Rose 5

1173 Words
Rose 5 “อาทิตย์ไปไหนคะ?” จู่ ๆ อาทิตย์ที่ลุกขึ้นยืนก็โดนหญิงสาวข้างกายเอ่ยถามทันที “เข้าห้องน้ำครับ” คนตัวสูงตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะ ฉันไม่ได้สนใจทั้งคู่มากนัก แต่ในจังหวะที่กำลังโน้มตัวไปตักอาหารบนโต๊ะก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อจู่ ๆ ก็มีเสื้อคลุมตัวหนึ่งคลุมลงบนไหล่เบา ๆ ทั้งเจ้าของมันยังช่วยจัดแจงให้เรียบร้อยอีก “เดี๋ยวเป็นหวัด” เขาบอกเพียงเท่านั้นแล้วเดินหายไปเลย ภายในโต๊ะเงียบกริบ แต่มองซ้ายขวาก็เห็นว่าเพื่อนคนอื่นในกลุ่มกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างพอใจกับการกระทำของอาทิตย์ ต่างจากใครบางคนที่กำลังจ้องมองฉันด้วยสายตายากจะคาดเดา ไม่นานก็แสยะยิ้มไม่น่ามองออกมา “ดีจังเลยนะ อาทิตย์ดูแลเพื่อนอย่างมายด์ดีจังเลย” โรสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชันอย่างชัดเจน รอยยิ้มและสายตาของเธอทำให้ฉันไม่อยากจะมองสักเท่าไหร่ “เหรอ?” ฉันทวนถามเพราะไม่เข้าใจว่าเธอตั้งใจจะสื่ออะไรกันแน่ ตั้งแต่ที่เจอหน้าคอนโดฯ แล้วนะ ประโยคและน้ำเสียงประชดประชันแบบนั้นน่ะ “อันที่จริง...อีกเรื่องที่มายด์อาจจะยังไม่รู้ วันนี้น่ะพอรู้ว่าเราไม่มีรถ อาทิตย์ก็รีบอาสาไปรับเราเลยนะ ตอนที่เรากำลังจะถึงร้านแล้ว จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามายด์บอกให้ไปรับน่ะ” “เหรอ? แต่เราไม่เคยบอกให้เขามารับนะ” ฉันบอกคนตรงหน้าและจ้องเธอกลับไปเช่นเดียวกัน “อ้าวเหรอ ก็อาทิตย์บอกว่ามายด์ให้ไปรับนี่นา ขอโทษด้วยนะที่เข้าใจผิด” โรสแสร้งทำหน้าสำนึกผิด ทั้งยังหันไปชวนเพื่อนคนอื่นคุยต่อ ไม่ถึงห้านาทีอาทิตย์ก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะตามเดิม นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอย่างยัยโรสพูดดีกับฉันสินะ “มายด์ไปเข้าห้องน้ำไหม?” เสียงหวานของเพื่อนสนิทเอ่ยชวน ฉันจึงพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนจะขยับลุกขึ้นยืน พลางจับเสื้อคลุมที่อาทิตย์คลุมให้ก่อนหน้านี้วางพาดบนพนักเก้าอี้ “เดี๋ยวดิ ๆ หมดแก้วก่อน” เคลวินยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ ฉันส่ายหน้าขำ ๆ แล้วรับมาดื่มอย่างว่าง่ายจนหมด จากนั้นก็เดินออกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำ หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จถึงเพิ่งรู้ตัวว่ามึนหัวอยู่ไม่น้อย เลยได้แต่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ “ดีนะพรุ่งนี้หยุด” ฉันยืนพิงต้นไม้หน้าห้องน้ำ พลางคุยกับพิมพ์ใจที่ยืนมองกันอย่างขบขัน “เมามากไหมเนี่ย?” เพื่อนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฉันเริ่มเซ ๆ บ้างแล้ว “...นิดหน่อย แต่อยากไปกินหมูกระทะต่อ” อ่า เสียงแหบมากเลยให้ตายสิ ถ้าดึกกว่านี้เสียงฉันหายแน่ ๆ เลย “ขอร้องเลย กินไม่ไหวแล้วเนี่ย” สุดท้ายก็โดนบ่นไปตามระเบียบ “ไม่ไปก็ได้ แต่จะกินที่นี่ให้เมาไปเลย” ขยับเข้าไปกอดแขนเล็กไว้แน่น แล้วเดินกลับโต๊ะไปนั่งชิลล์ต่อ แต่ที่นั่งของเคลวินกลับมีใครบางคนมานั่งแทน ส่วนเจ้าของน่ะไปนั่งงอแงอยู่บนที่นั่งข้างโรสแทน ฉันกับพิมพ์ใจชะลอฝีเท้าให้ช้าลงราวกับรู้ใจกันจนน่าขนลุก “อาทิตย์ดูหงุดหงิดมากเลยนะ มองแกตลอดด้วย” “ไม่ใช่หรอก” แน่นอนว่าฉันย่อมปฏิเสธสิ่งที่เพื่อนคาดเดา “ยัยนั่นแกล้งเหยียบเท้าฉันบ่อยชะมัด” พิมพ์ใจกระซิบฟ้องฉันเสียงเบา “จัดเลยไหมล่ะ?” แน่นอนว่าฉันรีบหันกลับไปถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นเดียวกัน “ใจเย็น ๆ ห้าวเหลือเกินเนี่ย” “รำคาญหน้าละ” เอ่ยบอกเพื่อนเต็มเสียงตามที่รู้สึกในตอนนี้ และเมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาทิตย์ก็เงยหน้าขึ้นมองกัน แล้วยื่นมือมาช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง ฉันยอมนั่งลงโดยดี แล้วแอบขยับเก้าอี้ไปนั่งชิดกับบูมอีกนิด รายนั้นน่ะเมาหนักมากเลย ใบหม่อนเองก็เช่นเดียวกัน แต่ยังสู้นั่งอยู่ด้วยกัน เพราะเราตกลงกันไว้ว่าจะอยู่จนถึงตีสอง เมายังไงก็ห้ามกลับก่อนเด็ดขาด ดีที่สองคนนี้แฟนจะมารับ ส่วนฉันก็ขอพึ่งพาอาศัยยัยพิมพ์ใจกลับบ้านด้วย “อยากสั่งอย่างอื่นเพิ่มอีกไหม?” อาทิตย์ที่เปลี่ยนมานั่งแทนเคลวินเอ่ยถาม แต่ฉันทำเพียงส่ายหน้าปฏิเสธอีกฝ่ายไปเท่านั้น “โอเค งั้นคลุมเสื้อไว้ เดี๋ยวไม่สบาย” เขาเอ่ยเสียงดุ มือก็หยิบเสื้อคลุมของตัวเองที่ฉันพาดไว้บนเก้าอี้มาคลุมให้อีกครั้ง แต่เพราะกลิ่นกายและกลิ่นน้ำหอมของเขาที่ติดอยู่บนเสื้อตัวนี้ มันคล้ายกับกำลังมอมเมาฉันให้หลงเขามากยิ่งขึ้น ทั้งที่ก็พร่ำเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ทำไมนะ...ทำไมเขาถึงไม่ให้ความร่วมมือฉันเลยล่ะ “อาทิตย์โรสหนาวจังเลยค่ะ ขอยืมเสื้อ...” “มายด์ใช้อยู่น่ะ” เขาตอบกลับไปนิ่ง ๆ มือก็ยื่นไปตักกุ้งกระเทียมที่อยู่ในจานเยื้อง ๆ กับอดัมมาใส่จานให้ฉัน ส่วนกุ้งกระเทียมจานที่อยู่ตรงหน้าโรสยังไม่มีใครแตะเลย ส่วนใหญ่จะตักที่จานฝั่งอดัมมากกว่า...ไม่รู้ทำไม “งั้นมายด์...โรสขอเสื้ออาทิตย์ได้ไหม พอดีเราเพิ่งหายป่วยน่ะ อาทิตย์คงเกรงใจเพราะให้มายด์ยืมก่อน” “...น่ารำคาญ” ฉันบ่นเสียงเบา มือก็ดึงเสื้อเจ้าปัญหาออกจากตัว แต่มือใหญ่ของเจ้าของเสื้อ กลับยื้อไว้แน่นไม่ยอมให้ฉันถอดเสื้อคลุมนี้ออก “ปล่อย” ฉันบอกอาทิตย์ส่วนมือก็พยายามดึงรั้งเสื้อคลุมออก “อาทิตย์...เราเจ็บ” ฉันบอกแค่นั้น คนที่กำลังยื้อเสื้อจากมือฉันก็พลันชะงักค้าง และรีบปล่อยมือทันที ฉันจึงรีบถอดเสื้อคลุมออก แล้วขยับลุกขึ้นเดินไปทางตัวปัญหาของโต๊ะ ฉันส่งยิ้มบาง ๆ ให้ อีกฝ่ายก็ส่งยิ้มใสซื่อให้ฉัน ไม่นานเสื้อคลุมในมือก็ถูกคลี่ออก แล้วโยนคลุมศีรษะของอีกฝ่ายอย่างแรง แต่แทนที่การกระทำไม่น่ารักของฉันจะทำให้ถูกมองไม่ดี แต่เพื่อน ๆ คนอื่นกลับยิ้มกริ่มให้เสียอย่างนั้น “เอาไปเหอะ เราไม่อยากได้อยู่แล้ว” นั่นคือสิ่งที่ฉันบอกกับคนมากเรื่อง แน่นอนว่าคราวนี้คงหลุดมาด ถึงได้มองฉันอย่างไม่พอใจน่ะ แต่มีเหรอที่ฉันจะสนใจ ไม่สนหรอก...ก็เลยยกยิ้มมุมปากให้อย่างกวนอารมณ์ แต่เชื่อไหมว่าเธอยังคงทำตัวใสซื่อและอ่อนแอเหมือนเดิม เพราะอาทิตย์นั่งอยู่ตรงนี้ยังไงล่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD