หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
เวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับฉันแค่กะพริบตาครั้งเดียว ทุกอย่างรอบตัวก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รวมถึงความรู้สึกของฉันด้วย ฉันพึ่งเห็นทางสว่างของตัวเองว่าการที่ไม่มีเขามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น หนึ่งอาทิตย์กับการพักฟื้นจิตใจตัวเองและในหนึ่งอาทิตย์สำหรับการเปลี่ยนแปลงจากรินรดาคนใหม่
ยัยรินรดา ยัยเฉิ่มนั่นมันตายไปแล้ว..
ต่อไปนี้เหลือแค่รินรดาคนที่จะไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบง่ายๆ อีกแล้ว เวลาที่ผ่านมามันอาจจะไม่เยอะพอที่จะทำให้ฉันลืมเรื่องราวที่ผ่านมาได้ แต่มันทำให้ฉันเข้มแข็งมากกว่าเดิม อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ..ทำไมฉันต้องเสียเวลาเสียใจ เอามาล่าผู้ใหม่ไม่ดีกว่าหรือไงกัน
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันไม่ได้ไปเรียนเลย ขิมเองก็รู้เรื่องและเธอก็เข้าใจฉันดี ฉันใช้เวลาอยู่กับตัวเองยี่สิบสี่ชั่วโมง พยายามเข้าใจตัวเองให้มากว่าสิ่งไหนที่ทำให้ตัวเองไม่ชอบ ไม่สบายใจก็ให้เลี่ยงออกห่าง อะไรที่เห็นแล้วจะทำให้ตัวเองคิดเยอะ ใจอ่อนฉันจะเลี่ยงให้หมด
รินรดาคนที่จืดชืด น่าเบื่อ ไม่มีรสชาติ มันตายไปซะที
ใครบอกว่าเวลาแค่นี้มันน้อยไป ฉันว่ามันมากพอที่จะทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง เพียงแค่อยู่กับตัวเองให้มากๆ แล้วก็หันกลับมารักตัวเองบ้างก็เเค่นั้น
จากนี้ไป ..เขาคือผู้ที่จะถูกฉันล่าบ้าง
"รินเสร็จยังลูก ป๊ารออยู่นะ"
"ค่ะ เสร็จแล้วค่ะม๊า"ฉันตอบกลับม๊าไป ก่อนจะหมุนดูตัวเองในวันไปเรียนวันแรก เสื้อนักศึกษาตัวโคร่งถูกฉันโละทิ้งไปหมดแล้ว กระโปรงพีชยาวก็ถูกฉันโละทิ้งไปเช่นกัน เหลือแค่เสื้อนักศึกษารัดคับติ้วจนกระดุมปริออกเห็นบาร์ชั้นในสีดำลายลูกไม้ชัดเจน กระโปรงทรงเอเข้ารูปเลยเข่าขึ้นมาคืบกว่า ซึ่งฉันเป็นคนสั่งทำพิเศษ
ใบหน้าถูกแต่งเติมไปด้วยเครื่องสำอางยี่ห้อละหลายสตางค์ ริมฝีปากของฉันจากที่เคยซีดตอนนี้มันถูกเติมแต่งด้วยลิปสติกสีสวย พอตัดกับผิวขาวสว่างของฉันแล้วมันเลยดูโดดเด่นขึ้นมาทันที แถมวันนี้ฉันเลือกที่จะปล่อยผมให้ยาวสยายไปข้างหลังอีกด้วย
รินรดาคนเดิมไม่เคยแต่งหน้า แต่รินรดาคนนี้ต้องทำได้ทุกอย่าง
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
พอถึงมหาวิทยาลัยฉันก็เอี่ยวตัวไปหยิบกระเป๋าใส่กระดาน ซึ่งฉันเองก็ได้ยินเสียงป๊าถอนหายใจออกมาหลายครั้ง ป๊าคงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่เห็นลูกสาวคนเดียวแต่งตัวแบบนี้ แต่ฉันจะอยู่ในขอบเขตและจะไม่มีวันทำให้พวกเขาเสียใจเพราะมีลูกแบบฉันแน่นอน
"ริน.. ป๊าไม่อยากให้หนูใส่สั้นเลยลูก"
"ขอโทษนะป๊า แต่รินสัญญาจะไม่ทำอะไรให้ป๊ากับม๊าต้องเสียใจแน่นอน ไม่ต้องกังวลนะคะ" เอาจริงๆ นะฉันก็แอบเป็นห่วงความรู้สึกป๊าเหมือนกัน แต่ถ้าฉันตัดสินใจทำอะไรแล้ว รับรองว่าครั้งนี้จะไม่ทำให้ป๊าผิดหวังอีกแน่นอน
"อืม ป๊าจะอนุโลมให้ แต่อยากให้มันมากไปกว่านี้ มันจะไม่ดี แฟนก็อย่าพึ่งไปมีเอาให้จบก่อน ค่อยว่ากัน"ป๊าว่าเสียงดุ นายทหารเก่าคนนี้น่ากลัวจังเลยค่ะ แต่ยังไงรินรดาคนนี้รู้หรอกว่าป๊าใจดี รักลูกคนนี้จะตาย
"ขอบคุณนะคะป๊า ..รินไปเรียนแล้วนะ รักป๊าน้า" ฉันเอี่ยวตัวไปหอมแก้มป๊าเบาๆ ก่อนจะก้าวขาลงจากรถที่ป๊ามาส่งหน้ามหาวิทยาลัยแล้วยืนมองป๊าออกไปก่อนถึงค่อยเดินเข้าตึกคณะ แต่พอหันกลับมาฉันถึงกลับทำตัวไม่ถูก ก็มีหนุ่มๆ เอาแต่มองฉัน จ้องกันตาเป็นมันแบบนั้น เป็นใครใครมันจะไม่ตกใจล่ะ
"ฟู่ว.." ฉันเป่าลมออกจากปากพร้อมกับเดินเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย สะโพกเคลื่อนย้ายตามจังหวะเดินไปมาแต่ฉันก็ยังแอบดึงกระโปรงลงเล็กน้อยเนื่องด้วยเกิดมาไม่เคยใส่สั้นขนาดนี้ มันก็เลยยังไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่
"ริน!! "ขิมเบิกตาโพลงสุดเมื่อเห็นฉันเดินลงมานั่งข้างๆ ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะ ทำหน้าตาราวกับว่าไม่เคยเจอฉันอย่างงั้นน่ะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ใส่แว่นหนาๆ อันนั้นแล้วล่ะ ฉันเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แทน มันอาจมีเคืองๆ บ้างแต่ก็นั่นแหละฉันจะพยายามชินกับมันให้ได้ไวๆ
"เป็นอะไร ทำอย่างกับเห็นผี"
"ผีบ้านแกสิ นางฟ้าชัดๆ อะ ริน! แกโคตรสวยเลยว่ะ หุ่นโคตรเป๊ะอะ โอ้ยไม่นะ ไม่ๆ ๆ นี่ฉันเป็นผู้หญิงนะเว้ย แต่ฉันยังจะหลงแกเลยว่ะ"
"เว่อร์แเหล่ว"ฉันบอกก่อนจะยกมือขึ้นผลักขิมด้วยอาการเขินๆ เกิดมายังไม่เคยเจอคนอื่นมองเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย พอตกเป็นเป้าสายตาฉันก็เลยค่อนข้างวิตกกังวลไม่ใช่น้อย
"เว่อร์บ้าอะไรล่ะ แกสวยจริงๆ พี่เสือเสียดายแกแน่เว้ย"
"เอ่อ.."ฉันเงียบลงเล็กน้อย หนึ่งอาทิตย์ที่่ผ่านมาฉันไม่ได้ยินชื่อเขา บล็อคการติดต่อทุกช่องทาง พอวันนี้มาได้ยินมันก็เลยมวลท้องมวลไส้แปลกๆ
"ขอโทษนะริน ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้แกรู้สึกไม่ดีนะเว้ย"
"ไม่เป็นไรหรอก แค่ของเก่าอะพูดถึงได้ ไม่ติใจแล้ว แล้วมารอนานยังอะ.. ขิม ฉันกลัวอะ มีแต่คนมองฉันเต็มไปหมดเลย ทำไงดี"ฉันเลื่อนตัวไปกระซิบข้างหูขิมเบาๆ ใจคอไม่ค่อยดีแล้วนะเนี่ยมีแต่คนมองฉันเยอะขนาดนี้ ฉันจะทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว
"รินเอ๋ย แกสวย แกแซ่บขนาดนี้ ไม่มองดิแปลก"
"งั้นเหรอ"
"เออดิ แกเปลี่ยนไปมากเลยรู้ปะ"
"อื้ม ฉันก็คิดว่างั้นนะ"
ใช่ ฉันก็ว่าฉันเองเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนกัน แต่เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้นแน่นอน ฉันจะไม่จมปลักกับคนมักมากแบบเขาอีกแล้ว และเขาจะต้องเสียดายที่วันนั้นตอนที่ฉันก้าวเดินออกจากชีวิตเขาไป ..เขาไม่ได้รั้งฉันเอาไว้
"แล้วเรื่องเขา.. แกโอเคแล้วใช่ไหมเนี่ย"
"อืมโอเคแล้ว โอเคมากด้วย"ฉันตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มแต่ยังไม่ทันไรฉันก็ต้องหุบยิ้มอัตโนมัติเพราะดันหันไปสบสายตากับใครสักคนเข้าพอดิบพอดี
พี่เสือนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ศาลาข้างตึกฉัน ซึ่งมันก็คือตรงหน้าฉันพอดีนั่นแหละ ทำไมก่อนมานั่งฉันไม่มองให้ดีๆ นะ แต่ถึงยังงั้นเขาก็มองฉันโดยที่ไม่ละสายตาเหมือนกัน เพื่อนๆ ของเขาเองก็หันมามองฉันเป็นตาเดียวมันเลยยิ่งเพิ่มความกดดันให้ฉันไม่น้อย
"เฮอะ.. มองแกใหญ่เลยเว้ยริน ไอ้หื่นเอ้ย"
"ช่างเขาเถอะ เข้าเรียนกัน" ฉันลุกขึ้นแล้วก็ช่วยเก็บข้าวของบนโต๊ะของขิมไปด้วย แอบเหลือบมองพี่เสือเล็กน้อยเขาเองก็ยังไม่เลิกมองฉันสักที
อย่างมากเขาก็ทำได้แค่มองนั่นแหละ
13.30 น.
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าๆ อาจารย์ยกเลิกคลาสด้วยฉันก็เลยว่างยาว ตอนแรกกะว่าจะไปนั่งทำงานกันที่สวนสาธารณะกับขิม แต่เพื่อนตัวดีดันติดเรียนพิเศษไปด้วยกันไม่ได้ ฉันก็เลยต้องจำใจแบกข้าวของตัวเองมายืนรอรถเมล์เพื่อที่จะไปนั่งทำงานที่สวนสาธารณะตามเป้าหมายของตัวเอง
วันนี้บ่ายโมงแล้วท้องฟ้ายังอึมครึมเหมือนฝนจะตกอีกต่างหาก หรือว่าช่วงนี้จะมีฝนตกตลอดทั้งสัปดาห์กันไม่เห็นมีพยากรณ์อากาศบอกเลยนี่นาว่าฝนจะตก แต่ทำไมท้องฟ้าถึงไม่สว่างเลยล่ะเนี่ย แบบนี้หวังว่าเครื่องสำอางฉันจะไม่ลอกกลางคันหรอกนะ
"โอ๊ะ.. กระเป๋าดินสอ" ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ตอนที่เท้าจะก้าวขึ้นรถเมล์ว่าตัวเองลืมกระเป๋าดินสอ ไว้ที่หน้าตึกคณะ ป่านนี้มันจะยังอยู่หรือเปล่าเนี่ย ไม่ใช่มีคนเอามันไปทิ้งแล้วเหรอ ฮือ อันนั้นกระเป๋าลูกรักซะด้วยสิ หายไปแย่เลย
"โชคดีที่ยังไม่หายนะเนี่ย"ฉันพูดขึ้นคนเดียว ก่อนจะเดินเข้าไปแวะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนกลับ อย่าหาว่าเรื่องมากเลยนะ ขืนไปปวดฉี่ที่สวนสาธารณะฉันต้องอั้นกลับไปปล่อยที่บ้านแน่นอน ที่นั่นห้องน้ำไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ อีกอย่างคนเขามาวิ่งกัน โคลนเลอะเต็มไปหมด แต่ถ้าปวดหนักก็เลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน
"อื้ม.ม.. อ่าห์ เสือคะ อย่าบีบเล่นสิคะ มันเจ็บนะ"
"ฮึ.."
หน้าฉันชาวาบราวกับว่ามีคนเอาของแข็งบางอย่างฟาดเข้าที่หน้าฉันอย่างจัง สมองไม่สั่งการให้เท้าก้าวออกมา แต่มันกลับสั่งให้ฉันหันหลังกลับไปมองที่ห้องต้นเสียง มันเป็นห้องริมสุดซ้ายมือ เสียงเมื่อกี้ยิ่งฉันเดินเข้าใกล้มากเท่าไหร่ เสียงมันก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น
"อ๊า เสือคะ.. อื้ม.ม.."
"พี่เสือ"ฉันเรียกชื่อเขาด้วยปลายเสียงที่แผ่วเบา ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะทักทายอดีตคนที่ตัวเองเคยรักในสภาพนี้ คนตัวสูงกำลังซุกหน้าลงกับเสื้อนักศึกษาของใครบางคนอยู่ ซึ่งเธอก็คงหัวเสียไม่น้อยที่ฉันมาขัดจังหวะ
ใครอยากจะมาเห็นภาพอุบาทว์พวกนี้กันเล่า
"โทษที ทำกันต่อเถอะ"ฉันบอกปัดก่อนจะหันหลังให้กับภาพที่ไม่สบายสายตาตรงหน้า ไม่มีความละอายกันเลยสินะนี่ขนาดห้องน้ำหญิงยังทำกันขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นม่านรูดหรือห้องส่วนตัวจะขนาดไหนกัน
น่าสมเพชชะมัด
"เดี๋ยวสิ"เขาเรียกฉันเอาไว้ ไม่พอพี่เสือยังกระชากข้อมือให้ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเขาอีกต่างหาก ผู้หญิงคนนั้นรีบติดกระดุมเสื้อผ้าตัวเองแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงแค่ฉันกับพี่เสือเท่านั้น
"ปล่อย"
"เดี๋ยวนี้ผัวจับนิด จับหน่อยไม่ได้แล้วหรือไง"
กล้าพูดออกมาได้เต็มปากได้ยังไงกัน ในเมื่อเขามันก็แค่อดีตคนเคยรัก
"ช่างกล้าเนอะ"
"แล้วทำไมพี่จะพูดไม่ได้"
"อยากพูดอะไรก็เชิญ ฉันไม่อยากมาเสียเวลาด้วย ขอตัว" นอกจากการใช้ชีวิต การแต่งตัวของฉันจะเปลี่ยนไป สรรพนามของเขากับฉันเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ยิ่งใช้สรรพนามที่ดูห่างเหินกันมาเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ให้ทำเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนซะยังจะดีกว่า
ยิ่งเห็นหน้า ยิ่งอึดอัด
"ทำไมเดี๋ยวนี้แต่งตัวเอ็กซ์จังวะ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็น"เขาพูดทำนองจิกกัด สายตาไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
"เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน ฉันไม่อยากเสียใจเพราะเรื่องเดิมๆ นาน ผู้ชายใหม่ ที่หล่อ แซ่บ แล้วก็อร่อยยังรออีกตั้งเยอะ วันนี้ฉันได้เบอร์พวกเขามาตั้งเยอะแหน่ะ เรียงคิวไม่ถูกเลย"ฉันประชดกลับ แต่มันคือความจริงที่ผู้ชายเหล่านั้น เข้าแถวต่อคิวให้เบอร์ฉันไม่ก็ขอเบอร์ฉัน แต่ฉันไม่ได้ให้เบอร์ตัวเองไปหรอก ฉันแค่รับเบอร์พวกเขามาเป็นมารยาทแค่นั้น
"งั้นเหรอ"
"ใช่ ถ้าทำความเข้าใจใหม่แล้วก็ปล่อยสักที"
"ทำมากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว แค่นี้ทำรังเกียจผัวไปได้"
เพี๊ยะ! ฝ่ามือของฉันอีกข้างที่ว่างฟาดลงไปที่หน้าเขาเต็มแรง ดันเป็นข้างที่ถนัดซะด้วยสิ แล้วฉันก็กะแรงไม่ถูกด้วยเพราะฉันเองไม่เคยตบใครมาก่อน เขาคือคนแรกที่ทำให้ฉันหมดความอดทน คำพูดคำจาของเขาทำเอาฉันระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่
"อื้อ! " ยังไม่ทันไรเอวของฉันก็ถูกพี่เสือรวบเข้าไปชิดแผงอก ก่อนที่จะตามมาด้วยริมฝีปากของเขาที่ประกบลงมาอย่างดุดันและหนักหน่วง กลิ่นบุหรี่จางๆ จากตัวเขาทำเอาฉันมึนหัวไม่น้อย มือเล็กพยายามที่จะปัดป้องผลักเขาออกแต่ก็ไม่ได้ผล
ฉันดิ้นแรงขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อมีมือหนาของคนตรงหน้า เลื่อนขึ้นมาบีบเค้นที่หน้าอกของฉันเบาๆ ริมฝีปากของฉันถูกบดขยี้จนรู้สึกชาหนึบไปหมด ยิ่งเขาทำแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้ว่า ..เขาไม่ให้เกียรติฉันเลย
เพี๊ยะ! พอเขาผละออกไป ฉันก็ไม่รอช้าที่จะตวัดปลายนิ้วมือทั้งสี่ลงไปที่หน้าของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันเต็มแรงไม่มีออมมือแน่นอน ให้มันสมกับที่เขาฉวยโอกาสกับฉันไปเมื่อกี้นี้
"ไม่ชอบหรือไง เห็นเดินอ่อยไปทั่ว"
"นี่มันก็ตัวฉัน ชีวิตฉัน พี่จะมายุ่งทำไม! "
"ทำไมจะยุ่งไม่ได้วะ! "
"ก็เพราะพี่ไม่มีสิทธิ์ในตัวฉันแล้วไง! "ฉันตวาดลั่นเล่นเอาเขาเงียบไปสักพัก สายตาคมของพี่เสือกำลังจ้องมองมาที่ฉันราวกับว่าจะอ่านใจฉัน แต่เขาจะไม่มีสิทธิ์ใช้แววตาคู่นั้นทำให้ฉันใจอ่อนได้อีกต่อไป
"อย่ามายุ่งกับฉันอีก"
"ปฏิเสธผัวคนนี้ลงหรือไง ..รินรดา"
"เป็นแค่อดีตผัว อย่าประเมินค่าตัวเองสูงไปหน่อยเหอะ"