“มีอะไรกัน”
“มาพอดีเลยไอ้เหี้ยเฮียมาช่วยกูดิ” คนมาใหม่ตวัดสายตามองเจ้าของคำพูดทันที ก็ยังปากดีไม่เลิกไอ้เวรนี่
“....” ร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดข้างชายหนุ่มที่เป็นคู่กรณีของฟิลลิ เขาไล่สายตามองสภาพรถสองคัน ดูจากมุมนี้แล้วคนที่ผิดน่าจะเป็นน้องชายเขา
“ขอโทษเธอซะ”
“what?” ได้ไง ต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นสิขอโทษเขา เขาขับรถมาปกติเธอนั่นแหละที่ถอยมาไม่ดูจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ดูสิ่งที่พี่ชายเขาทำสิ ไหงไปเข้าข้างยัยนั่นได้ล่ะ
“ขอโทษ”
“ไอ้เหี้ยมาร์”
มาร์ หรือ มาร์คิส เจ้าของความสูง 195 เซนติเมตร อายุ 43 ปี มีนิสัยนิ่งขรึม ไม่ค่อยพูด และไม่ยุ่งกับใคร ชอบใช้ชีวิตอยู่กับหลานไปวัน ๆ นอกจากถ่ายรูปเล่นกับหลานเขาก็ไม่เคยสนใจใครอีกเลย แต่อย่าให้ได้สนใจเด็ดขาด เพราะเขาไม่คิดเล่นแน่นอน ส่วนเรื่องสถานะขอไม่พูดถึง ครอบครัวของเขามีกันแค่สองคนคือเขาและน้องชาย และน้องที่พูดถึงก็คือคู่กรณีของหญิงสาวตรงหน้านั้นเอง น้องชายของเขาชื่อว่า มาร์โค ทั้งยังเป็นพี่น้องที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว เอาเป็นว่าเรื่องของเขาให้มันรู้แค่เขากับครอบครัวก็พอ คนอื่นไม่จำเป็นต้องอยากรู้
“กูบอกให้ขอโทษ” เขาปรามน้องชายให้เอ่ยขอโทษหญิงสาวอีกครั้ง ตัวเองผิดยังเสือกทำตัวเป็นคนถูก แล้วอย่าคิดว่าเขาไม่เห็นนะว่ามันพาใครมาด้วย
“แม่งเอ๊ย เออ ๆ ขอโทษก็แล้วกัน”
“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษแล้ว” เขาต้องรับผิดชอบรถเธอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม คนแบบนี้ไม่ควรให้อภัยเลยสักนิด แค่คำขอโทษยังไม่เต็มใจที่จะพูดมันออกมา แล้วทำไมเธอต้องให้โอกาสเขาด้วยล่ะ
“จะอะไรนักหนาวะก็ขอโทษแล้วไง”
“โอ๊ะ” ทว่าในตอนนั้นเอง สายตาเธอเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถ สภาพของเธอเสื้อผ้าหลุดลุ่ย พอเลื่อนสายตากลับมามองผู้ชายตรงหน้านี้อีกครั้ง อ่า.. ชิปไม่ได้รูด พอจะเข้าใจสาเหตุแล้วตอนนี้
“อะไรของเธอ”
“กลางวันแสก ๆ ยังชวนกันทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงได้อีกนะ ไม่อายฟ้าอายดินบ้างเลยหรือไง”
“พูดบ้าอะไร”
“แล้วนั่นคืออะไร” เธอชี้ไปที่เป้าของเขา ทำเอาผู้ชายคนนั้นตกใจ รีบเอามือปิดไว้ด้วยท่าทีร้อนรน
“เท่าไร” ทว่าคนที่ถามดันไม่ใช่คู่กรณีของเธอ แต่เป็นผู้ชายอีกคน
“นายเป็นใคร”
“พ่อมัน" ปรายตามองน้องชายสีหน้ายากจะคาดเดา แต่สายตาแบบนี้แหละ กลับบ้านไปได้เจอบทสวดแน่
คำตอบของเขาคิดว่าเธอจะเชื่อหรือไง ก่อนหน้านั้นผู้ชายคนนี้ยังเรียกเขาว่าเฮียอยู่เลย อย่ามาหลอกให้ยาก
“อืม..” ไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ ทั้งหน้าตาการแต่งตัว รวมไปถึงท่าทีสุขุมนั้นอีก เขาดูน่าค้นหามากเลยล่ะ แต่นี่มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาสนใจใครทั้งนั้น เธอต้องทำให้ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบรถเธอให้ได้ จะไม่มีวันควักเงินตัวเองไปจ่ายแน่นอน จำเอาไว้เธอไม่ผิด!
“คุณฟิลลิ” สักพักก็มีตำรวจสองนายขับรถเข้ามา
“มาพอดีเลย รถคันนี้ขับมาชนรถฟิลค่ะ”
“ไอ้มาร์ช่วยกูก่อนดิ” เป็นปกติของสองพี่น้อง โดยเฉพาะมาร์โค เวลามีปัญหาแทบจะไม่มีคำว่าเฮียอยู่ในประโยคนั้น
“เรียกค่าเสียหายมา” เขาพูดโดยที่สายตาก็จับจ้องใบหน้าสุดเหวี่ยงนั้น เธอดูไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ แต่ก็เข้าใจแหละ คงทำให้เธอเสียเวลามากเลยสินะ
“ถ้าฉันเรียกล้านหนึ่งละ? นายจะจ่ายให้ฉันไหม”
“หึ เอาสิ” พลางกระตุกยิ้มมุมปาก ทว่าคำตอบของพี่ชายทำเอาผู้เป็นน้องอย่างมาร์โคหันขวับมองทันที มันบ้าไปแล้วหรือเปล่ารถเป็นรอยแค่นี้ต้องจ่ายถึงล้านเลยเหรอ
“วะ ว่าไงนะ” ฟิลลิตะลึงไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะกล้าตอบตกลง ค่าเสียหายมันไม่ถึงล้านหรอก ที่พูดไปก็แค่โมโหเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่าเขาจะตอบจริง
“ฉันไม่เอาถึงล้านหรอก ให้ตำรวจกับประกันเป็นคนเคลียร์เองก็แล้วกัน ฉันขอกลับก่อน” เธอคงต้องเรียกแท็กซี่กลับ ให้คนของพ่อเป็นคนมารับรถก็แล้วกัน
ต้องบอกก่อนว่าคนที่พ่อส่งมาเป็นตำรวจก็จริง แต่ท่านไม่เคยใช้ตำรวจนอกเหนือจากงานในข้าราชการเลยสักครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันเป็นอุบัติเหตุจริง ก็ไม่แปลกที่จะตำรวจจะมาช่วยเคลียร์ให้ ปกติแล้วพ่อของเธอจะมีลูกน้องประจำตัวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการ์ดที่จ้างมาทำงานด้วย พ่อเธอไม่ได้เป็นมาเฟียหรือพวกคนรวยที่ต้องค่อยมีลูกน้องตามติดอยู่ตลอดเวลา แต่ชีวิตท่านก็อยู่บนความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
“ฝากจัดการตรงนี้ด้วยนะคะ”
“ได้ครับ”
จากนั้นหญิงสาวก็เดินออกไปโบกแท็กซี่เพื่อกลับบ้านตัวเอง แต่เธอจะรู้ไหมว่าทุกอิริยาบถของเธอได้ตกอยู่ในสายตาของใครบางคน เขาจ้องมันอย่างไม่ละสายตา เอาแต่มองตามหญิงสาวกระทั่งเธอขึ้นรถออกไป มันเหมือนว่าเขากำลังเจอสิ่งที่ถูกใจ และต้องการมันมานาน..
“มีเรื่องอะไรกัน” ไซลอนที่เพิ่งลงมาจากบ้านถามเพื่อนด้วยความสงสัย ในอ้อมกอดของเขามีลูกสาวคนสวยอย่างหนูน้อยซาเนียร์
“มาร์อุ้ม^^” มือเล็ก ๆ ยื่นไปหาลุงตัวเอง
“ลงมาทำไมมันร้อน”
“คิกคิก” หัวเราะชอบใจ
“เคลียร์เสร็จแล้ว” แล้วหันไปตอบเพื่อนตัวเอง เขากำลังจะกลับเข้าไปข้างในพอดี ทว่าเพื่อนดันออกมาก่อน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและน้องชายของเขาก็พากันกลับไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่รถหญิงสาวที่ยังจอดอยู่ เห็นบอกว่าจะมีคนที่บ้านเธอมารับไป น่าจะจอดทิ้งไว้ที่นี่สักพักแหละมั้ง
“นึกว่ามีเรื่องอะไรกัน”
“น้องกูมันขับรถชนเขา”
“มันเข้ามา?”
“เข้ามาเอาเงิน”
“คงจะเอาไปเปย์สาวอีกสิท่า”
“....” มาร์คิสไม่ตอบ อุ้มหลานพาเดินกลับเข้าไปในบ้าน แดดร้อนขนาดนี้มันยังเอาลูกออกมาอีก เป็นพ่อประสาอะไร
“ไปไหนกันมาเหรอคะ” โนร่าถามทั้งสองที่เข้ามาในบ้าน ในอ้อมแขนเธอมีลูกชายคนเล็กที่กำลังหลับอยู่ เพิ่งจะหลับไป
“ไปดูรถมา”
“มาร์เล่น”
“ไม่ง่วงไงเรา” มันเลยเวลานอนมานานแล้วทำไมหลานสาวยังไม่ยอมนอนสักที จะร้องเล่นท่าเดียว หรือเป็นเพราะเขามาซาเนียร์ถึงไม่ยอมนอน
“ลูกกูร้องหามึงขนาดนั้นคงยอมนอนหรอกมั้ง” ก็ไม่แปลกที่จะร้องหา เขาเลี้ยงมาตั้งแต่อยู่ในท้อง ตัวพ่อมันทำอะไรบ้างนอกจากไข่ทิ้งไว้แล้วหนีหาย แต่ช่างมันเถอะเรื่องของมัน ตอนนี้ขอเอาหลานไปนอนก่อนดีกว่า