรารถนา
“ซี้ดดด อ่า” ชายหนุ่มขบกรามแน่น
ไม่นานน้ำรักระลอกแรกก็ท่วมท้นล้นโพรงอุ่นร้อน แต่เพียงเท่านั้นยังน้อยเกินกว่าจะดับเพลิงราคะที่คุกรุ่นของพวกเขาได้
ทั้งสองสวมกอดกันจนร่างกายแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากแนบชิดตวัดลิ้นนุ่มแลกเปลี่ยนความหวานซึ่งกันและกันโดยที่ไห่เทาไม่ถอดถอนแท่งหยกออกจากร่างของเหม่ยหลิงเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ปล่อยให้นางพักครู่หนึ่งเขาก็เบียดส่วนเชื่อมประสานเข้าหาและเร่งจังหวะจากเนิบช้าอ่อนโยนจนแปรเปลี่ยนเป็นรุกเร้ารุนแรง ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม (1 ชั่วโมง) ร่างบางก็รับรู้ถึงความอุ่นวาบในช่องทางรัก